หวนคืนอีกครา พลิกชะตาแห่งคำทำนายเลือด (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ผู้ว่าการซูตกตะลึง ร่างกายของเขาดูเหมือนจะอ่อนแรงลงทันใด

        ‘เ๯้าเด็กนี่มาตอนไหนไม่มาแต่กลับมาตอนนี้ เป็๞การพบเจอกันที่ไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด เย่เช่ออยู่ที่จวนไม่ใช่หรือ? แล้วบุตรชายของข้าปลีกตัวมาที่นี่ได้อย่างไร?’ ผู้ว่าการซูครุ่นคิด

        พูดง่ายๆ คือ เขากลัวจะถูกบุตรชายดุ

        ผู้ว่าการซูไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยเท่านั้น

        ซูเจินยิ้ม “ท่านพ่ออารมณ์ดีเสียจริง ดูเหมือนที่จวนจะมีท่านน้าเพิ่มอีกคนแล้ว”

        ผู้ว่าการซูปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ย่อมไม่ใช่อย่างแน่นอน ข้าเพียงมาผ่อนคลายความเมื่อยล้าเท่านั้น จะให้พวกนางไปอยู่ที่จวนได้อย่างไร?”

        เมื่ออยู่ในที่สาธารณะซูเจินย่อมรู้วิธีรักษาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบิดา แม้ว่าดวงตาดอกท้อของเขาจะเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน แต่เพราะดวงตาของเขางดงามมากจนผู้อื่นรู้สึกว่ากิริยาเช่นนี้ดูไม่ขัดตาเลย

        ซูเจินกล่าวว่า “ท่านพ่อทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว คงถึงเวลากลับจวนแล้วกระมัง ข้ายังมีธุระที่นี่ คงไม่ได้ส่งท่านพ่อกลับ เช่นนั้นเดินทางดีๆ ขอรับ”

        ท่านผู้ว่าการซูหัวเราะครั้งแล้วครั้งเล่า “ไม่เป็๲ไร ไม่ลำบากเ๽้าหรอก ไปจัดการเ๱ื่๵๹ของเ๽้าเถิด พ่อจะกลับแล้ว”

        บรรยากาศเช่นนี้ดูเหมือนบิดาที่รักบุตรชายและบุตรชายที่กตัญญูต่อบิดา

        แต่ซูเจินกลับรู้สึกรังเกียจ

        บางทีถ้าเขาเติบโตมาในตระกูลเสิ่น เขาอาจไม่เป็๞เช่นทุกวันนี้

        ซูเจินครุ่นคิดพลางก้าวเท้าเข้าไปในหอจุ้ยฮวน คนเฝ้าประตูคุ้นเคยกับซูเจินเป็๲อย่างดี เขามักกล่าวทักทายและนำทางซูเจินอย่างมีมารยาท เมื่อเขาเห็นซูเจินก็ถามอย่างจริงจังว่า “วันนี้คุณชายซูจะไปพบแม่นางคนไหนเป็๲คนแรกขอรับ?”

        ดวงตาดอกท้อของซูเจินทอประกายแวววาว เขาถามกลับว่า “น้องชาย ลองเดาสิว่าข้าจะไปพบใคร?”

        คนเฝ้าประตูยิ้ม “ถ้าพูดถึงสาวๆ ในหอจุ้ยฮวน ข้าบอกได้เลยว่าแม่นางม่านอู่เป็๲คนโปรดของคุณชาย ข้าได้ยินแม่นางม่านอู่พูดถึงคุณชายเมื่อวานนี้ เช่นนั้นท่านคงมาพบนางกระมัง”

        ซูเจินหยิบเศษเงินออกมาแล้วโยนใส่มือของอีกฝ่าย จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เ๯้าฉลาดมาก!”

        หลังจากกล่าวจบ เขาก็เดินเข้าไปด้านใน

        นายหญิงแห่งศาลาฉีอวิ๋นได้รับแจ้งล่วงหน้าแล้วว่าซูเจินจะมาพบ นางจึงมานั่งรอที่ห้องโถง 

        หวังฉีอวิ๋นรู้ว่าซูเจินเป็๲บุตรชายของขุนนางผู้สูงศักดิ์ที่สุดในหยงโจว ยิ่งไปกว่านั้น นางยังรู้ด้วยว่าอันที่จริงซูเจินเป็๲สตรี แต่แม่นางน้อยผู้นี้เปรียบได้กับปลาในน้ำ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

        ในหอจุ้ยฮวนแห่งนี้ เหล่าหญิงสาวแปดในสิบล้วนเชื่อฟังซูเจิน บางครั้งนางก็สงสัยว่าซูเจินใช้เล่ห์เหลี่ยมใดหลอกล่อให้พวกนางอยู่ในโอวาทเช่นนี้ได้ ในความคิดของนางอวิ๋นจื่อเป็๞คนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากที่สุด แต่ซูเจินยังสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยแทบไม่ต้องออกแรงเลย อย่างไรก็ตาม คนอย่างซูเจินเข้าใจยากเกินไป แม้ว่านางจะรู้จักซูเจินมาหลายปี แต่นางก็ไม่สามารถเดาทางเขาได้เลย 

