ศิษย์ผู้ชายยังไม่ค่อยเท่าไร แต่ในสิบคนนั้นมีศิษย์ผู้หญิงอยู่ด้วยสามคน ถ้าอย่างนั้น ...
ศิษย์ผู้หญิงสามคนนี้ล้วนแต่หน้าตาดี เิหยูเยียนนั้นยิ่งงดงาม มีความสง่างาม ยืนอยู่ในบรรดาสามคนถือว่าโดดเด่นที่สุด กลายเป็จุดสนใจ ราวกับว่ารอบตัวนั้นไม่มีสีสันเหลือเลย
ผู้หญิงที่ดูไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร อีกเดี๋ยวก็จะมีร่างที่เปลือยเปล่าแช่อยู่ในสระเลี่ยนเหยียน
พอนึกภาพเห็นผิวขาวๆ ใต้ชุดสีแดงของเิหยูเยียน ศิษย์ผู้ชายหลายคนก็เริ่มใจสั่น หัวใจเต้นเร็วมาก กลืนน้ำลายลงกันหลายต่อหลายอึก
“คิดอะไรกันอยู่ ระหว่างที่ดูดซับพลังงาน ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ในสระเลี่ยนเหยียน แต่ก็มีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา หากพบว่าพวกเ้าทำเื่ที่ผิดศีลธรรมแล้วล่ะก็ จะลงโทษสถานหนัก”
ซ่งหยวนหยวนจ้องไปยังศิษย์ผู้ชายที่มีสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปแล้วตะคอกอย่างแรง
สำนักเทพอัคคีนั้นมีกฎเข้มงวดมาก สระเลี่ยนเหยียนเป็สถานที่ฝึกที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ห้ามมิให้ใครมาลบหลู่เด็ดขาด ในเมื่อซ่งหยวนหยวนพูดแบบนี้ออกมาแล้ว นางจะต้องทำแบบนั้นแน่นอน
ที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ศิษย์ชายและหญิงแช่สระเลี่ยนเหยียนด้วยกันมาก่อน แต่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดของผู้าุโใหญ่ จึงไม่มีใครกล้าทำอะไรที่มันเกินเลย
ศิษย์ผู้ชายก่อนหน้านี้หลายคนเหมือนจะนึกได้ ต่างก็ยิ้มแห้งในใจ
ได้เข้ามาฝึกอยู่ในสระเลี่ยนเหยียนของสายเลี่ยนเหยียนก็ถือว่าดีมากแล้ว ยังจะไปคาดหวังเื่หอมหวานอะไรอย่างนั้นอีก มันฝันเฟื่องเกินไปแล้ว
ผู้หญิงสามคนนั้นหน้าตาดีมากจริงๆ ถึงแม้จะมีซ่งหยวนหยวนช่วยออกหน้ารับประกัน แต่ในใจของพวกนางก็ยังรู้สึกไม่ดี
เิหยูเยียนนั้นขมวดคิ้วหนักสุด ใบหน้าของนางเริ่มแดง ดวงตาของนางจ้องไปที่ชายพวกนั้นแบบดุดัน เดิมคิดอยากจะพูดเตือน แต่นางก็ไม่อยากไปพูดคุยกับศิษย์นิสัยหยาบแบบนั้น
สุดท้าย นางก็เลือกที่จะเงียบและเบือนหน้าหนีไปด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็ะโลงไปในสระเลี่ยนเหยียนทันที
เมื่อเิหยูเยียนะโลงไปในสระเลี่ยนเหยียน เสื้อผ้าของนางก็ถูกเผาจนไม่เหลือ แก่นสารพลังงานจากเปลวไฟเริ่มหมุนรอบตัวของนาง มีแค่หัวและคอขาวๆ ที่เห็นไหปลาร้าโผล่ขึ้นมา
บริเวณคอของเิหยูเยียนเริ่มเป็สีแดง และยังแดงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย จนกระทั่งแดงไปทั่วใบหน้า
ท่าทางกัดฟันและใบหน้าที่แดงระเรื่อนั้น มันยิ่งทำให้ศิษย์ผู้ชายหลายคนหวั่นไหวและใจเต้นรัว
หลังจากเิหยูเยียนลงไปแล้ว พวกเขาที่เหลือก็ะโลงสระเลี่ยนเหยียนตาม ิอวี่เองก็เช่นกัน
ศิษย์ชั้นยอดทุกคนลงไปในสระเลี่ยนเหยียนกันจนหมด ทั้งสิบคนกระจายตัวไปอยู่ในจุดต่างๆ ของตัวสระ และเริ่มดูดพลังงานกันทันที
“ซี้ด ... ”
ศิษย์ผู้ชายหลายคนที่มีความคิดอยากจะเห็นใบหน้าและเรือนร่างของเิหยูเยียนก่อนหน้านี้ พอลงไปในสระเลี่ยนเหยียนแล้วความคิดแบบนั้นก็สลายหายไปหมด เพราะร่างกายของพวกเขาต้องทนต่อความเ็ปจากความร้อนที่ส่งออกมา จำเป็ต้องรวบรวมสติเอาไว้บนตัวของพวกเขาเอง เพื่อทนต่อความเ็ปนั้นให้ได้นานที่สุด!
