“เคล็ดลับหัวบุกบนูเาน่ะข้าสามารถแบ่งปันให้ได้ ทุกคนในหมู่บ้านอยากจะนำออกไปขายที่ถนนบ้าง นั่นก็ย่อมได้แต่ว่าข้าขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่าหากขายได้ไม่ดีจะมาโกรธข้าไม่ได้”
พอได้ยินว่านางจะแบ่งปันเคล็ดลับให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายพวกคนในหมู่บ้านต่างก็ตื่นเต้น แล้วมองไปทางครอบครัวของเฉินเนี้ยนหรานราวกับมองลูกสาวของตนด้วยความรัก
เฉินเนี้ยนหรานแอบส่ายหน้าในใจ นิสัยคนเรานี่ จะพูดว่านิสัยชั่วร้ายก็ไม่ใช่คำพูดมดเท็จเลยแค่ผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้คนพวกนี้ละทิ้งความโกรธแค้นของตัวเองแล้ว
“หัวบุกน่ะ ถึงแม้จะขายได้ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่พวกท่านสามารถเอาไปทำเป็อาหารได้ดังนั้นเคล็ดลับนี้ข้าจะไม่พูดมากแล้ว พรุ่งนี้พวกท่านส่งตัวแทนมาที่เรือนของข้าข้าจะพูดเื่การทำหัวบุกให้ แต่ว่าข้าไม่้าเห็นสตรีคนนี้ในบรรดาตัวแทนทั้งหมด”
มือของเฉินเนี้ยนหรานชี้ไปที่จ้าวชุนฮวาที่เชิดคอยืดคอยาวฟังอยู่ภายในแววตามีความเกลียดชังที่ปิดไว้ไม่มิดเื่ที่พวกนางพี่น้องขึ้นไปขุดหัวบุกบนูเา หากไม่ใช่สตรีนางนี้นิสัยไม่ดี จะมีเื่อย่างในวันนี้ได้อย่างไร
หากไม่เป็เช่นนี้นางก็คงไม่ถูกบีบให้บอกเคล็ดลับออกมา ไม่ใช่ไม่อยากจะปิดบังเพียงแต่ภายใต้ผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ นางจำต้องให้อย่างเลี่ยงไม่ได้
เพราะว่านางอยากอยู่ที่นี่นางจึงไม่สามารถทำให้คนเกลียดมากไปกว่านี้ได้ เคล็ดลับน่ะจะต้องหยิบมันออกมาแต่วิธีการหยิบออกมาก็ต้องคิด ข้าหยิบมันออกมาแล้ว ไม่ใช่หมายถึงข้าอ่อนแอ แต่เพราะเป็คนในหมู่บ้านเดียวกันถึงได้บอก
หากนางบอกั้แ่ตอนแรกที่พวกนางถูกบีบบังคับนั่นก็จะหมายถึงเพราะนางยอมแล้ว ถึงเอาเคล็ดลับออกมา วันนี้คนในหมู่บ้านจะคิดว่าการที่นางเอาเคล็ดลับออกมานั้นเป็เื่ที่สมควรอยู่แล้ว
แต่พอผ่านการทะเลาะกันก่อนหน้านี้ได้อธิบายความลำบาก แล้วนางค่อยแบ่งปันเคล็ดลับออกมา ก็จะเปลี่ยนไปทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต่างรู้สึกดีกับนางแทนทั้งยังจำถึงความดีของนาง… และไม่มีทางจำเื่ที่พวกนางร่ำรวยอีก
