Chapter 19
กรีนค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อถึงบริเวณที่จอดรถของอุทยานแห่งชาติ ที่ตั้งของน้ำตกที่เป็เป้าหมายของวันนี้ ความอึดอัดั้แ่ออกเดินทางจากโรงแรมจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้หายไปไหน เมื่อรถจอดสนิท กรีนก็เปิดประตูลงจากรถทันที คนที่นั่งข้าง ๆ มาตลอดทางได้แต่มองตาม ร่างสูงเดินอ้อมมาด้านหลัง เปิดกระโปรงหลังรถออก ขนของที่นำมาด้วยลงมาจากรถ กระเป๋าทุกใบรวมทั้งของป๋ายถูกกรีนสะพายไว้ที่ไหล่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คนตัวเล็กลงมาจากรถ กรีนก็คว้าที่ข้อมือเล็กให้เดินตามไปด้านในอุทยานทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
'ไม่เป็แบบนี้ได้ไหมเ้านายพี่กรีน เค้าไม่ชอบมาก ๆ เลย'
เ้าแมวตัวน้อยได้แต่ตัดพ้อในใจ เพราะไม่กล้าพูดอะไรออกมา ปกติเวลาที่โดนดุ เขาจะยังกล้าอธิบายเหตุผลที่อยู่ในใจให้อีกฝ่ายได้ฟังเสมอ แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง เพราะที่ผ่านมาถ้ากรีนจะดุ กรีนก็จะพูดออกมาตรง ๆ ต่างกันกับวันนี้ ที่กรีนไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมาสักคำ
"สวัสดีครับ มากันกี่ท่านครับ?" เมื่อเดินมาถึงด้านไหนอุทยานแล้ว กรีนพาป๋ายเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋วเข้าไปในส่วนของน้ำตกทันที เ้าหน้าที่ก็กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
"2 ครับ"
"ครึ่งทางหรือเปล่าครับ?" เ้าหน้าที่ผายมือมาที่ป๋ายและถามออกมา เนื่องจากว่าตั๋วที่จะเข้าใช้บริการของมนุษย์กับครึ่งทางจะไม่เหมือนกัน เพื่อป้องกันความปลอดภัย เพราะถ้าหากว่าจำนวนตั๋วของครึ่งทางที่เข้าไปกับจำนวนตัวของครึ่งทางที่ออกมาไม่เท่ากัน เ้าหน้าที่จะได้ทราบว่าอาจจะมีเื่ผิดปกติอะไรเกิดขึ้น
"ครับ น้องเป็ครึ่งทาง" เมื่อเ้าหน้าที่พยักหน้ารับเรียบร้อยก็หันไปคีย์ข้อมูลสักครู่ก่อนจะยื่นตั๋วและกำไลข้อมือกลับมาให้
"รบกวนเ้าของและครึ่งทางใส่ริสแบนด์ให้เรียบร้อยนะครับ เมื่อถึงเวลากลับออกมา ให้เ้าหน้าที่ตัดริสแบนด์ออกจากข้อมือและออกจากอุทยานได้เลยครับ"
"ขอบคุณครับ"
กรีนรับริสแบนด์จากเ้าหน้าที่ เส้นหนึ่งสวมเข้าที่ข้อมือของตัวเอง และอีกเส้นหนึ่งสวมเข้าที่ข้อมือของน้อง ข้างเดียวกับที่ใส่ปลอกคอของอีกคนไว้
"ห้ามถอดออกนะครับ ถ้าหลงทางหรือมีอะไรเกิดขึ้นให้กลับไปที่รถนะ"
ป๋ายพยักหน้าและมองการกระทำทุกอย่างของกรีนอย่างเงียบ ๆ สายตาไม่ได้ส่งไปมองตาของคนพี่แต่อย่างใด คนพี่เองก็เช่นกัน เขาทำทุกอย่างโดยที่ไม่ได้มองตาน้อง
พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะเข้าไปในส่วนของน้ำตก เช่นเดิมกับก่อนหน้า กรีนจับข้อมือป๋ายไว้ตลอดไม่ปล่อย เพราะสถานการณ์ของวันนี้คือต่างผู้คนต่างสถานที่ แถมยังอยู่ในป่าในเขา แม้ว่าจะผิดใจกันอยู่ ความเป็ห่วงของกรีนก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
