กล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น นั่นคือเ้าที่เป็คนนอก มีสิทธิ์อะไรเอาของในหมู่บ้านไปขายจนร่ำรวย เื่เช่นนี้ หากเกิดกับใครสักคนในหมู่บ้านที่อยู่ที่นี่มานาน อาจจะเป็เื่ที่มองผ่านไปได้ แต่หากคนใหม่ร่ำรวยขึ้นมามากแล้ว เช่นนั้นจะถูกผู้คนในหมู่บ้านพูดกันไปมากมาย ใจคนเราล้วนเป็เช่นนี้ ในตอนที่ตัวเองไม่พอใจ ไม่ได้เจริญก้าวหน้าขึ้นมา โรคริษยาตาร้อนมักจะปะทุออกมา
ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นมีทั้งคนแก่และเด็กเล็ก ส่วนมากเป็เหล่าแม่บ้านออกมายืนกัน
ห่างออกมา ครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านที่ถูกคนในหมู่บ้านเรียกตัวมากำลังตรงรี่มาทางนี้ด้วยความรีบร้อน
ใช่สิ เกิดเื่ที่เกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้าน เื่ใหญ่เช่นนี้ผู้ใหญ่บ้านจะต้องมาแน่นอนอยู่แล้ว
“จะพูดว่าข้าไม่ควรขึ้นเขาไปขุดของบนูเาอย่างนั้นหรือ?” เมื่อเข้าใจต้นตอของเื่ราว เฉินเนี้ยนหรานจึงเอ่ยออกมาอย่างเป็ธรรมชาติมากขึ้น บนใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้มบาง
ท่าทางนิ่งสงบเช่นนี้ทำเอาเหล่าคนในหมู่บ้านเริ่มรู้สึกหวาดหวั่น ราวกับพวกตนมาใส่ร้ายคนอื่นเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่ความรู้สึกหลักๆ คืออะไรนั้น พวกเขาต่างพูดออกมาได้ไม่ชัดเจน
“ใช่ เดิมทีเ้าไม่ควรขึ้นไปขุดของบนูเาอย่างเห็นแก่ตัวเช่นนั้น ของพวกนั้นเป็ของพวกเราทั้งหมู่บ้าน เ้าอยากจะขุดก็ได้ บอกวิธีมา ให้พวกเราทั้งหมู่บ้านร่ำรวยขึ้นมาได้!” ตอนนี้จ้าวชุนฮวาไม่พูดติดอ่างและไม่กลัวอีกแล้ว
เมื่อเห็นว่าผู้คนที่อยู่ตรงนี้ล้วนอยู่ข้างตน นางจึงไม่รู้สึกกังวล ใจของคนพวกนี้เองก็อยากจะร่ำรวยเช่นกัน
ในตอนนั้นเองที่ผู้ใหญ่บ้านมาถึง ภริยาของผู้ใหญ่บ้านก็ตามมาด้วย เพียงแต่ครั้งนี้ภริยาของผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้ที่ให้การต้อนรับเฉินเนี้ยนหราน แต่ยืนนิ่งสงบอยู่ข้างกายผู้ใหญ่บ้าน แล้วมองความเป็ไปของเื่ราวเงียบๆ
“เื่ราวมันเป็เช่นไร ภรรยาของสกุลหลิวช่วยพูดกับข้าอีกสักรอบ ตอนนี้ข้าอยากรู้ว่าเฉินเนี้ยนหรานย้ายเข้ามาในหมู่บ้านของเรา ได้ขึ้นูเาไปขุดอะไรมา? หากร่ำรวยแล้วจริงๆ เื่พวกนี้สมควรจะปรึกษากับหมู่บ้านของเรา ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ของบนูเาถือว่าเป็ของพวกเราทุกคน”
แววตาของผู้ใหญ่บ้านระยิบระยับ ตอนที่เื่มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกคนในหมู่บ้านหรือผลประโยชน์ของตัวเอง เขาจะต้องยืนอยู่ฝั่งของผลประโยชน์อยู่แล้ว
รอจนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านพูดจนจบแล้ว เฉินเนี้ยนหรานถึงได้ยิ้มสดใสออกมา
“อ๋อ ความหมายคือ ข้าที่เป็คนนอก ไม่ควรขึ้นไปขุดของบนูเา แต่พวกท่านที่เป็คนในหมู่บ้านไม่ว่าใครก็ขึ้นไปขุดได้อย่างนั้นหรือ ก็สามารถเข้าใจได้ ผู้ใหญ่บ้านเ้าคะ ข้าจำได้ว่าวันแรกที่ข้ามาที่นี่ ถือว่าเป็คนในหมู่บ้านแล้ว ทำไมตอนนี้ข้าถึงไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้หรือเ้าคะ?”
