โชคดีฉันได้สามีสามคน

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    จิรภาอยู่ด้านหลัง ใช้ฝ่ามือและปลายนิ้วลูบฟองสบู่ลงบนผิวของมารตี มือเธอนุ่ม อ่อนโยน แ๶่๥เบา และชำนาญในทุกจังหวะ๼ั๬๶ั๼ จากต้นคอ…สู่หัวไหล่…ไล้ลงไปที่แผ่นหลัง แล้ววกกลับขึ้นมาวนเบาๆ ที่แอ่งสะบัก เสียงน้ำ…เสียงลมหายใจ…เสียงหัวใจของเธอที่เริ่มดังขึ้นในอก เธอไม่เร่ง ไม่รุก ไม่กดดัน แต่กลับค่อยๆ ใช้มือเป็๲เหมือนพู่กัน ละเลงความรู้สึกอุ่นวาบลงบนร่างงามทีละเส้นทีละส่วน

    แต่…ในใจของมารตี ขณะที่ร่างเธอกำลังตอบสนองต่อการ๱ั๣๵ั๱นั้น หัวใจของเธอกลับกำลังหวนคิดถึงภาพของหนุ่มน้อยในชุดเสื้อเชิ้ตขาวสะอาด กางเกงผ้าสีเข้ม นัทพงษ์…ผู้ชายที่ไม่เคย๱ั๣๵ั๱ตัวเธอเลยสักครั้ง แต่กลับสามารถจุดไฟในใจเธอให้ลุกขึ้นทุกครั้งที่คิดถึง เธอหลับตา ปล่อยให้จิรภาลูบไล้ฝ่ามือลงบนแขน แต่มือข้างหนึ่งของเธอแอบกำไว้แน่นแนบอก ไม่ใช่เพราะกลัว…แต่เพราะคิดถึงใครบางคนมากเกินไป

    “รตีรู้ไหม…” จิรภาเอ่ยขึ้นเบาๆ เสียงหล่อนแทบจะกลืนไปกับเสียงน้ำ “…เธอเหมือนทะเลตอนกลางคืน สงบจนใครบางคนอยากกระโจนลงไป แต่ลึกเกินกว่าจะหยั่งถึง”

    มารตีลืมตาช้าๆ หันไปสบตาหญิงสาวตรงหน้า จิรภาไม่ได้จ้องเธอด้วยไฟปรารถนาอย่างที่ใครๆ ทำ แต่ด้วยแววตาเข้าใจ และเว้นระยะให้เธอได้หายใจเป็๞ของตัวเอง

    “แล้วเธอไม่กลัวเหรอ…ว่าจะจมน้ำ” เธอถามกลับ

    จิรภาหัวเราะเบาๆ “บางคนไม่กลัวจมน้ำหรอกค่ะ ถ้าแค่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่…ก็พอแล้ว”

    ร่างเปลือยเปล่าของสองสาวใกล้กันมากขึ้น ฝ่ามือของจิรภาเลื่อนมาวางที่เอวมารตีอย่างแ๶่๥เบา สาวสวยกอดเธอไว้จากด้านหลัง หน้าผากแตะลงเบาๆ ที่บ่า ไม่มีจูบ ไม่มีความเร่าร้อนเร่งเร้า มีเพียงไออุ่นและเสียงน้ำที่ยังไหล และเธอก็…ปล่อยให้ตัวเองพิงกับอกอวบนุ่มหยุ่นนั้น พิงด้วยร่างกาย…แต่จิตใจยังล่องลอยไปไกล

    เธออยากรู้…ตอนนี้นัทพงษ์กำลังทำอะไร กำลังคิดถึงเธอบ้างไหม หรือเขายังมองเธอเป็๞แค่ “หัวหน้า” เขาจะรู้หรือเปล่าว่า แค่แววตาใสซื่อของเขาก็ทำให้เธอเกือบละลายทุกครั้งที่สบตา เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร ไม่ใช่แม้แต่กับปพนต์ เพราะกับปพนต์ เธอรู้ว่าตัวเองรักเขา แต่กับนัทพงษ์…มันเหมือนแรงดึงดูดที่บางครั้งก็อ่อนโยน บางครั้งก็ทรงพลังอย่างน่ากลัว

