ดวงหน้าเล็กๆ ที่ร้องครางด้วยความเ็ปค่อยๆ สงบลง ในเวลานี้เองผดผื่นเม็ดเล็กๆ สีแดงบนใบหน้าค่อยๆ เลือนหายไป ใบหน้าที่แดงก่ำด้วยพิษไข้นั้นกลับสู่ปกติ สุดท้ายเปลือกตาของไท่จื่อน้อยขยับเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ
“เสด็จพ่อ—“
องค์ไท่จื่อน้อยเอ่ยปากพูดจาแล้ว
หมอหลวงหลายคนที่มองอยู่ถึงกับตะลึงพรึงเพริด!
“ฟื้นแล้ว! องค์ไท่จื่อฟื้นแล้วจริงๆ!”
“นี่มันยาอันใดกัน ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!”
“เย่เอ๋อร์—“ เฟิ่งเฉี่ยนยินดีเป็ที่สุด คิดจะพุ่งเข้าไปดูเขาทว่ากลับถูกเซวียนหยวนเช่อเอาร่างบังเอาไว้
เซวียนหยวนเช่อจับมือเล็กๆ ของไท่จื่อน้อย แววตาเย็นเยียบราวน้ำแข็งขั้วโลกอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่ปรากฏให้เห็นมีเพียงรอยยิ้มอบอุ่น น้ำเสียงที่พูดนั้นอ่อนโยนอย่างที่สุด “เย่เอ๋อร์ เ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ยังรู้สึกไม่สบายที่ใดหรือไม่ บอกกับเสด็จพ่อ”
องค์ไท่จื่อน้อยส่ายหน้าเอ่ยเสียงอ่อน “เย่เอ๋อร์ดีขึ้นมากแล้ว! ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ใส่พระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”
เซวียนหยวนเช่อยังคงไม่วางใจ “หมอหลวงเฉิน ตรวจอาการไท่จื่อ ดูว่าไม่เป็ไรจริงๆ แล้วหรือไม่”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับบัญชา” หมอหลวงเฉินผู้มีาุโที่สุดก้าวขึ้นหน้าเพื่อจับชีพจรขององค์ไท่จื่อ ประเดี๋ยวส่ายหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด เฟิ่งเฉี่ยนมองแล้วหัวใจบีบรัด
“หมอหลวง เย่เอ๋อร์เป็อย่างไรกันแน่” ครั้งแรกที่ใช้ยาสมุนไพรร้อยชนิด นางเองก็ไม่แน่ใจว่าใช้ยารักษาถูกกับโรคหรือไม่ แม้คนจะฟื้นแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะทิ้งรากแห่งโรคอื่นเอาไว้หรือไม่
คิ้วพาดเฉียงราวกระบี่ของเซวียนเหยียนเช่อขมวดมุ่น “หมอหลวงเฉิน เป็อย่างไรกันแน่”
หมอหลวงเฉินลุกขึ้นกราบทูล “ฝ่าาทรงวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ องค์ไท่จื่อไม่เป็อันใดแล้ว! ไม่เพียงเท่านี้ กระหม่อมยังตรวจพบว่าภายในร่างกายขององค์ไท่จื่อมีพลังลมปราณอันแข็งแกร่งวิ่งวนไหลเวียนตามร่างกาย กระหม่อมคิดว่าองค์ไท่จื่อเคราะห์ดีบนเคราะห์ร้ายพ่ะย่ะค่ะ ไม่เพียงแต่พลังของร่างกายที่เพิ่มมากขึ้น กำลังภายในเพิ่มขึ้นไม่น้อย เป็เื่น่ายินดีอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซวียนหยวนเช่อจึงพรูลมหายใจโล่งอก
เฟิ่งเฉี่ยนกระพริบตาปริบๆ กระจ่างแจ้งโดยพลัน จะต้องเป็เพราะเย่เอ๋อร์กินข้าวผัดไข่ของนางเข้าไป ดังนั้นพลังของร่างกายและพลังการสู้รบจึงเพิ่มขึ้น! แม้จะเป็เื่น่ายินดี แต่นางคิดแล้วยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่นั่นเอง หากนางไม่ได้ยาสมุนไพรร้อยชนิดจากการจับรางวัลเล่า หรืออาจได้มาไม่ทันให้เย่เอ๋อร์กิน ์เท่านั้นที่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็เช่นใด!