แต่ว่าเื่ที่ร่ำรวยแล้วจะทำให้คนเกลียดนั้นก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงจริงๆ ค่อยๆ คิดหาวิธีแล้วกัน ถ้าหากคนในหมู่บ้านพวกนี้ยังมีความเป็คนอยู่บ้างนางก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยที่จะทำให้พวกเขาพัฒนาไปด้วยกัน…
แน่นอนว่าก่อนจะพูดถึงเื่นี้นางจะต้องร่ำรวยเสียก่อนถึงจะดี
เหล่าผู้คนในหมู่บ้านเมื่อได้เคล็ดลับที่ไม่คิดว่าจะได้ก็พากันแยกย้ายจากไปด้วยความดีใจ
ในตอนนั้นเองที่ครอบครัวของเฉินเนี้ยนหรานสามพี่น้องได้ถือว่าเข้ามาเป็สมาชิกของคนในหมู่บ้านแล้ว ตอนที่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง จึงเป็กันเองมากกว่าเดิม
เพียงแต่ จ้าวชุนฮวาไม่มีทางรู้สึกเป็กันเองกลับยิ่งเกลียดพวกนางมากขึ้นทุกครั้งที่เห็น
โดยเฉพาะตอนที่เฉินเนี้ยนหรานพูดกับทุกคนว่าไม่อยากให้นางมาเป็ตัวแทนเดิมทีนางไม่เคยคิดเป็ตัวแทน แต่เมื่อถูกเฉินเนี้ยนหรานชี้เฉพาะเจาะจงเช่นนี้ความรู้สึกนั้นย่อมไม่เหมือนกัน
ดูเหมือนว่า ตอนที่นางถูกเฉินเนี้ยนหรานรังเกียจในขณะเดียวกันก็ถูกเหล่าชาวบ้านมองเป็เื่ตลก
ที่ยิ่งทำให้นางโกรธก็คือพอนางกลับเรือนไปคุยเื่นี้กับสามี นางกลับถูกสามีโกรธแล้วระบายอารมณ์ใส่นาง
“เ้านี่ช่างเป็สตรีที่ชอบหาเื่เสียจริงทั้งๆ ที่เป็เื่เล็กๆ เ้าก็ยังกัดไม่ปล่อย ทุกคนในหมู่บ้านต่างเป็มิตรต่อกันเ้าพูดสิว่าทำไมเ้าถึงก่อเื่มากมายขนาดนี้? ทำไม? อา…ต่อไปพวกเรายังจะไปเจอใครได้อีกหรือ?ครอบครัวเรายังมีความสัมพันธ์อันดีกับใครเขาได้อีก?”
“เ้าออกไปก่อเื่เรียกร้องเช่นนี้ มีคนขอบคุณเ้าหรือไม่? ถุย จ้าวชุนฮวา คนเขาจะมองว่าเ้าเป็ตัวตลกเ้ามันเป็สตรีที่ชอบหาเื่ หากยังก่อเื่แบบนี้อีก คงจะอยู่ด้วยยากแล้วล่ะ”
จ้าวชุนฮวาเมื่อไม่ได้รับการปลอบใจ ทั้งยังถูกสามีต่อว่ากลับมาแถมยังขู่ว่าหากทำเช่นนี้ต่อไป มีความไปได้ว่าจะแยกทางกัน
นางที่เดิมทีก็ไม่สงบอยู่แล้วถึงแม้ใบหน้าจะยอมรับผิด แต่ในใจกลับยิ่งมั่นใจว่า ทั้งหมดนี้เป็เพราะสามีของนางชอบเฉินเนี้ยนหรานดังนั้นถึงได้เอาใจออกหาก [1] จากนาง แล้วเบนไปทางพวกพี่น้องเฉินเนี้ยนหรานแทน…
หลังจากส่งพวกคนในหมู่บ้านกลับไปแล้ว หนิวซื่อก็รีบเข้ามาพยุงเฉินเนี้ยนหรานเอาไว้“ไอ๊หยา นายหญิง เ้าพูดว่าร่างกายเ้า…เดิมทีก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้วยังจะออกมาทำไมดูสีหน้าขาวซีดไปหมดแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด หากป่วยเป็อะไรขึ้นมาจะทำเช่นไร?”