แก่นสารพลังงานทั้งหมดที่อยู่ในภายในสระเลี่ยนเหยียนเป็แก่นสารพลังงานเปลวไฟบริสุทธิ์ที่มีระดับที่สูงมาก ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นเผาร่างจนสลาย แต่การนำร่างกายไปอยู่ในนั้นมันก็เหมือนคนปกติที่ะโลงไปในน้ำร้อนอุณหภูมิแปดสิบองศา ที่ลงไปแล้วต้องรีบเด้งขึ้นมาเลย
“ไปเถอะ ให้เ้าพวกนี้ได้ฝึกไป หวังว่าแก่นสารพลังงานเปลวไฟจะทำให้พวกเขารวดเร็วยิ่งขึ้นไป”
ผู้เฒ่าอูพูดจบก็ดึงชายเสื้อของฟางหลิงจวิน
ซ่งหยวนหยวนมองไปที่เิหยูเยียนกับิอวี่ แล้วก็จากไปแบบไม่เต็มใจเท่าไร
ในพื้นที่มิติขนาดห้าสิบตารางเมตร เหลือแค่ศิษย์ชั้นยอดสิบคนแช่อยู่ในสระเลี่ยนเหยียน
สระเลี่ยนเหยียนมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณยี่สิบเมตร มีความลึกสามเมตร ศิษย์ชั้นยอดสิบคนรวมิอวี่ด้วยอาศัยลมปราณของตัวเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในน้ำ ร่างกายที่เปลือยเปล่าจมอยู่ในน้ำ ราวกับมีแต่หัวลอยอยู่เหนือน้ำและกระจายตัวออกไปดูดซับแก่นสารพลังงาน
สีหน้าของอีกเก้าคนที่เหลือไม่ค่อยจะดีเท่าไร เหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามต้านทานความร้อนพวกนั้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่ิอวี่กลับแตกต่างกันออกไป เขารู้สึกว่าตนเองอยู่ในความร้อนอุณหภูมิแค่สี่สิบองศาเท่านั้น และเขาก็รู้สึกว่ามันถึงอกถึงใจดี
ิอวี่มีร่างแห่งหยินหยาง ภายในร่างกายสร้างเปลวเพลิงได้เองและทนความร้อนระดับสูงได้ อีกทั้งจากพลังฝีมือที่เพิ่มขึ้นมา กระดูก เื และเส้นเอ็นของเขาถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก็เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งก่อนหน้านี้ิอวี่ยังกลืนเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกลงไปอีก กระดูกของเขาจึงแข็งแกร่งอย่างมาก!
