น้ำชายกออกมาแล้ว อวิ๋นซูมองขนมชบาเกล็ดหิมะขาวนวลอ่อนนุ่มที่ถูกผลักมาตรงหน้าของตนอย่างเชื่องช้า
อนุห้าสงสัย “หรือลูกหกชอบพายผลไม้นี้? สองสิ่งนี้เป็ขนมที่ข้าชอบทานที่สุดเชียว”
เป็นางที่ทำเองหรือไม่? ขนมสองชิ้นที่นางเสนอให้เป็ขนมที่มีพิษ อวิ๋นซูใคร่ครวญในใจ “พายผลไม้นั่นสีสันสดใส เช่นนั้นซูเอ๋อร์จะทานขนมชิ้นนี้ น่าเสียดายที่อวิ๋นซูมิกล้าลิ้มลองรสชาติดอกชบาในขนม ขนมชบาเกล็ดหิมะนี้ให้อี๋เหนียงทานเถิดเ้าค่ะ”
“เป็เช่นนี้นี่เอง คนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบรสชาติดอกชบาอย่างที่เ้าว่านั่นแหละ” อนุห้าหยิบขนมชิ้นนั้นขึ้นมาพลางแย้มยิ้มให้อวิ๋นซู เมื่อเห็นอีกฝ่ายหยิบพายผลไม้ขึ้นมา นางจึงก้มหน้าลงยกขนมดอกชบาขึ้นแล้วอ้าปากช้าๆ
สายตาของอวิ๋นซูสั่นไหว รีบยื่นมือไปปัดขนมชบาหิมะในมือของอนุห้าจนตกพื้น “ลูกหก นี่เ้า...”
อนุห้าไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไร้มารยาทเช่นนี้ เมื่อครู่นางยังคิดว่าคุณหนูหกไม่มีอารมณ์ยโสเช่นคุณหนูท่านอื่น คบค้าสมาคมได้ง่าย คิดไม่ถึงว่านางจะมองผิดไป
“ท่านแม่ห้าเ้าคะ ขนมนี้มิอาจทานได้” สีหน้าของนางจริงจังขึ้น อนุห้าราวกับเข้าใจเื่ราวขึ้นมา น้ำเสียงพลันเย็นเยียบ “เหตุใดจึงทานไม่ได้? ลูกหกกังวลว่าข้าจะวางยาในขนมหรืออย่างไร?”
นางลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจ ความจริงนางมาเพื่อดูเรือนไผ่แห่งนี้เท่านั้น แต่ก็มิอาจมามือเปล่าได้ ไม่คิดเลยว่าจะถูกใส่ร้าย
อวิ๋นซูส่งสายตาให้สาวใช้ อวี้เอ๋อร์ที่หน้าซีดเล็กน้อยจึงได้สติกลับมา รีบถอยออกไปปิดประตูเรือน แล้วยืนสอดส่องรอบๆ อยู่ตรงระเบียงทางเดิน
“ท่านแม่ห้าโปรดอย่าได้โมโห” อวิ๋นซูหยิบเข็มเงินออกมาทดสอบต่อหน้าอนุห้า ตัวเข็มที่เปลี่ยนเป็สีดำทำให้นางพลันหน้าเปลี่ยนสี “ไม่ เป็ไปไม่ได้ ลูกหก ข้าไม่ได้เป็คนวางยาพิษ!”
นางสบสายตาอันเรียบเฉยของอวิ๋นซูอย่างตึงเครียด ทว่าจะแก้ตัวอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด ลูกหกจะเชื่อนางหรือ? หากได้ยินไปถึงหูฮูหยินผู้เฒ่า นางต้องถูกขับออกจากจวนโหวเป็แน่!
“อี๋เหนียงอย่าได้ตื่นเต้นไป ซูเอ๋อร์เชื่อว่าอี๋เหนียงไม่ได้กระทำเื่เช่นนี้” อวิ๋นซูกล่าวเช่นนี้ อนุห้ากลับยิ่งเครียด
“ใช่แล้ว เป็ฮูหยิน! จะต้องเป็ฮูหยินแน่ๆ! นางรู้ว่าข้าจะมาที่เรือนไผ่ ดังนั้นพิษนี่นางจะต้องให้คนแอบผสมไปแน่ ลูกหกต้องเชื่อข้านะ!”
เหลยซื่ออย่างนั้นหรือ? “เหตุใดแม่ห้าจึงกล่าวเช่นนี้เ้าคะ?”
