เหลยซื่อรู้สึกว่าคำขอบคุณของฮูหยินบ้านรองช่างบาดหูเสียเหลือเกิน สายตาของนางหยุดอยู่ที่ถุงเงินใบนั้น ราวกับคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะมองมายังทิศทางของตน
“ดูแล้วนี่เป็เพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ถุงเงินใบนี้ก็ไม่ทราบว่าเป็ผู้ใดทำตกไว้ ดูจากลักษณะ ผู้ที่ไม่ทราบอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็ของคุณชายซีได้” ทั้งๆ ที่ผู้อื่นไม่ได้มีอันตราย แต่คนของตนกลับนำถุงเงินใบนี้มาสร้างความเข้าใจผิดให้ฮูหยินบ้านรอง เกรงว่าครานี้นางจะทำให้ฮูหยินบ้านรองคิดว่าตนมีเจตนาอื่นแอบแฝง เหลยซื่ออดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ ข้ารับใช้กลุ่มนี้มีตาหามีแววไม่ หยิบของพรรค์นี้มารายงานตามใจชอบไปเสียได้
หันมองหลิ่วอวิ๋นซูที่อยู่ข้างๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวโชคร้ายนี้กันแน่ ถึงสามารถหาตัวคุณชายซีกลับมาได้ ช่างดวงแข็งเสียจริง ชั่วพริบตานั้นเหลยซื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนางครู่หนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว หรือตนจะมองผิดไป?
ดวงจันทราที่เพิ่งจะปีนป่ายขึ้นสู่ท้องฟ้าส่องแสงลงสู่ผืนป่าแห่งนี้ สตรีตรงหน้าดูสงบเยือกเย็นเป็พิเศษ ราวกับกลายเป็อีกคนหนึ่งก็มิปาน บนร่างของนางแผ่กลิ่นอายความสุขุมออกมาอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ทำให้เหลยซื่อบังเกิดความหวาดกลัวในใจอย่างมิอาจอธิบายได้
“ทำให้ท่านแม่ต้องกังวลแล้ว อวิ๋นซูสมควรให้อวี้เอ๋อร์ไปบอกกล่าวท่านแม่เสียหน่อย ทำให้ทุกคนร้อนใจแล้ว” อวิ๋นซูกล่าวเช่นนี้ นับว่าเป็การมอบทางลงให้แก่เหลยซื่อ
ความรู้สึกดีๆ ที่ฮูหยินบ้านรองมีต่อนางยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลายส่วน ผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมล้วนเข้าใจเหตุการณ์กระจ่างชัด เมื่อครู่เหลยซื่อ้าใช้หลิ่วอวิ๋นซูเป็ตัวตายตัวแทน ไม่นึกว่านางกลับสยบความมุ่งร้ายด้วยการวางเฉย เข้าใจหลักเหตุผล รู้จักมองภาพรวมเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้คนรู้สึกเอ็นดูจริงๆ
“...เด็กดี ไม่าเ็ตรงไหนใช่หรือไม่? เอาเถิด จำไว้ว่าคราวหน้าต้องระวังความปลอดภัยของตนเองด้วย” นางยื่นมือไปจับไหล่ของอวิ๋นซูเบาๆ นางในตอนนี้สามารถเรียกคืนท่าทางสง่างามใจกว้างเช่นยามปกติได้แล้ว ในสายตาของผู้อื่น เหลยซื่อเป็ผู้ที่มีจิตใจเมตตาอารีต่อลูกอนุภรรยา เป็ภรรยาเอกที่หาได้ยากยิ่ง “ยังไม่รีบพาคุณหนูหกกลับไปพักผ่อนที่จวนอีก!”
คำกล่าวนี้เอ่ยกับอวี้เอ๋อร์ที่อยู่ในมุมอับสายตา แววตาของเหลยซื่อคมกริบ ไม่รู้ว่าเป็สาวใช้นางนี้ที่พาอวิ๋นซูออกไปจากจวนหรือไม่ ด้วยสภาพของนางในยามนั้นเกรงว่าไม่อาจยืนขึ้นได้ พริบตาเดียวเหลยซื่อก็ผลักความผิดทั้งหมดไปให้อวี้เอ๋อร์ อย่างไรเสียผู้ที่มีความสัมพันธ์กับหลิ่วอวิ๋นซูก็ล้วนทำให้นางรู้สึกรังเกียจ
“เฉิงซี ยังไม่รีบขอบคุณท่านป้าสะใภ้อีก”
ฮูหยินบ้านรองจับหลิ่วเฉิงซีให้หันกายมา ทว่าสายตาของผู้เยาว์นั้นราวกับเจือแววปรปักษ์อยู่จางๆ ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลยซื่อพลันแข็งค้าง
“...ขอบคุณขอรับท่านป้าสะใภ้”
ก่อนจากไป หลิ่วเฉิงซีทอดสายตามองเงาร่างของอวิ๋นซูอย่างลึกล้ำ แล้วจึงตามฮูหยินบ้านรองออกจากป่าที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าหวาดกลัวอย่างระมัดระวัง
...