ผู้ใหญ่บ้านสีหน้าซีดเผือดเมื่อถูกถามเช่นนี้ “เื่...เื่นั้น เข้ามาอยู่ก็คือเข้ามาอยู่ แต่...แต่ว่าเ้าไม่ใช่คนที่เติบโตจากที่นี่ ดังนั้น...ดังนั้นูเาลูกนี้ไม่ควรจะมีส่วนของเ้า”
ประโยคแบบนี้ยังแก้ต่างออกมาได้ เฉินเนี้ยนหรานที่ฟังแล้วได้แต่ยิ้มเย็นในใจ
“ความหมายก็คือของบนูเาข้าไม่ควรจะไปขุดจริงๆ เช่นนั้น ข้าขอถาม ตอนนี้ข้าก็ขุดไปแล้ว พวกเ้าจะให้ข้าเอาออกมา หรือว่าจะให้ข้าไปปลูกมันคืน? หรือ ของพวกนั้นจะต้องให้ข้าจ่ายเงินถึงจะนับ?”
พวกผู้คนในหมู่บ้านได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าตอนนี้จะมีเงินเข้ากระเป๋าแล้ว
ดังนั้นท่าทางของแต่ละคนจึงเบิกบานกันมาก
“เื่นี้ ข้าว่าไม่ต้องใช้เงินหรอก ที่ดีที่สุดเ้าบอกเคล็ดลับของเ้ามาดีกว่า”
“เอาเงินเถิด...มาคำนวณเงินกันตอนนี้ดีที่สุด”
“ไอ๊หยา ไม่จำเป็หรอก จะอย่างไรตอนนี้สกุลเฉินก็เป็คนในหมู่บ้านของพวกเรา ให้นางบอกเคล็ดลับออกมา เื่นี้ถึงจะยุติธรรมแล้ว”
คนในหมู่บ้านแบ่งออกเป็สองฝ่าย จึงเกิดการโต้แย้งขึ้นมา
เฉินเนี้ยนหรานเพียงแค่ยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ มองพวกคนในหมู่บ้านน่าขันพวกนี้อย่างใจเย็น คาดไม่ถึงเลย เพราะเื่เคล็ดลับ นางสามารถพูดออกมามั่วๆ ได้ ส่วนเื่เงินจะคำนวณกันออกมาอย่างไรล่ะ?
ผู้ใหญ่บ้านครุ่นคิดว่าจะเอาเงินหรือเคล็ดลับ เื่นี้เป็อะไรที่ยาก หากจะเอาเงินก็คิดราคาลำบาก หาก้าสูตร ถ้านางจงใจพูดสูตรไม่ดีออกมา ถึงตอนนั้นจะกลับคำพูดว่าเคล็ดลับของข้าเป็เช่นนี้ พวกเ้าทำไม่ดีเอง ไม่เกี่ยวกับข้า!
ในตอนนั้นทุกคนต่างทะเลาะกันเื่นี้ กลับเป็เฉินเนี้ยนหรานเห็นว่าทั้งสองฝ่ายทุ่มเถียงกันไม่หยุด จึงยกมือขึ้นมาห้ามทุกคนเอาไว้
“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าเห็นพวกท่านทะเลาะกันไปมาเช่นนี้ จนถึงพรุ่งนี้คงไม่ได้ผลสรุป ข้าจะพูดไม่กี่ประโยค ใครอยากฟังก็ฟังแล้วกัน”
ทุกคนต่างหยุดทะเลาะ แล้วมองมายังนาง
ปรายตามองใบหน้าที่ถูกแดดเผาจนดำ ในใจของเฉินเนี้ยนหรานก็ถอนหายใจ ที่นี่ทุกคนต่างทะเลาะกันเพราะความจน พูดไปแล้ว ที่คนเรามีนิสัยเห็นแก่ตัว ก็เพราะความจนนี่แหละ
รวมถึงหนิงซื่อด้วย นางก็เป็เช่นนี้ไม่ใช่หรือ
“ข้ารู้ พวกท่านเห็นว่าตอนนี้ข้ามีม้าแล้ว ทั้งวันๆ ยังออกไปทำธุรกิจในเมือง ดังนั้นพวกท่านจึงคิดว่าจะต้องหาเงินมาได้มากมาย ส่วนเื่หาเงินมาได้เท่าไรนั้น ข้าว่าข้าไม่มีความจำเป็อะไรที่ต้องบอกกับพวกท่านนะ”
“ส่วนเื่ขุดของกินบนูเานั้น เื่นี้ข้ายอมรับ ก่อนหน้านี้ข้ากับน้องสาวขึ้นเขาไปขุดหัวบุกจริงๆ แต่ข้าอยากถามพวกท่านจริงๆ ว่า ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ หัวบุกมากมายบนูเาพวกท่านไม่คิดสนใจ แต่หลังจากที่ข้าเอาของพวกนี้ออกไปขาย พวกท่านกลับมาสนใจอยากให้ข้าจ่ายเงิน ทุกหมู่บ้านทั้งโลกต่างมีเหตุผลเช่นนี้หรือ? อีกอย่าง สูตรนี้เป็ของข้า หากเป็พวกท่านคนใดคนหนึ่งมาถือสูตรนี้เอาไว้ จะเอามันมาบอกหรือ จะแบ่งให้ทุกคนหรือ?”