“ฮูหยินรู้ว่าสำหรับข้าแล้วเรือนไผ่นี้...นางบอกข้าว่าฮูหยินผู้เฒ่าให้ลูกหกย้ายเข้ามา นางรู้ว่าข้าจะต้องมาแน่ ดังนั้น...ดังนั้น...” แรกเริ่มนางคิดว่าฮูหยินท่านโหวเพียงแค่้าพูดเื่นี้เพื่อกระทบกระเทียบตน ทว่าตอนนี้ชัดเจนว่าฮูหยิน้าใส่ร้าย!
“ท่านแม่ห้า เื่นี้อย่าเพิ่งให้ใครรู้นะเ้าคะ”
“เหตุใดเล่า?! ควรจะให้ฮูหยินผู้เฒ่าทราบเื่นี้เสีย แล้วตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจึงจะถูก!” อนุห้าโกรธจนกัดฟันแน่น หรือว่าตนเองถูกนางเล่นงานแล้วยังต้องอดทนเก็บไว้ในใจอีกหรือ?
“หากให้ท่านย่าทราบเื่ ความผิดของอี๋เหนียงก็จะมิอาจลบล้างได้ ซูเอ๋อร์มีอยู่วิธีหนึ่ง หาก้าทวงความยุติธรรมกลับคืนมา จะรีบร้อนไม่ได้” อวิ๋นซูยื่นมือไปกุมหลังมืออนุห้าเบาๆ อีกฝ่ายสูดหายใจลึกเก็บกลั้นความโกรธของตนให้สงบลง เมื่อเห็นดวงตาอันสงบเยือกเย็น อนุห้าจึงค่อยพยักหน้า
นอกซุ้มประตูโค้ง อนุสองเดินผ่านมาพอดี เห็นสตรีงดงามใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเดินออกมาจากเรือนไผ่ก็รีบเข้าไปหา “น้องสาว เกิดอะไรขึ้นหรือ? เหตุใดจึงได้โมโหเช่นนี้?”
มองไปยังเรือนของอวิ๋นซูอย่างจับผิด แต่ก็ไม่พบอะไร
“ฮึ ลูกหกช่าง...” อนุห้ากล่าวเพียงครึ่งประโยคก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากเขตเรือนอนุสองไปอย่างโมโห
ภายในห้อง อวิ๋นซูเปิดหน้าต่างเป็ช่องเล็กๆ แล้วมองลอดผ่านไป เห็นอนุสองยืนสอดส่องอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนนางจะแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เนิ่นนานกว่าจะจากไปอย่างไม่เต็มใจ
“คุณหนู เป็ฮูหยินที่้าวางยาพิษทำร้ายคุณหนูจริงหรือเ้าคะ?” อวี้เอ๋อร์มองไปยังขนมที่วางอยู่เต็มโต๊ะอย่างหวาดกลัว เพิ่งจะสงบได้ไม่กี่วันก็เกิดเื่อีกแล้ว! จวนโหวแห่งนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“เื่นี้ยังไม่แน่ชัด” หลิ่วอวิ๋นฮว๋ายังถูกกักบริเวณอยู่ หากเหลยซื่อลงมือตอนนี้จะดึงดูดความสงสัยของผู้อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ เป็ไปได้ว่านางจะไม่มีกะจิตกะใจมาจัดการกับตน ควรจะต้องคิดหาวิธีให้บุตรีของนางกลับไปเป็ที่รักของฮูหยินผู้เฒ่าอีกครั้งถึงจะถูก
“เช่นนั้น อนุห้าโกหกหรือเ้าคะ?”
“ไม่น่าจะใช่”
“...” อวี้เอ๋อร์มองคุณหนูของตนที่มีท่าทางไม่สะทกสะท้านก็รู้สึกร้อนใจจนแทบร้องไห้อยู่รอมร่อ “คุณหนู ไม่แน่ว่าอาจจะเป็อนุห้าที่โกหกก็ได้เ้าค่ะ!”
“หากนาง้าวางยาพิษ เหตุใดจึงไม่วางยาในขนมทั้งหมด เหตุใดจึงมีขนมเพียงสองชิ้นที่มียาพิษเล่า?”
