ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนอ้าปาก พวกเขาก็เห็นถึงอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายลูกอมอยู่ที่ปลายลิ้น
กู้อวิ๋นหย่วนกับจวินจิ่วเฉินยังไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไป๋หลี่ิชวนก็ตกตะลึงแล้ว “เ้า…”
กูเฟยเยี่ยนยกน้ำแกงสมุนไพรอุ่นๆ ขึ้นมาดื่มแล้วอมไว้ในปากครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกลืนลงไป นางใช้วิธีการค่อยๆ ดื่มๆ ทีละคำจนหมด
หญิงสาวอ้าปากอีกครั้ง ก้อนผลึกภายในปากของนางก็ถูกยาหลอมละลายลงจนหายไปนานอย่างเห็นได้ชัด
นางกล่าวว่า “องค์ชายสาม เช่นนี้น่าสนใจหรือยัง? ”
ไป๋หลี่ิชวนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เขายิ้มด้วยความจำใจพลางส่ายศีรษะไปมา แม้ว่าจะประหลาดใจ แต่ก็ยอมรับในความพ่ายแพ้ “จิ๊จิ๊จิ๊ เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เ้าไม่ธรรมดาจริงเสียด้วย เ้าไม่ทำให้เปิ่นหวงจื่อผิดหวังเลย! ”
เมื่อสักครู่นี้ที่เขาได้ชิมน้ำแกงสมุนไพรของกูเฟยเยี่ยนไป เขาไม่ได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพของสมุนไพรเยี่ยอวี๋หรงชนิดนี้ ดังนั้นเขาจึงสรุปว่านังหนูคนนี้ตามหาปุ๋ยคอกไม่พบจึงเคี่ยวประสิทธิภาพของยาออกมาไม่ได้เช่นเดียวกับเขา แต่ในความเป็จริงแล้วนังหนูคนนี้ไม่ได้นำเยี่ยอวี๋หรงใส่ลงไปในน้ำแกงสมุนไพรทั้งหมด นางใช้วิธีการแยกแก่นที่สารสำคัญมาทำให้เป็ก้อนผลึก แล้วอมไว้ในริมฝีปาก จากนั้นจึงใช้ความอุ่นร้อนของน้ำแกงสมุนไพรในการหลอมละลายเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพ
กูเฟยเยี่ยนยอมรับคำชมเชยของไป๋หลี่ิชวนด้วยความสุภาพ ก่อนจะหันไปพูดคุยกับกู้อวิ๋นหย่วน “ไฟมีความแตกต่างระหว่างไฟสว่างไสวกับไฟที่ไม่ค่อยลุกไหม้ ความร้อนของน้ำแกงสมุนไพรของข้ามาจากไฟที่ไม่ค่อยลุกไหม้ การใช้ไฟเช่นนี้มีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพของสมุนไพรเอาชนะฟืนหม่อนได้อย่างขาดลอย ดังนั้นในรอบที่สองข้าชนะแล้ว! ”
เพียงครู่เดียวกู้อวิ๋นหย่วนก็เข้าใจได้ทันที เขาแสดงออกถึงความชื่นชมแล้วถอนหายใจออกมาซ้ำๆ “เฮ้อ วันนี้ข้าน้อยได้เปิดหูเปิดตาแล้ว! ในรอบที่สองแพทย์หญิงกูชนะ! ”
ได้เปิดหูเปิดตาจริงหรือ?
ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวคือผู้ที่มอบวิธีนี้ให้นาง!
กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลามาคิดมากและไม่เสียเวลาไปถ่อมตน นางเอ่ยออกมาด้วยความเด็ดขาดตรงไปตรงมา “เริ่มรอบที่สามได้เลย! ”
หากกล่าวว่าในรอบที่สองนั้นไป๋หลี่ิชวนมีโอกาสพ่ายแพ้ เช่นนั้นในตอนนี้เขาเหมือนกูเฟยเยี่ยนตรงที่รอบเดียวกำหนดชะตาชีวิตแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รอบสุดท้ายนี้เขาต้องเอาชนะให้ได้! ต้องทราบเอาไว้ว่าหากในครั้งนี้เขาเชิญแพทย์กู้ออกไปไม่ได้ เขาก็จะกลับไปที่ว่านจิ้นไม่ได้แล้ว
ไป๋หลี่ิชวนมองกูเฟยเยี่ยนด้วยรอยยิ้มที่เหือดหายไป ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นเผยถึงความโเี้ที่จะเอาชนะให้ได้ “แพทย์กู้ เชิญ! ”
จู่ๆ บรรยากาศภายในห้องโถงรับรองที่เคยเงียบเชียบก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็จริงจังและตึงเครียด
กู้อวิ๋นหย่วนไม่รอช้า เขาเปิดกล่องที่สามขึ้นมา ทว่าไม่ได้หยิบใบสั่งยาออกมาแต่หยิบกระดาษขาวสองใบออกมาแทน
นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
กูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนต่างก็ไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ทุกคนล้วนมองออกว่าพวกเขาสองคนรวบรวมสมาธิและพละกำลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประลองระดับความสามารถที่สูงขึ้นกว่านี้
ดูเหมือนว่ากู้อวิ๋นหย่วนจะได้รับผลกระทบจากสองคนนั้น เพราะเขาเกิดความรู้สึกประหม่า เขานำกระดาษมาให้กูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนคนละหนึ่งแผ่น จากนั้นจึงเตรียมพู่กันกับน้ำหมึกให้ “การแข่งขันในรอบที่สามคือการตามหาสมุนไพร”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมากูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนล้วนพากันประหลาดใจ อย่าว่าแต่พูดถึงเื่การตามหาสมุนไพรเลย ต่อให้ตามหาทั่วทุ่งกว้างและูเา ไป๋หลี่ิชวนที่มีวิชาตัวเบาก็จะได้เปรียบมากอย่างเห็นได้ชัด
ไป๋หลี่ิชวนรู้ซึ้งอยู่แก่ใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา กูเฟยเยี่ยนไม่พูดเช่นกัน นางคิดว่าถ้าไม่มีความยุติธรรมจริงๆ ก็อย่าได้โทษที่นางใช้หวางเป่าติงเลย! ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้นางเลี้ยงดูหวางเป่าติงน้อยอย่างเต็มอิ่ม คลังสมุนไพรภายในนั้นอัดแน่นมากมาย
กูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนต่างก็รอให้กู้อวิ๋นหย่วนพูดถึงเงื่อนไขโดยละเอียด ทว่ากู้อวิ๋นหย่วนกลับเดินไปปักธูปหนึ่งก้านลงบนกระถางธูปแล้วกล่าวว่า “ระยะเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ที่ตามหาสมุนไพรได้มากที่สุดจะเป็ผู้ชนะ ทั้งสองท่านเตรียมพร้อมหรือยัง? ”
เพียงแค่จำกัดเวลาไม่จำกัดประเภทหรือ?
จวินจิ่วเฉินเห็นว่ามือของกูเฟยเยี่ยนกอบกุมหวางเป่าติงเอาไว้ตลอด เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบต่อไป
ไป๋หลี่ิชวนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ทั่วทั้งป่าไม้แห่งนี้ล้วนตามหาได้อย่างนั้นหรือ? ”
กู้อวิ๋นหย่วนเกิดความเอาจริงเอาจัง “ไม่มีทาง! รอให้พวกท่านเตรียมตัวให้พร้อมก่อนแล้วข้าน้อยจะแจ้งเองว่าต้องตามหาที่ใด”
ในใจของกู้อวิ๋นหย่วนมีแผนการอะไรอยู่กันแน่?