กรีนจูงมือป๋ายมาที่โซนด้านในของน้ำตก ตลอดสองข้างทาง ป๋ายลอบมองธรรมชาติที่เห็นด้วยตาเปล่าด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็ต้นไม้ใบเขียวที่มีให้เห็นอยู่รอบตัว ท้องฟ้าที่สดใสกว่าปกติ เสียงแมลงที่ร้องอยู่แทบจะตลอดเวลา ผู้คนที่ดูสนุกกับการเล่นน้ำ แน่นอนว่าทุกอย่างใหม่สำหรับป๋าย การได้มองเห็นทุกอย่างสวยงามอย่างลงตัวเช่นนี้ ก็ทำให้เขายิ้มออกมาอยู่ตลอดเวลา
พอเดินจนถึงตำแหน่งที่้า กรีนปล่อยมือป๋าย หยิบเสื่อและผ้าปูที่เตรียมมาปูลงที่พื้นหินเรียบ ๆ จัดการวางของทุกอย่างลงบนผ้า ถอดรองเท้าที่สวมมาออกและนั่งลง จากนั้นก็เอาเท้าจุ่มลงในน้ำ ก่อนจะเงยหน้ามองน้องช้า ๆ
"นั่งลงสิครับ" ป๋ายที่กำลังยืนตัวแข็งและทำตัวไม่ถูก หันไปมองตามเสียงที่เชิญชวนออกมา พอเห็นว่าป๋ายยังไม่ยอมนั่งลง กรีนก็ตบลงที่พื้นหินข้าง ๆ เขาเบา ๆ จากนั้นคนน้องก็ไม่รอช้า นั่งลงที่ตำแหน่งข้างข้างกรีนทันที
"เธอลองเอาเท้าจุ่มลงไปที่น้ำ" หลังจากได้ยินคำแนะนำของกรีน คนตัวเล็กก็ค่อย ๆ ถอดรองเท้าแตะรัดส้นที่สวมอยู่ โดยที่คนพี่ช่วยเขาถอดออกช้า ๆ จากนั้นก็หย่อนเท้าลงไปที่น้ำตกทันที จากนั้นก็ค่อย ๆ ระบายยิ้มออกมา
"เย็นมากเลยพี่กรีน"
"ชอบใช่ไหมครับ?"
"เค้าชอบมาก ๆ"
ป๋ายตอบคำถามคนพี่ในขณะที่ไม่ได้มองหน้าคนถามเลยแม้แต่น้อย สายตาจับจ้องไปที่เท้าของตัวเองที่จุ่มลงไปในน้ำ ป๋ายค่อย ๆ สะบัดขาในน้ำช้า ๆ อย่างชอบใจ เขาชอบความรู้สึก ณ ตอนนี้มาก น้ำเย็น ๆ ที่เขาชอบเล่น บวกกับบรรยากาศธรรมชาติที่เขาได้ััด้วยตัวเองในตอนนี้ ทำให้ทุกอย่างรอบตัวมันสมบูรณ์แบบไปหมด
"เค้าทำแบบนั้นได้ไหมพี่กรีน?" ป๋ายตั้งคำถามขึ้น พร้อมกับชี้ไปที่กลุ่มคนที่เอาตัวเองลงไปอยู่ในน้ำตกอย่างเต็มตัว เพราะรู้สึกอยากจะทำเช่นนั้นบ้าง
"ได้ครับ เดี๋ยวพี่พาลง"
กรีนยิ้มให้คนข้าง ๆ หนึ่งที ก่อนจะนำลงไปดูระดับความลึกของน้ำบริเวณนั้นก่อน พอกรีนเห็นว่าน้ำในบริเวณนั้นไม่ได้มีความลึก เพราะพอกรีนยืนขึ้น ระดับน้ำมันอยู่ที่เอวบนของเขาเท่านั้น พอเห็นดังนั้นก็ส่งมือมารับคนน้องลงไปทันที
"ค่อย ๆ ลงมาตัวเล็ก เดี๋ยวลื่น" ด้วยความตื่นเต้น ทำให้เ้าแมวน้อยรีบร้อนที่จะกระโจนลงน้ำ แต่โดนคนพี่พูดดักไว้เสียก่อน
กรีนค่อย ๆ รับอีกคนลงมาในน้ำอย่างเต็มตัว แขนแกร่งรวบเอวคนตัวเล็กในขณะที่ยังทรงตัวไม่ได้ พอป๋ายหาที่ยืนได้เรียบร้อยแล้ว กรีนก็ปล่อยเอวของอีกคนทันที ในขณะที่มือก็ยังจับไว้
"เย็นมากเลยพี่กรีน"
ยังโชคดีที่ระดับอุณหภูมิในตอนกลางวันของ่ปลายปีเช่นนี้ยังไม่ต่ำจนทำให้หนาว แต่ก็คอยมีลมเย็นพัดไปพัดมาอยู่ตลอด บวกกับแดดที่เพิ่มความอุ่นให้กับร่างกาย ทำให้การลงเล่นน้ำตกใน่นี้เป็อะไรที่สบายตัวเอามาก ๆ
ป๋ายก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่อยู่ในน้ำ กับหินที่เรียงรายอยู่ด้านล่าง ความใสของน้ำตกทำให้มันสวยขึ้นเป็เท่าตัว กรีนที่แทบจะไม่สนใจธรรมชาติรอบตัว ก็มองน้องอยู่ตลอดเวลา
"พี่กรีน" ป๋ายเรียกคนพี่ออกมา ในขณะที่สายตายังก้มมองที่บริเวณใต้น้ำอยู่
"หื้ม?"