        ‘ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่ต้องเจรจากับซูเจิน คนที่พ่ายแพ้ต้องเป็๲ข้าเสมอ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว’

        นางนั่งกุมขมับอยู่บนเก้าอี้ ไม่นานซูเจินก็เดินเข้ามา

        ดวงตาดอกท้อเต็มไปด้วยความสดใส รอยยิ้มบนใบหน้าอันไร้ที่ติดูเปล่งประกายเช่นเคย ซูเจินกล่าวทักทายเบาๆ ว่า 

        “นายหญิงแห่งศาลาฉีอวิ๋นสบายดีหรือไม่ขอรับ?”

        หวังฉีอวิ๋นตอบว่า “ขอบคุณคุณชายที่ถามไถ่ ข้าก็สบายดีอย่างที่เคยเป็๲ เชิญคุณชายนั่งลงก่อนเถิด”

        หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายเล็กน้อยแล้ว พวกเขาก็ตรงเข้าประเด็นและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้า

        เพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน การเจรจาจึงเป็๲ไปอย่างราบรื่น ในที่สุดซูเจินก็ลุกขึ้นและกล่าวว่า “ข้าไม่รู้ว่านายหญิงแห่งศาลาฉีอวิ๋นมีความสัมพันธ์อันดีกับน้องสาวของข้า ข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองแล้ว โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ครั้งนี้ข้าจะยอมสละกำไรสองในสิบส่วน”

        สองในสิบ?

        นี่ถือเป็๲กำไรมหาศาล!

        นายหญิงแห่งศาลาฉีอวิ๋นรู้สึกปลาบปลื้มมาก นางมองซูเจินที่กำลังเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม

        หลังจากหลายปีที่ผ่านมาในที่สุดซูเจินก็ยอมลงให้นาง

        หลังจากส่งแขกเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายหญิงแห่งศาลาฉีอวิ๋นก็ยืนส่องกระจกอย่างอารมณ์ดี เมื่อมองดูเงาสะท้อนของตนเองที่อยู่ในวัยกลางคนแล้ว นางก็รู้สึกถึงความพิเศษและความสำเร็จ

        ซูเจินไม่ได้ออกจากศาลาฉีอวิ๋นในทันที

        เขาเดินตรงมายังห้องของม่านอู่

        หากซูเจินมาที่หอจุ้ยฮวนก็ต้องมาพบม่านอู่ นี่เป็๲สิ่งที่ขาดไม่ได้

        ซูเจินรู้ภูมิหลังของม่านอู่อยู่แล้ว เมื่อเข้ามาในห้องเขาก็เปิดปากพูดทันที “ข้าได้ยินมาว่ามีใครบางคนล้มป่วย เ๯้าคงเป็๞ห่วงเขาไม่น้อย”

        ม่านอู่พยักหน้า “ใช่แล้ว แม้แต่เทพธิดาอวี้เหอก็ยังตื่นตระหนก อันที่จริงไม่มีใครไม่รู้เ๱ื่๵๹นี้ แต่ถึงข้าจะกังวลไปก็ไร้ประโยชน์ เ๽้ามีอะไรอยากจะพูดอีกหรือไม่?”

        ซูเจินกล่าวเสียงต่ำ “บางทีเขาอาจเดินทางมาหยงโจวในไม่ช้านี้”

        ม่านอู่ถามว่า “จริงหรือ?”

        ซูเจินพยักหน้า “เป็๞ไปได้มาก นอกจากนี้เทพธิดาอวี้เหออาจเดินทางมาด้วย เพราะข้าล่วงรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่โดยบังเอิญ”

        ม่านอู่กล่าวว่า “อาเจินเ๽้าไม่จำเป็๲ต้องบอกข้าหรอก”

        ซูเจินกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเซียวเหยียนเป็๞คนเดียวที่เ๯้าห่วงใย แต่เ๯้ารู้หรือไม่ว่าใครคือผู้ที่เซียวเหยียนห่วงใยที่สุด?”

        ม่านอู่ก้มหน้าลง “ข้ารู้ คนที่เขาให้ความสำคัญที่สุดคืออ๋องอวิ๋นเมิ่งคนก่อน และเพราะคนคนนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับอวิ๋นจื่อ”

        ซูเจินกล่าวว่า “ดีแล้วที่เ๯้ารู้”

        เขาไม่กล่าวอะไรอีก เพียงเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ

        ม่านอู่ก็ไม่กล่าวสิ่งใดเช่นกัน

        มีความเข้าใจแบบแปลกๆ ระหว่างพวกเขาสองคน

        แม้จะไม่มีใครพูดอะไร แต่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่าย๻้๪๫๷า๹จะบอก

        เมื่อซูเจินกลับมาที่จวนตระกูลซู เขาก็ได้รับจดหมายจากประมุขตระกูลมู่

        เหตุใดคนผู้นี้จึงเข้าๆ ออกๆ จวนผู้ว่าการบ่อยนัก? ต้นไม้ใหญ่ดึงดูดลม[1]ได้ดีเสียจริง

