บทที่ 5
เส้นทางถนนที่เปียกชื้นจากฝนตกกระหน่ำในยามค่ำคืน สร้างความลำบากให้กับการขับรถเล็กน้อย แสงไฟหน้ารถถึงจะส่องทางข้างหน้าก็ไม่ช่วยให้มองเห็นเท่าไหร่นัก รถเก๋งคันจิ๋วขับเคลื่อนไปตามทางอย่างไม่เร่งรีบ เส้นทางถนนไม่ได้มีรถสัญจรไปมา
เมื่อขับไปสักครู่ก็มีบางอย่างวิ่งตัดหน้ารถจนร่างเล็กสะดุ้งใ “เห้ย!”ร่างเล็กหักรถเลี้ยวลงข้างทางไม่ทันตั้งตัวจนรถพุ่งชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง ศีรษะถูกกระแทกกับพวงมาลัยพร้อมกับเศษกระจกที่แตกกระจายบาดใบหน้าขาว “อึก”
ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นต่างใรีบวิ่งออกมาดูด้วยท่าทีตื่นตระหนกก่อนจะโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน ท่ามกลางเสียงฝน เสียงโทรศัพท์ภายในรถดังขึ้น หน้าจอฉายแสงสว่างไปทั่วรถ ชื่อปรากฏอยู่บนหน้าจอ 'พี่อาทิตย์'
ความปวดหนึบแล่นไปทั่วประสาท ร่างบางในตอนนี้ขยับตัวไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ดวงตาสั่งการบอกให้เขาต้องหลับตาเดี๋ยวนี้ แต่เขาอยากที่จะฝืนมันเพราะรู้ดีว่าถ้าหากหลับไป อาจจะไม่ตื่นอีก สุดท้ายสภาพร่างกายร่างเล็กทนไม่ไหวจนต้องหมดสติไปในที่สุด
ร่างเล็กหยีตาตัวเองเมื่อเปิดเปลือกตาแล้วแสงสีขาวก็สว่างจนแสบตาไปหมด เดือนอ้ายมองไปรอบกายก็ได้แต่สับสน นี่สรุปว่าเขาตายหรอ
“ตายแล้ว” เขาหันไปตามเสียงเรียบนิ่งที่อีกคนพูดก่อนจะค่อยๆ เขยิบตัวถอยหลัง “โอ้ ใจเย็นๆ ก่อนเราไม่ทำคุณหรอก” ร่างเล็กคลายอาการตื่นตระหนกลง
“คุณคือใคร?”เดือนอ้ายเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เราชื่อ หยก”
"แล้วทำไมผมถึง.."
“ใจเย็นๆ นี่เป็แค่ฝันเฉยๆ” ถึงจะพูดมาแบบนั้น แต่ในใจลึกๆ ก็ยังคงเ็ปเหมือนจริง เพราะเดือนอ้ายดันนึกถึงสิ่งตัวเองไม่เคยทำมาก่อนแต่ต้องมาตายสะแล้ว
“มันเป็ความผิดเราเอง”คนตรงหน้าค่อยๆก้าวเท้ามาหาเขาพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ มือเรียวหยิบมันเอาไว้ในกำมือ ก่อนจะจ้องไปที่อีกคนด้วยใบหน้าสงสัย
“พูดตามเรานะ”
“คือว่า-”
“มันจะทำให้เธอตื่น”เดือนอ้ายตาลุกวาวทันทีที่ได้ยิน ร่างเล็กจึงตั้งสมาธิให้มั่นแล้วรอฟังที่อีกคนพูดออกมาอีกครั้ง “อาทิตย์”
“อาทิตย์” ทันทีที่เขาพูดแสงจากดอกไม้ที่ถืออยู่มือซ้ายค่อยๆ ปล่อยแสงออกมา มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขามองทุกอย่างขาวโพลนก่อนจะทำให้ต้องหลับตาไปสักพัก
กลิ่นของกุหลาบอบอวลไปทั่วห้องนอนที่ถูกตกแต่งสีขาวล้วน ผ้าม่านสีครีมบวกกับแสงที่สอดส่องเข้ามาทำให้ห้องดูสว่างตา ร่างเล็กนอนนิ่งอยู่บนเตียงพร้อมกับร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกาย ใบหน้าของอาทิตย์มีอาการเป็ห่วงเด็กน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่ขณะนี้ จู่ๆไข้ของเดือนอ้ายก็ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เสียงขยับตัวของเดือนอ้ายดังขึ้นเมื่อมีแสงส่องผ่านทำให้คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาตื่น อาทิตย์ที่นั่งอยู่ข้างเตียงมองเห็นว่าคนของตัวเองฟื้นแล้วก็รีบลุกขึ้น “ตื่นสักที”
เดือนอ้ายพยายามจะตั้งสติตัวเองให้มั่น เขามองไปบนเพดานกว้างก็มีแต่สีขาวสะอาดไปหมด มือเล็กพยายามพยุงให้ลุกขึ้นก่อนจะเผชิญหน้ากับอีกคน หน้าตาของพี่อาทิตย์ทำไมถึงดูเหนื่อยจัง
“พี่อาทิตย์ยังเฝ้าอ้ายอยู่หรอ” ร่างเล็กจะก้าวลงจากเตียงทันทีแต่ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอเกินไปทำให้ล้มลงกับพื้น “โอ้ะ!”