"เค้าขอโทษ" พอรับรู้จุดประสงค์ในการเรียกตัวเองของอีกคน กรีนก็ส่งยิ้มบาง ๆ ออกมาทันที
"ขอโทษเื่อะไรครับ? เธอทำอะไรผิด ไหนลองพูดให้พี่กรีนฟังหน่อย" กรีนกระชับมือที่จับอีกคนไว้ให้แน่นขึ้น ก่อนจะพูดออกไป
"เค้าไม่เชื่อฟังพี่กรีน เค้าดื้อ กินขนมตอนดึก ๆ" คนตัวเล็กสารภาพความผิดในใจออกมา และยังคงมองหินที่ใต้น้ำ ไม่ได้เงยหน้ามาแต่อย่างใด
"ป๋ายป๋ายเงยหน้าขึ้นมาหาพี่กรีนก่อนครับ" กรีนค่อย ๆ ประคองหน้าคนน้องให้เงยขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาของตนเอง ลูบที่แก้มใสเบา ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาให้เ้าแมวน้อยของเขาเล็ก ๆ
"ก็ใช่ครับคนเก่ง เวลาที่พี่พูดอะไรพี่ก็อยากให้เธอฟัง เพราะพี่หวังดีจริง ๆ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ทำให้พี่รู้สึกไม่ดีมากที่สุด ก็คือเธอปวดท้อง แล้วพี่ก็โกรธตัวเอง ตอนแรกพี่ตามใจเพราะอยากให้เธอรู้เอง ว่าถ้ากินเยอะ ๆ แล้วปวดท้องมันจะเป็ยังไง แต่พอเห็นเธอปวดท้องจริง ๆ พี่ก็เพิ่งคิดได้ว่าไม่ควรตามใจเธอแบบนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็ยังไง"
"เค้าขอโทษนะพี่กรีน ต่อไปนี้เค้าจะฟังพี่กรีน ไม่ดื้อแบบนี้อีกแล้ว แต่พี่กรีนอย่าเมินเค้าอีก เค้าไม่ชอบเลยตอนพี่กรีนไม่คุยด้วย"
ปากที่เบะคว่ำลง กับดวงตาใสที่กำลังมีน้ำเอ่อล้นออกมาของคนตัวเล็กทำให้กรีนต้องสวมกอดอีกคนทันทีโดยอัตโนมัติ มือหนาคอยลูบหัวอยู่ไม่ห่าง เขาเองก็เสียใจที่ไม่คุยกับน้อง แต่ในเมื่อเขากำลังโกรธตัวเอง ก็ทำได้แค่ป้องกันไม่ให้อารมณ์ที่คุกรุ่นส่งไปถึงเ้าแมวน้อยของเขา
หลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ระหว่างทั้งคู่แม้ว่าจะยังไม่ปกติแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็ทำให้บรรยากาศการมาเที่ยวในครั้งนี้สนุกมากกว่าตอนมาถึง มือหนาที่เคยจับข้อมือน้องไว้ตลอด เพราะกลัวจะเป็อะไร กับสายตาที่คอยลอบมองด้วยความเป็ห่วง ถูกส่งไปให้ป๋ายอยู่ตลอดเวลา
ทั้งกรีนและป๋ายใช้เวลาเป็ชั่วโมงในการแช่น้ำ จะคอยเล่าเื่ราวที่เคยผ่านมาให้อีกฝ่ายฟัง คอยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ไม่เคยพูดให้อีกคนหนึ่งฟังมาก่อน
"ตอนพี่กรีนมาที่นี่พี่กรีนโตเท่าไหนนะ?"