คิดแล้วนางก็พุ่งเข้าไปที่เตียงเบียดหมอหลวงออกไปพร้อมกับกอดเย่เอ๋อร์เอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีหลังจากเกือบจะสูญเสีย
“เย่เอ๋อร์!”
“พี่สาว ท่านกอดข้าจนข้าแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว”
เฟิ่งเฉี่ยนคลายมือพูดทั้งน้ำตา “เย่เอ๋อร์ ขอโทษ! เสด็จแม่ไม่ดีเอง แต่ไรมาไม่เคยดูแลเอาใจใส่เ้าให้ดี ยังทำร้ายเ้าจนเกือบต้องเสียชีวิต เ้าจะอภัยให้เสด็จแม่และให้โอกาสเสด็จแม่แก้ไขปรับปรุงตัวใหม่ได้หรือไม่”
“เสด็จแม่?” ดวงตาขององค์ไท่จื่อน้อยเบิกโตด้วยความประหลาดใจ เขาหันหน้ามามองเซวียนหยวนเช่อแล้วถามด้วยความไม่แน่ใจ “เสด็จพ่อ นางเป็เสด็จแม่ของเย่เอ๋อร์จริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”
เซวียนหยวนเช่อขมวดคิ้วได้แต่เงียบขรึมไม่ตอบคำ
องค์ไท่จื่อน้อยมองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยดวงตางงงัน แล้วหันไปมองเซวียนหยวนเช่อ จากนั้นจึงสะอึกสะอื้นร้องไห้ะโออกมาปานใจจะขาด “เป็เพราะเย่เอ๋อร์เป็เด็กไม่ดี ดังนั้นเสด็จแม่จึงไม่้าเย่เอ๋อร์ใช่หรือไม่ คนอื่นล้วนมีมารดารักและเอ็นดู มีเพียงเย่เอ๋อร์คนเดียวแต่ไรมาไม่เคยพบหน้ามารดาของตนเอง...”
เฟิ่งเฉี่ยนถูกเสียงร้องไห้ของเขาทำให้ปวดใจ นางประคองดวงหน้าเล็กๆ ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เอ๋อร์ไม่ร้องไห้ เย่เอ๋อร์เป็เด็กดี เป็ความผิดของเสด็จแม่ เป็เสด็จแม่ที่ไม่ได้ทะนุถนอมเ้าให้ดี...เสด็จแม่รับปากเ้า ต่อไปจะดูแลเ้าเป็อย่างดีแน่นอน จะชดเชยความผิดพลาดที่แล้วมาทั้งหมดกลับมา! เ้าจะให้โอกาสเสด็จแม่หรือไม่”
องค์ไท่จื่อเบิกดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองนางอยู่อึดใจหนึ่งแล้วร้องไห้พลิกตัวโผเข้ามาในอ้อมกอดของนางพร้อมกับออกแรงซุกตัวเข้าหานาง “ในที่สุดเย่เอ๋อร์ก็มีมารดาแล้ว! เย่เอ๋อร์ไม่ใช่ลูกที่ไม่มีมารดารักอีกแล้ว! เสด็จแม่! เสด็จแม่! เสด็จแม่...”
เสียงเรียกเสด็จแม่คำแล้วคำเล่า เรียกเสียจนหัวใจของเฟิ่งเฉียนแทบจะละลายกลายเป็สายน้ำ
นางรู้ว่านับแต่นี้ต่อไป นางจะไม่ใช่ตัวคนเดียวบนโลกนี้อีกแล้ว!
แม้เื่นี้จะเป็ข้อห้ามสำหรับอาชีพมือสังหารเช่นนาง แต่นางยินดีที่จะรับไว้ เพราะบนโลกนี้ไม่มีความรักใดจะเทียบเทียมความรักระหว่างมารดาและบุตรได้
นางหมดปัญญาที่จะตัดใจ และไม่ยินดีที่จะตัดใจ!
เซวียนหยวนเช่อมองสองแม่ลูกด้วยดวงตาสับสน