Chapter 20
กรีนรอฟังข่าวจากเ้าหน้าที่จนเวลาล่วงเลยมาถึงครึ่งชั่วโมง ถึงแม้จะเป็เวลาที่ไม่ได้เรียกว่ายาวนานมากนัก แต่สำหรับคนที่กำลังร้อนใจ มันนานเหมือนกับเวลาผ่านไปเป็วัน
"คุณโนเอลครับ" เ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ของอุทยานเดินมาแล้วเรียกกรีน กรีนลุกขึ้นและตอบกลับทันที
"ครับ"
"จำนวนริสแบนด์ของครึ่งทางที่เข้าใช้บริการในวันนี้ ขาเข้ากับขาออกมีจำนวนเท่ากันนะครับ"
หลังจากที่เ้าหน้าที่พูดจบ กรีนก็ขมวดคิ้วออกมาทันที ถ้าเกิดว่าจำนวนริสแบนด์ขาเข้าและขาออกเท่ากัน แปลว่าตอนนี้ป๋ายออกไปข้างนอกอุทยานแล้ว
กรีนโค้งให้เ้าหน้าที่เล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกมาบริเวณลานจอดรถทันที แล้วมันก็เป็ไปอย่างที่เขาคิดไว้ คนตัวเล็กยืนพิงอยู่ที่รถของเขา
"ป๋าย!" กรีนเรียกคนน้องออกมาเสียงดัง ทางคนถูกเรียกก็รีบหันมาทันทีหลังจากได้ยินเสียง
"พี่กรีน"
"ไปไหนมา? พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้รอพี่"
"เค้าขอโทษ"
"ทำไมถึงออกมาก่อน?"
"เค้าหันไปแล้วไม่เห็นพี่กรีน ผีเสื้อมันบินมาพอดี เค้าก็เลยเดินตามผีเสื้อไป" ป๋ายอธิบายออกมาเสียงสั่น
"แล้วทำไมเธอไม่ใส่ปลอกคอไว้ที่แขน?"
"เค้าลืม"
กรีนพยายามใจเย็นให้ได้มากที่สุด แต่ก็แน่นอนว่ามันซ่อนความหงุดหงิดและเป็ห่วงเอาไว้ไม่มิด จนแสดงออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่กำลังเป็อยู่ในตอนนี้ คนน้องเองก็รับรู้ได้ว่าอารมณ์ของอีกคนไม่น่าจะดีแน่ ก็เลยไม่ได้พูดแก้ตัวอะไรออกไป ทำได้แค่อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในมุมของตัวเอง
"วันหลังไม่เดินออกไปแบบนั้นแล้วนะ พี่เป็ห่วงแทบแย่" กรีนสวมกอดน้องทันที มือคอยลูบหัวแล้วลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม
"เค้าขอโทษ"
"ไม่เป็ไรครับ พี่ขอโทษที่หงุดหงิดใส่นะ ไม่เป็ไรนะครับคนเก่ง ใแย่เลยใช่ไหม? หื้ม?"
หลังจากควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ร้อนน้อยลงกว่าเดิมได้ กรีนก็เริ่มปลอบคนตัวเล็กทันที เขาเองก็เพิ่งจะตระหนักได้หลังจากที่ใจเย็นลง ว่าเ้าแมวน้อยของเขาคงจะใไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"เก่งมากครับ"
คำชมที่ชมไปก็เพื่อเป็รางวัลให้กับคนเก่งของเขา ที่ทำตามคำที่เขาบอกได้เป็อย่างดี เพราะย้อนไปเมื่อตอนที่เพิ่งมาถึงอุทยาน ในขณะที่ใส่ริสแบนด์ให้น้อง กรีนย้ำไว้ว่าถ้าหลงทางหรือมีอะไรเกิดขึ้นให้กลับไปที่รถ แล้วเขาก็ทำมันได้ดี
"ฮึก เค้าขอโทษ"
"ชู่ว ไม่เป็ไรครับ ไม่เป็ไรจริง ๆ เธอเก่งมาก ๆ แล้ว"
คำพูดถูกส่งผ่านน้ำเสียงที่อ่อนโยนไปถึงคนตัวเล็กข้างหน้าเขาตอนนี้ รู้สึกโล่งใจมากที่น้องตั้งสติได้และกลับมารอที่รถ มันคงยากสำหรับอีกคนแน่นอน กับการที่หลงทางในต่างที่และต่างผู้คนเช่นนี้ แล้วยิ่งเกิดกับเ้าแมวน้อยที่เพิ่งจะได้ออกมาเที่ยวเป็ครั้งแรกด้วย
"ขอบคุณที่ยังปลอดภัยนะตัวเล็ก" กรีนกดจูบลงที่ผมของน้องเบา ๆ และลูบหัวไม่ห่าง
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กรีนและป๋ายกลับไปขอบคุณเ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือ และขอโทษที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย จากนั้นก็ต้องเดินทางกลับโรงแรมทันทีเพื่อเก็บของ กรีนจะต้องเดินทางกลับเข้าเมืองอย่างกระทันหัน เพราะมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้นที่ร้านของเขา
“ขอโทษที่ต้องกลับก่อนนะป๋าย ไว้เดี๋ยวพี่พามาใหม่”
"เค้าโอเค"
ในขณะที่เก็บของที่โรงแรม กรีนก็เอ่ยขอโทษออกมาที่ทำให้การพักผ่อนครั้งนี้ของทั้งสองคนต้องหยุดชะงักกะทันหัน ทั้งที่วางแผนกันไว้อย่างดี แต่ก็ต้องหยุดทุกอย่างลงและกลับเข้าเมือง
การมาเที่ยวด้วยกันครั้งแรกของทั้งคู่ เกิดเื่มากมาย มีทั้งดีและไม่ดี แต่พวกเขาก็อยากจะจำมันไปในทางที่ดี ถึงสถานการณ์ที่มีความสุข เขาทั้งคู่ก็จะจดจำมันไว้ ส่วนสถานการณ์ที่มันเป็ทุกข์ มันก็จะถูกจดจำไว้ในรูปแบบหนึ่งของการใช้ชีวิต คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับสิ่งที่มันเป็ไปแล้ว ทำได้แค่เก็บมันมาเรียนรู้ต่อไป
สำหรับตัวกรีนเอง เขาไม่ได้มองว่ามันเป็สถานการณ์หรือ่เวลาที่ไม่น่าจดจำ เขาอยากจะจำมันไว้ว่ามันคือความพยายามของทั้งคู่ ที่จะทำให้การพักผ่อนด้วยกันในครั้งนี้ออกมาอย่างดีที่สุด ไม่ว่าผลมันจะไม่ได้ออกมาเป็อย่างที่คาดไว้ก็ตาม
แต่สิ่งที่จะถูกจดจำไว้อย่างดีที่สุด
ก็คือ ณ วันนี้ ณ เวลานี้
เราได้มาเที่ยวด้วยกัน
เป็ครั้งแรก