    ด้านนอกของกระจก ปพนต์และวรเมธนั่งแช่น้ำอุ่นในอ่างที่มีน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ทั้งสองต่างจิบไวน์แดงเบาๆ สลับกับพูดคุยเ๱ื่๵๹ศิลปะและความทรงจำ แต่สายตาของพวกเขาไม่ได้ละไปจากภาพตรงหน้า

    ร่างของมารตีในอ้อมแขนของจิรภา ฝักบัวปล่อยสายน้ำให้ไหลผ่านแผ่นหลังขาวเนียน นั้นจนเปียกชุ่ม

แต่ละท่าทีไม่หวือหวา ไม่วาบหวิว…แต่กลับดึงดูดสายตาอย่างประหลาด เหมือนชมภาพวาดที่มีชีวิต…อารมณ์…และความเศร้าเบาๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้แสงไฟ

    “เธอกำลังคิดถึงคนอื่น…อยู่เหรอ” วรเมธเอ่ยเบาๆ

    ปพนต์หลับตาลงช้าๆ ก่อนยิ้ม “ใช่…แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะห้ามด้วยสิ”

           วรเมธยิ้มน้อยๆ ไม่ว่าอะไรต่อ แต่ลุกขึ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกไปชั่วครู่ก็กลับมาพร้อมเด็กหนุ่มในชุดพนักงานต้อนรับคนหนึ่ง ปพนต์มองตามก่อนยิ้มน้อยๆ เหมือนจะเข้าใจความคิดของวรเมธ

           “วันนี้น้องบริการดีมากเลย พี่ให้ไปช่วยสาวสองคนนั้นอาบน้ำเป็๲รางวัลดีไหม” วรเมธบอกเสียงดังชัดเจนก่อนจะชี้มือไปที่ร่างเปลือยเปล่าที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวกั้นด้วยกระจกใส

           “เอ่อจริงๆ เหรอครับ..ที่...” เด็กหนุ่มคนนั้นหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น เขาเคยให้บริการมารตีและจิรภาหลายครั้งและแอบมองพวกเธออย่างหลงใหล

           “จริงสิ แต่นายต้องแก้ผ้าเดินเข้าไปนะ” วรเมธพูดยิ้มๆ

           เด็กหนุ่มหันไปมองหน้าปพนต์กับวรเมธอย่างแทบไม่เชื่อว่าจะเป็๞ความจริง แต่เมื่อเห็นสองคนพยักหน้าและยิ้ม เขาก็ไม่รั้งรอ รีบถอดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วไม่สนใจกระดุมเสื้อที่ขาดร่วงลงไป

           เมื่อเห็นร่างเปลือยของชายที่ไม่รู้จักเดินเข้ามา มารตีและจิรภา ๻๠ใ๽เล็กน้อยก่อนจะหันมองออกไปนอกห้องกระจก เห็นสามีของพวกเธอยิ้มพลางทำท่าทางถูตัวขณะชี้ไปที่ชายหนุ่มคนนั้น

           จริภาไวกว่าเธอเอื้อมมือๆ ไปดึงหนุ่มคนนั้นเข้ามา “ช่วยถูตัวให้พวกเราหน่อยได้ไหมจ๊ะ รูปหล่อ” เธอมองหน้าที่แดงก่ำของเขา พลางวางมือเขาบนอกอวบหยุ่นของเธอ

           ต่อจากนั้น สามร่างที่อยู่กลางสายน้ำจากฝักบัวก็ ผลัดกันนวด ผลัดกันถูตัว อย่างเพลินเพลิน และเร่าร้อน...มารตีมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความร้อนวูบที่พุ่งมาถูกเอวของเธอ หญิงสาวเหลียวหน้าไปก็เห็นมือจิรภากำลังขยับรัวๆ อยู่กลางตัวหนุ่มน้อยคนนั้น

 

    เมื่ออาบน้ำเสร็จ มารตีห่มผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ เดินออกมาพร้อมจิรภา ผมสีเข้มของเธอเปียกแนบไหล่ แต่ตาเธอยังเป็๲ประกายเหมือนคนเพิ่งตื่นจากฝัน

    ปพนต์เดินเข้ามาหา เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เขากอดเธอเบาๆ และกระซิบข้างหู “คืนนี้เธอสวยมาก…โดยเฉพาะตอนอาบน้ำเมื่อกี้นี้”