“อ้าย!”อาทิตย์ใแล้วรีบช้อนตัวอุ้มอีกคนทันที
“มึงจะรีบลุกไปไหนวะ?"
“ขอโทษครับ”เขาพูดขอโทษออกไปอย่างเสียงแ่ ดวงตาเล็กที่ดูหม่นลงนั้นมันทำให้อาทิตย์ถอนหายใจออกมา เมื่อกี้ดันเผลอดุไป
“คราวหลังอย่ารีบ มึงจะไปห้องน้ำหรอ”
“อื้อๆ”เขาพยักหน้าไม่หยุด อาทิตย์จึงอุ้มร่างเล็กจะไปที่ห้องน้ำ
"เดี๋ยวสิ! ปล่อยอ้ายลงได้แล้ว ตอนนี้อ้ายเดินเองได้นะๆ"
"เดินแล้วยังล้มขนาดนี้"
"เดินได้จริงๆนะครับ ปล่อยอ้ายก่อนนะ"แขนแกร่งปล่อยให้อีกคนอิสระก่อนที่เขาจะรีบเดินไปห้องน้ำทันที พอเห็นสภาพตัวเองในกระจกก็แทบจะบ้า หน้าตายังมีขี้ตา แทบปากก็ซีดสุดๆ
"แม่งเอ้ย.."หมดกันภาพพจน์เดือนอ้าย
ระหว่างทำธุระอยู่ในห้องน้ำก็ได้แต่คิดถึงเื่ในฝัน คนที่ชื่อหยกคนนั้นหน้าตาดีจนนึกว่าจะมีคนแบบนั้นอยู่จริงๆ แล้วเื่อะไรถึงไปฝันว่าตัวเองขับรถอยู่แล้วดันไปพุ่งชนเสาไฟฟ้าได้นะ ภาพในฝันนั้นเหมือนจริงเกินไป เพียงแค่คิดขึ้นมา ความรู้สึกเจ็บภายในใจก็แล่นขึ้นมาจนต้องยกมือมากุมเอาไว้
"อึก.."ทำไมถึงรู้สึกทรมานแบบนี้ เหมือนกับการโดนบีบคออยู่เลย เขาหายไม่ออก "แค่กๆ"
"เมื่อไหร่จะออกมาสักที?"เสียงทุ้มด้านนอกทำให้ร่างเล็กพยายามตั้งสติก่อนจะพยายามหายใจเข้าออกจนเป็ปกติ ขณะที่กำลังหันไปส่องกระจกเงาของบางคนก็ยืนอยู่ด้านหลังเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยเืและดวงตาที่ช้ำม่วง
"โอ้ย!"ร่างเล็กล้มกับพื้นด้วยความใ อาทิตย์ที่ได้ยินเสียงก็รีบดันประตูห้องน้ำทันที "เป็อะไร?"
"อ้าย..อ้ายแค่ลื่นนิดหน่อย"
"ลุกขึ้นก่อน"แขนของอีกคนโอบเอวร่างเล็กไว้แน่นก่อนจะพยุงขึ้นเดินออกจากห้องน้ำ เขาไม่หันไปมองกระจกอีก ภาพที่เห็นเมื่อกี้เขาคุ้นหน้าว่าอีกคนเหมือนกับคนที่อยู่ในฝันจริงๆ
"พี่อาทิตย์.."
