ภายในห้องมีโต๊ะวางอยู่หนึ่งตัวเก้าอี้อีกจำนวนหนึ่ง และมีตู้เรียบง่ายหนึ่งตู้ บนตู้มีแจกันดินเผาโบราณวางไว้หนึ่งอันในนั้นมีดอกไม้ป่าสีแดงที่ไม่รู้ชื่อเรียกเสียบอยู่หนึ่งกิ่ง ข้างๆ มีกิ่งก้านสีเขียวเสียบอยู่อีกหนึ่งกิ่ง
บนกิ่งไม้มีใบไม้สีเขียวอยู่ไม่น้อยลักษณะหยาบขรุขระ มีเพียงดอกไม้ป่าสีแดงขนาดเล็ก ที่เบ่งบานอยู่ท่ามกลางใบไม้ที่หยาบขรุขระดูงดงามมีเสน่ห์ เมื่อทั้งสองอยู่คู่กัน พอมองนานๆ กลับรู้สึกว่าทั้งสองต่างเสริมซึ่งกันและกัน
บนหน้าต่างมีม่านโปร่งสีขาวผ่องดุจหิมะแขวนอยู่มุมหนึ่งของม่านโปร่งปักลายดอกไม้ป่าสีแดงไว้ ช่างดูสะดุดตานัก ภายในห้องมีเพียงเครื่องเรือนเรียบง่ายกลับทำให้รู้สึกอบอุ่นและสงบใจ
เซี่ยยวี่หลัววางชามกับตะเกียบลงมองเซียวยวี่ด้วยอาการวางตัวไม่ถูก
ั้แ่เข้ามา ท่านราชบัณฑิตน้อยผู้นี้ก็เม้มริมฝีปากแน่นตลอดไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
บางครั้งก็ขมวดคิ้วมุ่นบางครั้งก็เม้มริมฝีปากเบาๆ ท่าทางเหมือนมีเื่หนักอกหนักใจ
เผชิญหน้ากับศัตรูที่สังหารนางในนิยายหากเซี่ยยวี่หลัวบอกว่าไม่กลัวนั่นย่อมเป็ไปไม่ได้ ถึงอย่างไร เมื่ออยู่ต่อหน้าความเป็ความตายไม่มีใครสามารถทำใจเย็นได้
เซียวยวี่กวาดสายตามองครู่หนึ่งก็มองทั่วทั้งห้องแล้ว เมื่อเก็บคืนสายตา ก็หันมาสบตาเซี่ยยวี่หลัวพอดี
สายตาของทั้งสองคนสบประสานกันสีหน้าของเซียวยวี่ดูเ็า ทั้งยังแฝงเร้นด้วยประกายโกรธแค้นและคับข้องใจ จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวราวกับมีคำพูดมากมายอยากถาม แต่กลับไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
เซี่ยยวี่หลัว ...
นางก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรกับเขา
ได้แต่เดินขึ้นหน้าเปิดฝาชีบนโต๊ะออกยิ้มพร้อมกล่าว “คือ เดินทางมานานขนาดนี้ คงเหนื่อยแล้วใช่หรือไม่? กินข้าวก่อน กินข้าวแล้วอาบน้ำนอนให้สบายสักตื่นหนึ่ง! ”
จากนั้นจึงตักข้าวให้ทุกคนเซียวจื่อเมิ่งคอยช่วยอยู่ข้างกายเซี่ยยวี่หลัวอย่างสนิทสนม เซียวจื่อเซวียนช่วยยกข้าวพูดคุยหัวเราะกับเซี่ยยวี่หลัว
ความสัมพันธ์ของพวกเขาสามคน…ดีถึงเพียงนี้แล้วงั้นหรือ?