“คุณหนู เหตุใดจึงไม่ให้คุณชายซีกล่าวความจริงเ้าคะ” อวี้เอ๋อร์มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ ยามที่พวกนางหาตัวคุณชายซีพบในป่า เขากำลังเกาะอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งอย่างหวาดกลัว ใต้ต้นไม้มีสุนัขป่าหิวโซตัวหนึ่งจับจ้อง สถานการณ์อันตรายสุดคณานับ
เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์นั้น อวี้เอ๋อร์สั่นเทาอย่างไม่อาจระงับ ไม่นึกว่าคุณหนูจะมีความกล้าหาญเช่นนั้น ตัวนางคนเดียวใช้คบเพลิงและก้อนหินไล่สุนัขป่าตัวนั้นไปได้ ทั้งยังช่วยคุณชายซีลงมาจากต้นไม้
“คุณชายซีเกิดเื่ในจวนโหว ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็หนีความผิดไม่พ้น” ดวงตาของอวิ๋นซูเปล่งประกาย อวี้เอ๋อร์กล่าวว่าคนของจวนโหวพบถุงเงินของคุณชายซี คาดว่าเหลยซื่อผู้นั้นคิดว่าคุณชายซีได้ประสบเคราะห์ถึงแก่ชีวิตไปแล้วเป็แน่ นางจึงวางแผนผลักความผิดทั้งหมดมาที่ตน
ยามเมื่อฮูหยินบ้านรองเห็นถุงเงินที่ถูกสุนัขป่ากัดขาดในมือ แล้วได้เห็นคุณชายซีที่กลับมาอย่างปลอดภัยไร้อันตราย ยามนั้นเจตนาร้ายของเหลยซื่อก็ได้ถูกเปิดเผยจนหมดสิ้น
นางเป็เพียงลูกอนุภรรยาตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ทั้งยังถูกตัดสินชี้ขาดว่าเป็ตัวโชคร้ายที่ทำให้คนตาย ในเขตเรือนลึกท่ามกลางจวนโหวแห่งนี้ย่อมอยู่อย่างยากลำบากเป็แน่ ดังนั้นนางจำเป็ต้องระมัดระวังทุกสิ่งอย่าง มองหามิตรสหายที่สามารถช่วยนางได้ ก่อนที่นางจะได้ล้างแค้น นางจะไม่ยอมให้ตนเองเป็อะไรไปโดยเด็ดขาด! ชีวิตนี้ของนางมีไว้เพื่อทวงหนี้แค้น!
อวี้เอ๋อร์ราวกับเห็นประกายในดวงตาของอวิ๋นซู คุณหนูเป็เช่นนี้ช่างทำให้นางปวดใจเหลือเกิน นางยังจำคุณหนูที่ไร้กังวลในหมู่บ้านได้ ยังจำรอยยิ้มที่แย้มบานบนใบหน้าด้วยความสุขและความตื่นเต้น ยามเมื่อนางได้ยินว่าคนของจวนโหวมารับกลับได้ ท่าทางช่างแตกต่างกับตอนนี้ราวผืนฟ้ากับหุบเหว
อย่างไรก็ตามครอบครัวชั้นสูงไม่ได้เป็เฉกเช่นคำที่ผู้คนในหมู่บ้านกล่าวกันดังที่ว่า ชีวิตสำราญด้วยภัตตาหารหยกภูษาทองพร้อมพรั่งด้วยชื่อเสียงเกียรติยศ อย่างน้อยสิ่งที่นางเห็นก็เป็เื่ที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดเกรงทั้งยากจะคาดเดา
เมื่อกลับถึงห้อง อวี้เอ๋อร์จึงพาชุ่ยเอ๋อร์ที่ยังอกสั่นขวัญผวาออกมา
“เป็เหลยซื่อที่ให้เ้าทำเื่เหล่านี้ใช่หรือไม่?” เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา ทั้งสองต่างตะลึงงัน คุณหนูถึงกับเรียกมารดาเลี้ยงของตนผู้เป็ภรรยาเอกเช่นนี้...