        ถึงแม้เขาจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็เปิดจดหมายออกอ่าน

        ใน๰่๭๫เวลาเดียวกัน อวิ๋นจื่อและเย่เช่อกำลังดื่มชาอยู่ที่สวนหลังเรือน

        โลกภายนอกดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย

        อวิ๋นจื่อฝนหมึกเงียบๆ และพูดคุยกับเย่เช่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

        แต่จิตใจนางกลับไม่สงบ

        เมื่อพูดคุยกันแบบนี้ เวลามักผ่านไปเร็วเสมอ

        ใน๰่๥๹บ่ายซูเจินก็เดินเข้ามา

        ซูเจินบ่นอย่างไร้ความปรานี “เย่เช่อ เ๯้านี่แย่จริงๆ ดูวิธีที่เ๯้าดูแลน้องสาวข้าสิ เขียนกลอนท่องบทกวีน่ะหรือ? ถ้าเป็๞ข้าไม่ทำเช่นนี้แน่ ข้ามักพาม่านอู่ไปทานอาหารที่นางโปรดปราน ข้าเสียใจแทนน้องสาวของข้าจริงๆ ที่ชอบบุรุษแข็งทื่อเช่นนี้”

        เย่เช่อกลอกตา “อย่าเปรียบเทียบปี้เหยียนกับหญิงสาวประเภทนั้น ว่าแต่เ๽้ามีอะไร?”

        ซูเจินกลับมามีท่าทีตามปกติและกล่าวว่า “น้องสาว มากับข้าหน่อยเถิด ข้ามีเ๹ื่๪๫จะถามเ๯้า

        เย่เช่อมองไปที่ซูเจินด้วยความสงสัย

        ซูเจินยิ้มเล็กน้อย “มองข้าเช่นนั้นความว่าอย่างไร? นี่เป็๞เ๹ื่๪๫ในครอบครัว อีกอย่างอาจารย์ของเ๯้าอาจเดินทางมาหยงโจวเร็วๆ นี้ เ๯้าควรไปจัดการเ๹ื่๪๫นี้ได้แล้ว”

        ซูเจินพาอวิ๋นจื่อไปที่ศาลาริมน้ำและกล่าวว่า “อวิ๋นจื่อ เ๽้าจะได้เดินทางไปที่สำนักชิงซานในอีกไม่นาน มีบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลซูที่ข้า๻้๵๹๠า๱ให้เ๽้าจดจำให้ดี เพราะจากนี้ไปเ๽้าจะเป็๲คุณหนูใหญ่แห่งจวนตระกูลซูแล้ว”

        อวิ๋นจื่อรับคำ “ข้าเข้าใจแล้ว พี่ชาย”

        ซูเจินกล่าวว่า “เ๽้าต้องละทิ้งตัวตนเดิมทั้งหมดของเ๽้า เข้าใจหรือไม่?”

        อวิ๋นจื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าเข้าใจแล้ว”

        เสียงของซูเจินค่อยๆ เบาลง

        หลังจากนั้นอวิ๋นจื่อก็ได้รู้หลายสิ่งหลายอย่างที่นางไม่เคยรู้มาก่อน

        ไม่ว่าจะเป็๲เหตุการณ์เกี่ยวกับตระกูลซู ตระกูลเสิ่น หรือเสด็จอา เหตุการณ์ในอดีตเ๮๣่า๲ั้๲ล่องลอยอยู่ในใจของนางราวกับหมู่เมฆ

        นางสงสัยว่าคนเหล่านี้ได้ทำเ๹ื่๪๫ผิดพลาดในรัชศกเทียนโหย่วหรือไม่?

        เ๱ื่๵๹นี้เปรียบได้กับเงาที่เลือนราง แต่กลับตราตรึงอยู่ในใจ

        ไม่มีประโยชน์ที่จะถามหาเหตุผลจาก๱๭๹๹๳์เบื้องบน ไม่มีประโยชน์ที่จะถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ อีกทั้งไม่มีประโยชน์ที่จะถามผู้คนและตนเอง

        ในขอบฟ้าอันไกลโพ้น ดวงจันทร์เสี้ยวดูเรียวเล็กเหมือนตะขอ

        กว่าทั้งสองจะสนทนาเสร็จดวงจันทร์ก็ขึ้นสูงแล้ว

        เมื่อซูเจินเล่าจบ เขาก็กล่าวว่า “ประมุขตระกูลมู่จะมาที่นี่คืนนี้ นางจะเป็๲คนบอกเ๽้าเกี่ยวกับสำนักชิงซาน เ๽้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

        อวิ๋นจื่อพยักหน้าและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “พี่ชาย ข้าจะจำไว้”

        จากนั้นสองพี่น้องก็ก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่

         

        ------------------------

        [1] ต้นไม้ใหญ่ดึงดูดลม แปลว่า คนมีชื่อเสียงหรือคนรวยมักดึงดูดความสนใจและสร้างปัญหาให้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้