หลังจากที่เก็บของที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อย กรีนก็ทำการเช็คเอาท์ก่อนเวลา เหยียบคันเร่งมุ่งตรงเข้าสู่ตัวเมืองทันที ่ดึกของวันนี้อากาศเริ่มเย็นตามที่เ้าหน้าที่ของอุทยานได้เตือนไว้ ในแถบชานเมือง ่นี้รถจะไม่ติดมาก แต่พอเริ่มเข้าสู่ใจกลางเมือง ความคล่องตัวของการจราจรก็ค่อย ๆ ลดลง
"ป๋ายป๋ายครับ สองสามวันนี้ไปอยู่บ้านพี่บลูก่อนได้ไหมครับ? พี่คงวุ่นวายอยู่ที่ร้าน ไม่ได้กลับมาหาเธอเท่าไหร่"
"เค้าตามใจพี่กรีน" ป๋ายตอบกลับมาเสียงเรียบ
"ทำไมทำเสียงแบบนั้นครับ? ยังกลัวอยู่หรือเปล่า?" กรีนยื่นมือตัวเองข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยไปคว้ามือน้องมาจับไว้หลวม ๆ
"เค้ากลัวพี่กรีนโกรธ"
"พี่แค่เป็ห่วงครับ"
"ตอนเจอหน้าเค้าพี่กรีนดูโกรธเค้า"
"อ่า พี่ขอโทษครับ" กรีนคอยลูบมือน้องอยู่ไม่ห่างและขับรถต่อไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้บทสนทนาสิ้นสุดลงแค่ตรงนั้น
ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงบนท้องถนน รถของกรีนเทียบจอดอยู่ที่หน้าบ้านของบลูในกลางดึก กรีนได้ติดต่อและบอกกับบลูไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะมาฝากเ้าตัวเล็กไว้สักสองสามวัน เพราะเขาต้องไปจัดการอะไรบางอย่างที่ร้าน และคิดว่าคงจะวุ่นวายเอามาก ๆ
"อยู่กับพี่บลูไม่ดื้อไม่ซนนะป๋ายป๋าย เดี๋ยวอีกสองสามวันพี่มารับกลับครับ" กรีนหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของป๋ายลงจากรถและส่งให้บลูทันที ลูบหัวน้องหนึ่งที จากนั้นก็ขึ้นรถและขับออกไป ป๋ายมองตามรถกรีนจนสุดสายตา
"เดี๋ยวพี่กรีนก็มารับครับ ป่ะ เข้าบ้านดีกว่า" บลูพูดกับป๋ายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะจูงมือน้องเข้าบ้านไป
บลูให้ป๋ายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว ระหว่างที่ป๋ายใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำ บลูก็เตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นไว้ให้เ้าตัวเล็ก เพราะกรีนบอกเขาไว้ว่าป๋ายยังไม่ได้กินข้าวเย็น
อยู่ในห้องน้ำได้สักพัก คนตัวเล็กก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผมผืนหนาบนหัว เดินตรงมายังบริเวณครัวภายในบ้านของบลูทันที
"ตัวเล็กมากินข้าวก่อนเร็ว"
"เค้าไม่ค่อยหิวเลย" คนตัวเล็กนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว พร้อมกับส่งสายตาที่ว่างเปล่าไปให้กับชามที่ใส่อาหารของเขาไว้ตรงหน้า
"กินหน่อยน้า พี่กรีนจะได้ไม่เป็ห่วง" บลูลูบหัวป๋ายเบา ๆ และยกเอาชื่อของกรีนมาเป็ตัวล่อน้องให้กินข้าว และมันก็ได้ผล คนตัวเล็กจับช้อนและตักข้าวในชามเข้าปากทันที
