สามคนนั่งเครื่องบินรอบเช้าที่สุดบินไปที่เมือง J
ทักทายจาก้าั้แ่เช้า นำกระจกทองแดงบานนั้นจาก HK เก็บไว้ในฐานะหลักฐานพิเศษ โดยไม่ได้ถูกขัดขวางอะไร
เมื่อถึงเมือง J ย่อมต้องรีบไปสำนักงาน
เจี่ยงจาวตี้ตามมาอย่างไม่มีทางเลือก อย่างไรก็ตามหน่วยงานของจ้าวอี้ตอนนี้พิเศษมาก เธอตามมาที่จริงก็ไม่เหมาะสม
“ผอ. คุณกลับมาแล้ว”
“มั่นใจว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับกระจกทองแดงไหม?”
ยังไม่ทันได้ดื่มน้ำสักอึก เหล่าโจวก็ถามคำถามเช่นนี้
“โดยพื้นฐานสามารถมั่นใจได้ ทั้งหมดมีสามคนเกิดอุบัติเหตุจนถึงแค่ความตาย จากภายนอกแล้ว เป็อุบัติเหตุทั้งหมด แต่พวกเราศึกษาดูแล้ว พบว่าวันที่เกิดเหตุ พวกเขาต่างเคยัักับกระจกทองแดง ดังนั้นพวกเราจึงตัดสิน ต่อมาผ่านการชันสูตร ส่วนสมองของพวกเขาต่างพบเชื้อไวรัสไม่ทราบชื่อ”
เซี่ยตันพูดอย่างมั่นใจ
“พูดมาอย่างละเอียด”
เหล่าโจวไม่พอใจในคำตอบสรุปเช่นนี้
“เวลาที่พวกเขาสามคนเสียชีวิตไร่เรี่ยกัน เป็วันเดียวกัน คนหนึ่งวิ่งข้ามถนน คนหนึ่งตกตึก คนสุดท้ายถูกปากกาที่ใช้ที่บ้านแทงเข้าที่ขมับ จากภายนอกพวกเขาไม่มีอะไรผิดปกติ นอกจากคนสุดท้าย ผลชันสูตรของแพทย์นิติเวช พบว่าในร่างกายของพวกเขามีไวรัสที่พวกเราไม่เคยพบมาก่อน พวกเราคาดว่า การมีอยู่ของไวรัสพิเศษนี้ ทำให้พวกเขาเกิดภาพหลอน จึงเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ และที่มาของไวรัส ประมาณแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นเป็กระจกทองแดง”
จ้าวอี้ประหลาดใจมาก สองคนแรกสามารถพูดได้ว่าเป็อุบัติเหตุ คนที่สามจะมองยังไงก็แปลก
ปากกาแทงเข้าขมับ คิดแล้วคงเจ็บสุดๆ เื่เช่นนี้จ้าวอี้เคยได้ยินเป็ครั้งแรก
“ที่มาของกระจกทองแดงพวกเธอหามานานขนาดนี้ มีข้อสรุปอะไรไหม?” เหล่าโจวพยักหน้า ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ
“ได้มีการตัดสินเบื้องต้นแล้ว ยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกหน่อย”
เซี่ยตันระวังมาก
“งั้นก็ดี เื่นี้ยังคงให้ทีมพวกเธอไปตรวจสอบ นอกจากนั้น กระจกทองแดงบานนี้ก็ต้องจัดการเป็พิเศษหน่อย ไม่สามารถให้คนธรรมดาััได้ ใช่แล้ว เฉินตงล่ะ? เด็กคนนี้กระฉับกระเฉงที่สุดนี่? ทำไมฉันกลับมายังไม่เจอเขา?” เหล่าโจวนำกระจกทองแดงส่งให้สามเณรสิงเฉิน ในฐานะศิษย์แห่งพุทธะ เขามีวิธีจัดการกับกระจกทองแดงนี้
“เขาก็โชคร้ายมาก ข้อเท้าพลิก ตอนนี้พักผ่อนอยู่ที่คลินิก นี่ก็เป็การตัดสินของพวกเราว่าเพราะกระจกทองแดงเป็ผู้ร้าย เพราะเฉินตงพูด เขามองเห็นอย่างชัดเจนว่าพื้นเรียบมาก ผลคือเท้าเหยียบลงไป จึงข้อเท้าพลิก สถานการณ์ของเขาดีที่สุดแล้ว จ้าวอี้ ่นี้ นายไม่เจอเื่อะไรไม่ดีใช่ไหม?”
