บทที่ 53 ตีให้เข็ดหลาบครั้งหนึ่ง
ใบหน้าเยาะเย้ยของฟางย่วนย่วน ทำให้โจวเป่าเฉิงนึกถึงสีหน้าของสวี่จือจือในวันที่เขาเป็ตัวแทนตระกูลลู่ เป็ตัวแทนลู่จิ่งซานไปรับเ้าสาว
ก็เป็แบบนี้! ดูถูกเหยียดหยามเขาแบบนี้!
นับั้แ่วันที่ถูกสวี่จือจือเล่นงาน แถม่นี้ลู่จิ่งซานก็อยู่บ้านตลอด โจวเป่าเฉิงจึงหาที่ระบายอารมณ์ไม่ได้
บ้านตระกูลลู่ั้แ่ลู่จิ่งซานแต่งงาน คนที่ถูกคะยั้นคะยอเื่แต่งงานไม่ใช่แค่ลู่จิ่งเหนียนคนเดียว แต่ยังมีโจวเป่าเฉิงที่อายุไล่เลี่ยกันด้วย
สองวันนี้เขาโดนเหอเสวี่ยฉินบ่นไม่น้อย
สองแม่ลูกเก็บกดกันทั้งคู่ ต้องหาสะใภ้ที่ดีกว่าสวี่จือจือให้ได้
แต่ทั่วทั้งประชาคมชีหลี่ จะมีผู้หญิงที่หน้าตาดีอย่างสวี่จือจือได้สักกี่คน พอรู้ว่ามียุวปัญญาชนมาที่หมู่บ้าน ตอนแรกโจวเป่าเฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
ยุวปัญญาชนน่ะ หมู่บ้านพวกเขาก็เคยมีมาแล้วตั้งหลายคน
อย่ามองว่าพวกผู้หญิงมาจากในเมือง แต่ถ้าเื่ความสวยยังสู้สาวๆ ในประชาคมชีหลี่ของเขาไม่ได้หรอก
กระทั่งวันหนึ่งโจวเป่าเฉิงออกไปเดินเตร็ดเตร่ แล้วก็ได้เจอกับฟางย่วนย่วน แม้ว่าฟางย่วนย่วนจะไม่ได้สวยหมดจดอย่างสวี่จือจือ แต่เธอแต่งตัวเก่ง ใส่เสื้อผ้าทันสมัย ดึงดูดสายตาโจวเป่าเฉิงได้ในทันที เด็กในเมืองอ่านออกเขียนได้ ได้ยินว่าฐานะทางบ้านในเมืองหลวงก็ดี
ถ้าเขาได้แต่งงานกับฟางย่วนย่วน ในที่สุดเขาก็จะมีเื่ที่เหนือกว่าลู่จิ่งซานได้สักที!
แต่ฟางย่วนย่วนกลับไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเหมือนกับสวี่จือจือ กล้าไล่เขาไปไกลๆ!
“นายจะทำอะไร?” ฟางย่วนย่วนพูดเสียงดุดัน “ทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ เชื่อไหมว่าฉันจะทำให้นายติดคุก”
“ติดคุก?” โจวเป่าเฉิงยิ้มอย่างน่ารังเกียจแล้วพูด “เดี๋ยวพอฉันทำให้เธอสุขสมแล้ว เธอก็ทำฉันติดคุกไม่ลงหรอก”
พอได้เธอแล้ว คอยดูนะว่ารองเท้าผุๆ อย่างเธอจะกล้าดูถูกเขาอีกไหม? ถึงตอนนั้นต่อให้ร้องไห้ขอให้เขาแต่งงานด้วย เขาก็ต้องดูอารมณ์ก่อน!
พวกไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเอ๊ย!