เมื่อทุกคนถูกถามเช่นนี้ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เป็เช่นนั้นจริงๆ เื่นี้ทุกคนต่างเข้าใจดี หากมีเคล็ดลับอะไรอยู่ในมือจะต้องไม่มีทางหยิบออกมาแน่ หากหยิบออกมาจะเรียกว่าเคล็ดลับได้อย่างไร
“อย่างเช่นลุงสกุลหม่าที่ทำเนยที่แสนพิเศษออกมา ท่านจะเอาเคล็ดลับสูตรพิเศษออกมาหรือ? ไม่หรอก หากท่านเอาออกมาบอก เช่นนั้นท่านจะไม่มีเนยสุดพิเศษนี้ขายแล้ว
ยังมีสกุลหวังของหมู่บ้านเรา ครอบครัวของท่านดองเหล้ารสชาติไม่เหมือนใคร ท่านจะยอมเอาเคล็ดลับนี้ออกมาบอกคนอื่นหรือ? คำตอบก็คือไม่ ดังนั้นข้าขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังสักหน่อยนะ เพราะข้าขึ้นไปขุดของที่แต่ก่อนพวกท่านไม่เคยสนใจ ตอนนี้พวกท่านกลับเห็นข้าหาเงินได้ จึงอยากได้เงิน อยากได้เคล็ดลับ แบบนี้มันไม่สมเหตุสมผล บนโลกนี้มีคำว่าเหตุผลอยู่นะ”
ทุกคนฮือฮา บนใบหน้าของทุกคนมีความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจ้าวชุนฮวา เมื่อเห็นทุกคนไม่เอ่ยเสียงออกมา นางคิดว่าอย่างไรก็คิดจะมีเื่กับเฉินเนี้ยนหรานให้ได้ นางจะหาเื่จนถึงที่สุด
ดังนั้นจ้าวชุนฮวาจึงโวยวายออกมา “เคล็ดลับของพวกเขาน่ะไม่ยอมให้มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเคล็ดลับของเ้าน่ะไม่พูดก็ได้ แต่เ้าขุดทรัพย์สินที่เป็ของพวกเราทุกคนสมควรจ่ายเงิน ตอนนี้พวกเราไม่สนใจว่าเคล็ดลับของเ้าคืออะไร เ้าแค่จ่ายเงินมาให้พวกเราก็พอ ไม่พูดมากแล้ว เ้าจ่ายร้อยกว่าตำลึง ให้พวกเราทั้งหมู่บ้านได้ใช้ พวกเราจึงจะปล่อยผ่านเื่นี้ไป อย่างไรก็เป็ทรัพย์สินของคนทั้งหมู่บ้าน จะให้ครอบครัวเ้าใช้คนเดียวไม่ได้”
ร้อยกว่าตำลึง พวกคนในหมู่บ้านต่างตะลึง ถึงแม้จะเป็ผู้ใหญ่บ้านเองก็รู้สึกว่าเงินจำนวนนี้มากไปเสียหน่อย แต่ว่า เงินจำนวนมากนี้ก็ไม่ใช่ของตัวเอง อย่างไรยิ่งเฉินเนี้ยนหรานจ่ายมากเท่าไร พวกเรายิ่งได้เยอะมากเท่านั้น....
แม้จะรู้ว่าเฉินเนี้ยนหรานยืนอยู่บนเหตุผล เป็คนที่ถูกใส่ร้าย แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เงินร้อยกว่าตำลึง ขอโทษด้วย ข้าจะไม่ให้พวกท่านสักตำลึง เื่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ทำไมข้าจะต้องให้พวกท่าน?”
ทุกคนถูกถามเช่นนี้ก็ชะงักไป แต่จ้าวชุนฮวากลับเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก “โอ้ โอ้ ไม่ให้หรือ ได้ ไม่ให้ก็ออกไป”
“ทำไมข้าจะต้องย้ายออกไป? ตอนนี้ทะเบียนบ้านข้าก็อยู่ที่นี่ ที่นาข้าก็ซื้อแล้ว เ้าพูดกับข้าสิว่าทำไมข้าจะต้องย้ายออกไปเพราะเื่เช่นนี้?”