เซี่ยตันพูด และยังมองจ้าวอี้
จ้าวอี้คิดถึงเื่ทีเ่กิดขึ้นไม่กี่วันนี้ ส่ายหน้า “ฉันทุกอย่างปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“งั้นก็ดี เฉินตงข้อเท้าพลิก ออกทำภารกิจไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากให้ทีมขาดนายพลาุโไปอีกคน ออกไปตรวจสอบที่มากับฉันเถอะ”
จ้าวอี้ย่อมไม่มีเหตุผลให้ไม่ตกลง
ตามเหตุผลแล้ว กระจกทองแดงบานแรกเป็สมบัติของผู้ตาย โดยพื้นฐานคดีได้สรุปแล้ว ย่อมต้องส่งให้ผู้สืบทอดเป็ธรรมดา ดังนั้นจ้าวอี้จึงถาม “สำหรับกระจกทองแดง พวกเขาไม่ได้้าใช่ไหม?”
“ไม่้า เริ่มแรกในฐานะหลักฐานชิ้นพิเศษ มันถูกผนึกไว้ หลักจากปิดคดี พวกเราตั้งใจเปิดใบรับรองฉบับหนึ่ง ขอให้กระจกบานนี้ถูกเก็บไว้ที่นี่ชั่วคราว อีกทั้งอธิบายว่ากระจกบานนี้อาจมีปัญหาซ่อนอยู่ พวกเขาเลี่ยงยังเลี่ยงไ่พ้น จะ้าทำไม? ดังนั้น พวกเขาจึงเขียนคำประกาศฉบับหนึ่งว่าจะละทิ้งกระจกบานนี้อย่างเต็มใจ ดังนั้น พูดอย่างจริงจังคือ ตอนนี้มันยังอยู่ที่สำนักงาน”
จ้าวอี้พยักหน้า จุดนี้ก็ไม่แปลก สำหรับครอบครัวของอีกฝ่าย ไม่ได้สนใจของสิ่งนี้แม้แต่น้อย แม้ว่ามันจะดูเหมือนวัตถุโบราณล้ำค่าก็ตาม
“ตอนนี้พวกเราไปที่ไหน?”
“พวกเราตรวจสอบที่มาของกระจกทองแดง สอบถามผู้มีอิทธิพลในแวดวงการค้าที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับเฉิงเซิน พวกเขาสันนิษฐาน ว่าที่มาของกระจกบานนี้เป็ไปได้ว่าอาจมาจากเฉียนลิ่วเหย”
“เฉียนลิ่วเหย”
“คนคนนี้เป็คนที่วุ่นวายมาก เขาเปิดร้านวัตถุโบราณที่ใหญ่ที่สุดในเมือง J ฉายาว่าไม่มีสมบัติชิ้นไหนที่ไม่ได้มา นายคิดดู ถ้าเขากล้าพูดเช่นนี้ ก็แปลว่าคนคนนี้ไม่เรียบง่าย เส้นสายของเขาก็กว้างขวางมาก ไม่มีหลักฐานที่เป็ข้อสรุปก็ยากที่จะทำอะไรเขาได้”
เซี่ยตันกุมขมับอย่างปวดหัว ใครที่ยุ่งย่ามกับคนน่ารำคาญเช่นนี้จะต้องระมัดระวังมากขึ้น อีกทั้งยังมีผู้สนับสนุนเื้ั คนเช่นนี้เป็ปัญหาใหญ่
“ไม่ว่าจะเป็ใคร ถ้าเขาทำผิด ฉันต้องนำเขามาจัดการด้วยกฎหมาย” จ้าวอี้พูดเบาๆ เขาไม่ได้คิดว่ายุ่งยากแล้วจะไม่ทำ
เซี่ยตันไม่ยอมรับไม่ปฏิเสธ “จากนี้ต้องติดต่อเยอะมาก นายก็รู้แล้ว คนคนนี้ปราดเปรื่องสุดๆ เคยมีเพื่อนร่วมงานจับตามองเขาโดยเฉพาะอยู่ครึ่งปี ก็ไม่สามารถจับจุดอ่อนเขาได้ แสดงให้เห็นถึงความปราดเปรื่องของคนคนนี้”