"ตอนนั้นพี่เพิ่งอายุ 16 ครับ"
"เค้ายังไม่โตเต็มวัยเลยนะตอนนั้น"
กรีนยิ้มและเอ็นดูกับคำตอบหรือปฏิกิริยาที่คนน้องส่งมาให้เขาโดยตลอด เวลาที่เขาเล่าอะไรออกมา กรีนเองก็ไม่รู้ว่าน้องพยายามที่จะตอบสนองกับสิ่งที่เขาเล่าหรืออะไรพวกนี้มันออกมาเองโดยอัตโนมัติ แต่มันทำให้เขาสบายใจมากเวลาที่ได้เล่าอะไรให้น้องฟัง มันเป็ความรู้สึกคุ้มค่าที่ได้แบ่งปันตัวเองในอดีตให้อีกคนได้ฟังจริง ๆ
"พี่กรีนยังคิดถึงคุณพ่อคุณแม่อยู่ไหม?"
"คิดถึงสิ คิดถึงอยู่ตลอดเลย" กรีนตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม
"เค้าก็คิดถึงนะ แต่จำแม่ไม่ได้เลย เค้าเลยไม่รู้ว่าจะนึกถึงแม่แบบไหน" ร่างหนารวบเอวคนตัวเล็กจากด้านข้างให้มาชิดเขาแล้วค่อย ๆ จับหัวน้องให้มาซบไหล่เขาไว้ แล้วคอยลูบหัวช้า ๆ
"แล้วเธอเคยจินตนาการเองหรือเปล่า ว่าแม่เธอลักษณะเป็ยังไง?"
"เคยนะ แต่ตอนที่อยู่ที่ศูนย์เค้าไม่เคยคิดเลย เค้าเพิ่งมาคิดตอนอยู่ที่บ้านบัตเลอร์ เพราะคนบ้านนั้นไม่ดี ก็เลยคิดถึงแม่มาก ๆ แม่อาจจะตัวสีขาวเหมือนเค้า ปลายหางก็อาจจะมีสีเข้ม ๆ เหมือนเค้า แล้วก็ขนฟู ๆ เหมือนเค้าก็ได้มั้ง"
"เอาจริง ๆ พี่ยังติดใจเื่นี้อยู่นะ พี่รู้สึกคุ้นเธอมาก ๆ แต่คิดไม่ออกว่าเราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่า"
"อาจจะที่ศูนย์ดูแลก็ได้"
"มั้งครับ"
"พี่กรีนว่าคุณพ่อคุณแม่พี่กรีนกับแม่ของเค้าจะเจอกันบนโน้นไหม?" คนตัวเล็กถามออกมาพร้อมกับชี้มือขึ้นไปบนฟ้า
"อาจจะเจอกันแล้วก็ได้มั้งครับ พ่อแม่พี่กับแม่ของเธออาจจะเสกให้เรามาเจอกันก็ได้"
"คนบนนั้นมีเวทมนตร์ด้วยเหรอพี่กรีน?" ป๋ายถามออกมาด้วยความสงสัย
"ไม่รู้สิครับ อาจจะมีก็ได้"
"เค้าอยากมีบ้าง จะได้เก่ง ๆ"
"แค่นี้เธอก็วิเศษมากพอแล้ว" ป๋ายยิ้มให้กับคำปลอบประโลมของคนพี่ ก่อนจะสวมกอดเข้าไปที่เอวของเ้านายเขาแน่น ๆ และซบลงบนอกค้างไว้แบบนั้น
"เค้ารักเ้านายพี่กรีนที่สุดเลย"
"พี่ก็รักเธอครับ"
แล้วถ้าเลือกได้ กรีนก็อยากให้น้องอยู่เป็ความสุขของตัวเองไปอีกนาน ๆ
ผ่านมาจนถึงเวลาอาหารกลางวัน สำหรับมื้อกลางวันของทั้งคู่ ก็คืออาหารของโรงแรมที่กรีนซื้อไว้ แล้วบรรจุมันลงในกล่องเก็บความร้อนที่เตรียมมาจากบ้าน
"หนาวไหมครับ?"