ไป๋หลี่ิชวนงงงวยมากกว่าเดิมเสียอีก เขาจึงไม่สุ่มเดามั่วแล้วพูดด้วยความเบิกบานใจ “เปิ่นหวงจื่อพร้อมแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนมีความงงงวยเช่นกันทว่านางเพียงตอบไปว่า “ข้าก็พร้อมแล้ว”
กู้อวิ๋นหย่วนเริ่มจุดธูปพลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตามหาในห้องโถงรับรองแห่งนี้ ผู้ที่พบก่อนให้เขียนชื่อลงไปบนกระดาษ อีกฝ่ายนั้นไม่สามารถเขียนซ้ำได้ เริ่มเลย! ”
อะไรนะ?
นอกจากสมุนไพรในน้ำแกงที่หลงเหลืออยู่ในถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ว ห้องโถงรับรองแห่งนี้จะมียาสมุนไพรเสียที่ไหน!
อย่าว่าแต่จวินจิ่วเฉินที่เป็คนนอกเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างกูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนยังเกิดความตกตะลึง ทว่าไม่ช้าพวกเขาก็ได้สติกลับมาแล้วแทบจะยกพู่กันขึ้นมาเขียนด้วยความรวดเร็ว พวกเขาต่างก็ใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในการเขียนชื่อสมุนไพรทั้งสามสิบสามชนิดที่อยู่ในน้ำแกงสมุนไพรโดยไม่ตกหล่นแม้แต่ชนิดเดียว นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมชะเอมกับใบสะระแหน่ที่อยู่ในลูกอมชะเอมลงไป รวมไปถึงขี้เถ้าธูปในกระถางธูปอีกด้วย
ในขณะที่ไป๋หลึ่ิชวนเขียนเรียบร้อยแล้ว กูเฟยเยี่ยนก็เขียนเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ทั้งสองคนเขียนสมุนไพรทั้งสามสิบสามชนิดออกมาได้เหมือนกัน และเป็่ระยะเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขามีความเข้าใจกันโดยปริยายเพราะแม้แต่ลำดับล้วนเหมือนกัน เรียกได้ว่ามีความเสมอกัน
เพียงแต่!
การทดสอบเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!
แม้ว่าพวกเขาสองคนจะเขียนเสร็จแล้วแต่ก็ไม่ได้วางพู่กันลง กูเฟยเยี่ยนรีบพิจารณารอบข้างทันที ทางด้านของไป๋หลี่ิชวนนั้นสังเกตรอบข้างโดยที่ไม่เมินเฉยนัก ไม่ช้ากูเฟยเยี่ยนก็ยกพู่กันขึ้นเขียนสมุนไพรสองชนิดอย่าง “พะยูงหอมกับสารเคลือบผิวไม้”
โต๊ะเก้าอี้ภายในห้องโถงรับรองแห่งนี้ต่างก็ทำมาจากพะยูงหอม พะยูงหอมเป็ทั้งวัสดุไม้และเป็สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการลดพลังลมปราณ หยุดเืและบรรเทาอาหารปวดได้ ในส่วนของสีน้ำมันที่ทาบนโต๊ะเก้าอี้เหล่านี้นั้นทำมาจากยางไม้ของต้นสารเคลือบผิวซึ่งมีสรรพคุณในการไล่แมลงและอาการไอ
กูเฟยเยี่ยนยังคงก้มศีรษะเขียนต่อไป เพียงแต่ก่อนที่คำว่า “ชา” จะเขียนเสร็จ กู้อวิ๋นหย่วนก็เอ่ยขึ้นมา “สิ่งนี้องค์ชายสามเขียนไปแล้ว”