ถนนโบราณเส้นหนึ่งของเมือง J มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ นอกจากหน้าร้านต่างๆนานา ยังมีร้านหาบเร่มากมาย ถ้ามีสายตาที่ดีพอ ไม่แน่อาจสามารถจับช่องโหว่ได้ แน่นอน ความเป็ไปได้นี้ก็น้อยมากๆ
อาคารสรรพสมบัติ คือร้านวัตถุโบราณที่เฉียนลิ่วเหยเปิด
บรรยากาศน่าประหลาดใจ ห้องใต้หลังคาเล็กๆของชั้นสามงามและแปลกแบบโบราณ ใต้การสาดส่องจากแสงอาทิตย์ แผ่นป้ายโฆษณาก็ส่องแสงเล็กๆสีทอง
เพิ่งเข้าประตู ก็มีผู้ช่วยเข้ามาทักทาย
“แขกทั้งสอง้าสั่งอะไร? ภาพวาด? เครื่องลายคราม? เครื่องสัมฤทธิ? หยกโบราณ? เพียงแค่พวกคุณนึกออก พวกเราที่นี่มีทุกอย่าง!”
ผู้ช่วยพูดอย่างภูมิใจ การพูดอย่างชำนาญได้ผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชน เห็นได้ชัดว่าไม่ได้พูดมาน้อย
“พวกเราสนใจเครื่องสัมฤทธิ”
เซี่ยตันไม่ได้ตามหาเฉียนลิ่วเหยั้แ่แรก แต่เลือกที่จะดูเครื่องสัมฤทธิ
ผู้ช่วยพูดขึ้นทันที “งั้นคุณก็หาถูกที่แล้ว เครื่องสัมฤทธิของพวกเราที่นี่ เป็ที่หนึ่งไม่ก็ที่สองของจังหวัด เชิญแขกที่ชั้นสอง”
เครื่องสัมฤทธิอยู่ชั้นสอง สมบัติแต่ละชิ้นส่งกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ถูกวางอย่างระวังอยู่บนชั้นวางหลากหลาย สะอาดเรียบร้อย เห็นได้ว่า พวกเขารักษาอย่างดี
ทั้งใหญ่ ทั้งเล็ก มองปราด อย่างน้อยก็มีถึงร้อยชิ้น คำพูดของผู้ช่วยคนนี้กลับไม่ใช่การโอ้อวด
“สองท่านมาเป็ครั้งแรก จะบอกกฎของพวกเราที่นี่ก่อน พวกคุณดูได้ แต่ถ้าไม่ได้้าจะซื้อ ไม่สามารถแตะได้ แม้เครื่องสัมฤทธิจะไม่บอบบางขนาดนั้น แต่ถ้าเคาะโดน อาจจะไม่ดี” คำพูดนี้ของผู้ช่วยก็ดูเป็กลาง
“ถ้าฉันไม่ดูอย่างละเอียด จะมั่นใจได้ยังไงว่าเป็ของแท้หรือไม่? หรือจะบอกว่าหยิบขึ้นมาก็ต้องซื้อ นั่นไม่ใช่การมัดมือชกเหรอ?” เซี่ยตันพูดอย่างไม่พอใจ ท่าทางของเธอ เหมือนกับลูกค้าคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง
“คำพูดนี้ของคุณผมไม่อาจเห็นด้วย คุณไม่ทราบ ว่ามีแขกมากมายเป็มือใหม่ สิ่งของโบราณล้ำค่าขนาดนี้ ถ้าไม่ระวังทำหล่น คุณว่า ความเสียหายนี้จะเป็ของใคร? มีบางคนจงใจจัดฉาก เพื่อเอาเงิน พวกเราอาคารสรรพสมบัติเป็ร้านใหญ่ ไม่อาจทำเื่เช่นนี้ ดังนั้น เื่พวกนี้อธิบายไว้ก่อนจะดีกว่า ความหมายของร้านของเรา ที่สำคัญคือให้แขกระวังสักเล็กน้อย ไม่ทราบว่าคุณเลือกราคาเท่าไหร่?”
