เมื่ออวี้เอ๋อร์กลับมาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย ก็พบว่าชุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายอวิ๋นซูมีใบหน้าขาวซีด
“ไปเถิด ไปห้องอาหารนำสำรับมาเสียหน่อย”
“เ้าค่ะ คุณหนู”
ชุ่ยเอ๋อร์ปิดประตูห้องด้วยใจเต้นแรง นางคิดว่าคำพูดเ่าั้ของคุณหนูจะได้ใช้ประโยชน์เร็ววันนี้ แม้จะหวาดกลัวแต่เมื่อคิดว่าตนเองสามารถไปจากจวนโหวที่น่ากลัวแห่งนี้ได้ นางก็กัดฟันแน่น ทำท่าราวกับสงบเยือกเย็นเดินมุ่งไปยังทิศทางของห้องอาหาร
เมื่อถึงหัวมุมจู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาปิดปากนางอย่างแรง ชุ่นเอ๋อร์พลันเบิกตากว้างและดิ้นสุดแรง “หากยังอยากมีชีวิตอยู่ก็เงียบซะ ประเดี๋ยวจะมีรางวัลให้เ้า”
เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา ชุ่ยเอ๋อร์ก็ปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง ข้ารับใช้ผู้นั้นรีบยัดเงินก้อนหนึ่งในมือนาง
“นี่เป็เพียงน้ำใจเล็กน้อย ตามข้าไปเงียบๆ เดี๋ยวจะได้มากกว่านี้”
บนใบหน้าของชุ่ยเอ๋อร์ปรากฏความลังเลชั่วครู่ แล้วจึงเก็บก้อนเงินไว้พลางพยักหน้า
ในขณะที่ข้ารับใช้หมุนกาย ใบหน้าก็ปรากฏแววเหยียดหยาม พาชุ่ยเอ๋อร์เดินเลี้ยวไปยังเขตจวนแห่งหนึ่งอย่างระมัดระวัง
เมื่อชุ่ยเอ๋อร์เห็นอนุสองที่ประดับประดาด้วยของมีค่าทั้งร่างก็ชะงักงันไปชั่วครู่แล้วจึงคุกเข่าลง “บ่าว บ่าวคารวะอนุรอง”
“อืม เป็สาวใช้ที่มีชีวิตชีวาเสียจริง” อนุรองแย้มยิ้ม ก้มมองลงไปยังสาวใช้ที่ตัวสั่นระริก “ติดตามลูกหก เกรงว่าจะได้รับความอยุติธรรมไม่น้อยเลยกระมัง ข้าได้ยินมาว่า่นี้ลูกหกห่างเหินกับเ้าทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ”
“นี่...คุณหนูอาจจะแค่...”
“ดูท่าทางเ้าฉลาดมีไหวพริบเช่นนี้ข้าชอบนัก แม่นม” แม่นมข้างกายเมื่อได้รับสัญญาณก็หยิบกำไลข้อมือสีเขียวมรกตออกมาเดินไปยังเบื้องหน้าชุ่ยเอ๋อร์ “นี่เป็รางวัลของอี๋เหนียง ยังไม่รีบรับไปอีก”
คุณหนูหกคงมิอาจใจกว้างได้เช่นนี้ ผู้ใดล้วนทราบว่าอนุสองปฏิบัติกับเหล่าผู้น้อยในเรือนอย่างดี ของที่หยิบออกมาล้วนหรูหรายิ่งนัก
“บ่าว บ่าวมิอาจ...”