“คุณหนู ชุ่ยเอ๋อร์ไม่ทราบจริงๆ เ้าค่ะ ยามนั้นมีคนนำเงินให้บ่าวหนึ่งแท่ง ให้บ่าวและฮูหยินกล่าวว่าเป็คุณหนูที่พาคุณชายซีมาเล่นด้วยตัวเอง ทั้งยังให้ชุ่ยเอ๋อร์พาคุณชายซีไปทีู่เาด้านหลัง เพียงแค่นี้เท่านั้น เขาไม่ได้บอกว่าเป็คนของเรือนใด” ชุ่ยเอ๋อร์เช็ดน้ำตา เวลานี้นางรู้สึกเสียใจเหลือประมาณ ทั้งยังรู้สึกได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่ตนจนกระทั่งตอนนี้ และพร้อมจะฆ่านางได้ทุกเวลา
อวิ๋นซูนั่งอยู่เช่นนั้น นิ้วชี้เคาะบนโต๊ะเบาๆ นางไม่มองไปบนพื้นที่ซึ่งสาวใช้กำลังร้องขออภัยอยู่ ราวกับกำลังพิจารณาว่าควรจะลงโทษคนที่ทรยศตนเช่นไรดี
อวี้เอ๋อร์ส่งสายตาให้ชุ่ยเอ๋อร์อย่างร้อนรน นางคลานเข้ามากอดขาของอวิ๋นซูโดยพลัน “คุณหนู ชุ่ยเอ๋อร์สาบานว่าวันหน้าจะไม่ขายคุณหนูอีกแล้ว ชุ่ยเอ๋อร์ผิดไปแล้ว ชุ่ยเอ๋อร์ไม่กล้าแล้วเ้าค่ะ!”
หลังจากความเงียบงันขณะหนึ่งผ่านพ้นไป จึงเปิดปากกล่าวอย่างเรียบเฉย “เ้าสาบาน?”
ใบหน้าของชุ่ยเอ๋อร์ปรากฏความยินดี “ชุ่ยเอ๋อร์สาบานเ้าค่ะ! หากผิดคำพูด ขอให้ชุ่ยเอ๋อร์ถูกฟ้าผ่า ไม่ได้ตายดี!”
สีหน้าของอวิ๋นซูอ่อนลงเล็กน้อย ยื่นมือไปประคองนางลุกขึ้น “ดี ข้าจะเชื่อเ้าสักครั้ง ไปเถิด”
“ขอบคุณคุณหนูเ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนู”
มองเงาร่างที่วิ่งออกไปราวรอดตายจากภัยพิบัติเช่นนั้น อวี้เอ๋อร์ก็ซาบซึ้งใจเหลือคณนา มีเพียงอวิ๋นซูที่ทราบดีว่าคนที่ทรยศนางได้ครั้งหนึ่ง ย่อมไม่อาจใช้งานได้อีกเป็อันขาด
“คุณหนูเ้าคะ พรุ่งนี้ฮูหยินผู้เฒ่าและเหล่าคุณหนูคุณชายจะกลับมาแล้วเ้าค่ะ”
อวิ๋นซูเงยหน้ามองนาง อวี้เอ๋อร์กล่าวอธิบายว่า “เนื่องจากท่านโหว้าพาคุณหนูกลับมา ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงพาอนุภรรยาแต่ละเรือนและคุณหนูคุณชายทุกคนไปวัดเทียนฝูเพื่อขอพรให้คุณหนู และคุ้มครองจวนโหวให้เจริญรุ่งเรือง”
ขอพรแน่หรือ? กังวลว่าตัวโชคร้ายอย่างตนเองเข้าจวนมาแล้วจะส่งต่อความโชคร้ายให้พวกเขาเสียมากกว่า พูดจาสวยหรูว่าจะขอพรให้ตน แท้จริงแล้วก็แค่อยากจะหลบเลี่ยงตนเองเท่านั้น หากเป็หลิ่วอวิ๋นซูที่เพิ่งออกมาจากหมู่บ้านชนบทคนนั้น คงจะซาบซึ้งในบุญคุณเป็อย่างยิ่ง น่าเสียดายที่ตอนนี้กลายมาเป็นางเสียแล้ว
“อวี้เอ๋อร์ พวกเรามีเงินมากหรือไม่?”
อวี้เอ๋อร์หยิบห่อผ้าห่อหนึ่งออกมาจากในตู้ใบหนึ่งที่ทั้งเก่าและผุพัง อวิ๋นซูมองเศษก้อนเงินก้อนหนึ่งที่วางโดดเดี่ยวอยู่ข้างใน แล้วจึงทอดถอนหายใจเบาๆ
ไม่ว่าจะกระทำเื่ใดก็ตาม หากมีเงินน้อยย่อมยากที่จะประสบความสำเร็จ