เดิมทีชาก็คือยาสมุนไพร ต่อมาจึงได้กลายมาเป็เครื่องดื่มที่มีสรรพคุณในการขจัดความมันเลี่ยนและทำให้ศีรษะปลอดโปร่ง
นอกจากไป๋หลี่ิชวนจะเขียนคำว่า “ชา” แล้วเขายังเขียนคำว่าทองแดงอีกด้วย ทองแดงนั้นมาจากเครื่องประดับทองแดงที่อยู่ภายในห้อง แม้ว่าสนิมเขียวบนทองแดงนั้นจะมีพิษ แต่ก็เป็ยาดีที่มีคุณสมบัติของโลหะ
กูเฟยเยี่ยนทิ้งคำว่า “ชา” ไปด้วยความเด็ดขาดแล้วรีบเปลี่ยนเป็ “ดอกฉยงฮวา” ภายในห้องโถงรับรองแห่งนี้ปราศจากต้นพืช แต่มีดอกฉยงฮวาหนึ่งกระถาง ดอกฉยงฮวาเป็สิ่งล้ำค่าที่สามารถถอนพิษ บรรเทาอาการคัน และขจัดความร้อน ความเปียกชื้นออกไปได้
ทว่าแทบจะในเวลาเดียวกันไป๋หลี่ิชวนก็ได้เขียนคำว่า “ดอกฉยงฮวา” เขาเขียนคำว่า “ดอกฉยงฮวา” แล้วก็เขียนคำว่า “พะยูงหอม” เพียงแต่เขาเพิ่งจะเขียนคำว่าพะยูง กู้อวิ๋นหย่วนก็เอ่ยเตือน “มีพะยูงหอมแล้ว! ”
ไป๋หลี่ิชวนหยุดเขียนทันที เขาเหลือบมองตัวอักษรบนกระดาษของกูเฟยเยี่ยนแวบหนึ่งแล้วเงยหน้ามองสิ่งต่างๆ รอบข้างอย่างรวดเร็ว ในส่วนของกูเฟยเยี่ยนนั้นมองตัวอักษรบนกระดาษของเขามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในขณะนี้นางกำลังค้นหาทุกซอกทุกมุมด้วยสายตาเ็าสุขุมจนทำให้ผู้คนไม่กล้ารบกวน
ทว่าผ่านไปไม่นานทั้งสองคนก็นึกได้อย่างฉับพลัน ทันใดนั้นสายตาของคนทั้งสองก็เคลื่อนมามองน้ำหมึกบนโต๊ะโดยไม่ได้นัดหมาย!
น้ำหมึกสามารถใช้เป็ยาสมุนไพรได้ มันมีรสชาติเผ็ดร้อนและมีสรรพคุณในการห้ามเื!
กูเฟยเยี่ยนรีบยกพู่กันขึ้นมาเขียนทันที ไป๋หลี่ิชวนไม่ยอมจำนนจึงเขียนด้วยความรวดเร็วเช่นกัน ทั้งสองคนเขียนชื่อสมุนไพรออกมาพร้อมกันอีกครั้ง ดังนั้นจึงเสมอกันอีกครั้งหนึ่ง!
กูเฟยเยี่ยนไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว นางรีบเงยศีรษะค้นหาต่อไป ไป๋หลี่ิชวนก็ทำแบบนี้เช่นกัน
เพียงแต่ในครั้งนี้พวกเขามองหาอยู่นานแต่ก็ไม่ได้พบอะไรใหม่ๆ
แม้ว่าห้องโถงรับรองแห่งนี้จะกว้างขวางทว่าการตกแต่งกลับเรียบง่าย นอกจากโต๊ะน้ำชา เก้าอี้ เครื่องประดับทองแดงนิดหน่อย ดอกไม้หนึ่งกระถาง และภาพวาดด้วยหมึกแล้ว มันไม่มีสิ่งอื่นสิ่งใดอีก สิ่งที่มองหาได้ดูเหมือนว่าจะถูกหาหมดแล้ว
ภายในห้องที่เงียบเชียบสีหน้าของกูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนยังคงความเ็าที่ทำให้ผู้คนไม่กล้ารบกวน เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ช้าธูปหนึ่งก้านก็ใกล้จะไหม้หมดแล้ว
จวินจิ่วเฉินชำเลืองตามองกระถางธูปด้วยความไม่สบายใจ เขาคิดว่ารอบนี้น่าจะมีผลเสมอกัน ทว่าในวินาทีนั้นไป๋หลี่ิชวนก็ยกพู่กันขึ้นมาจุ่มน้ำหมึก…