"มีอะไร?"ใบหน้าคมหันไปมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน ั้แ่ตื่นมาอีกคนก็ทำตัวแปลกๆจนนึกสงสัยว่าเป็อะไร
"อ้ายฝันร้าย"เขาไม่รู้ว่าถ้าบอกไปจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นรึเปล่า จู่ๆร่างเล็กก็ถูกดึงขึ้นเข้าไปในอ้อมกอด ใบหน้าเล็กซุกลงกับอกแกร่ง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเพราะการกระทำของพี่อาทิตย์ เดือนอ้ายไม่คิดว่าอีกคนจะกอดตัวเองแบบนี้
แขนเรียวยื่นไปกอดตอบอีกคนช้าๆ เขาหายใจอย่างแ่เบา พยายามจะไม่นึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในฝืนเมื่อครู่อีก "ดีขึ้นรึยัง?"ขณะที่อยู่ในอ้อมกอดมือหนาก็ยังลูบหลังร่างเล็กเอาไว้
"ขอบคุณครับ.."พอใจเย็นลง เขาก็ผละออกจากอีกคน รู้สึกว่าใบหน้ามันก็เห่อร้อนขึ้นมา นี่เขาได้กอดพี่อาทิตย์จริงๆหรอเนี่ย "อ้ายไปข้างล่างก่อนนะครับ!" ให้อยู่ตรงนี้คงไม่ไหว หนีก่อนดีกว่า
ร่างเล็กรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องทันทีทิ้งร่างสูงที่ยืนอยู่ในห้องคนเดียว อาทิตย์ยอมรับว่าตัวเองเป็ห่วงอีกคนเมื่อกี้เพราะใบหน้าที่ดูหวาดระแวงผิดปกติ ตัวเองก็ไม่เคยเห็นร่างเล็กแสดงท่าทีแบบนี้มาก่อน
เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำไปไม่กี่นาทีก่อนนี้เป็สิ่งที่ถูกต้องแล้วรึเปล่า เดือนอ้ายได้แต่ถามกับตัวเองย้ำอยู่แบบนั้น อาการปวดหนึบที่หัว ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายเลยเลือกที่จะออกไปคอกวัว่เช้าแทน ส่วนพี่อาทิตย์ยังคงทำงานอยู่ที่บ้าน
ร่างเล็กเดินเข้าบ้านมาพร้อมหยิบวัตถุดิบในตู้เย็นออกมาวางเรียงกันก่อนจะลงมือทำอาหารอย่างสุดฝีมือ กลิ่นหอมของอาหารลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว ร่างเล็กยังคงหัวหมุนกับการล้างจานโดยที่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง จนกระทั่งอีกคนเดินเข้ามาชิดตัวแล้ว
"แผลยังไม่หาย จะขยับเยอะทำไม"
"พี่มาตอนไหน?"ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงจากคนข้างหลัง
"หันสังเกตบ้างเถอะ"มือหนาถูกวางลงบนหัวของเขาก่อนจะถูกลูบ
"พี่อย่าทำแบบนี้"เขาเผลอดันมืออีกคนออกจากหัวไม่รู้ตัว สายตาคมส่งมานั้นทำให้เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไปเมื่อสักครู่ เขาไม่ได้ตั้งใจ
"กูแตะได้ไม่ได้เลย?"