ดังนั้น แก่นสารพลังงานแห่งเปลวเพลิงจึงไม่ได้ทำให้ิอวี่รู้สึกว่าร้อนมากเท่าไร แถมยังสบายอีกด้วย
ิอวี่ััได้อย่างชัดเจนเลยว่า แก่นสารพลังงานนั้นมันเป็ธาตุไฟที่บริสุทธิ์มาก โลกด้านนอกแทบจะไม่พบพลังงานที่บริสุทธิ์แบบนี้อยู่เลย ได้ใช้มันเพื่อฝึกสัจธรรมเพลิงถือว่าดีมากทีเดียว!
ิอวี่ดึงเอาความทรงจำเกี่ยวกับสัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานออกมา และดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ทั้งหมดของเปลวไฟเข้าสู่ร่างกายไปตามรูขุมขนทั้งหมดสามหมื่นหกพันรู และปล่อยให้มันวิ่งตรงเข้าสู่หัวใจ
สัจธรรมเพลิงไร้เทียมทาน มันไม่ได้เก็บสะสมอยู่ในดวงจิตเทวะ แต่ซ่อนเอาไว้ในหัวใจ นอกดวงจิตเทวะ
นั่นก็หมายความว่า เป้าหมายของิอวี่นั้นก็คือการฝึกและสร้างสัจธรรมเพลิงในหัวใจ แล้วใช้สัจธรรมเพลิงห่อหุ้มดวงจิตเทวะ
เมื่อเขาอยากจะปรับใช้สัจธรรมเพลิงไร้เทียมทาน ก็แค่ดึงลมปราณออกมาจากดวงจิตเทวะให้มากพอ ก็จะสามารถกระตุ้นสัจธรรมเพลิงที่อยู่โดยรอบได้ พลังงานจะะเิตัวออกและออกมาคุ้มกัน!
นั่นก็เท่ากับว่า หัวใจของิอวี่นั้นก็จะได้รับการคุ้มกันจากสัจธรรมเพลิง ดวงจิตเทวะในหัวใจก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น!
ดวงจิตเทวะคือจุดสำคัญของผู้ฝึก แต่เมื่อิอวี่ฝึกสัจธรรมเพลิงในหัวใจได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นหัวใจของเขาก็จะกลายเป็จุดที่แข็งแกร่งมากที่สุด การโจมตีที่เล่นถึงตายในระดับเดียวกัน จะไม่มีทางทำอะไรหัวใจของเขาได้เลย!
“ขอแค่ข้าใช้เคล็ดลับสลายแก่นสารพลังงานเหล่านี้ให้เป็สัจธรรมเพลิง ก็จะสามารถกระตุ้นสัจธรรมแรกของเคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทาน สัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานออกมาได้!”
สายตาของิอวี่นั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาหลับตาลง ในหัวเหมือนว่าไม่มีอีกเก้าคนที่เหลืออยู่ด้วยเลย มีแค่เขาอยู่ที่นี่คนเดียวเท่านั้น เขาตั้งใจดึงพลังงานออกมาฝึกอย่างมีสมาธิ
แก่นสารพลังงานเปลวเพลิงไหลไปตามชีพจรมุ่งหน้าไปสู่หัวใจของิอวี่ มันทำให้เขารู้สึกเ็ปจนต้องกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น!
กล้ามเนื้อและกระดูกของเขานั้นทนความร้อนอย่างมาก แต่หัวใจมันเป็ก้อนเนื้อที่อ่อนแอมาก คิดอยากจะถ่ายแก่นสารพลังงานเข้าสู่หัวใจ เดิมมันก็เป็ขั้นตอนที่เ็ปทรมานมากอยู่แล้ว!
ิอวี่รู้สึกว่าหัวใจของเขาปวดเป็ระยะ ความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ร่างกายของเขาเหมือนเป็ตะคริว
แต่เขารู้ดีว่าจะต้องอดทน สัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานถึงแม้มันจะพิสดาร ระหว่างการฝึกนั้นลำบากมาก แต่หากผ่านด่านนี้ไปได้ สัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่ได้ยากอะไรอีกแล้ว
“สู้ตาย!”