    มารตีหัวเราะฝืนๆ ไม่ตอบอะไร แต่เธอรู้ตัวดีว่าครั้งนี้ใจเธอไม่ได้อยู่ที่นี่แบบเต็มร้อย

 

    ค่ำคืนริมทะเลเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ท้องฟ้าไร้เมฆเปิดกว้างจนเห็นดาวระยิบเต็มผืนฟ้า กลิ่นเกลืออ่อนๆ ลอยมากับลมเย็นโชยจากผืนน้ำ ระเบียงไม้ริมสระของวิลล่าถูกจัดแต่งอย่างเรียบหรูสำหรับมื้อค่ำ ผ้าปูโต๊ะสีครีมอ่อน ปักลายลูกไม้ ดอกไม้สดวางกระจายเป็๲จุดๆ แสงจากเทียนหอมและไฟประทีปที่สะท้อนเงาบนผิวน้ำ สร้างบรรยากาศราวกับภาพในฝัน

 

    ปพนต์และวรเมธนั่งอยู่คนละฝั่งของโต๊ะกลม กำลังจิบไวน์แดงและคุยกันเ๱ื่๵๹วินเทจแจ๊สเบาๆ ส่วนมารตีกับจิรภาเดินควงแขนกันออกมาช้าๆ แต่คนละสวมชุดเดรสสีอ่อนต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันคือทั้งคู่ลืมใส่ชั้นในมา สองร่างงามนั้นสะท้อนแสงเทียนอย่างบางเบาและเย้ายวน เสียงเพลงแซกโซโฟนแ๶่๥เบาดังคลอ ชวนให้อารมณ์ล่องลอยไปในคืนเดือนหงายที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและบางสิ่งที่ไม่อาจมองเห็น

    จิรภาเอียงหน้ามากระซิบข้างหูมารตี “เต้นรำกันไหมคืนนี้?”

    มารตีหันไปสบตาเพื่อนสาว รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปาก “คืนนี้…ขอเต้นกับคนที่ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดหน่อยนะ”

    จิรภาหัวเราะ จับมือขาวเรียวงามของมารตีไว้แล้วดึงเบาๆ พาทั้งสองสาวก้าวออกไปยังพื้นที่หน้าระเบียง ใกล้ประทีปไฟที่เปลวไฟไหววิบวับ เหมือนใจคนที่อยู่ไม่นิ่ง เสียงแซกโซโฟนแปรเปลี่ยนจังหวะเป็๞วอลซ์ช้าๆ และใต้แสงเทียนนั้น มารตีกับจิรภาเริ่มหมุนตัวเบาๆ ราวกับกำลังเล่นละครเงียบในคืนเงียบงัน

สองร่างในเดรสบางเบาสั้นเหนือเข่าเคลื่อนตามจังหวะ ใกล้กัน ชิดกัน แล้วเว้นระยะอีกนิดให้หายใจได้

    จิรภาจับมือมารตีไว้แนบอกของตัวเอง “คืนนี้เธอสวยนะ เหมือน...ดอกกุหลาบที่ยังไม่กล้าบานเต็มที่”

    มารตีหัวเราะน้อยๆ “เพราะยังไม่เจอแดดที่ถูกจังหวะหรือเปล่า?” แต่แล้วเธอก็เงียบลงเมื่อเงยหน้าขึ้น สบตากับจิรภาที่กำลังมองเธอด้วยแววตาอบอุ่นแต่ไม่เรียกร้อง ทั้งสองเดินประคองกันกลับมาที่โต๊ะ

    มือหนึ่งของมารตียกแก้วไวน์ขึ้นมา ส่งให้จิรภาอย่างแ๵่๭เบา“สำหรับคืนนี้...เพื่อมิตรภาพที่ไม่มีเงื่อนไข”

    จิรภารับแก้วไว้ ยกขึ้นชนเบาๆ แต่ในขณะที่จิรภามองมารตีด้วยแววตาชื่นชม แต่สายตาของมารตีกลับหลุดลอยไปไกล

    เธอไม่ได้มองจิรภา ไม่ได้มองไฟประทีป หรือแม้แต่ดวงจันทร์ที่ลอยเด่น...เธอกำลังมอง “บางสิ่งที่ไม่มีอยู่ตรงหน้า” ในใจของเธอ...ภาพของนัทพงษ์ปรากฏชัดอย่างไม่ต้องพยายาม ดวงตาใสๆ ที่มักหลบตาเธอเวลายิ้ม ท่าทางเก้อเขินตอนถือเอกสารมาให้ หรือคำทักทายเบาๆ ยามเช้า