"อ้ายขอโทษ ถ้าพี่ทำแบบนี้ อ้ายคงจะยิ่งชอบพี่มากขึ้นเรื่อยๆ"เขาพูดไปแล้ว ตอนนี้อาทิตย์มองไปที่ร่างเล็กด้วยสายตานิ่งงัน
"ไปกินข้าวเถอะ"
"คะ..ครับ"
อาทิตย์ได้แต่ข่มอารมณ์ตัวเองไว้ในใจ เขาไม่อยากเผลอใจแบบนั้นอีก ไม่ว่าจะทำยังไง เขาก็จะเลิกหวั่นไหวกับเด็กนี่ให้ได้สักที
่ตอนกลางวันผ่านไปอย่างทุลักทุเล ไม่เคยกินข้าวแล้วรู้สึกอึดอัดเท่านี่มาก่อนเลยด้วยซ้ำไป ร่างเล็กเดินออกมาเล่นแถวสวนดอกไม้ของไร่ศิวาลัย ที่นี่จัดแถวเรียงเป็รูปดาว ซึ่งมันสวยมากๆจนเขาอยากมาบ่อยๆแต่ติดตรงที่ต้องทำงานที่คอกวัวนี่แหละ
เดินไปได้สักพักก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะล้ม เดือนอ้ายรีบวิ่งเข้าไปรับไว้ทันที โชคดีที่อีกคนไม่ล้มลงไปเพราะพื้นทางเดินมันเป็กรวด ถ้าล้มไปมีหวังเจ็บแน่ๆ "เป็อะไรไหมครับ?"
"ตายแล้ว ป้าดันหน้ามืดนะลูก!"
"คุณป้าระวังหน่อยนะครับ แดดมันแรงมากด้วย"
"ต่อไปป้าจะระวังนะ ว่าแต่ป้าอยากจะถามหน่อยน่ะ"
"ว่าไงหรอครับ?"
"ป้ามาทำงานเป็แม่บ้านที่นี่น่ะ วันนี้คือวันแรก บ้านนี่ไปทางไหนหรอลูก"นี่อาจจะเป็แม่บ้านที่พี่อาทิตย์บอกไว้ตอนกินข้าวล่ะมั้ง
"คุณป้าเดินไปแล้วเลี้ยวทางซ้ายนะครับ ตรงไปจะเจอบ้านสีขาวเลย"
"ขอบคุณมากนะจ้ะ ป้าชื่อแมวนะ"
"ผมเดือนอ้ายนะครับ พอดีผมมีธุระ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"พอร่างเล็กเดินออกจากตรงนั้นไป หญิงสาวที่เป็แม่บ้านคนใหม่ก็ต้องยกยิ้มขึ้นมุมปาก
เดือนอ้ายเดินมาเรื่อยๆจนถึงไร่องุ่น เห็นว่าตรงนี้ไม่มีคนมาตัดรากเลย เขาเลยตั้งใจจะมาดูสักหน่อย เมื่อกำลังจะเดินไปถึงก็ต้องชะงักเท้าเสียก่อน เขามองเห็นคนหนึ่งที่คุ้นเคยคือพี่ขมิ้น ซึ่งเขาได้ยินว่าเธอพูดชื่อของเขาอยู่
"นี่ๆได้ข่าวว่าคุณหนูเดือนอ้ายนั่นอ่อยไอ้เขียวด้วยล่ะ"
"จริงหรออีขมิ้น!"
"นี่อย่าะโไปสิ!"
"แกนี่มันรู้ทุกเื่ของคุณหนูนั้นตลอดเลยนะ"
มือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองด้วยความใ ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่มีข่าวลือร้ายๆนั่นมันมาจากพี่ขมิ้นหมดเลยงั้นหรอ? เดือนอ้ายไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่ใจดีกับตัวเองถึงทำแบบนี้ เพราะอะไรอีกคนถึงเกลียดเขากัน เขาควรจะทำยังไงดี
เท้าเล็กก้าวเข้าไปแสร้งทำเป็ไม่ได้ยินเื่ที่พวกคนงานคุยกันเมื่อครู่ เดือนอ้ายเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับทักทาย "สวัสดีครับพี่ขมิ้น ไม่เจอกันนานเลย"
"น้องอ้ายนี่! แหมพี่ก็นึกว่าจะไม่ได้เห็นแล้ว"ไม่รู้ว่าที่พูดมาอีกคนได้กลั่นออกมาจากสมองรึยัง
"ผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ พอดีต้องดูแลกับสามีด้วย"เขามองสีหน้าอีกคนออก แม้ว่าจะยิ้มให้เขาแต่ในใจคงอยากด่าเขาเต็มประดา
"เ้าสัวนี่เก่งจริงๆเลยนะคะที่หาน้องเจอ"เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมอีกคนถึงเกลียดเขา คงเป็เพราะว่าอีกคนชอบพี่อาทิตย์แน่ๆ
"พี่เขาก็เก่งทุกเื่อยู่แล้วครับ โดนเฉพาะเื่บน..."เขาเว้นจังหวะพูดเอาไว้ไม่พูดออกมา รอยยิ้มเกิดขึ้นมุมปากเมื่อเห็นว่ามือสองข้างของอีกคนกำลังกำแน่น
"มาพูดแบบนี้เ้าสัวเขาจะเสียหายเอานะคะ"
"เสียหายที่ไหนครับ ผมไม่ได้พูดออกมาชัดสักหน่อย"เขาพูดต่อ "นอกเสียจากว่าจะมีคนเอาไปเล่าปากต่อปากให้คนอื่นเข้าใจผิด"
"ฮ่าๆ จริงด้วยค่ะ"
"อ้ายว่าพี่คงไม่ทำหรอกใช่ไหมครับ?"ใครจะรู้รอยยิ้มหวานของเดือนอ้ายตอนนี้แฝงไปด้วยพิษ
"ไม่ค่ะ พี่ไม่ทำหรอกค่ะ"
"งั้นก็ดีครับ อ่อแล้วก็พี่อาทิตย์สั่งให้พี่ตัดรากองุ่นให้เสร็จภายในสองชั่วโมงแล้วก็ไปทำความสะอาดคอกหมูต่อด้วยอาบน้ำให้ควายด้วยนะครับ"เขาเกลียดพวกที่หน้าไหว้หลังหลอกที่สุดแล้ว คนแบบนี้สมควรที่จะโดนแบบนี้แหละ
"พี่ต้องทำหมดเลยหรอคะ?"
"ครับ พี่อาทิตย์สั่งมา ผมขอตัวนะครับ"สมน้ำหน้า บังอาจมาเล่นแง่กับเขาแบบนี้ สมควรแล้วที่จะโดนบ้าง ขอให้ทำงานอย่างสนุกแล้วกันนะ
ในที่สุดก็ถึงวันที่ฟ้าฝนเป็ใจให้เขาสักที วันนี้ฝนตกจนได้ ดีที่เขากลับมาบ้านทันเวลาไม่เปียกไปเสียก่อน ั้แ่กลับมาบ้านก็เห็นว่าพี่อาทิตย์ก็ยังคงทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่น นี่ก็ผ่านมาได้สองสามวันแล้ว แปลกมากที่อีกคนมาอยู่นานขนาดนี้
"พี่อาทิตย์จะกินอะไรดีครับเย็นนี้?"
"อะไรก็ได้"อีกคนตอบกลับมาโดยที่ตายังไม่วางจากเอกสารเลยด้วยซ้ำ น้อยใจชะมัด งานมันสำคัญกว่าเขามากเลยหรอ มันก็ใช่น่ะสิ
"บ้าเอ้ย.."เขาจะตีกับตัวเองไปเพื่ออะไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังรัวขึ้นมาจนร่างเล็กที่ได้ยินสะดุ้งโหยง เขาอาสาเป็คนเดินไปเปิดเอง "เ้าสัวครับ! แย่แล้วครับ!"
"มีอะไร?"อาทิตย์วางงานลงก่อนจะลุกขึ้นไปหาคนที่ยืนกางร่มอยู่หน้าประตู
"ขมิ้นมันเป็ลมไปน่ะครับ! ไม่รู้ว่าตอนนี้อาการจะเป็ยังไง ไม่มีรถเครื่องไปโรงพยาบาลเลยครับ!"เดือนอ้ายฟังสิ่งที่อีกคนพูดพร้อมกับทำสีหน้ากังวล ไม่ใช่ว่าเป็ลมเพราะเื่ที่เขาโกหกไปหรอกนะ
"เดี๋ยวกูพาไปเอง"
"อ้ายไปด้วย!"
"มึงไปทำไม?"อาทิตย์หันมาถามเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว "มันไม่ใช่เื่ของมึง"
"คือ..มันเป็เพราะอ้ายเอง อ้ายทำให้พี่ขมิ้นเป็ลมแน่ๆ อ้ายขอโทษจริงๆ"ร่างเล็กรีบพูดออกมากอย่างลุกลน
"มึงไม่ต้องไป"
"แต่ว่า!"