วาจานับหมื่นนับพันผุดขึ้นในใจแต่กลับถามไม่ออกแม้แต่คำเดียว ได้แต่นั่งลงกินข้าว
ภายในชามข้าวใส่ข้าวหุงไว้เต็มชามใหญ่กับข้าวบนโต๊ะ มีปลา มีไข่ มีผัก อาหารการกินดีมากทีเดียว
เซี่ยยวี่หลัวตักน้ำแกงไข่ให้เด็กสองคนสองช้อนใหญ่ทั้งยังคีบไข่ดาวให้คนละหนึ่งชิ้น เนื้อปลาส่วนท้องเป็เนื้อที่ไม่มีก้างปลา เซี่ยยวี่หลัวคีบออกมาอย่างระมัดระวังวางไว้ในจานเล็กข้างๆ ก่อนกล่าวกำชับ “ตอนกินปลาต้องกินอย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าในนั้นมีก้างปลาหรือไม่เคี้ยวให้มากหน่อย อย่ากลืนลงไปพร้อมข้าว”
เด็กสองคนขานตอบด้วยท่าทางดีอกดีใจเมื่อเห็นเซียวยวี่นั่งเหม่อไม่กินข้าว เซียวจื่อเซวียนกล่าวอย่างมีความสุข “พี่ใหญ่เหตุใดท่านถึงไม่กินอาหารขอรับ? ท่านชอบกินปลาที่สุดไม่ใช่หรือขอรับ? ปลานี่พวกเราเลี้ยงไว้เอง เลี้ยงั้แ่ตัวเล็กแค่นี้จนตัวใหญ่เท่านี้อร่อยมากทีเดียวขอรับ”
เขากล่าวไปพลางใช้มือแสดงท่าทางให้เห็นว่าก่อนหน้านี้ปลาตัวโตแค่ไหน
เซียวจื่อเมิ่งคีบถั่วแขกผัดแห้งให้เซียวยวี่พร้อมกล่าวเสียงใส “พี่ใหญ่ ถั่วแขกนี่พวกเราปลูกเองเ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่ผัดได้อร่อยมากเลยเ้าค่ะ”
เด็กสองคนคีบกับข้าวคนละทีสองทีใส่จนพูนชามข้าวของเซียวยวี่
หลังจากใส่จนเต็มชามของเซียวยวี่แล้วเด็กสองคนก็คีบผักให้เซี่ยยวี่หลัว ผ่านไปเพียงครู่เดียว ก็กองพูนจนเหมือนูเาลูกเล็กเหมือนกัน
ในชามข้าวของทั้งสี่คนมีกับข้าวพูนชามเซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วแทบอยากหัวเราะ ถ้าเป็ปกติ นางคงหัวเราะนานแล้ว แต่มีท่านราชบัณฑิตน้อยที่เข้มงวดและเ็าอยู่เซี่ยยวี่หลัวจึงไม่กล้า ได้แต่ก้มหน้ากินข้าว
เด็กสองคนย่อมรู้สึกดีใจอย่างไรพี่ใหญ่ก็กลับมาแล้ว พูดคุยหัวเราะบนโต๊ะอาหาร เซี่ยยวี่หลัวตอบกลับเด็กสองคนเป็ครั้งคราวแล้วจึงก้มหน้ากินข้าวต่อ
อาหารมื้อนี้ น่าจะเป็มื้อที่เซี่ยยวี่หลัวกลืนได้ยากที่สุดั้แ่มายังโลกใบนี้
เซียวยวี่ที่อยู่ตรงข้ามไม่ได้จ้องมองนางเป็พิเศษแต่เซียวยวี่ที่ในอนาคตจะเป็ราชบัณฑิตน้อย จะมีแรงกดดันไร้รูปร่าง แรงกดดันเช่นนี้ทำให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกตึงเครียด
แต่เซียวยวี่นั้นต่างกันอาหารมื้อนี้ เป็อาหารที่มีรสชาติดีที่สุดเท่าที่เขาเคยกินใน่หลายเดือนนี้ และเป็มื้อที่ทำให้เขารู้สึกคับข้องใจที่สุดด้วย
ภายในใจเขาเต็มไปด้วยข้อกังขามากมาย
นี่คืออาหารที่เซี่ยยวี่หลัวทำ?
นางสามารถทำอาหารที่รสชาติดีถึงเพียงนี้ด้วย?
นอกจากนั้น เหตุใดเด็กสองคนถึงสนิทสนมกับนางถึงเพียงนี้?
เซี่ยยวี่หลัวนะเซี่ยยวี่หลัวเ้าคิดอยากทำอะไรกันแน่?