ตัวป๋ายเองก็ไม่แน่ใจว่าเขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ สำหรับความกลัวในการหลงป่ามันได้หายไปั้แ่เขาเจอหน้ากรีนแล้ว แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่มันยังคงค้างอยู่ในใจก็คงจะเป็ความรู้สึกผิดที่สร้างความวุ่นวายหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในการพักผ่อนครั้งนี้ของเขาและกรีน
"รู้สึกยังไงเล่าให้พี่ฟังหน่อยครับ"
หลังจากที่กินข้าวเรียบร้อยแล้ว บลูก็พาป๋ายมานั่งที่โซฟากลางบ้านโดยที่มีดีน่านั่งรออยู่แล้ว และเริ่มคุยกับน้องทันที ทั้งบลูและดีน่าไม่อยากจะปล่อยค้างไว้ เพราะน้องแสดงออกอย่างชัดเจนมาก ว่ากำลังไม่สบายใจ
"เค้าอยากขอโทษพี่กรีนมาก ๆ" ป๋ายเริ่มพูดออกมาเสียงสั่น ๆ
"ตัวเล็กอยากขอโทษพี่กรีนเื่อะไร?" ดีน่าเอ่ยถามขึ้น
"ทุกอย่างเลย ที่จะไปเที่ยวด้วยกัน พี่กรีนเตรียมอะไรให้เค้าเยอะแยะเลย แต่เค้าทำพังทุกอย่าง เค้าดื้อไม่ฟังคำพูดของพี่กรีน วันนี้ก็ยังเดินจนหลงให้พี่กรีนวุ่นวายตามหาเค้าอีก ฮึก" น้ำใสจากดวงตาเอ่อล้นออกมาทันทีที่ได้ระบายความรู้สึก
"ไม่เป็ไรนะตัวเล็ก" ดีน่าขยับเข้าไปหาน้องและกอดน้องไว้แน่น ๆ
"ฮึก เค้ารู้ว่าพี่กรีนตั้งใจเตรียมให้เค้าแค่ไหน แต่เค้าทำให้มันไม่สนุกเลย อึก เค้ากลัวพี่กรีนไม่อยากเลี้ยงเค้าแล้ว"
หลังจากประโยคสุดท้ายที่ได้พูดออกมา ป๋ายก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดังทันที หลายอย่างที่สะสมมาจนถึงตอนนี้ ถูกระบายออกมาในรูปแบบของน้ำตา สิ่งที่คนตัวเล็กกลัวมากที่สุด ไม่ใช่การหลงป่า หรือการถูกโกรธ แต่เป็ความกลัวที่ว่ากลัวพี่กรีนของเขาจะไม่อยากให้เขาอยู่ด้วยแล้ว
ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ร้านของกรีน กรีนถึงได้รีบร้อนกลับมา และเอาเขามาฝากไว้ที่บ้านของบลูอีก แต่ ณ เวลานี้ ป๋ายแค่กลัวว่ากรีนจะผิดหวังที่เขาไม่ได้พาความสุขมาให้อย่างที่คิด
"เค้าเอาแต่สร้างปัญหา เค้าเข้าใจที่บัตเลอร์พูดแล้วว่าเค้าไม่เก่ง ไม่มีประโยชน์ยังไง ฮึก พี่กรีนจะไม่อยากเลี้ยงเขาแล้วหรือเปล่า?" สิ่งที่ป๋ายพูดออกมาทำให้คนฟังรู้สึกเ็ปไม่น้อย
"คนเก่ง กรีนไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอน หนูเก่งแล้วนะ เก่งมากแล้ว"
บลูปล่อยให้ดีน่าปลอบป๋ายต่อไป ส่วนตัวเขาแยกออกมาต่อสายหากรีน สำหรับสิ่งที่คนตัวเล็กรู้สึก คนที่จะปลอบโยนได้มากที่สุดในตอนนี้ ก็มีแค่กรีนคนเดียวเท่านั้น คำพูดของป๋ายทำให้บลูกับดีน่ารู้สึกเ็ปมาก ๆ พวกเขาเ็ปที่น้องรู้สึกแบบนั้น
[ครับพี่บลู]
"ที่ร้านวุ่นวายมากไหมตอนนี้? มาหาตัวเล็กหน่อยเถอะว่ะ"
[ป๋ายเป็อะไร?]