"เย็นสบายมาก ๆ มีคุณแดดอุ่น ๆ ส่องมาก็เลยไม่หนาวเท่าไหร่เลยพี่กรีน"
กรีนกระชับผ้าขนหนูที่ห่อตัวอีกคนไว้ให้แน่นกว่าเดิม และกลับมาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดเบา ๆ ที่ผมของน้องให้แห้ง ก่อนที่จะเริ่มลงมือกินอาหารกลางวัน
"เธอไม่ได้ปวดท้องแล้วจริง ๆ ใช่ไหมตัวเล็ก?" กรีนถามออกมาเพื่อความแน่ใจ ว่าอาการปวดท้องเมื่อตอนเช้าของอีกคนหายสนิทแล้วจริง ๆ
"จริง ๆ พี่กรีน ตอนมาเค้ากินยาที่พี่กรีนให้ แล้วก็นอนในรถ ตื่นมาเค้าก็หายเลย" คนตัวเล็กตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม
พอทุกอย่างถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว กรีนและป๋ายก็ลงมือกินอาหารกลางวันทันที แผนของวันนี้ไม่มีอะไรมาก ใน่บ่ายหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็คงจะไม่ต่างแต่ตอนเช้า คือการลงเล่นน้ำไปเรื่อย ๆ เพราะป๋ายเองก็ไม่ได้ดูเบื่อเลยแม้แต่น้อย
"กินช้า ๆ ครับป๋ายป๋าย"
"พี่กรีน เค้าถอดปลอกคอที่ข้อมือออกก่อนได้ไหม? กินไม่ค่อยถนัดเลย" คนน้องเบะปากงอแงเพราะว่ากินมื้อกลางวันได้ไม่ราบรื่น เพราะข้อมือของเค้ามีทั้งปลอกคอที่กรีนให้ รวมไปถึงริสแบนด์ของอุทยาน มันเลยทำให้ป๋ายรู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากถอดมันออกก่อน
"ได้ครับ แต่ว่าถ้ากินเสร็จแล้วเธอต้องใส่เลยนะ" ป๋ายพยักหน้ารัว ๆ รับคำเ้านายของเขา
"พี่กรีน เค้าจุ่มลงไปในน้ำแบบนั้นได้ไหม?" หลังจากที่มื้อกลางวันถูกจัดการเรียบร้อย กรีนและป๋ายก็ลงมาเล่นน้ำเหมือนกับตอนเช้า เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น
"ไม่ได้ครับ แบบนั้นอันตราย" กรีนตอบกลับคนตัวเล็กไป หลังจากที่มองไปยังตำแหน่งที่อีกคนชี้ เป็ตำแหน่งที่มีกลุ่มคนกำลังแข่งกันกลั้นหายใจใต้น้ำอยู่ และกรีนคิดว่ามันคงอันตรายเกินไปถ้าให้น้องเล่น เลยปฏิเสธไปในที่สุด
"มันอันตรายจริง ๆ ครับ พี่เป็ห่วงก็เลยไม่ให้เล่น ป๋ายป๋ายเข้าใจพี่ใช่ไหม?" พอเห็นน้องหน้างอ กรีนก็รีบอธิบายให้ฟังทันที
"เค้าเข้าใจ แต่มันเสียดาย"
"พี่อยากให้เธอลองนะ แต่เื่แบบนี้มันพลาดแล้วพลาดเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้น พี่เอาเธอกลับมาไม่ได้แล้วนะ"
"งั้นเค้าไม่เล่นแล้ว ๆ"
"ครับคนเก่ง" กรีนส่งยิ้มกลับไปให้น้อง
"งั้น เค้าเล่นอะไรได้บ้างน้า"
"มาครับ พี่จะสอนตีขา"
"เอา ๆ ๆ ๆ" ถึงแม้ว่าจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าตีขา แต่ป๋ายก็ไม่ปฏิเสธที่จะลองเล่นมัน
กรีนบอกให้ป๋ายเกาะที่หินก้อนใหญ่ไว้ เหยียดขาลงไปด้านหลังบริเวณที่มีน้ำ สลับกันตีขาขึ้นลงเบา ๆ โดยที่กรีนคอยประคองหน้าท้องกับหน้าขาของคนตัวเล็กไว้ตลอด