เฉินเนี้ยนหรานที่ถูกพยุงขึ้นมาทั่วทั้งร่างไร้เรี่ยวแรง วันนี้นางฝืนออกมาจริงๆ ตอนนี้นางมึนหัวมาก
ถูกหนิวซื่อพยุงขึ้นมาเช่นนี้ ตรงหว่างขาร้อนผ่าวหัวสมองหนักอึ้ง….ก่อนจะสลบไป
หนิวซื่อเห็นหว่างขาของนางมีน้ำสีแดงไหลออกมาก็ใจนรีบไปเรียกสามีของตนมาอุ้มเฉินเนี้ยนหรานเข้าไปในเรือน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รีบไปตามหมอมาดูสิ หากเหนื่อยจนเกินไปจะทำเช่นไร?สตรีที่ยังไม่คลอดลูกมาเจอเื่เช่นนี้จนร่างกายเกิดอาการป่วยเพราะความเหนื่อย เป็เช่นนี้ต่อไปอาจจะป่วยเรื้อรังได้นะ”
หนิวซื่อปรายตามองน้ำสีแดงที่ไหลออกมาจากหว่างขาของเฉินเนี้ยนหรานมือก็จับหัวจับหูไม่หยุด ระหว่างที่อุ้มกลับเข้ามาในเรือนก็มีเืหยดออกมาไม่น้อย
“เอาล่ะ เ้าอย่าโวยวายอีก หากโวยวายเช่นนี้ต่อไปเด็กๆ ทั้งสองคนจะยิ่งร้อนใจ”
หนิวซื่อมองน้องห้ากับน้องหกที่ตอนนี้ใจนร้องไห้ตาปูดบวม
นางเข้าไปกอดเด็กทั้งสองเอาไว้อย่างปวดใจ“ไม่เป็ไร ไม่เป็ไร พี่สี่ของพวกเ้าไม่มีทางเป็อะไรหรอก มีป้าหนิวอยู่จะต้องไม่เป็อะไรแน่นอน…”
การปลอบโยนนี้อย่างที่รู้กันฟังดูแล้วมันช่างว่างเปล่า
หลังจากวางเฉินเนี้ยนหรานลงบุรุษแซ่หวงก็รีบไปเชิญหมอในหมู่บ้านมา
“ข่าวดีนี่ มีข่าวดีแล้วนี่”ได้ยินหมอประกาศออกมาอย่างมั่นใจ เฉินเนี้ยนหรานที่เพิ่งคืนสติก็รู้สึกว่าใจของตนเองเต้นเร็วมาก
หนิวซื่อกับบุรุษแซ่หวงมองกันอย่างดีใจ แต่ต่อมาสีหน้าก็เปลี่ยนไป
หนิวซื่อส่งสายตาไปให้บุรุษแซ่หวงก่อนจะทำปากบุ้ยใบ้ไปทางท่านหมอ ซึ่งแน่นอนว่าตัวสามีกับภรรยาใจสื่อถึงกันแค่การส่งสัญญาณนี้ก็รู้แล้ว ความหมายคือให้ตนไปบอกให้ท่านหมอปกปิดเื่นี้เอาไว้ก่อนรอจนเฉินเนี้ยนหรานตัดสินใจแล้วค่อยว่ากัน
อย่างไร สตรีที่ไม่มีสามีแต่กลับตั้งครรภ์…เื่นี้…ลำบากแล้ว! เด็กที่คลอดออกมาจะถูกคนรังเกียจ เื่เช่นนี้... เื่เช่นนี้จะจัดการเช่นไร!
“ท้องแล้วจริงๆ ...”
หนิวซื่อเห็นเฉินเนี้ยนหรานที่กำลังหลงทาง นางในตอนนี้ไม่ใช่สตรีที่ชาญฉลาดคนนั้นนางมีแต่มึนงง สับสน ไร้ทิศทางและนี่ก็เป็ปฏิกิริยาที่เข้ากับอายุจริงของนางที่สุด
“นายหญิง ข้าต้องขอแนะนำเ้าสักหน่อยนะ ที่นี่สตรีม่ายไร้สามีหากคลอดลูกออกมาจะถูกคนครหาไปทั่ว ที่หมู่บ้านเก่าของพวกเราหากเกิดเื่นี้ขึ้น มีความเป็ไปได้ที่จะถูกจับถ่วงน้ำ ลูกของเ้า... มาผิดเวลา!”
