ตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนแผงหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ด้านหน้าของฟางหยวนพุ่งสูงขึ้นเกือบ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สายลมที่ผ่านปะทะทำเอากระโปรงนักเรียนของเธอเต้นระบำ ครู่เดียวเธอก็แล่นมาถึงด้านหลังของรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ และในขณะที่คิดจะเร่งความเร็วเพื่อแซงขึ้นไป จู่ๆ ก็มีฮอนด้า SUV คันหนึ่งมาขวางทางเอาไว้
ขณะที่ฟางหยวนกำลังบิดคันเร่งเพื่อเตรียมจะแซงจากอีกด้าน ฮอนด้า SUV อีกคันก็ขับมาขวางไว้อีก หนำซ้ำด้านหลังยังถูกประกบด้วย SUV คันที่สาม กอปรกับรถบรรทุกคันหน้า เท่ากับว่ามันดักฟางหยวนไว้แล้วทุกด้าน
ถึงจะรู้สึกตัวช้า แต่ฟางหยวนก็ััได้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย
รถบรรทุกชะลอความเร็วลง ฟางหยวนเองก็ต้องลดความเร็วลงไปด้วย ประตูตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ด้านหลังค่อยๆ เลื่อนเปิดออก แกรก แกรก แผ่นโลหะแผ่นหนึ่งถูกพาดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์จนถึงด้านล่างของรถ นักเลงหัวไม้ 20 กว่าคนถือไม้หน้าสามรออยู่ด้านใน ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์
“ตู้ ATM เฮงซวย สร้างความลำบากให้ฉันอีกแล้ว...” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟางหยวนตกอยู่ในอันตรายจากการถูกลักพาตัว ั้แ่เล็กจนโต เธอเคยโดนลักพาตัวมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง และนี่ก็เป็สาเหตุที่พ่อไม่ได้คัดค้านเื่ที่เธอฝึกเรียนมวยไทย
“มามะที่รัก มาสู่อ้อมอกของลุงซะดีๆ!” อันธพาลที่อยู่หัวแถวรูปร่างสูงใหญ่ ท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อคล้ายกับสัตว์ประหลาดเป็มัดๆ เขายังสวมหน้ากากฮอกกี้เหล็ก สไตล์เดียวกับหนังสยองขวัญเื่ Texas Chainsaw หมอนั่นย่อตัวนั่งลงบนแผ่นโลหะพร้อมกับกวักมือเรียกฟางหยวน
ฟางหยวนยังไม่ทันได้มีโอกาสปฏิเสธ SUV ที่ตามหลังมาก็เร่งเครื่องใส่เพื่อบีบบังคับให้เธอเคลื่อนรถไปด้านหน้า ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเกิดการปะทะกันเพียงเล็กน้อย รถของฟางหยวนคงได้ถูกบดขยี้เป็แน่
ครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ฟางหยวนรู้สึกได้เลยว่าคนพวกนี้ดูไม่ได้สนใจในเงินของพ่อของเธอเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่พวกเขา้าก็คือ...ชีวิต!
“เรียกแม่ใช่ไหม...ถ้างั้นแม่ก็มาหาแกแล้ว ไอ้บัดซบ!” ฟางหยวนเร่งเครื่องทันที EBR ส่งเสียงคำรามในขณะที่ไต่ขึ้นแผ่นเหล็ก ก่อนจะทะยานเข้าสู่ตู้คอนเทนเนอร์ ล้อหน้ากระแทกเข้ากับชายที่สวมหน้ากาก ทั้งรถทั้งคนต่างก็กระเด็นปลิวไปด้วยกัน กลางอากาศก็เกิดประกายไฟเจิดจ้า
ฟางหยวนกระโจนลงจากรถและกลิ้งตัวเข้าในตู้คอนเทนเนอร์ ภายใต้ข้อศอกอันแข็งแกร่ง เธอจับพวกอันธพาลตีศอกแทงเข่าจนพวกนั้นพากันขดตัวอยู่ตรงหน้า