"ไว้กูจะกลับมาคิดบัญชีทีหลัง"ว่าจบร่างสูงก็บึงตัวออกจากบ้านไปทันที ร่างเล็กยืนมองด้วยสีหน้ากังวล เขาคงจะแกล้งอีกคนแรงเกินไป เมื่อเห็นว่ารถยนต์ขับออกไปแล้ว เดือนอ้ายก็เดินกลับมานั่งที่โซฟา
"ถ้ารู้ว่าจะเป็ลมนะ รู้งี้แกล้งแรงกว่านี้ดีกว่า"คิดว่าคนอย่างเขาจะรู้สึกผิดหรอ อย่าฝันเถอะ ถ้าพี่อาทิตย์จะโกรธก็เชิญเลย เขาจะบอกให้หมดเปลือกว่าคนที่เอาข่าวลือเขาไปปล่อยคือยัยเหลืองเน่า
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นกะทันหัน เดือนอ้ายลุกขึ้นหาโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะเห็นว่าปลายสายที่โทรมาคือพ่อของตัวเอง ร่างเล็กยืนชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
(เดือนอ้าย)
"อ้ายพูดอยู่ครับ"
(นี่แม่เองนะลูก เป็ยังไงบ้าง)
"อ้ายสบายดีครับ แม่ล่ะ"
(ฮึก..อ้าย ตอนนี้บริษัทเรากำลังอยู่ใน่ไม่ดีเลยลูก)
"อ่า..งั้นหรอครับ"ไม่รู้ว่าทำไมเขาพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายโทรมาหาเขาทำไม
(อ้ายช่วยอะไรแม่หน่อยได้ไหมลูก..แม่ขอ)
"อ้ายจะช่วยอะไรได้ครับ อ้ายไม่ได้มีอะไรเลย"
(ให้เ้าสัวเขาช่วยได้ไหมลูก คุยให้แม่หน่อยนะลูก ถือว่าแม่ขอล่ะ...ตอนนี้โชตินันท์กำลังแย่ พ่อก็เครียดจนเข้าโรงบาลไปแล้ว)
"พ่อเข้าโรงบาลหรอครับ? ทำไมแม่ไม่โทรมาบอก"
(แม่มัวแต่วุ่นเื่บริษัทเลยไม่ได้โทรเลยลูก พี่เมฆเขาก็คุยงานที่ต่างประเทศแต่ว่าย่ำแย่ลง บริษัทเราโดนพวกลูกค้าขอยกเลิกสัญญา)
"ทำไมถึงเป็แบบนั้นกัน ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นี่ครับ"เขาไม่คิดมาก่อนว่าโชตินันท์จะมีวันนี้
(ลูกคุยกับเ้าสัวให้หน่อยนะ บอกให้เขาช่วยโชตินันท์ตามที่คุยไว้ในสัญญานะลูก)
"..."
(แม่ขอร้อง)
"ผมพยายามจะคุยให้นะครับ"เขากดวางสายอีกคนพร้อมกับถอนหายใจออกมา สุดท้ายแล้วครอบครัวของเขาก็เห็นแต่ผลประโยชน์ พอเขาไม่มีก็เขี่ยทิ้ง พอจะเรียกใช้ก็อ้อนวอน คนที่เขาเสียใจและผิดหวังก็คงเป็พ่อ พ่อคงไม่กล้าโทรมาและคุยกับเขาเอง
คงจะกล้าคุยได้หรอก ในเมื่อคนที่เขี่ยเขาออกมาจากตระกูลโชตินันท์ก็คือพ่อของเขาเอง ไหนบอกว่าอิงดาวคือตัวโชคดีของตระกูลไงล่ะ ทำไมตอนนี้ถึงจะล้มละลายซะแล้ว เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มตัวเอง นึกไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้กับอะไรแบบนี้แต่ทำไมมันถึงต้องร้องออกมาทุกทีเลย
ร่างเล็กเพียงแค่นั่งร้องไห้เงียบๆเท่านั้น ก่อนที่ประตูบ้านจะถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาในสภาพที่เปียกไปด้วยฝนก่อนจะหันมาเห็นคนตัวเล็กที่ใบหน้าเคล้าน้ำตา อาทิตย์เดินเข้ามาหาเดือนอ้ายช้าๆก่อนจะย่อตัวลงต่อหน้าร่างเล็ก
"บอกกูมาใครทำมึงร้องไห้?"