ตอนที่ 34 ทักษะยุทธ์ระดับสีน้ำเงิน
ในห้องโถงตระกูลกู่ ผู้าุโระดับสูงมีใบหน้าที่มืดมน และห้องโถงก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เ็าและโกรธเคือง
กู่หลินพ่ายแพ้ ต่อบุคคลทีในอดีตเป็เพียงขยะของเมืองไป๋หนาน และเขายังแพ้ให้กับผู้มีความแข็งแกร่งด้อยกว่าตัวเอง กู่หลินทำให้ตระกูลกู่อับอาย ทำให้ทุกคนในเมืองไป๋หนานหัวเราะเยาะ
ตระกูลกู่จะไม่โกรธได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ตระกูลกู่ ไม่กล้าไปที่ตระกูลโจว เพื่อเอาผิดโจวเย่เกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้น ประการแรก กู่หลินลอบโจมตีก่อน และประการที่สองเขายังพึ่งพาพลังที่แข็งแกร่งเพื่อรังแก่ผู้มีพลังอ่อนแอ ตระกูลกู่จะไปขอคำอธิบายได้อย่างไร ?
กู่เฉียนซาน ไม่สามารถทำให้ตัวเองเสียหน้าได้ เขาทำได้เพียงเก็บความโกรธไว้ในใจ และตำหนิกู่หลินที่ขาดความแข็งแกร่ง
แต่ต้องบอกว่าตระกูลกู่ จะไม่มีวันปล่อยโจวเย่ไปอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่ตระกูลกู่จะไม่ปล่อย แต่การตอบโต้จะรุนแรงยิ่งขึ้น
"ระดับพลังยุทธ์ของโจวเย่เพิ่มขึ้นเร็วจนน่ากลัวเกินไป หากเขามีเวลามากขึ้นในการบ่มเพราะ ข้าเกรงว่าเวลานั้น…" ผู้าุโคนหนึ่ง กล่าวขึ้น
"โจวเย่ เด็กสารเลวคนนี้กลายเป็อัจฉริยะแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป"
"ใช่! เด็กสารเลวคนนี้ ต้องห้ามปล่อยให้โต! เขาจะต้องตายโดยเร็วที่สุด!"
"ตระกูลซ่ง และตระกูลฮั่น ต่างไม่ชอบตระกูลโจว เราสามารถร่วมมือกับตระกูลซ่งและตระกูลฮั่นในการทำลายตระกูลโจวได้!”
กู่เฉียนซาน มีใบหน้าบูดบึ้งและดวงตาลึกของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า แต่เขายังคงเงียบและไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
กู่เฉียนซาน ยืนขึ้น ด้วยมือของเขาที่อยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเป็ประกายด้วยเจตนาฆ่าที่รับรู้ได้ และกล่าวว่า "โจวเย่ กลายเป็คนลึกลับ เขาไม่เหมือนโจวเย่คนเดิมอีกต่อไป นี่เป็ภัยคุกคามต่อตระกูลกู่ของข้ามากเกินไป"
"ท่านผู้นำ ท่านวางแผนที่จะจัดการกับเด็กสารเลวนั้นอย่างไร" กู่เหลี่ยง ถาม คำพูดของเขาดูโกรธและอาฆาตแค้นอย่างเห็นได้ชัด เขาจะไม่ปล่อยให้กู่หลินได้รับาเ็เปล่าๆ
"ธุรกิจของตระกูลซ่งพังทลายแล้ว และศัตรูของตระกูลซ่งคือ ตระกูลโจว หากเราส่งคนไปทำลายร้านค้าของตระกูลซ่งสักร้านสองร้าน โดยใส่ร้ายว่าตระกูลโจวเป็คนลงมือ พวกท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ? เมื่อถึงตอนนั้นตอนที่ ตระกูลโจวได้รับาเ็เราค่อยใช้โอกาสนั้นทำลายตระกูลโจวซะ!"