ผู้ช่วยอธิบายอย่างฉะฉาน แค่ฟังก็ดูท่าทางมีเหตุผลมาก
จ้าวอี้เวลานี้ จึงพบว่า เครื่องสัมฤทธฺทั้งหมดไม่มีป้ายราคา
“พวกเราเดินๆดูก่อน” เซี่ยตันไม่ได้คิดจะซื้อจริง ย่อมไม่พูดราคาแน่นอน
สีหน้าของผู้ช่วยไม่มีความไม่มีความสุข ในทางกลับกันกลับพยักหน้า สถานการณ์เช่นนี้พบได้บ่อย
จ้าวอี้เดินไปถึงด้านข้างกระถางโลหะสูงประมาณหนึ่งเมตร ด้านล่างมีชื่อของมัน ต้าเค่อติ่ง กระถางมีลวดลายโบราณ เรียบง่ายและสง่างาม ปากกระถามงมีสองหู ตัวกระถางมีสามขา
“กระถางนี้ราคาเท่าไหร่?”
จ้าวอี้ไม่คิดจะซื้อ เพียงแต่ถามราคา
“นี่คือต้าเค่อติ่ง ราคาหนึ่งแสน นี่เป็ของดี ราคาหนึ่งแสนนี้พูดได้ว่าเป็ราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว...ภาชนะสังเวยของยุคซีโจวตอนปลาย”
ผู้ช่วยแนะนำข้อมูลกองใหญ่ของต้าเค่อติ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาจำข้อมูลเหล่านี้ได้ขึ้นใจ
“แสน แพงขนาดนี้? เป็ของจริงรึเปล่า?”
เซี่ยตันถูกราคานี้ทำให้ใ อดไม่ได้ที่จะถาม
ผู้ช่วยชะงัก และมีความสุขขึ้นมา “ดูแล้วคุณสองคนจะเป็มือใหม่จริงๆ โชคดีที่คุณมาที่ร้านของเรา ไม่อย่างนั้น พวกคุณก็โชคร้ายแล้ว!”
ถูกสายตาเวทนาของผู้ช่วยมองจ้าวอี้และเซี่ยตันค่อนข้างอึดอัด เซี่ยตันถาม “ทำไมพูดแบบนี้?”
“ของสิ่งนี้ดีคือดี แต่ไม่อาจใช่ของจริง ตอนนี้ของจริงวางอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ นั่นเป็สมบัติของชาติ! ชิ้นนี้เป็ของเลียนแบบยุคปัจจุบัน ในร้านของเราไม่หลอกผู้คน ไม่งั้นคุณไปร้านอื่น หรือไปร้านหาบเร่ด้านนอก ไม่แน่ คนเล่านั้นอาจกล้าพูดกับคุณ ว่าของของพวกเขาเป็ของจริงแน่นอน...”
ผู้ช่วยเบ้ปาก ยังไม่ลืมที่จะเหน็บแนมเล็กน้อย
แค่ฟังว่าเป็ของเลียนแบบ จ้าวอี้และเซี่ยตันก็หมดความสนใจทันที
“ไม่ใช่ของจริง พวกคุณที่นี่ไม่ใช่ร้านขายของโบราณเหรอ? ทำไมถึงขายของเลียนแบบ?”