“อยากให้ฉันตายเหรอ...ชีวิตคุณหนูอย่างฉันมูลค่าสูงมากนะ ชีวิตกุ๊ยอย่างพวกแกรวมกันตายไป 10 หน ก็ยังไม่อาจเทียบกันได้เลย!” ฟางหยวนถอดหมวกกันน็อคบนศีรษะออกก่อนจะโยนไปด้านนอก มันกระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถ SUV ที่บีบบังคับให้เธอขึ้นมาบนนี้พอดี รถคันนั้นก็เลยต้องพลอยชะลอความเร็วและหยุดจอดที่ข้างทาง “นังเด็กบ้า แกทำรถฉันพัง เดี๋ยวจะจัดให้สาสมเลย!” คนขับรถดึงหมวกกันน็อคซึ่งแทรกอยู่ตรงกลางกระจกหน้าออกด้วยความโมโห ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่แล้วที่ข้างกระจกก็มีเสียงเคาะกระจกดังขึ้น
คนขับรถหันไปมอง แต่เขาก็ไม่ทันได้เห็นหน้าของชายคนนั้นชัดๆ หมัดของชายคนนั้นก็ทะลุหน้าต่างรถเข้ามาพุ่งเข้าสู่กราม ทำเอาคนขับรถดวงจู๋คนนั้นกรามหลุด และยังถูกคว้าเอาร่างออกมาจากทางหน้าต่างที่แตกพังด้านหน้า
เสิ่นิสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วไล่ตามรถบรรทุกไป แต่เขาก็ยังไม่ทันได้รู้ตัวว่าที่เบาะหลังนั้นยังมีนักเลงที่ในมือถือมีดพร้าอยู่ที่เบาะหลังอีก 3 คน
“เ้าตัวแสบ อยากตายใช่ไหม กล้าปล้นรถเราเรอะ!” มีดพร้าเล่มหนึ่งจ่ออยู่ที่คอเขา
“พวกแกซื้อตั๋วหรือยัง?” เสิ่นิถามแปลกๆ
“ฮ่าๆ เ้าเด็กนี่มันคิดว่าตัวเองเป็คนขับรถเมล์แล้ว” อันธพาลคนหนึ่งหัวเราะลั่น
15 วินาทีผ่านไป ประตูหลังทั้งสองข้างของ SUV ก็ถูกเปิดออก นักเลง 3 คนนั้นถูกเตะออกมาจากตัวรถซึ่งกำลังแล่นอยู่บนทางหลวงเสมือนกับลูกบอล
“คราวนี้ก็สะอาดหมดจดแล้ว” เสิ่นิคาดเข็มขัดนิรภัย ก่อนจะเหยียบคันเร่งไปอย่างดุดัน
ภายในตู้คอนเทนเนอร์บนรถบรรทุก ฟางหยวนกำลังประมืออยู่กับพวกอันธพาลจำนวน 20 กว่าคนเพียงลำพัง ฝีมือสังหารคนนั้นไม่เลว ความจริงแล้วคนพวกนี้ไม่ใช่คู่ปรับของเธอเลย แต่เก่งกาจแค่ไหนก็สู้พวกมากไม่ได้ ด้านหลังของฟางหยวนมีรอยฟกช้ำจากหมัดอยู่สองสามแห่ง เธอเจ็บแต่ต้องฝืนยิ้ม การ์ดของเธอตกไม่ได้
“เข้ามาเลย! ไอ้พวกเหลือขอ!” แขนทั้งสองข้างของฟางหยวนโอบรอบคอของอันธพาลคนหนึ่ง ก่อนจะถีบตัวขึ้นสูงเกือบสองเมตร เธอกระแทกเข่าเข้ากับใบหน้าของชายผู้นั้น เืกำเดาของเขาทำเอากางเกงสีดำขายาวของเธอเปรอะเืสีแดง
นักเลงทยอยล้มกันไปทีละคนๆ ฟางหยวนซ่อนไม้หน้าสามไว้ที่ด้านหลัง แขนขาเริ่มอ่อนล้า แรงของเธอเริ่มตก หญิงสาวสู้เืยิบตา แต่ร่างกายไม่ให้ความร่วมมือ สมองของเธอนึกย้อนกลับไปถึงเื่ราวในอดีต ที่ปรากฏขึ้นมานั้นไม่ใช่รูปลักษณ์ของแม่ แต่เป็สีหน้าอันเศร้าสร้อยก่อนที่ฟางซื่อเฉวียนจะจากไป
ถ้าฉันตายไป พ่อจะเศร้าใจไหมนะ? นี่จะถือเป็การแก้แค้นของฉันได้ไหม? ฟางหยวนรู้สึกขบขันไปกับความคิดของเธอ ชั่วพริบตาเดียวที่เหม่อไป ไม้หน้าสามท่อนหนึ่งก็ปะทะเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเธอ แม่นักมวยสาวผู้ไม่เคยยอมใครล้มลงบนพื้นตู้คอนเทนเนอร์อันเยือกเย็น
“จะตายั้แ่อายุยังน้อยอย่างนี้เลยเหรอ? จูบแรกก็ยังไม่เคยได้ััเลย...” ฟางหยวนพึมพำกับตัวเอง เธอยังคิดสู้ แต่ทำอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น
“นังหนู ยังจะสู้อีกไหม? เฮอะ วันนี้ฉันจะจัดแกสักหน่อย! ไว้พรุ่งนี้ค่อยเอาไปโยนลงทะเลให้เป็อาหารไอ้หลามมัน!” นักเลง 10 คนสุดท้ายที่ยังพอยืนไหวต่างพากันมายืนมุงรอบๆ เธอ ก่อนจะถ่มเสมหะออกมาเป็เื บางคนถึงขนาดพ่นฟันออกมา 2 ซี่เพราะโดนศอกของฟางหยวนเข้าไปจังๆ