คำพูดของหนิวซื่อทำให้เฉินเนี้ยนหรานที่จมอยู่กับความสับสนได้สติขึ้นมาใช่ ที่นี่คือยุคโบราณ ยุคโบราณไม่ใช่ยุคที่จะมีลูกโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานได้
ในยุคปัจจุบันการมีลูกโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานมักจะถูกคนติฉินนินทาลับหลังได้ง่ายตัวนางที่เป็แม่ม่ายแยกตัวออกมาจากเรือนสามีจะพูดอย่างไรดี? ก่อนหน้านี้ได้บอกกับคนในหมู่บ้านไว้ว่าสามีไม่อยู่ที่เรือนนางที่ถูกแม่สามีรังแกอยู่ตลอดจึงย้ายออกมา
ทว่าตอนนี้กลับตั้งครรภ์ขึ้นมามันชัดเจนมากว่าตั้งครรภ์แล้ว…เื่นี้จะอธิบายอย่างไรให้ผ่านไปได้!
“นายหญิง จากความคิดของข้าซึ่งแต่งงานแล้วข้าคิดว่าตอนนี้ให้ท่านหมอที่อยู่ด้านนอกคนนั้นเก็บเื่นี้เป็ความลับเอาไว้ก่อนให้เขาอย่าเอาไปพูดมั่วซั่ว แล้วค่อยคิดว่าจะทำเช่นไรต่อไปดีเ้าค่ะ”
อย่างไรหนิวซื่อก็ผ่านเื่ราวมาไม่น้อยจึงเสนอความคิดของตนเองขึ้นมา
“ได้ ที่นี่มีเงินตำลึงอยู่จำนวนหนึ่งเ้าเอาไปให้ท่านหมอคนนั้น อย่าให้เขาเผยแพร่เื่ราวออกไปเื่นี้รอให้ข้าคิดหาวิธีว่า้าเขาเอาไว้หรือไม่?”
เงินที่คลำดูแล้วน่าจะประมาณสองตำลึงถูกล้วงออกมาให้หนิวซื่อพร้อมกำชับนางกับสามีของนาง
หนิวซื่อออกไปจัดการเื่นี้ส่วนเฉินเนี้ยนหรานกลับนั่งอยู่บนเตียงไม่รู้จะทำเช่นไรดี แม้ตอนที่อาเจียนก่อนหน้านี้ก็สงสัยแล้วว่านางคงตั้งครรภ์แต่นางก็ยังมีความหวังว่าตนแค่กินของไม่ดีเข้าไป
อย่างไรตอนที่อยู่จวนสกุลโจวนางได้ดื่มน้ำแกงคุมกำเนิดไปแล้วคนที่ดื่มเข้าไปแล้วเหตุใดถึงตั้งท้องได้?
ความจริงเื่นี้ทำให้นางรู้สึกว้าวุ่นมาก หรือว่าเชื้อของโจวอ้าวเสวียนจะแข็งแกร่งขนาดนั้นแข็งแกร่งจนถึงกับทำให้น้ำแกงคุมกำเนิดไร้ผลไปได้?
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินเนี้ยนหรานก็ส่ายหน้าใบหน้ามีความรู้สึกเหนื่อยอ่อน รู้สึกว่าตัวเองลามกเกินไปแล้วถึงตอนนี้ยังจะกล้าคิดถึงความสามารถในการทะลุทะลวงของชายหนุ่มอีก...นางต้องว่างเพียงใดกัน!
ดูเหมือนว่า วันหลังจะต้องไปหาเฟิงเอ๋อร์ที่จวนเสียหน่อยดูสิว่าจะสามารถล้วงอะไรออกมาจากปากนางได้บ้าง
น้ำแกงคุมกำเนิดไร้ผลมีความเป็ไปได้อยู่แค่อย่างเดียวบางทีเพราะว่าน้ำแกงคุมกำเนิดแพงเกินไป ในจวนจึงมีคนที่มีความคิดไม่ดีมาเปลี่ยนยาจากนั้นนางก็เป็คนโชคร้ายที่มาเจอเื่นี้หรืออีกอย่างคือคนในจวนจงใจเปลี่ยนยา…แต่คนที่ทำเช่นนี้จะเป็ผู้ใดกัน?