"ท่านผู้นำช่างฉลาดกลักแหลมยิ่งนัก" ผู้าุโคนหนึ่งกล่าวชื่นชม
"ท่านผู้นำ แต่ตระกูลโจวได้รับการคุ้มครองจากสถาบันอัคคีเป็เวลาสามปี เราจะทำลายตระกูลโจวได้อย่างไร" ผู้าุโอีกคนกล่าวขึ้น
"เื่นั้นไม่ต้องกังวล หากเราทำลายตระกูลโจวไปแล้ว สถาบันอัคคีไม่สามารถเอาผิดเราได้ เราเพียงหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลในการทำลายตระกูลโจวก็เพียงพอแล้ว และอย่าลืมว่าเราได้รับสนุนจากนิกายเมฆา์ด้วย สถาบันอัคคีคงไม่กล้าพอที่จะทำให้นิกายเมฆา์ขุ่นเคือง ทำตามที่ข้าสั่ง " กู่เฉียนซานหัวเราะเยาะ
-
ตระกูลโจว
เนื่องจากโจวเย่ชนะกู่หลิน สมาชิกทุกคนในตระกูลโจวต่างมีความสุขมาก
"เย่เอ๋อ เ้ามีความสามารถจริงๆ เ้าทำให้ตระกูลเรามีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น!" โจวคุนกล่าวชื่นชม
"พี่ใหญ่ ความแข็งแกร่งของท่านน่ากลัวมาก!" โจวเซียวหัวเราะ เขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโจวเย่ สามารถเอาชนะกูหลินได้
โจวเฟิง ถอนหายใจขมวดคิ้วและพูดว่า "อย่าดีใจไป สุนัขจิ้งจอกเฒ่ากู่เฉียนซาน นั้นไม่ง่ายเลยที่เราจะยั่วยุได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าตระกูลกู่ยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลฮั่น และนิกายเมฆา์อีกด้วย"
โจวหลี่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม และกล่าวว่า "ท่านผู้นำพูดถูก เย่เอ๋อ เอาชนะกู่หลิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราทำให้ใบหน้าของตระกูลกู่ พังยับเยินแค่ไหน ตอนนี้เท่ากับเป็การรุกรานตระกูลกู่แล้ว กู่เฉียนซานจะไม่มีทางปล่อยเื่นี้และจะตอบโต้กลับแน่นอน"
"ผู้าุโหลี่ ผู้าุโคุน พวกท่านหยุดการปรุงยาวายุปราณลงชั่วคราวก่อน และรีบทะลวงเป็นักเล่นแร่แปรธาตุระดับสองให้เร็วที่สุด เดี๋ยวข้าจะปรุงยาแทนพวกท่านเอง" โจวเย่กล่าวอย่างเคร่งขรึม
"เ้าจะปรุงยาเองเหรอ?" โจวคุน ขมวดคิ้วและจ้องมองโจวเย่
โจวเย่ พยักหน้าและกล่าวต่อว่า "ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ข้าสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตระกูลได้ในเวลาอันสั้น"
"ตกลง!" โจวคุนพยักหน้าและกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มว่า "ตระกูลโจวของเรามีนักเล่นแร่แปรธาตุเพิ่มอีกคนแล้ว ! ไม่เลว ไม่เลว!"
โจวเย่ยิ้มและกล่าวต่อว่า "เมื่อถึงเวลาที่ผู้าุโหลี่และผู้าุโคุน ได้รับการเลื่อนระดับให้เป็นักเล่นแร่แปรธาตุระดับสอง และท่านพ่อได้ทะลวงผ่านอาณาจักรมหาคุรุยุทธ์ แม้ว่าตระกูลกู่้าทำอะไรบางอย่าง เขาก็ต้อง ชั่งน้ำหนักกำลังของพวกเขาเอง และหากผู้าุโโม่เจียงเต็มใจที่จะช่วยเราในตอนที่ตระกูลเราเกิดภับพิบัติ เราไม่จำเป็ต้องกลัวตระกูลกู่เลย"
"พี่ใหญ่ ! อาจารย์ของท่านแข็งแกร่งมาก ทำไมไม่ให้เขาลงมือล่ะ?" โจวเซียวถามอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ โจวเย่ก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ "อาจารย์ของข้ามีอารมณ์แปลกๆ ข้าไม่สามารถทำอะไรกับเื่นี้ได้ แต่ท่านอาจารย์ได้ให้ทักษะยุทธ์ระดับสีนำเงินมาสองทักษะแก่ข้า"
"อะไรนะ! ทักษะยุทธ์ระดับสีน้ำเงินเหรอ?” เมื่อทุกคนได้ยินก็เบิกตากว้างและมองไปที่โจวเย่
โจวเย่ ้ามอบทักษะยุทธ์อันทรงพลังให้กับตระกูลของเขา โจวเย่ไม่้าให้คนในตระกูลสงสัยจึงค่อยๆ เพิ่มความแข็งแกร่งของคนภายในตระกูล
เมื่อมองดูทักษะยุทธ์ระดับสีน้ำเงิน โจวเฟิงและคนอื่นๆ ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ ตอนนี้สมาชิกในตระกูลโจว ต่างมีความสุขกับทักษะยุทธ์นี้
"พี่เย่ ฝึกฝนตลอดใน่เวลาที่ผ่านมา และเขาก็อยู่กับข้าตลอดเวลา เขาเอาเวลาไหนไปพบอาจารย์ของเขา ?" หงเยว่ แอบพึมพำอยู่ในใจ เธอรู้ว่าโจวเย่กำลังโกหกและหลอกโจวเฟิงและคนอื่นๆ แต่หงเยว่ก็ไม่ได้เปิดเผยอะไร
เมื่อรับรู้ถึงการจ้องมองของหงเยว่ด้วยสายตาแปลกๆ โจวเย่ก็ทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นเท่านั้น
"กู่หยิง ข้าให้โอกาส ตระกูลกู่ ของเ้าแล้ว! หากพ่อของเ้ายังหมกมุ่
นอยู่กับการโตมตีใส่ตระกูลโจวของข้า อย่ามาตำหนิข้าที่ข้าจะทำแบบนั้น” โจวเย่แอบพูดในใจ