จ้าวชุนฮวาถูกถามเช่นนี้ก็ฉุนขึ้นมา คอของนางแข็งเกร็ง ะโออกมาอย่างไร้เหตุผล “มีสิทธิ์อะไร เ้าไม่ใช่คนที่เกิดและโตที่นี่ ดังนั้นพวกเราจะให้เ้าย้ายออกไปก็ต้องย้าย”
“แค่ก...แค่ก...” หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าการทะเลาะนี้ยิ่งไร้สาระไปเรื่อยๆ แล้ว เื่นี้ หากจะพูดกันที่ว่าการปกครอง นางใช้เงินซื้อที่ดินมา ตอนนี้จ้าวชุนฮวาบอกให้นางย้ายออกไปก็ออกไป ต่อไปหากหมู่บ้านได้ชื่อว่าเป็าาเอาแต่ใจเช่นนั้นก็จบแล้ว
ในมุมมองของคนที่มีสายตากว้างไกลท่าทีของเฉินเนี้ยนหรานแข็งแกร่งมาก เกรงว่าเื่มันจะทะเลาะกันใหญ่แล้วจริงๆ คราวนี้ผลประโยชน์ก็ไม่มีแล้ว จึงพูดเริ่มพูดโน้มน้าว
“เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกคนต่างเป็คนในหมู่บ้านเดียวกัน จะมาพูดจาแย่ๆ กันทำไม”
สิ่งที่เฉินเนี้ยนหราน้าก็คือคำพูดนี้ ก่อนหน้านี้ที่นางไม่ยอมถอยมาตลอด ก็เพื่อการต่อรองในตอนนี้ เพราะว่านางในตอนนี้ยังไม่ค่อยมีสิทธิ์ในการพูดมากเท่าไรนัก หากนางคิดที่จะไม่เสียอะไรเลย ก็คงจะยากอยู่เสียหน่อย นอกเสียจากไม่อยากอยู่ในหมู่บ้านนี้อีกแล้ว
เหล่าชาวบ้านที่ทั้งใสซื่อทั้งโง่เง่า ขอแค่ใช้งานอย่างสมเหตุสมผล ก็จะกลายเป็มีดที่คมกริบ และจะกลายเป็ตัวช่วยของนาง!
“ใช่ ต่างเป็คนในหมู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น ทุกคนพูดเหมือนเป็คนนอกมากมายไปทำไม? มีเงินก็ช่วยกันหา มีงานก็ทำด้วยกัน ข้าเฉินเนี้ยนหรานที่เป็แม่ม่ายตัวคนเดียว พาน้องสาวสองคนมาอาศัยที่นี่ก็เพื่ออยากจะพึ่งพิงที่ดินเลี้ยงดูชีวิต แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย ดังนั้นอยากจะพัฒนางานเสริมขึ้นมา หาเงินเล็กๆ น้อยๆ จะอย่างไรเงินพวกนี้ก็สามารถเลี้ยงดูน้องสาวสองคนให้เติบโตได้ ให้น้องสาวยังมีชีวิตรอดอยู่ หรือจะให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกชะตาชีวิตบีบคั้นจนตายไปหรือ”
คำพูดที่จริงใจพวกนี้ ได้รับการเห็นด้วยจากทุกคน
จากการย้ำเตือนของนาง ทุกคนถึงได้เข้าใจ แม่ม่ายที่ถูกบีบออกจากเรือน ทั้งยังพาน้องสาวสองคนออกมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ จะมาเลี้ยงตัวเองก็เป็อะไรที่ยากจริงๆ แม้แต่พวกครอบครัวที่มีบุรุษอยู่ในเรือน ก็มักจะกินไม่อิ่มไม่มีเสื้ออุ่นๆ ใส่ ต้องคอยพึ่งพาธรรมชาติหากิน
หากรายได้ที่ได้รับย่ำแย่ บรรดาสตรีที่มีพวกบุรุษอยู่ที่เรือนคอยเลี้ยงดูมาตลอดอาจจะหิวตาย ส่วนนางเป็สตรีที่ต้องหาเงินเอง มันง่ายนักหรือ!
พอมาถึงตรงนี้ ความเมตตาที่มีอยู่ในตัวของคนในหมู่บ้านเริ่มแพร่กระจายออกไป ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มดีกับน้องห้าและน้องหกขึ้นมาก พอมาต่อรองกับเฉินเนี้ยนหรานอีกครั้ง ก็ปฏิบัติราวกับเป็คนในครอบครัวเดียวกันอย่างไรอย่างนั้น....