พอคิดได้แบบนี้ ิอวี่ก็กัดฟันแน่นและดูดซับแก่นสารพลังงานเปลวไฟเข้าสู่หัวใจไปอย่างรวดเร็ว และเติมแก่นสารพลังงานเปลวไฟเข้าไปในหัวใจอย่างต่อเนื่อง
คนที่เหลืออีกเก้าคนล้วนแต่นำเอาแก่นสารพลังงานเปลวไฟเข้าสู่ร่างกาย แต่เพราะพวกเขาทนความเ็ปแบบนี้ไม่ไหว ดังนั้น จึงถ่ายแก่นสารพลังงานเข้าสู่หัวใจได้น้อย และความเร็วในการดูดซับพลังงานนั้นก็ช้าลงเรื่อยๆ
แต่ไม่ใช่กับิอวี่ เขาถ่ายโอนพลังงานเข้าสู่หัวใจอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วในการดูดซับพลังงานของเขาเร็วกว่าเก้าคนที่เหลือประมาณห้าเท่า หรืออาจจะถึงสิบเท่าด้วย!
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ผ่านมาสามวันแล้ว
เก้าคนที่เหลือเริ่มคุ้นชินกับอุณหภูมิเปลวเพลิงของสระเลี่ยนเหยียน และเริ่มดูดพลังงานได้ดีขึ้น หลายวันก่อนบางคนเ็ปจนร้องเสียงหลงออกมาเลย แต่ในตอนนี้พวกเขาเริ่มนิ่งขึ้นแล้ว
มีแค่ิอวี่คนเดียวเท่านั้นที่ร่างกายเป็ตะคริว และส่งเสียงจากลำคอออกมาเป็ระยะๆ
ส่วนเิหยูเยียนที่แช่อยู่ตรงข้ามกับิอวี่ก็แอบลืมตาเหลือบมามองเขาครู่หนึ่ง และหลับตาลงตั้งใจฝึกต่อ
ศิษย์ผู้หญิงอีกสองคนก็หันมามองิอวี่ด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน พวกนางเป็ผู้หญิงยังฝืนทนได้ ส่วนิอวี่เป็ผู้ชายแต่กลับส่งเสียงร้องออกมา ไม่เอาไหนเลย
ส่วนศิษย์ผู้ชายบางส่วนก็มองมาที่ิอวี่และส่ายหัว ถ้าทรมานขนาดนี้ คิดว่าพื้นฐานร่างกายของเขานั้นคงแย่มาก อีกไม่นานก็คงขึ้นฝั่งแล้วเป็แน่
เดิมพวกเขาคิดว่าิอวี่น่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ดูไปแล้วก็เท่านั้นแหละ
หลังจากคิดแบบนี้ทุกคนก็หลับตาฝึกต่อ
แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่า ระดับน้ำในสระเลี่ยนเหยียนนั้นมันกำลังลดลง ลดลงด้วยความเร็วที่เกินความถี่ในการดูดซับของพวกเขา ...
ท่ามกลางความเงียบในการแช่น้ำแบบนี้ พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบวันแล้ว
หลังจากที่ผ่านสามวันแรกมา ศิษย์ที่เริ่มคุ้นชินก็พบว่าร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน พวกเขาััได้ถึงความร้อนที่เผากาย ความร้อนแบบนั้นมันทำให้พวกเขาทรมานมากกว่าเดิม
สิบวันผ่านไป พวกเขาดูดซับแก่นสารพลังงานเปลวเพลิงได้แล้ว เวลาในการแช่เท่ากับเวลาหนึ่งร้อยวันในโลกภายนอก ดังนั้น หลังจากที่คิดทบทวนแล้ว พวกเขาก็คิดว่าจะอยู่ฝึกต่อในนี้ จะดูดแก่นสารพลังงานเปลวไฟได้มากขึ้นเท่าไรก็เท่านั้นแล้วกัน
เวลาผ่านไปอีกสามวัน ในที่สุดก็เริ่มมีคนทนไม่ไหว
ในเวลานี้ิอวี่นั้นยังคงขมวดคิ้วแน่น แก่นสารพลังงานเปลวไฟในหัวใจของเขามันเริ่มหดตัวและถ่ายพลังงานเข้าไปได้ประมาณหนึ่งในสามส่วน ความเ็ปของหัวใจเกิดขึ้นเป็ระยะ ส่วนิอวี่ก็เจ็บจนตัวชาไปหมด
เขาอยู่ในระดับที่เกือบจะะเิตลอดเวลา ความสมดุลนี้เขาต้องแบกรับมันเอาไว้ให้ได้
“นี่เ้าหนู เ็ปมากขนาดนี้แล้ว ยังจะทนต่อไปอีกหรือ?”