"แย่เลยแหละ น้องเสียใจที่ทำแกวุ่นวาย"
[กรีนมาดูนี่หน่อยดิ] เสียงเรียกกรีนของเวย์แทรกมาในสาย
"วุ่นวายเลยดิที่ร้าน"
[ก็มากอยู่พี่บลู]
"แต่อยากให้มาดูน้องหน่อยนะ ไม่ไหวจริง ๆ ตัวเล็กพูดว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมบัตเลอร์มันถึงบอกว่าน้องไม่เก่ง ไม่มีประโยชน์ ป๋ายกลัวแกไม่อยากเลี้ยงแล้ว ที่แกเอาน้องมาฝากไว้ที่นี่ น้องกลัวแกจะไม่กลับมารับ"
[พี่บลู เดี๋ยวกรีนเข้าไป]
แน่นอนว่าหลังจากที่บลูบอกว่าป๋ายพูดอะไรออกมา กรีนจะมาหาน้องทันที ความเ็ปเกิดขึ้นในใจของกรีนเช่นกันหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่บลูบอก แม้ว่าเขาไม่อยากให้น้องรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็คงจะห้ามไม่ได้ สิ่งที่กรีนทำได้ในตอนนี้ ก็คือกลับมาย้ำ ว่าเขาจะมารับป๋ายกลับไปที่บ้านแน่นอน ไม่ได้อยากจะทิ้งอีกคนไปไหน
ผ่านไปไม่กี่สิบนาที กรีนก็มาถึงบ้านของบลู บลูและดีน่าก็ขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านทันที ปล่อยให้กรีนกับป๋ายได้เคลียร์ความรู้สึกกันตามลำพัง
"ป๋ายป๋าย"
"พี่กรีน" ป๋ายหันไปตามเสียงเรียกของกรีน และวิ่งเข้าไปกอดคนพี่ทันที
"พี่ไม่ได้ทิ้งเธอนะครับ" กรีนส่งมือขึ้นไปลูบหัวน้องช้า ๆ
"ฮึก จริง ๆ นะ"
"จริงครับ พี่ไม่เคยคิดจะทิ้งเธอ พี่ต้องไปที่ร้านและมีบางอย่างที่ต้องจัดการจริง ๆ พี่จะมารับจริง ๆ นะครับ เธอเป็แมวของพี่นะ พี่จะปล่อยให้ไปไหนได้ยังไง" กรีนสวมปลอกไปที่ข้อมือของคนน้องเพื่อเป็การยืนยันสิ่งที่พูด
"เค้าขอโทษ ฮึก ที่เอาแต่สร้างปัญหาให้"
"พี่กรีนจะไม่ปฏิเสธว่ามันคือปัญหานะ แต่พี่ก็จะไม่ว่าเธอเหมือนกัน ไม่เป็ไรเลยครับ เธอพยายามในส่วนของเธอเต็มที่แล้ว ถึงมันจะเกิดปัญหา พี่ก็จะอยู่ด้วยนะ"
"พี่กรีนจะวุ่นวายเพราะเค้า" ป๋ายละกอดออกมาแล้วมองหน้าเ้านายของเขา
"ไม่เห็นเป็ไรเลยครับ พี่อยู่ตรงนี้ก็เพราะพี่รักป๋ายป๋าย แล้วพี่ก็คิดว่าพี่รู้จักเธอดีพอสมควรแล้ว พี่รู้ว่าอะไรที่เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด เธอยังเป็เด็กดีของพี่ตลอดนะ"
"เค้าก็รักพี่กรีน"
"ขี้แง" กรีนส่งยิ้มออกมาและไล่เช็ดน้ำตาที่แก้มของคนตัวเล็กช้า ๆ
"มันไม่ดีเหรอ?"