    เขา...ไม่ใช่คนที่มีเรือนกายสมบูรณ์แบบเหมือนใครในที่นี้ แต่หัวใจของเขา...กลับมีอะไรบางอย่างที่แตะลึกเข้าไปถึงใจเธอโดยไม่ทันรู้ตัว มารตียืนนิ่งไปในอ้อมแขนของจิรภา ไม่ใช่เพราะร่างไม่ขยับ แต่เพราะหัวใจเธอกำลังสั่นระรัวในความเงียบ ความผูกพันทางใจ...เหมือนสายลมจากทะเลที่ไม่อาจมองเห็น แต่มันซัดเข้ามาได้เสมอ โดยไม่ต้องมีเสียง ไม่ต้องมีคำพูด

    “คิดถึงเขาเหรอ?” จิรภาเอ่ยเบาๆ

    มารตีสะดุ้งนิดๆ แล้วหัวเราะกลบเกลื่อน “เธอนี่เข้าใจฉันดีเกินไปแล้วนะ…”

    “เพราะเธอไม่เคยเงียบตอนอยู่กับฉันนะสิ” จิรภาพูดแล้วจับมือเธอแน่นขึ้นนิด “แต่คืนนี้...เธอเงียบเหมือนคนที่ใจไม่อยู่ที่นี่”

    มารตีหลบตาไป มองทะเลมืดที่ไกลออกไป “บางทีฉันก็กลัวว่าฉันจะเริ่มรู้สึกมากเกินไป ทั้งที่มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย…”

    “ใจคนมันเลือกเองเสมอ ต่อให้เราจะพยายามไม่ให้รู้สึก” จิรภาตอบ “และบางครั้ง...แค่รู้สึกก็พอแล้ว ไม่ต้อง๱ั๣๵ั๱

    ดวงดาวยังอยู่ที่เดิม...แต่หัวใจของหญิงสาวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เธอไม่ได้ร้องขอให้เขาเข้ามาใกล้ชิด ไม่ได้ร้องขอให้เขารัก แค่ขอ...ให้เธอได้คิดถึงเขาเงียบๆ แบบนี้อีกสักคืนก็พอ เพราะบางครั้ง...ความรักที่ยังไม่เอ่ยออกมา...กลับหวานและหนักแน่นยิ่งกว่าคำใดๆ ทั้งสิ้น

    เสียงคลื่นทะเลกระทบฝั่งเบาๆ ราวกับกล่อมโลกทั้งใบให้หลับใหลในค่ำคืนแห่งการเปลี่ยนแปลง คืนที่สายลมพัดพากลิ่นไอเกลือและความลับจากใจผู้คนมาไกลถึงระเบียงไม้ของวิลล่าส่วนตัวริมทะเล

    มารตีก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม กลิ่นหอมของเทียนอโรมาลอยอบอวล แสงไฟสลัวจากเชิงเทียนริมหัวเตียงสะท้อนเงาร่างของวรเมธที่ยืนรออยู่ในชุดคลุมบางเบาสีเทาอ่อน ดวงตาคมเข้มของเขามองเธออย่างไม่เร่งเร้า ทว่าเต็มไปด้วยแรงดึงดูดอันเงียบงัน

    “คืนนี้...เรามาเป็๞ของกันและกันนะครับ” วรเมธกระซิบขณะยื่นมือมารับมือเธอ

    มารตีวางมือของเธอลงไปอย่างไม่ลังเล แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนร่างกายล่องลอยห่างออกไป...ไกลออกไปยังโต๊ะทำงานตัวนั้น ที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังยิ้มให้เธอแบบไม่เคยเสแสร้ง

    หญิงสาวไม่พูดอะไร ปล่อยให้วรเมธค่อย ๆ ประคองเธอมานั่งที่ปลายเตียง มือใหญ่ของเขาไล้จากท่อนแขนลงมาที่หลังมือ จูบเบาๆ ลงตรงข้อพับ ทำให้เธอหลับตาลงชั่วครู่ ริมฝีปากของเขาเคลื่อนไปช้าๆ ไล่จูบจากไหล่ขึ้นมาผ่านแก้มนุ่มละมุนจนถึงมุมปาก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้