“อนุห้าอาจจะอยากลองเสี่ยงดวงดูก็ได้เ้าค่ะ”
ในเมื่อ้าฆ่าคน ก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด หากลองเสี่ยงดวงดูจะนับเป็อะไรได้? “เมื่อครู่หากข้าไม่ทำขนมชิ้นนั้นตกพื้น อนุห้าก็คงกินขนมมีพิษไปแล้ว” ใช้ชีวิตตนเองมาทำร้ายคน นางและอนุห้าไม่ได้มีความแค้นลึกล้ำอะไรต่อกัน สิ่งแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ดูจะมากเกินไป ท่าทางเช่นนั้นไม่คล้ายกับการเสแสร้ง
อวิ๋นซูคิดว่าเื่ราวเป็ไปได้อยู่สองอย่าง หนึ่งคือคนผู้นั้นไม่ทราบว่าอนุห้าจะนำขนมมาที่เรือนไผ่ ดังนั้นจึงวางยาในขนมที่นางชอบที่สุดสองชิ้นเท่านั้น เป้าหมายก็คืออนุห้า อีกอย่างก็คือ คนผู้นั้นทราบว่าอนุห้าจะต้องมา จึง้ายืมมือฆ่าคน แต่เพราะเวลาไม่พอจึงวางยาในขนมได้เพียงสองชิ้น ทั้งคนผู้นี้ยังเข้าใจอนุห้าเป็อย่างดี รู้ว่านางจะแนะนำขนมที่เป็เอกลักษณ์ของบ้านเกิด ต่อให้ไม่สำเร็จ ไม่ว่าคนที่ถูกพิษตายจะเป็อนุห้าหรือตน อีกฝ่ายที่เหลือรอดก็ไม่อาจหนีความผิดไปได้ ยิงเกาทัณฑ์เดียวได้เหยี่ยวสองตัว1
หลังจากอนุห้าจากไป ด้านนอกเรือนไผ่ก็มีผู้คนจำนวนมากเดินผ่านไปมาโดยไม่ตั้งใจ ดูร้อนใจอยากจะรู้ว่าในเรือนไผ่เกิดอะไรขึ้น ทว่ากลับเห็นเพียงสาวใช้นามอวี้เอ๋อร์ผู้นั้นเดินเข้าออก ไม่เห็นเงาของคุณหนูหกเลย
ภายในห้อง ชุ่ยเอ๋อร์เปิดปากกล่าวอย่างลังเล “คุณหนูเ้าคะ ให้บ่าวไปช่วยอวี้เอ๋อร์ด้านนอกเถิดเ้าคะ” คุณหนูสั่งให้อวี้เอ๋อร์ไปทำงานเ่าั้ข้างนอก มีเพียงตนเองที่คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ในห้อง จะอย่างไรก็รู้สึกผิดต่ออวี้เอ๋อร์อยู่บ้าง
อวิ๋นซูจิบชาเล็กน้อย เบนสายตาขึ้นมองสาวใช้ข้างกาย นางดีกับอวี้เอ๋อร์จริงๆ สหายที่เติบโตมาด้วยกันมักจะมีความรู้สึกหวังดีต่อกัน “ชุ่ยเอ๋อร์ ยังจำเื่ที่ข้าพูดกับเ้าก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?”
“คุณหนู...”
“เชื่อว่าไม่นานก็จะมีคนเชิญเ้าไปดื่มชาแล้ว หากมีรางวัลอะไร เ้าก็รีบรับไว้เถิด”
สีหน้าชุ่ยเอ๋อร์พลันเปลี่ยนสี นางเข้าใจอะไรขึ้นมาทันที รีบคุกเข่าขอร้องด้วยเสียงสั่นเทา “คุณหนูโปรดวางใจ บ่าวจะไม่ทรยศคุณหนูเด็ดขาดเ้าค่ะ บ่าวจะไม่รับอะไรทั้งนั้น บ่าวจะเชื่อฟังแต่คุณหนูเ้าค่ะ!”
“ไม่ บอกให้เ้ารับเ้าก็รับ ของเ่าั้จะเป็หลักประกันในชีวิตของเ้าหลังออกจากจวนโหวในวันหน้า อีกอย่าง ข้า้าให้เ้านำคำพูดทั้งหมดของเ้ากับคนผู้นั้นมาบอกต่อข้า แล้วเื่ของอนุห้า เ้าต้องพูดไปเช่นนี้ว่า...”
****************
คำอธิบายเพิ่มเติม
1 ยิงเกาทัณฑ์เดียวได้เหยี่ยวสองตัว ทำเื่เื่เดียวได้แต่ผลสองอย่าง