“แน่นอน กำไลนี้ไม่ได้ให้เ้าเปล่าๆ เ้าเพียงต้องบอกข้าสักสองสามเื่ถึงจะได้รับกำไลนี้”
ชุ่ยเอ๋อร์ได้ยินจึงรับกำไลนั้นมาอย่างระมัดระวัง “ไม่ทราบว่าอี๋เหนียง้า...้าทราบสิ่งใดเ้าคะ”
“วางใจเถิด ไม่ให้เ้าทำเื่ที่ผิดต่อคุณหนูของเ้าหรอก เพียงแค่บอกข้ามาว่าเช้าวันนี้ยามอนุห้าไปเรือนไผ่เกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ชุ่ยเอ๋อร์คิดครู่หนึ่ง ดึงกำไลนั้นเข้ามาแล้วเล่าอย่างละเอียด
อนุรองได้ยิน สีหน้าก็มิได้เปลี่ยนแปลง ทว่าในใจกลับโมโหขึ้นเรื่อยๆ “พูดเช่นนี้ก็คือ ลูกหกพบว่าในขนมนั้นมียาพิษอยู่ อนุห้าก็หน้าเปลี่ยนสีไปเลยงั้นหรือ”
“เ้าค่ะ จะอย่างไรอนุห้าก็ไม่ยอมรับ เอาแต่กล่าวว่าคุณหนูใช้วิธีการน่ารังเกียจบิดเบือนน้ำใจของผู้อื่น แล้วเดินออกประตูไปเลยเ้าค่ะ”
“เื่ใหญ่เช่นนี้เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวฮูหยินผู้เฒ่า”
“คุณหนูกล่าวว่าไม่มีหลักฐาน หากอนุห้าไม่ยอมรับ เกรงว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเข้าใจผิดว่าคุณหนูวางแผนใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่น”
นังตัวโชคร้ายนั่นช่างเป็เ้านายที่ขลาดเขลาเสียจริง หากความจริงรู้ไปถึงฮูหยินผู้เฒ่า ก็ยังมีขนมที่มีพิษนั่นอยู่ อนุห้าจะอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด
“ยังมี...คุณหนูกล่าวว่า เพิ่งกลับมาจวนโหวไม่ควรก่อเื่ให้มากมาย ้าเพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข...” ชุ่ยเอ๋อร์พยายามนึก เกรงว่าตนจะกล่าวผิดไปจากคำที่อวิ๋นซูกำชับ
อนุรองหรี่ตามองด้วยความสงสัย “เื่นี้มีผู้ใดรู้บ้าง แล้วขนมพวกนั้นเล่า”
“ไม่มีผู้ใดทราบเ้าค่ะ คุณหนูไม่ให้พวกเราพูด ขนมพวกนั้นก็กินไม่ได้แล้วจึงทิ้งไปทั้งหมดแล้ว”
“ทิ้งไปแล้ว หลักฐานสำคัญขนาดนี้...” อนุรองเกลียดที่เหล็กไม่เป็เหล็กกล้า1 ยังคิดว่าหลิ่วอวิ๋นซูเด็กคนนั้นจะไปรบกวนฮูหยินผู้เฒ่าให้ตกอกใ ได้อยู่เรือนไผ่สมควรจะมีฝีมือเสียหน่อย ตอนนี้มองดูแล้วช่างไร้น้ำยาโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ตนเองอยากจะไปบอกฮูหยินผู้เฒ่าแทนนางก็ไม่ได้แล้ว ไม่แน่ว่าจะทำให้ตนเองได้รับความยุ่งยากกลับมาเสียมากกว่า
ชุ่ยเอ๋อร์หดคอลง “คุณหนูบอกว่า...เื่น้อยลงเื่หนึ่งดีกว่าเื่เยอะขึ้นเื่หนึ่ง...”
อนุสองไม่อยากฟังต่อไปแม้เพียงนิด กลัวว่าตนจะโมโหกับความขลาดเขลาของเด็กคนนั้นจนตาย
“เอาล่ะ วันหน้ามีเื่อะไร ข้าจะมาหาเ้าอีก แน่นอนว่ารางวัลก็ย่อมไม่น้อย แต่หากให้ผู้อื่นรู้จะมีจุดจบอย่างไร เ้าเข้าใจหรือไม่” ในน้ำเสียงมีแววข่มขู่อย่างล้ำลึก
“บ่าวไม่กล้าเ้าค่ะ บ่าวไม่กล้า ขะ...ขอบคุณอนุรองที่มอบรางวัล”
มุมปากของอนุรองโค้งขึ้นเล็กน้อย “ไปเถิด”
เห็นสาวใช้ถูกพาตัวออกไป แม่นมก็เกิดความสงสัยในใจ “นายท่าน คำพูดของสาวใช้คนนี้เชื่อถือได้หรือเ้าคะ คุณหนูหกทราบว่าสาวใช้นางนี้เคยทรยศตัวเองครั้งหนึ่ง เหตุใดยังเก็บไว้ข้างกายอีกเ้าคะ”