"ร้องไห้ได้ครับ ถ้าเธอเก็บความรู้สึกไว้ไม่ไหว พี่ไม่อยากให้ร้องเพราะกลัวเธอหายใจไม่สะดวก กลัวเธอจะปวดหัว กลัวเธอเจ็บตาตอนตื่นมา" นิ้วเรียวลูบไปที่เปลือกตาที่เริ่มบวมขึ้นมา
หลังจากที่เคลียร์ความรู้สึกกันเรียบร้อยแล้ว กรีนตัดสินใจว่าคืนนี้จะอยู่กับน้องก่อน สำหรับปัญหาที่ร้าน จะปล่อยให้เป็หน้าที่ของเ้าหน้าที่กับเวย์แล้วก็เกรซไปในคืนนี้ เหตุผลก็เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กของเขารู้สึกว่ากำลังจะโดนทิ้งแบบที่รู้สึกก่อนหน้า
"กลายร่างไปนอนได้แล้วครับ ดึกแล้วนะ"
"เค้าขอนอนกับพี่กรีน"
"ก็นอนกับพี่อยู่แล้ว วันนี้พี่ก็จะนอนห้องนี้ครับ"
"เค้าหมายถึงเค้าจะนอนเป็คน"
แม้ว่าจะรู้สึกแปลกไปบ้างกับประสบการณ์แปลกใหม่กับคนตัวเล็กตรงหน้า เพราะนี่ถือว่าเป็ครั้งแรกที่เขาจะได้นอนด้วยกันในขณะที่คนตัวเล็กอยู่ในร่างของมนุษย์
"งั้นก็มานอนครับ เดี๋ยวพี่จะไปปิดไฟ"
"เค้าปิดให้ ๆ"
ป๋ายวิ่งไปที่หน้าห้องและกดปิดสวิตช์ไฟทันที กรีนยิ้มเล็ก ๆ ให้ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนเตียง จากนั้นคนตัวเล็กก็เดินกลับมาที่เตียงและนอนลงข้าง ๆ คนพี่
"กอดเค้าได้ไหม?" แสงไฟสลัว ๆ ทำให้กรีนพอมองเห็นว่าตอนนี้ป๋ายกำลังทำหน้าอ้อนเขายังไง
"มาสิครับ" กรีนเปิดต้นแขนให้อีกคนเข้ามานอนหนุน มันไม่ต่างอะไรจากตอนที่เขาให้ป๋ายนอนด้วยบนเตียงตอนที่เป็แมว เพราะปกติอีกคนก็จะนอนหนุนแขนเขาอยู่แล้ว ความแตกต่างมันก็คงจะอยู่ที่ว่า ปกติถ้าเป็เ้าสี่ขาตัวน้อยเขาจะซุกเข้ามาที่อกของกรีน แต่ในวันนี้เขาจะเป็ฝ่ายกอดคนตัวเล็กเอง
"เค้าชอบจัง อยากนอนเป็คนทุกวัน"
"ไม่ได้สิ เดี๋ยวพลังงานไม่พอนะ"
"ก็ถ้าเป็แบบนี้พี่กรีนจะกอดเค้าได้เต็ม ๆ เลยนะ พี่กรีนไม่ชอบเหรอ?"
"พี่ชอบหมดนั่นแหละ"
"งั้น ก็กอดเค้าเยอะ ๆ นะ"
"ครับคนเก่ง พี่จะกอดเยอะ ๆ"
พอเห็นว่าคนน้องไม่ได้ตอบอะไรกลับมา กรีนก็ก้มหน้าลงไปดู แล้วก็เห็นว่าน้องหลับใหลไปเรียบร้อยแล้ว กรีนลอบมองที่ใบหน้าของอีกคน นิ้วเรียวถูกส่งไปลูบที่เปลือกตาและแก้มใสเบา ๆ ในใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที เขารู้สึกแย่ที่น้องรู้สึกแบบนั้น กับการเป็ครึ่งทาง คนนอกสำหรับเขายังมองว่ามันเป็เื่ยากที่จะรับความสึกพวกนี้ไหว ไม่รู้ว่าเขาโตมากับความคิดในใจแบบไหน พอเกิดอะไรขึ้นถึงได้คิดแบบนี้ขึ้นมา
