17:05 น.
“กลับก่อนนะครับทุกคน” เสียงของตะวันพูดขึ้นหลังจากที่เคลียร์งานของตัวเองเสร็จเป็คนแรก
“มีอะไรให้เมช่วยไหมคะ” เมจิหันไปถามพี่พายพี่ภูมิและปังปิ้งที่ยังคงนั่งทำงานกันอยู่
“ไม่มีหรอกจ้ะ…เมกลับไปอ่านรายละเอียดกับผังคอมมูนิตี้มอลล์เถอะพี่ว่าน่าจะเยอะอยู่” พี่พายเป็คนตอบเธอก่อนจะมองกระดาษปึกใหญ่ที่เธอถืออยู่
“แหะๆ ได้ค่ะงั้นเมกลับก่อนนะคะทุกคน…สวัสดีค่ะ”
คนตัวเล็กเดินออกมาก่อนจะกดลิฟต์ลงมายังชั้นลานจอดรถของบริษัทระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวลงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเธอก็สั่นขึ้นมา มือเรียวล้วงออกมาก่อนจะสไลด์หน้าจอเพื่อกดดูข้อความ…
พี่วิน : ลืมหรือเปล่าครับว่าต้องกินข้าวกับพี่
เมจิ : ไม่ได้ลืมสักหน่อย
พี่วิน : อืม งั้นให้พี่ไปรับไหม
เมจิ : พอดีเมเอารถมาค่ะ เจอกันที่คอนโดก็ได้
พี่วิน : งั้นรอพี่ที่ลานจอดรถนั่นแหละ กำลังไป
อะไรของเขากันนะ…อุตส่าห์หาทางเบี่ยงอย่างน้อยได้เตรียมใจอีกสักหน่อยก็ยังดี…เธอยังอายกับเื่เมื่อวานอยู่เลยT.T
ติ๊ง! ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับขาเรียวที่ก้าวเดินออกมาก่อนจะมุ่งตรงไปยังรถคันสีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกล รองเท้าส้นสูงขนาดกลางเดินไปเดินมาอยู่ข้างตัวรถเพราะรอใครบางคนที่บอกว่ากำลังจะมาหา ไม่นานดวงตาเรียวสวยก็หันไปปะทะเข้ากับชายหนุ่มใส่แว่นที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอเมื่อสักครู่แต่ เอ๊ะ แล้วทำไมเขาอยู่ในชุดนี้ล่ะ?
“ทำไมพี่ใส่ชุดนี้ล่ะ” เมจิเอ่ยถามคนตัวสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
“อืม ก็ตำแหน่งพี่มันชิลๆ ใส่อะไรก็ได้” วินพูดขึ้นพร้อมกับยกมือหนาเสยผมดำขลับแล้วก้มมองตัวเองที่ใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์มสบายๆ อย่างที่ใส่เป็ประจำ
“อ๋อ ค่ะ” ชิลจริง…
“ไปรถเมแล้วกัน”
“แล้วรถพี่ล่ะ”
“ทิ้งไว้นี่แหละ ไว้ค่อยมาเอาพี่มีอีกคันนึง” ใบหน้าสวยพยักหน้ารับรู้อย่างไม่ได้สงสัยอะไร
ไม่นานรถคันสีขาวก็เคลื่อนตัวขับออกไปจากลานจอดรถโดยมีร่างแกร่งอาสาเป็คนขับ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนมองสองหนุ่มสาวที่ยืนคุยกันเมื่อสักครู่อยู่…
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองตามรถคันสีขาวที่เพิ่งขับออกไปก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันแล้วยกขึ้นเล็กน้อย
“หึ ไอ้วินกับพนักงานของบริษัทออลเดย์งั้นหรอ…อืม” เสียงเข้มพูดขึ้นพร้อมกับเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างคนกำลังประติดประต่อเื่ราว
17:45 น.
ฟู่วววว ~ เสียงของเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ดังสอดประสานกับการจราจรด้านนอกเป็ระยะและภายในรถที่มีสองหนุ่มสาวที่ตอนนี้ประสบปัญหาเดิมของทุกวันก็คือรถที่ติดอย่างแสนสาหัส
“พี่ว่า…เราหาอะไรกินแถวนี้ดีกว่า”
“เห็นด้วยค่ะ” เมจิตอบออกมาแบบไม่ต้องคิดซ้ำ
พอได้ยินแบบนั้นมือหนาก็เปิดไฟเลี้ยวก่อนจะเบี่ยงรถออกมาแล้วเลี้ยวเข้าไปยังฟู้ดคอมเพล็กซ์ขนาดกลางที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเมื่อสักครู่นัก
ใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีตอนนี้ทั้งคู่ก็เข้ามานั่งอยู่ในร้านราเมงพร้อมกับอาหารที่สั่งไปวางอยู่ตรงหน้าเป็ที่เรียบร้อย
คนตัวเล็กที่เอาแต่จ้องเส้นในชามพลันสมองก็ได้แต่คิดว่ารู้งี้เธอน่าจะสั่งเมนูอื่น ลืมไปเลยว่าเป็เส้นคงกินลำบากจะซู้ดต่อหน้าผู้ชายก็ยังไงอยู่นะ…