โจวเป่าเฉิงพูดจบก็คว้ามือฟางย่วนย่วนไว้ หมายจะเอาปากเหม็นๆ ไปจูบแก้มเธอ
ฟางย่วนย่วนไม่มีทางยอมให้เขาข่มเหงง่ายๆ แน่นอน สองมือจึงข่วนไปที่ใบหน้าเขา “ปล่อยฉันนะ ถ้ารู้ถึงหูพ่อฉัน เขาฆ่านายแน่”
“ฆ่า?” โจวเป่าเฉิงหัวเราะคิกคัก “รอเธอเป็คนของฉันก่อน พวกเขาคงจะรักใคร่เอ็นดูฉันจนแทบไม่ทัน”
พูดจบก็เอามือปิดปากฟางย่วนย่วนไว้แล้วลากเธอไปที่เปลี่ยว
ขณะที่กำลังเดินอยู่ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้ายทอย หันไปก็เห็นสวี่จือจือมองเขาด้วยสีหน้ารังเกียจ “นึกว่านายมันแค่คนหน้าไม่อาย นึกไม่ถึงว่านายมันเทียบไม่ได้แม้แต่สัตว์เดรัจฉาน”
โจวเป่าเฉิงลูบท้ายทอย กัดฟันกรามไว้แน่น กอดฟางย่วนย่วนไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดอย่างดุดัน “นังตัวดี มาได้จังหวะพอดีเลย งั้นวันนี้ฉันจะทำมันพร้อมกันสองคนเลย”
ได้ยินว่าพวกเขายังไม่ได้เข้าหอกัน ไม่รู้ว่าลู่จิ่งซานใช้การไม่ได้หรือเปล่า แต่ก็ดี ให้เขาได้ชิมลางก่อน
“ทำเหรอ...แม่จะกระทืบนายให้ฟันร่วงก่อน” สวี่จือจือโมโหแทบตายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอออกมาเดินเล่นบังเอิญมาเจอเข้า วันนี้ฟางย่วนย่วนคงถูกไอ้เดรัจฉานนี่ข่มขืนไปแล้ว แถมดูจากวิธีการของเขา เื่แบบนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ
อดนึกถึงข่าวลือในนิยายไม่ได้ ที่ว่ามีเด็กสาวหลายคนที่ถูกโจวเป่าเฉิงข่มขืน แต่พวกเธอก็ไม่กล้าพูด เพราะคิดว่าลูกสาวแบบนี้มันน่าอับอาย สุดท้ายก็หาที่ห่างไกลให้แต่งงานออกไป คิดแล้วก็ยิ่งโมโห
พอฟางย่วนย่วนเห็นท่าทางของสวี่จือจือ จิตใจที่กำลังตื่นตระหนกก็สงบลง เหยียบเท้าโจวเป่าเฉิงอย่างแรง
โจวเป่าเฉิงร้องออกมาด้วยความเ็ป แต่เขาก็ไม่กล้าส่งเสียงดัง กลัวว่าคนจะแห่กันมา
“ปล่อย” สวี่จือจือพูดคำหนึ่ง ในตอนที่โจวเป่าเฉิงยังไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็หาไม้มาจากไหนไม่รู้ แล้วเริ่มตีใส่ตัวและใบหน้าของโจวเป่าเฉิง
ไม่มีคำว่าเบาที่สุด มีแต่แรงที่สุด
โจวเป่าเฉิงเอามือป้องศีรษะ ป้องกันที่ตัวไม่ได้
“อย่าตีเลย” เขาร้องขอความเมตตา “ต่อไปนี้ผมไม่กล้าอีกแล้ว พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ที่แสนดี ได้โปรดเถอะ”
สวี่จือจือไม่เชื่อคำพูดของเขาหรอก คนแบบนี้ถ้าไม่ตีให้เข็ดหลาบครั้งหนึ่ง จะต้องมีครั้งที่สอง!
“เธอมานี่สิ” เธอตีจนเหนื่อยแล้วก็ยื่นไม้ในมือให้ฟางย่วนย่วน “ตีเลย ไอ้สารเลวแบบนี้ ตีจนตายก็ไม่ต้องกลัว”
ฟางย่วนย่วนเป็คนหยิ่งยโส แต่ก็เป็เด็กสาวที่ไร้เดียงสา ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องเจอเื่แบบนี้ ในใจทั้งหวาดกลัวทั้งโมโห
เธอรับไม้มา มองสายตาให้กำลังใจของสวี่จือจือ แล้วเลียนแบบอีกฝ่ายตีโจวเป่าเฉิงอย่างแรง
แต่แรงของเธอจะไปสู้สวี่จือจือได้ยังไง ตีบนตัวโจวเป่าเฉิงแล้วไม่มีความเสียหายอะไรเลย แถมเพราะโกรธจนตัวสั่นยังจับไม้ไม่แน่น ถูกโจวเป่าเฉิงแย่งไปเสียอีก
สวี่จือจือ “...” พี่สาว ทำไมถึงไร้ประโยชน์ขนาดนี้! นี่เธอมาเป็ตัวโจ๊กหรือเปล่า? นี่ฉันให้เธอระบายอารมณ์ซ้อมคนนะ ไม่ใช่ให้เธอมาเป็ตัวถ่วง!