ศิษย์ชั้นยอดที่ทนไม่ไหวมองมาที่ิอวี่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวว่า “นี่ ลืมตาสิ เ้าไหวไหม?”
แต่ิอวี่กลับไม่มีการตอบรับเลย
“นี่ ข้าพูดกับเ้าอยู่นะ เ้าแช่จนบ้าไปแล้วหรือ บ้าจริง” ศิษย์ชั้นยอดคนนั้นพูดจบก็ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปเลย
เดิมเขาคิดว่าเขาจะทนได้จนถึงคนสุดท้าย ใครจะคิดว่าเขากลับกลายเป็คนแรกที่ออกจากที่นี่ อยู่ต่อก็ขายหน้าเปล่าๆ
ส่วนศิษย์คนที่เหลือบางคนก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีใครขึ้นฝั่ง
พวกเขากำลังเอาิอวี่มาเป็ตัวตั้ง หากิอวี่ไม่ลุก พวกเขาก็จะไม่ลุกเหมือนกัน หากแพ้ให้กับเ้าหนูขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง แล้วพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะ?
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ สองวัน สามวัน และในที่สุด ศิษย์พวกนั้นก็ทนไม่ไหว มันร้อนไปทั้งตัว เหมือนกับถูกไฟเผาไหม้ มันเ็ปเกินไปแล้ว!
แต่ว่า ิอวี่ยังคงหลับตาฝึกต่ออยู่
ถึงแม้ร่างกายของเขาจะเป็ตะคริวเป็ระยะ และส่งเสียงร้องออกมาจากลำคออยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะขึ้นฝั่งเลย
“เ้าบ้านี่ยึดติดเกินไปแล้ว ฝืนเกินไปมันจะทำร้ายตัวเองได้นะ” ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองอีกคนที่เหงื่อไหลเป็เม็ดใหญ่ สีหน้าแดงก่ำ ร่างกายเหมือนจะถึงระดับสูงสุดแล้ว เขาก็พูดต่อขึ้นมาว่า “นั่นน่ะสิ หากข้าเดาไม่ผิด เขาน่าจะธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว พื้นฐานวรยุทธ์คงเสียหายหนัก พลังฝีมือน่าจะถูกทำลายจนสิ้น”
“เราไม่ไปเปรียบเทียบกับคนแบบนี้หรอก อยู่ใกล้คนแบบนี้เดี๋ยวจะเป็แบบเขา เราไปกันเถอะ”
ศิษย์ด้านข้างิอวี่อีกคนก็ลุกขึ้นจากสระเลี่ยนเหยียนและขึ้นไปแต่งตัวเหมือนกัน
ส่วนศิษย์คนอื่นก็เริ่มขึ้นฝั่งไป แต่ละคนเหมือนได้รับการปลดปล่อย หลังแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ประตูทันที
ก่อนหน้านี้ผู้าุโใหญ่สั่งเอาไว้แล้วว่า หากดูดซับพลังงานเรียบร้อยแล้วให้ออกไปทันที อย่ารบกวนคนอื่นที่กำลังฝึกต่อ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าอยู่ต่อ
แต่พวกเขาออกจากสระเลี่ยนเหยียนและเดินออกมาตามทางเดินแล้วก็ยังคงอยู่รอ แต่ละคนอยากจะรอดูสภาพิอวี่ธาตุไฟเข้าแทรก พวกเขาพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูดซับแก่นสารพลังงานกัน
ถึงอย่างนั้น ในสายตาของพวกเขาก็ไม่มีรอยยิ้มอยู่เลย