"พี่กรีน ๆ ๆ เค้าลอยได้ด้วย" พอจังหวะการตีขาของคนตัวเล็กเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาก็เริ่มลอยตัวบนน้ำได้ นั่นเป็สิ่งที่ทำให้เ้าแมวตัวน้อยตื่นเต้นเป็อย่างมาก
"เก่งมากครับป๋าย"
ป๋ายเล่นสนุกไปเรื่อย ๆ กับการลอยน้ำ กรีนสอนท่าพื้นฐานที่ไม่อันตรายเกินไปสำหรับป๋ายอีกเล็กน้อย เผื่อเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เขาคอยอธิบายว่าแต่ละท่าต้องทำยังไงให้ลอยตัวในน้ำได้ เ้าตัวเล็กก็ดูสนุกไปมัน
ครืด ครืด ~
นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือกรีน ซึ่งเชื่อมกับโทรศัพท์ไว้สั่นขึ้นมา มองไปที่หน้าจอดิจิตอลบนนาฬิกา ก็พบว่าเป็สายเรียกเข้าจากเวย์
ซึ่งด้วยความที่สนิทกันมานาน กรีนมั่นใจว่าถ้าไม่มีเื่สำคัญมาก ๆ เวย์จะไม่โทรมากวนเวลาพักผ่อนของเขาเด็ดขาด เพราะตัวเพื่อนสนิทของเขารู้ดี ว่านาน ๆ ทีตัวเขาจะได้มาพักผ่อนต่างสถานที่แบบนี้
"ป๋ายป๋ายครับ ขึ้นจากน้ำแป๊บนึงนะ พี่ขอคุยโทรศัพท์กับเวย์ก่อน" กรีนขมวดคิ้วแล้วหันไปบอกน้อง
"เค้าต้องขึ้นไหม?"
"ขึ้นครับ ไม่อยู่ในน้ำคนเดียวนะ พี่เป็ห่วง" คนตัวเล็กพยักหน้ารับเ้านายของเขาด้วยความเข้าใจทันที
ทั้งคู่พากันขึ้นจากน้ำทันที กรีนแยกออกไปคุยโทรศัพท์กับเวย์สักพัก ก่อนจะเดินกลับเข้ามา ทางด้านคนที่นั่งรอพอเห็นคุณพี่เดินกลับมาก็เตรียมตัวที่จะลงน้ำอีกรอบ
"ตัวเล็ก พี่ต้องคุยโทรศัพท์อีกสักพักเลย เธอเล่นของเล่นก่อนได้ไหมครับ? อย่าเพิ่งลงน้ำนะ"
"อ้าว งั้นเค้าเล่นของเล่นก่อนก็ได้"
กรีนลูบหัวของป๋ายเบา ๆ จากนั้นก็หยิบเอากระเป๋าที่ใส่ของเล่นมาตั้งไว้ด้านหน้าของคนน้อง หยิบของเล่นอันโปรดของป๋ายออกมาสองสามชิ้น จากนั้นก็เดินกลับไปคุยโทรศัพท์ต่อ
ป๋ายที่นั่งเล่นของเล่นวนไปวนมาจนเบื่อคอยลอบมองเ้านายของเค้าอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่ากรีนจะคุยโทรศัพท์เสร็จและกลับมาเล่นกับเขาเลย แอบเป็ห่วงอยู่ในใจว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่าถึงต้องคุยโทรศัพท์นานขนาดนั้น
'เห้อ ลงน้ำคนเดียวไม่ได้ใช่ไหม? เหมียวเบื่อมาก ๆ'
คนตัวเล็กได้แต่ถอนหายใจและนั่งคิดอะไรอยู่ในใจเท่านั้น ถึงแม้ว่าั้แ่ตอนที่มาถึงน้ำตกจนถึงตอนนี้จะเป็เวลาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม แต่ความสนุกในการเล่นน้ำของเขามันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย เขายังอยากลงไปเล่นน้ำอยู่ แต่ก็ทำได้แค่นั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างบนตามคำบอกของคนพี่
'เ้านายพี่กรีนหายไปไหนแล้ว?'