กับคนที่เกลียดบัตเลอร์อย่างกับอะไรแบบป๋าย กลับคิดว่าความคิดสกปรกพวกนั้นถูก ความคิดที่ว่ามันคือความจริงที่เขาไม่มีประโยชน์ ไม่เก่ง กรีนไม่รู้ว่าคำว่าเก่งสำหรับคนข้าง ๆ เขาตอนนี้คืออะไร แต่สำหรับเขา น้องไม่ต้องเก่งเลยก็ได้ คนน่ารัก ๆ แบบป๋าย แค่มาอยู่ข้าง ๆ เป็กำลังใจเขาในทุก ๆ วันมันก็เพียงพอแล้ว
เหตุผลที่อยากเลี้ยงเขา ไม่ใช่เพราะเขาเป็แมวที่เก่ง เป็แมวที่ฉลาด หรือเป็แมวที่คอยสร้างประโยชน์ให้ มันแค่เพราะเป็ป๋าย เป็แมวแร็กดอลล์สีขาวคนปุยปลายหางเข้มตัวนี้ ทำให้กรีนที่คิดว่าตัวเองมีร่างกายที่ยังไม่พร้อมสำหรับการอยู่ร่วมกันกับแมว ยอมที่จะละทิ้งความจริงข้อนั้นไป และรับอีกคนมาอยู่ด้วยกัน
“อื้อ” เสียงอื้ออึงของป๋ายดังขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่ได้หลับไปแล้วในกลางดึกคืนนี้
“เป็อะไรตัวเล็ก?” กรีนที่ได้รับแรงขยับของอีกคนก็ตื่นขึ้นมาดูน้องทันที
“ป๋ายป๋าย” เสียงเรียกของกรีนทำให้อีกคนที่กำลังอยู่ในห้วงความฝันสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“พี่กรีน”
“เป็อะไรครับ?” กรีนเอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียงและกลับมาลูบหัวป๋ายช้า ๆ
“เค้าฝันไม่ดีเลย”
“อยากเล่าให้พี่ฟังไหม? หื้ม?”
“พี่กรีนไม่มารับเค้า”
“ไม่เป็ไรครับ พี่โอ๋ ๆ นะ มันแค่ความฝันเอง ตอนนี้เธอออกมาจากมันแล้ว แล้วพี่ก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้หายไปไหนเลย โอเคไหมครับ?” ในตอนที่พูด กรีนก็รวบตัวป๋ายเข้ามากอดไว้หลวม ๆ คอยลูบหัวและลูบหลังอยู่ไม่ห่าง
“เค้าขอโทษที่ยังไม่เลิกคิดนะพี่กรีน เค้าเหมือนไม่เชื่อใจพี่เลย”
“ไม่เป็ไรครับ ช่างเื่นั้นนะ พี่สนแค่ตอนนี้เธอยังรู้สึกไม่โอเค โฟกัสแค่ตรงนี้”
เป็อย่างที่พูดออกไปทั้งหมด กรีนสนใจแค่ความรู้สึกของป๋าย ณ ตอนนั้น แค่นั้นเอง
“กำลังกลัวเหรอครับ? มาพูดให้พี่ฟังดีกว่า ระบายออกมาให้หมดเลย พี่ไม่ให้เธอเก็บไว้คนเดียวแล้วคิดมาก หรือเอาเก็บไปฝันแบบนี้แล้วนะป๋ายป๋าย” กรีนจับน้องให้ลุกขึ้นนั่งตรงบนเตียง จับตัวน้องให้หันหน้าเข้าหาตัวเขา แล้วเขาก็หันหน้าเข้าหาน้อง
“เค้ารู้สึกแบบนี้ั้แ่ไม่เห็นพี่กรีนที่น้ำตกแล้ว ตอนพี่กรีนคุยโทรศัพท์เค้าคอยมองพี่กรีนอยู่ตลอดเลย เค้าหันไปเล่นของเล่นแป๊บเดียวพี่กรีนก็หายไป เค้ากลัวพี่กรีนทิ้งเค้า กลัวว่าที่พี่พาเค้าไปจะเป็เพราะว่าตั้งใจเอาเค้าไปทิ้ง” ความรู้สึกทั้งหมดของคนตัวเล็กถูกระบายออกมาผ่านเสียงสั่น ๆ