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน...” ฟางหยวนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไม่ใช่เพราะกลัวตาย แต่เสียใจที่ต้องตายอย่างไร้ค่า
เสิ่นิอยู่ห่างจากรถบรรทุกแค่เพียง 50 เมตรเท่านั้น มอเตอร์ไซค์ Suzuki Hayabusa ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 5 กิโลเมตรแล่นผ่านเขาไป คนขี่เร่งเครื่องด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์
คนขี่มอเตอร์ไซค์ลงจากรถด้วยสรีระที่ตั้งตระหง่าน 180 เิเ ร่างกายภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตนั้นดูแข็งแกร่งเหนือธรรมชาติ เขาใช้ศิลปะมวยไทยเฉกเช่นเดียวกับฟางหยวน เตะชกนักเลงพวกนั้นจนกระทั่งนักเลงพวกนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะร้องขอความเมตตา พวกมันถูกเผด็จศึกจนราบคาบ
ฟางหยวนลุกขึ้นนั่ง เมื่อมองไปที่คนขี่มอเตอร์ไซค์คนนั้น ภายใต้สายตาอันพร่ามัว เธอรู้สึกว่ารูปร่างของคนคนนั้นช่างดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน
ในที่สุด รถบรรทุกและ SUV อีกสองคันก็หยุดลง นักบิดคนนั้นจัดการกับนักเลงคนสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าไปหาฟางหยวน
“เ้าหญิงน้อยของผม ฝีมือตกลงไปนะ แค่นักเลงไม่กี่คน เธอก็ยังจัดการไม่ได้ น่าจับตีก้นนัก” นักบิดคนนั้นถอดหมวกนิรภัยออก เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา
“พี่...รุ่นพี่?!” ในที่สุดฟางหยวนก็เห็นใบหน้าของคนคนนั้นอย่างชัดเจน เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“ไม่เป็ไรแล้ว มีพี่อยู่ พี่จะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอ” พี่ชายผู้แข็งแกร่งโอบดึงฟางหยวนขึ้นมา เขาพาเธอเดินเหยียบร่างของนักเลงที่นอนอยู่อย่างสะเปะสะปะเพื่อก้าวออกไปจากตู้สินค้า
ศีรษะของฟางหยวนถูกตีด้วยไม้ เธอจึงยังคงเวียนหัวอยู่ หญิงสาวรู้สึกได้ว่าอ้อมกอดของพี่ชายนั้นปลอดภัยที่สุด
รุ่นพี่ของฟางหยวนมีนามว่าหลินฝาน เขาเรียนชกมวยที่ยิมเดียวกันกับเธอ เขาโตกว่าเธอ 4 ปี เพราะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงมักจะได้เป็คู่ซ้อมให้กันและกัน เรียกได้ว่าเขาเป็ขวัญใจของเธอมาั้แ่วัยเด็ก บนโลกใบนี้ คนที่ฟางหยวนเชื่อใจมีแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือแม่ผู้ล่วงลับไปแล้ว กับรุ่นพี่ผู้ซึ่งมักจะยอมแพ้เธอเสมอ
“ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้รุ่นพี่ วันนี้ฉันเสร็จแน่” ฟางหยวนพิงเข้ากับหน้าอกของหลินฝานพลางกล่าวขอบคุณด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง
“ฮ่าๆ พี่จากที่นี่ไป 3 ปี ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงตัวน้อยผู้จองหองของพี่จะกล่าวคำขอบคุณเป็กับเขาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้พี่จะทำเกินหน้าเกินตาไปบ้าง บอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอก็เก่งกาจอยู่นะ ต่อให้ไม่มีพี่ เธอก็คงไม่เป็ไรหรอก” หลินฝานโอบฟางหยวนลงจากรถบรรทุก บนท้องถนนมีนักเลง 10 กว่าคนมุ่งหน้าเข้ามา เสิ่นิซึ่งยืนอยู่ใต้เสาไฟริมถนนทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยเืของคนอื่น ในมือของเขายังคงจับคอเสื้อของชายร่างสูง 190 เิเเอาไว้ ก่อนจะยกเขาลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
เมื่อเห็นว่าฟางหยวนปลอดภัยแล้ว เสิ่นิก็คลายหมัดออกอย่างโล่งใจ ก่อนจะโยนร่างของนักเลงนั้นให้ปลิวไป กระทั่งหมอนั่นหมดสติ
“เสิ่น...ซาน?!” ฟางหยวนพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมอกของหลินฝาน เธอเดินตัวสั่นเข้าไปหาเสิ่นิ เธอทั้งส่ายหน้าและพยายามกลั้นน้ำตาด้วยความเหลือเชื่อ
“บอกหนูมา ว่าครูไม่ใช่สุนัขรับใช้ของฟางซื่อเฉวียน...” ฟางหยวนกล่าวขอร้อง ขอแค่เสิ่นิพูดออกมา เธอก็เต็มใจที่จะเชื่อชายคนนี้
“ผมรับเงินเขา แต่ไม่ใช่สุนัขของเขา และไม่ได้ชื่อเสิ่นซาน ผมชื่อเสิ่นิ...” เสิ่นิยังอธิบายไม่ทันจบ ฟางหยวนก็ตบหน้าเขาอย่างแรง
“ชาติชั่ว! สัตว์นรก! หลอกฉันทำไม! ฉันเชื่อคุณขนาดนี้! ถึงขนาดคิดว่าคุณเป็เพื่อนซี้! ฉันถึงขั้น! ถึงขั้น!” คำว่า “ชอบ” ของฟางหยวนถูกกลืนกลับลงไปในท้อง
“เื่มันไม่ได้เป็อย่างที่เธอคิด ผมเป็บอดี้การ์ดมืออาชีพ หน้าที่ของผมก็คือปกป้องคุณ” ใบหน้าของเสิ่นิบวมขึ้นมาเล็กน้อย ฟางหยวนไม่ใช่เมิ่งฉี ลูกหมัดลูกเตะของเธอสามารถทำให้เสิ่นิเจ็บตัวได้จริงๆ
“ปกป้องฉันเหรอ? ปกป้องฉันก็เลยทำกับข้าวให้ฉันกิน? ปกป้องฉันก็เลยซ่อมเฟอร์นิเจอร์ให้? ปกป้องฉันก็เลยดูแลฉันตอนเมา?
คุณเป็บอดี้การ์ดดีเด่นของโลกหรือยังไง ถึงได้แสร้งทำเป็ห่วงฉัน แสร้งทำเป็ไม่สนใจเงินของฉัน ฉันหลงคิดไปเองว่า...ฉันหลงคิดไปเองว่าฉันยังพอมีเพื่อนบนโลกใบนี้ที่ไม่ได้ชอบฉันเพราะเงิน ขอบคุณการปกป้องของคุณ มันทำให้ฉันได้รู้ว่า อำนาจของเงินมันทรงพลังขนาดไหน กระทั่งความเป็เพื่อนก็ยังหาซื้อกันได้” ฟางหยวนยิ้มเยาะพร้อมกล่าวทั้งน้ำตา
“คุณาเ็ จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ผมจะพาคุณไปส่งโรงพยาบาล” เสิ่นิจูงมือฟางหยวนเป็ครั้งที่สอง และแน่นอนว่าเขาถูกสะบัดทิ้งอีกครั้ง
“ถุย!” ฟางหยวนถ่มน้ำลายปนเืใส่หน้าเสิ่นิ “ใครใช้ให้คุณแตะต้องฉัน! คุณมันก็แค่สุนัขรับใช้หน้าเงินเท่านั้นแหละ! ฉัน...”
พูดยังไม่ทันจบประโยค ฟางหยวนก็หมดสติจนเกือบล้มลงไปกองกับพื้นยางมะตอย เสิ่นิคว้าเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะร่วงถึงพื้น เขากอดเธอไว้แน่น
“เธอไม่เป็ไรแล้ว สมัยก่อนเราก็เคยเจอเื่แบบนี้ ตอนนั้นเธออายุแค่ 15 เอง แต่ในที่สุดก็รอดชีวิตมาได้” หลินฝานเดินเข้ามา พร้อมพูดปลอบใจ
“ผมไม่สนว่าคุณเป็ใคร ไม่สนใจด้วยว่าคุณรับเงินมาเท่าไร ถ้ากล้าทำร้ายเธอ ผมจะเอาคีมถอดเล็บคุณทีละนิ้ว เอาเข็มเหล็กเย็บปากคุณ ใช้ช้อนควักลูกตา และเชือดคอคุณด้วยมีดสเต๊ก
ผมมีวิธีที่จะทรมานคนหลายชั่วโมงโดยที่เขาไม่ตาย เชื่อผมเถอะ ว่าผมทำแน่” เสิ่นิเงยหน้ามองชายตรงหน้าอย่างเ็า ราวกับเป็เสือผู้ปกป้องลูกน้อยที่สามารถสังหารได้โดยไม่ไว้หน้า