เวลาผ่านไปอีกสักพัก คนตัวเล็กที่กำลังจะหันมองไปที่เ้านายของเขากลับหน้างอออกมา เพราะบริเวณที่เ้านายของเขายืนอยู่เมื่อสักครู่ ในตอนนี้กลับว่างเปล่า
ป๋ายพยายามทำจิตใจให้นิ่ง ไม่โวยวาย เพราะเขาเชื่อว่ายังไงพี่กรีนของเขาก็ต้องกลับมาหาเขาแน่นอน คนตัวเล็กหันกลับไปเล่นของเล่นต่อไปเพื่อให้จิตใจสงบ
'โอ๊ะ ผีเสื้อ?'
'ผีเสื้อจะพาไปหาพี่กรีนได้ไหม?'
ตามสัญชาตญาณของเ้าเหมียว ผีเสื้อสีสวยบินผ่านด้านหน้าในระดับสายตาของป๋าย แล้วมันก็เรียกความสนใจจากเขาได้เป็อย่างดี คนตัวเล็กละทิ้งของเล่นตรงหน้าแล้วเดินตามมันไปทันที
กรีนที่รีบร้อนเดินกลับมาพร้อมกับเตรียมคำขอโทษไว้ให้คนน้องเพราะตอนนี้ใกล้เวลาปิดของอุทยานแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อมองกลับมาบริเวณที่นั่งแล้วกลับไม่เห็นใครเลย
"ป๋ายป๋าย"
กรีนส่งเสียงเรียกอีกคนจากใกล้ ๆ และมองดูบริเวณรอบ ๆ ทั้งในน้ำตกและข้างบน กลับไม่พบใครเลย แสงจากดวงอาทิตย์ที่มืดลงเรื่อย ๆ กับผู้คนที่ทยอยออกจากอุทยาน ทำให้ใจของกรีนเต้นแรงขึ้น
"ป๋าย!"
กรีนเริ่มะโเรียกให้ดังขึ้น คนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในอุทยานหันมามองเป็ระยะ เขาตัดสินใจเดินกลับไปที่ที่นั่งที่ปูไว้เมื่อตอนมา และสิ่งที่ทำให้กรีนใจเสียมากยิ่งขึ้น ก็คือปลอกคอที่มันควรจะอยู่ที่ข้อมือน้อง ในตอนนี้มันวางอยู่ที่นี่ ที่ที่คนตัวเล็กไม่อยู่
‘…สวัสดีครับทุกท่าน ขณะนี้อุทยานกำลังจะปิดให้บริการ ขอให้ผู้ใช้บริการทุกท่านออกจากสถานที่ภายใน 20 นาทีหลังจากนี้นะครับ เนื่องจากการรายงานพยากรณ์อากาศ วันนี้ใน่กลางดึกลมหนาวจะเริ่มพัดเข้าสู่เมืองของเราแล้ว หาก้าความช่วยเหลือ ติดต่อเ้าหน้าที่ของอุทยานได้ทันทีครับ ขอบคุณครับ…’
เสียงตามสายจากอุทยานประกาศขึ้น กรีนที่ตั้งใจฟังอย่างดีกลับร้อนรนใจยิ่งกว่าเดิม เพราะทางอุทยานแจ้งว่า่กลางดึกของวันนี้จะมีลมหนาวพัดเข้ามาแล้ว
"อยู่ไหนเนี่ยตัวเล็ก พี่ไม่เล่นนะครับ" กรีนพูดออกมาด้วยเสียงสั่น ๆ พร้อมกับรีบเก็บของ เพื่อออกไปติดต่อเ้าหน้าที่ให้เร็วที่สุดก่อนที่แสงจากดวงอาทิตย์จะหมดไป
กรีนรีบวิ่งออกจากบริเวณน้ำตกและไปติดต่อเ้าหน้าที่ทันที แม้ว่าเขาอยากจะออกตามหาเองแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อยากเป็ภาระของใคร ที่นี่เป็ที่ที่ตัวกรีนเองก็ไม่ได้คุ้นเคย โอกาสหลงทางมีมากเกินครึ่ง
"ผู้ปกครองรอตรงนี้นะครับ หากได้เื่อะไรเพิ่มเติม เราจะติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด" กรีนพยักหน้ารับเ้าหน้าที่ จากนั้นเ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยก็เริ่มเข้าไปในบริเวณน้ำตกเพื่อตามหาป๋ายทันที
อย่าเป็อะไรเลยนะครับ
พี่กรีนขอร้อง
กลับมาหาพี่เถอะนะ