“พี่ไม่โกรธนะที่เธอคิดแบบนั้น แต่ขอให้ตอนนี้เธอรู้ไว้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นก็พอ”
“เค้าตามผีเสื้อไปเพราะคิดว่ามันอาจจะพาเค้าไปหาพี่กรีน”
“ป๋ายป๋าย” พอได้รับรู้มันก็ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกระดับ
“เค้าอยู่ไม่ได้แน่ ๆ เลย แค่คิดก็หัวใจเจ็บ ๆ แล้ว”
“ป๋ายป๋าย พี่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ พี่ไม่รู้ว่าจะมีเื่อะไรที่จะเข้ามาทำให้เธอต้องไปจากพี่หรือเปล่า แต่ถ้าถามความตั้งใจของพี่ พี่ไม่คิดจะทิ้งเธอเลย”
“เราเริ่มหาหลักฐานกันเลยได้ไหมพี่กรีน เค้าไม่อยากมานั่งคิดเื่แบบนี้แล้วนะ เค้าอยากอยู่กับพี่กรีนแบบมีความสุขร้อยเปอร์เซ็นต์สักที เค้ากลัวจะมีคนมาเอาเค้าไป เค้าไม่อยากไปนะพี่กรีน” และก็เป็อีกครั้งของวันที่ป๋ายร้องไห้ออกมา
“หลังจากจัดการเื่ที่ร้านเสร็จพี่จะเริ่มหาหลักฐานเื่เธอทันทีนะ”
“ที่ร้านมีอะไรเหรอพี่กรีน?”
“โดนคนไม่ดีมาขโมยของครับ”
“แล้วเขาเข้าไปในร้านได้ไง มีกุญแจด้วยเหรอ? หรือว่าเป็ครึ่งทางเหมือนเค้าแล้วปีนเข้าปล่องไฟ” กรีนยิ้มบาง ๆ ให้กับความคิดในใจของอีกคน
“เปล่าครับ คนไม่ดีพวกนี้จะใช้อะไรบางอย่างที่แข็ง ๆ งัดประตูเข้ามา”
“ไม่ดีเลย ขโมยของมาแปลว่ามีอะไรหาย แล้วอะไรหายเหรอพี่กรีน?”
“มีหลายอย่างครับ เธอไม่ต้องรับรู้เื่ไม่ดีพวกนี้หรอกนะ เดี๋ยวจะเครียดเปล่า ๆ”
“แล้วพี่กรีนเครียดไหม?”
“ก็นิดหน่อยครับ ของที่หายไปมันสำคัญ”
“งั้นเค้าเครียดด้วย ไม่เป็ไรน้า”
ป๋ายย้ายตำแหน่งจากที่นั่งตรงข้ามมาที่ข้างตัวของกรีน แขนเล็กยกขึ้นรวบตัวของกรีนแน่นแล้วพูดปลอบออกมา มุมนี้ก็เป็อีกมุมที่น่ารักของป๋าย แม้ว่าตัวเองจะไม่เข้าใจสถานการณ์นั้น ๆ แต่เขาก็เป็กำลังใจที่ดีให้คนพี่ได้เสมอ จากที่ไม่อยากเล่าให้น้องฟังเพราะไม่อยากให้น้องเครียดไปด้วย ในตอนนี้กลับอยากจะระบายมันออกไป เพื่อให้ได้กำลังใจที่ดีกลับมาเหมือนกัน
“กอดพี่แน่น ๆ เลยนะ พี่เหนื่อยมากเลยครับ”
“ได้เลย เค้ากอดพี่กรีนแน่น ๆ น้า พี่กรีนเก่งมาก”
เหมือนจะเป็คำปลอบที่แสนธรรมดา
เพราะเขาเองก็พูดมันบ่อย ๆ
แต่คำปลอบที่ส่วนมากจะออกมาจากปากกรีน
ในตอนนี้เขาได้เป็ผู้รับมันบ้างแล้ว
“ขอบคุณครับคนเก่ง”
“ไม่เป็ไรนะคนเก่งเหมือนกัน”