รู้สึกว่าอย่างหลังจะมีความเป็ไปได้น้อยมากอย่างไรฮูหยินเฒ่าคงไม่มีทางเบื่อหน่ายจนทำเื่เช่นนี้หรอกใช่หรือไม่? ส่วนพวกพี่น้องของโจวอ้าวเสวียนยิ่งเป็ไปไม่ได้ที่จะให้เขามีทายาทคนพวกนั้นต้องอยากให้เขาไม่มีลูกสิถึงจะดี ทำไมถึงต้องมาคิดแทนเขา โดยการไม่ให้นางดื่มน้ำแกงคุมกำเนิดจริงๆล่ะ?
ดังนั้นจึงมีความเป็ไปได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือน้ำแกงคุมกำเนิดที่ตนกินเข้าไปจะถูกเปลี่ยนเป็ยาปลอมเื่นี้จึงทำได้แค่ไปหาเฟิงเอ๋อร์ ให้นางแอบไปสอบถามเื่ราวมาว่าคนที่ดูแลยาคือใครจากนั้นความจริงก็จะปรากฏ
เื่เด็กคนนี้ จะบอกกับโจวอ้าวเสวียนหรือไม่?
เด็กคนนี้เป็เืเนื้อของเขา แต่นางกับเขา...เป็คนที่อยู่กันคนละโลกช่างเถิด ไม่บอกเขาแล้วกัน แต่จะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ดีหรือไม่?
พอคิดถึงปัญหาสุดท้าย เฉินเนี้ยนหรานถึงได้ว้าวุ่นใจขึ้นมา
มือลูบไปที่ท้องของตัวเอง ในนี้มีชีวิตเล็กๆอยู่จริงๆ หรือ?
ตอนที่นางกำลังหลงทางอยู่นั้นหนิวซื่อก็กลับเข้ามา
“ข้าได้คุยกับท่านหมอคนนั้นแล้วพร้อมกับพูดว่าเ้าโชคชะตาไม่ดี ถูกบ้านสามีรังเกียจ ถึงแม้สามีจะเคยอยู่ในเรือนมาก่อนแต่ก็คิดไม่ถึงว่าพอสามีออกจากเรือนไป มารดาก็ตามมารังแกเ้า”
“เ้าหมดหนทางจริงๆ ถึงได้ย้ายออกมาสตรีที่ไม่มีสามีอยู่ด้วยแล้วตั้งครรภ์แถมยังเป็เด็กที่อายุครรภ์สองเดือนกว่าเกือบสามเดือน ท่านหมอเองก็พูดว่าหากจะทำแท้งในตอนนี้ เกรงว่าจะเป็อันตรายต่อชีวิตเ้า ดังนั้น…”
หนิวซื่อมองนางอย่างเ็ป คำว่า“ดังนั้นคลอดออกมาเถิด!”ในท้ายประโยค นางไม่สามารถใจร้ายพูดออกมาได้เลย
เห็นท้องกลมๆ ของนางเฉินเนี้ยนหรานก็ยกมือขึ้นไปัั “เด็กคนนี้…กี่เดือนแล้วหรือ?” หนิวซื่อเองก็ตั้งครรภ์อยู่ตอนที่เจอกับพวกนางก็มองออกว่านางตั้งครรภ์ หากไม่ใช่เช่นนี้ตอนแรกที่เหล่าหวงบอกว่าจะขายตัวเองมาเป็ทาส คงไม่เจออุปสรรคเช่นนั้นหรอก
“คำนวณดูแล้วก็สี่เดือนแล้วล่ะโตกว่าลูกของเ้าสองเดือน”
“สี่เดือนแล้ว ดูจากท้องแล้วใหญ่มากเลยนะเช่นนั้น หลังจากสี่เดือนแล้ว ท้องของข้าก็จะเหมือนกับของเ้าในตอนนี้หรือ?”
เชิงอรรถ
[1] เอาใจออกหาก หมายถึง ห่างเหินไปไม่ร่วมมือร่วมใจเหมือนเดิม, ตีตนจากไป