“เ้าไม่ได้ยินหรือ เด็กคนนั้นเป็เ้านายที่ขลาดเขลากลัวเื่ราว กระทั่งเื่ของคุณชายซีฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ทราบ แต่อย่างไรเสียสาวใช้คนนี้กับลูกหกก็เติบโตมาด้วยกัน ยังคงมีความรู้สึกต่อกันอยู่บ้าง หากไม่ใช่ว่านางโง่งมเก็บสาวใช้คนนี้ไว้ ตอนนี้พวกเราจะมีหูมีตาข้างกายนางได้อย่างไร น่าเสียดายที่นังแพศยานั่นสบายตัวไปได้”
ชุ่ยเอ๋อร์แสร้งทำเป็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไปยังห้องอาหารหยิบสำรับกลับมา แล้วนำคำที่อนุรองคุยกับนางบอกอวิ๋นซูทั้งหมด
“อืม เ้าทำได้ดีมาก คราวก่อนเื่ของคุณชายซีไม่สำเร็จ อนุรองก็ยังมีแผนอื่นอีก”
“เหตุใดคุณหนูจึงทราบว่าอนุรองเป็ผู้ที่ลวงคุณชายซีไปทีู่เาด้านหลังในวันนั้นหรือเ้าคะ” อวี้เอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคุณหนูของตนจึงได้มั่นใจเช่นนี้
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงให้เ้าเข้าๆ ออกๆ แต่กลับให้ชุ่ยเอ๋อร์อยู่ในเรือน”
อวี้เอ๋อร์และชุ่ยเอ๋อร์สบตากันครู่หนึ่ง อวิ๋นซูแย้มยิ้ม “หากตอนนี้พวกเ้าออกไปดูทีู่เาจำลองด้านนอก จะพบว่ามีรอยเท้าลึกๆ อยู่หนึ่งรอย ข้ารับใช้ผู้นั้นคงมองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากด้านนอก เห็นได้ชัดว่าข้างกายเ้ามีโอกาสลงมือได้มาก แต่เขากลับรอชุ่ยเอ๋อร์ออกไปจึงค่อยพาตัวนางไป”
ตอนนี้เองสาวใช้ทั้งสองก็เข้าใจเื่ราวในที่สุด ที่แท้คุณหนูตั้งใจให้เป็เช่นนี้ คนเ่าั้แรกเริ่มเดิมทีก็วางแผนให้ชุ่ยเอ๋อร์ลอบฟังข่าวอยู่ที่นี่
“หลายวันมานี้ข้าแสดงถึงความห่างเหินกับชุ่ยเอ๋อร์ต่อหน้าผู้อื่น เพื่อให้ผู้ที่ทราบเื่คุณชายซีรู้ว่า เป็เพราะชุ่ยเอ๋อร์ทรยศข้าครั้งหนึ่ง ข้าจึงไม่ไว้ใจนางอีก ให้พวกนางคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานายบ่าวถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นหาก้าสืบข่าวจากชุ่ยเอ๋อร์ก็จะง่ายดายยิ่ง”
ได้ยินคำว่าทรยศ ชุ่ยเอ๋อร์ก็ก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
“คุณหนูเพิ่งกลับมาที่จวน เหตุใดอนุรองจึงวางแผนใส่ร้ายคุณหนูเ้าคะ” อวี้เอ๋อร์รู้สึกร้อนใจแทนคุณหนูของตน
“คนที่นาง้าใส่ร้ายไม่ใช่ข้า แต่เป็ฮูหยิน”
ตอนนั้นฮูหยินผู้เฒ่ากับอี๋เหนียงทั้งหลายล้วนไปวัดเทียนฝู เหลยซื่ออยู่จัดการหาที่พักให้ตัวโชคร้ายที่ถูกรับกลับมาอย่างนาง เมื่อคุณชายซีแห่งบ้านรองเกิดเื่ในตอนนี้ ก็ล้วนเป็ความผิดของเหลยซื่อ อวิ๋นซูคิดถึงตรงนี้ได้ก็เพราะคำพูดของอนุห้า นางมั่นใจั้แ่ต้นว่าเป็เหลยซื่อที่วางยาพิษในขนมเพื่อใส่ร้ายนาง อนุรองทราบดีว่า หากเื่ราวถูกเปิดเผยออกไป อนุห้าจะกล่าวเช่นนี้กับทุกคนแน่นอน เช่นนั้นเหลยซื่อก็ต้องยุ่งยากอีกครั้งแล้ว
คราวที่แล้วก็ช่างมันเถิด แต่คราวนี้ถึงกับ้าใช้ชีวิตขอตนเพื่อใส่ร้ายเหลยซื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของอวิ๋นซูค่อยๆ ลึกล้ำยิ่งขึ้น ผู้ใดดีกับนางนางก็จะดีตอบ หากผู้ใดร้ายกับนาง นางก็จะขอคืนเป็สิบเท่า
************************
คำอธิบายเพิ่มเติม
1 เกลียดที่เหล็กไม่เป็เหล็กกล้า หมายถึง ผิดหวังเวลาที่ใครบางคนทำได้ไม่ตรงตามที่ตนคาดหวัง