“คุณลองคิดดู ของสิ่งนี้ ถ้าเพื่อนคุณเปิดทำธุรกิจอะไร ส่งออกไป จะมีหน้ามีตาขึ้น? มีของเลียนแบบนั้นเป็เื่ปกติ อย่างไรพวกเราก็ได้อธิบายสถานการณ์แล้ว ถ้าคุณสองคนสนใจเครื่องสัมฤทธิของจริง งั้นรอเถ้าแก่กลับมา ของมีค่าพวกนั้นต่างอยู่ในเซฟ แต่มันไม่ถูกนะ”
ผู้ช่วยมองดูเซี่ยตันและจ้าวอี้เล็กน้อยอย่างไม่ให้สังเกตเห็น เขาคิดว่าการแต่งกายของสองคนนี้ธรรมดามาก ไม่เหมือนเ้านายที่จะสามารถจ่ายเงินจำนวนมากซื้อวัตถุโบราณของจริง
เซี่ยตันเลิกคิ้ว “ทำไม? ดูถูกกันเหรอ?”
“ไม่กล้าๆ! เพียงแต่เครื่องสัมฤทธิชิ้นหนึ่งอย่างน้อยก็เหยียบล้าน คุณสองคนเป็มือใหม่ ร้านของพวกเราไม่ขัด เพียงแต่ไม่อยากให้คุณคิดว่าร้านเราเป็ตลาดมืด คุณว่าใช่ไหม? พวกเราก็ต้องรับผิดชอบลูกค้า สองท่านจะรอเรา หรือจะลองดูสมบัติชิ้นอื่นในร้าน?” บนหน้าของผู้ช่วยเผยรอยยิ้มประจบออกมา
“เถ้าแก่ของพวกคุณจะมาเมื่อไหร่?”
“ดูจากเวลานี้ น่าจะใกล้มาแล้ว” ผู้ช่วยมองนาฬิกา ตอบกลับประโยคหนึ่ง
“ได้ งั้นพวกเรารอเขา มาที่นี่ย่อมต้องอยากซื้อสมบัติจริง”
“งั้นตกลง คุณสองคนไปที่ห้องส่วนตัวชั้นหนึ่งเถอะ ดื่มชาสักหน่อย ค่อยๆรอ” รอยยิ้มบนหน้าผู้ช่วยนั้นไม่เลว ดูแล้วเป็การทำงานที่มีคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่เพราะสองคนยังไม่ซื้อจึงเปลี่ยนสีหน้า
ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำชา เซี่ยตันดื่มจิบหนึ่ง “น้ำชานี้ไม่เลว หอมทีเดียว”
พวกเขาอยู่ที่นี่ไม่ต้องทักทายใคร ผู้ช่วยย่อมต้องไปทักทายแขกคนอื่น
“ร้านของพวกเขาไม่เลวจริงๆ พูดได้ว่าสามปีไม่เปิดร้าน เปิดร้านทีกินได้สามปี[1] แขกในร้านของพวกเขายังไม่น้อย” จ้าวอี้มองแขกสองคนที่เข้ามาอย่างใช้ความคิด
“ใช่แล้ว ไม่ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขาย เมื่อพูดถึงอาคารสรรพสมบัติต่างยกนิ้วให้ คำสรรเสริญในด้านอุตสาหกรรมดีมาก นี่ก็เป็ความหลักแหลมของเฉียนลิ่วเหย ดังนั้นจึงจัดการได้ยาก พวกเรารู้ดีว่ามีปัญหา แต่ยากที่จะจับจุดอ่อนของเขา” เซี่ยตันถอนใจเฮือกหนึ่ง เวลาสั้นๆนี้ จ้าวอี้รู้สึกว่าร้านนี้ไม่เลว และไม่บอกก็รู้ ว่าในสายตาของผู้อื่น ร้านแห่งนี้ยิ่งมีชื่อเสียง
[1] สามปีไม่เปิดร้าน เปิดร้านทีกินได้สามปี เปรียบเปรยว่า ร้านขายได้ไม่กี่ชิ้น แต่ขายได้ทีสามารถเลี้ยงชีวิตไปได้สามปี เท่ากับ ได้กำไรมาก