ฟางย่วนย่วนยิ่งอัดอั้นจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“ตีฉัน!” โจวเป่าเฉิงเช็ดคราบเืที่มุมปาก “นังตัวดี ฉันไม่เอาเธอไว้แน่” เขาไม่ได้มีนิสัยไม่ทำร้ายผู้หญิงอะไรนั่นหรอกนะ
โจวเป่าเฉิงถือไม้ด้วยสีหน้าดำคล้ำ จ้องมองสวี่จือจืออย่างไม่ลดละ ยิ้มอย่างเ้าเล่ห์แล้วพูด “แต่ถ้าเธอขอร้องฉัน ให้ฉันได้สุขสม ฉันก็จะยกโทษให้เธอ”
“ให้นายสุขสม?” สวี่จือจือยิ้มเยาะ “ทำยังไงถึงจะเรียกว่าให้นายสุขสม?”
“ถ้าเธอคุกเข่าเลียเท้าให้ฉัน...” โจวเป่าเฉิงหัวเราะคิกคัก “บางที...”
“สารเลวอย่างนาย มีชีวิตอยู่ไปก็สิ้นเปลือง แม้แต่อากาศบริสุทธิ์ก็ไม่คู่ควร” สวี่จือจือโมโหแทบตาย ไม้ถูกโจวเป่าเฉิงแย่งไปแล้ว แต่เธอยังมีเท้า เตะเข้าที่เป้าของโจวเป่าเฉิงอย่างแรง
เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีเตะเข้าไป เกือบจะเอาชีวิตโจวเป่าเฉิงไปเลย
ไม้หล่นลงพื้นดังปั้ก สองมือกุมตรงส่วนนั้นไว้ด้วยความเ็ป
เจ็บ! เจ็บแทบตายแล้ว!
โจวเป่าเฉิงตัวงอ นั่งลงก็ปวดยืนก็ปวด ทำได้เพียงย่อตัวลงแล้วเกร็งขาให้มั่น เส้นเืที่ขมับปูดออกมา ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเ็ป แล้วจ้องมองสวี่จือจือด้วยดวงตาเบิกกว้าง
สายตานั้นเหมือนกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว แต่คำพูดหยาบคายในปากกลับไม่กล้าพูดออกมาอีก
คนที่มีความสามารถไม่ยอมให้ตัวเองถูกเอารัดเอาเปรียบ
“คนแบบนี้ต้องตีให้เข็ดหลาบครั้งหนึ่ง” หลังจากที่ทั้งสองคนเดินมาถึงถนนใหญ่ สวี่จือจือก็สะบัดมือฟางย่วนย่วนอย่างรังเกียจ “ต่อไปนี้อย่าวิ่งซี้ซั้ว”
“สวี่จือจือ เธอเก่งมากจริงๆ” ฟางย่วนย่วนพูดด้วยสายตาชื่นชม “เธอเป็ผู้หญิงคนที่สองที่ฉันนับถือที่สุดเท่าที่เคยเจอมา” ส่วนคนที่นับถือคนแรกคือบรรพบุรุษคนนั้นที่บ้านเธอ
สวี่จือจือกลอกตา “นั่นเป็เพราะเธออ่อนหัดเกินไป” แล้วพูดอีกว่า “ครั้งนี้โจวเป่าเฉิงจะต้องผูกใจเจ็บแน่ ต่อไปเธอห้ามอยู่คนเดียว”
“สวี่จือจือ ขอบใจนะ” ฟางย่วนย่วนพูดด้วยความซาบซึ้ง “เธอเองก็ระวังตัวด้วย”
หลังจากที่เด็กสาวทั้งสองคนเดินจากไป โจวเป่าเฉิงถึงค่อยๆ หายเจ็บ ยันกำแพงลุกขึ้นยืน มองไปยังทิศทางที่พวกเธอจากไปด้วยสายตาอาฆาตแค้น
สวี่จือจือ ทางที่ดีเธอจงภาวนาอย่าให้ตกมาอยู่ในมือฉันเลย ไม่งั้น...
โครม!
เขายังไม่ทันได้พูดคำขู่ออกมา ก็ถูกใครบางคนยกตัวขึ้นแล้วโยนลงไปในบ่ออุจจาระหลังบ้านใครไม่รู้
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้