“ไม่กินหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้นมาเพราะเห็นหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่นั่งจ้องอาหารมาสักพักแล้ว
“กินสิๆ กำลังกินค่ะ” มือเรียวใช้ตะเกียบคีบเส้นขึ้นมาวางบนช้อนก่อนจะส่งเข้าปากตัวเองไป
ใบหน้าหล่อคมคายพยักหน้าเล็กน้อยอย่างไม่ได้คิดอะไรก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าตนเองต่อเช่นกัน
“ไปทำงานวันแรกเป็ไงบ้าง” เป็คนตัวสูงที่เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็ดีนะ แต่ยังไม่มีอะไรเท่าไหร่ พี่ฝนแค่พาเมไปแนะนำกับพี่ๆ แผนกต่างๆ เพื่อนร่วมงานก็แลจะน่ารักดีแล้วก็ได้เจอคุณเวย์ผู้บริหารด้วย”
“ผู้บริหารคอมมูนิตี้งั้นหรอ เขาเป็ไงบ้างอะพี่ยังไม่เคยเจอเลย”
“อืมมม…ดูเนี๊ยบๆ ดุๆ นิ่งๆ เท่ห์ดีนะ” เสียงหวานตอบไปตามความคิด
“หรอ คงรวยน่าดูเลย” ร่างสูงพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยที่กำลังคีบเส้นลงช้อน
“ต้องเป็อย่างนั้นอยู่แล้วเขาเป็ถึงผู้บริหารบริษัทใหญ่เลยนะ”
“แล้วถ้ามีคนแบบนั้นมาจีบเม เมจะสนใจไหม”
พอได้ยินแบบนั้นเมจิที่กำลังจะส่งอีกคำเข้าปากก็เคลื่อนมือออกแล้ววางช้อนกลับลงที่เดิม
“พี่…คนระดับนั้นเขาไม่มาสนใจผู้หญิงธรรมดาๆ แบบเมหรอก”
“เมก็โปรไฟล์ไม่ได้แย่ไหม หน้าตาก็ดีนี่” ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่ตอนนี้ไม่แตะอาหารตรงหน้าเลยเพราะมัวแต่ยิงคำถามใส่เธอ
“แต่คนระดับนั้นเขาหาได้ดีกว่านั้นอีกเยอะ…”
“…อีกอย่างนะถึงต่อให้มีคนที่รวยมากๆ เข้าหาเมเมก็ต้องดูเจตนาเขาอยู่ดี เมไม่ได้คิดแค่จะหาผู้ชายรวยเพื่อเกาะเขาสักหน่อย…เมแค่อยากเจอคนดีๆ ที่พร้อมจะรักเม”
เมจิพูดออกไปตามที่เธอคิดเพราะสำหรับตัวเธอแล้วต่อให้ผู้ชายคนนั้นจะร่ำรวยมหาศาลแค่ไหนแต่ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ดีหรือเขาไม่ได้รักเธอมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร จริงอยู่ที่ยุคสมัยนี้ความรักมันกินไม่ได้ใครก็อยากสบายและตัวเธอเองก็คงไม่เอาผู้ชายที่จะพากันไปกัดก้อนเกลือกินอยู่แล้ว…แต่เธอมองภาพรวมมากกว่าแค่ปัจจัยเื่เงินอย่างเดียว
“อืม…น่าสนใจดีนี่”
“หื้ม? คือ?” เขาสนใจอะไรของเขานะ
“กินต่อให้หมด อิ่มแล้วจะได้ไปกันป่านนี้รถน่าจะเบาลงแล้วล่ะ”
ระหว่างทางกลับคอนโด…
คนตัวเล็กฮึมฮัมตามเสียงเพลงที่ดังออกมาจากตัวรถพร้อมกับโยกหัวและส่ายตัวเบาๆ ไปตามจังหวะด้วยความอารมณ์ดี
“มีความสุขจังนะ” เสียงทุ้มนุ่มพูดพร้อมกับหันมามองหญิงสาวข้างตัว
“ใช่ซี้ ~ ชีวิตจะสั้นจะยาวแค่ไหนก็ไม่รู้แต่อย่าลืมมีความสุขกับเื่เล็กๆ รอบตัวก็พอ” เสียงหวานเอ่ยตอบโดยที่ไม่ได้หันกลับมามอง
“ทำไม่ได้อะดิวันๆ ทำแต่งานก็เครียดจะแย่”
ร่างบางที่พอได้ยินแบบนั้นก็หันใบหน้าสวยได้รูปกลับมามองผู้ชายใส่แว่นที่ก็กำลังมองเธออยู่…ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปคว้าข้อมือแกร่งแล้วยกขึ้นโบกไปมาตามจังหวะเพลงโดยมีมือของเมจิจับเอาไว้อีกที
“หึ ทำตัวอย่างกับเด็ก” วินพูดแบบนั้นแต่ก็ปล่อยให้เมจิทำตามอำเภอใจจนกลับถึงคอนโด
คอนโดหรูใจกลางเมือง
“ไปฟิตเนสไหม พี่ว่าจะไปออกกำลังกายสักหน่อย” วินเอ่ยชวนขณะกำลังเดินกันไปที่ลิฟต์ของคอนโด
“ขอผ่านค่ะ เมมีนี่! ต้องไปจัดการ” เมจิไม่พูดเปล่าแต่เธอชูปึกกระดาษที่ด้านหน้าเขียนว่า ‘รายละเอียดและผังคอมมูนิตี้’ ขึ้นตรงหน้าชายหนุ่ม
“อืม งั้นให้พี่ไปช่วยอธิบายในห้องไหม”
“หยุดเลยนะพี่วิน…” ตาเรียวสวยหรี่ลงพลางจ้องเข้าไปในั์ตาพราวระยิบนั่น
“5555 โอเคครับๆ แต่ถ้าเหนื่อยไปนั่งพักดูกล้ามแน่นๆ ของพี่ที่ฟิตเนสได้นะ” พร้อมกับขยิบตาให้สาวน้อยตรงหน้าไปหนึ่งที
เหอะ! ให้มันได้งี้สิ!