อาหารหนึ่งมื้อ เด็กสองคนกินอย่างมีความสุขผู้ใหญ่สองคนต่างมีความคิดในใจ ความในใจมากมาย หลังจากกินข้าวเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ให้เซียวจื่อเซวียนไปล้างชามแต่ให้เขาพาพี่ใหญ่ไปเดินดูในบ้าน
เซียวจื่อเซวียนรู้สึกประหลาดใจนัก“พี่สะใภ้ใหญ่ เหตุใดท่านถึงไม่ไปขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัว “คือ วันนี้มีชามกับตะเกียบค่อนข้างมากข้ากลัวว่าเ้าจะล้างไม่ไหว”
“เอ๋? วันนี้ก็มีชามกับตะเกียบเพิ่มแค่ชุดเดียวไม่ใช่หรือขอรับ? ไม่ต่างจากปกตินี่นา! ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยท่าทีสงสัย
เขายังคงยืนกรานจะไปล้างชามเซี่ยยวี่หลัวไม่อยากอยู่กับเซียวยวี่ตามลำพัง จึงตามไปห้องครัวด้วย เช็ดตรงนี้ทีกวาดตรงนั้นทีจงใจฆ่าเวลา
เซียวจื่อเมิ่งอยู่ในห้องกับเซียวยวี่
เซียวยวี่นำขนมที่ตัวเองซื้อกลับมาไปให้นาง"มา อาเมิ่ง นี่คือขนมที่พี่ใหญ่ซื้อมาให้เ้า เ้าเก็บไว้กิน"
ตอนนี้ขนมเป็ของว่างที่เซียวจื่อเมิ่งกินเป็ประจำแล้วหากเมื่อก่อนนางเห็นขนม ตาทั้งคู่ต้องลุกวาวแน่ เวลานี้ได้กินเป็ประจำ ไม่ใช่ของหายากอีกต่อไปเซียวจื่อเมิ่งรับมา กล่าวขอบคุณพี่ใหญ่ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน จากนั้นจึงพิงอยู่ในอ้อมอกเซียวยวี่เพื่อออดอ้อน
บนศีรษะแม่หนูน้อยทำเป็ทรงซาลาเปากลมสองลูกเส้นผมสีดำเงางาม เพราะได้กินอาหารที่มีสารอาหาร เส้นผมจึงดูดี บนผมทรงซาลาเปามีแถบผ้าสีชมพูผูกอยู่ไข่มุกสีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะหนึ่งเม็ดแต่งแต้มให้ดูน่ารัก
ทรงผมที่ดูค่อนข้างซับซ้อนนี่เซียวยวี่ไม่คิดว่าเซียวจื่อเซวียนเป็คนทำให้
เซียวยวี่รู้สึกสงสัย ใช้ปลายนิ้วม้วนแถบผ้าพร้อมถามนาง "อาเมิ่ง ผมนี่ใครเป็คนทำให้เ้า? "
"พี่สะใภ้ใหญ่เ้าค่ะ!" เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส กล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจเสียยิ่งกว่าอะไร"พี่สะใภ้ใหญ่ทำทรงผมสวยได้หลายแบบเลยเ้าค่ะ ในหมู่บ้านไม่มีใครมีทรงผมสวยเท่าข้าเลย"
เซียวยวี่ "นางทำผมให้เ้าทุกวัน? "
เซียวจื่อเมิ่งพยักหน้า"เ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่ทำทรงผมสวยๆ ให้ข้าทุกวัน ทั้งยังตัดเย็บเสื้อสวยๆ ให้ข้าพี่ใหญ่ ท่านดูสิเ้าคะ เสื้อที่ข้าสวมอยู่คือตัวที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำให้ข้า พี่รองก็มีพี่ใหญ่ก็มีเ้าค่ะ"
เขาก็มี?
เซียวยวี่ใ "พี่ใหญ่ก็มี? "
"เ้าค่ะ ดูดีมากทีเดียว"เซียวจื่อเมิ่งหัวเราะคิกคัก "พี่ใหญ่ เดี๋ยวท่านอาบน้ำเสร็จก็จะได้ใส่เสื้อตัวใหม่แล้วอยู่ในห้องของท่านเ้าค่ะ! "
นางะโออกจากอ้อมอกของเซียวยวี่ก่อนจะดึงมือเขา "พี่ใหญ่ ข้าจะพาท่านไปดูห้องของท่านเ้าค่ะ"
พอเข้าประตู เตียงหนึ่งอันก็ปรากฏสู่สายตาบนเตียงมีผ้านวมสีเทา มุมหนึ่งปักใบไผ่สีเขียวมรกตไว้ ใบไผ่สีเขียวมรกตสดใส ราวกับเป็ของจริงก็มิปานพอจะดูออกว่าช่างปักมีฝีมือประณีต
เปิดผ้านวมออก ผ้าปูเตียงด้านล่างก็เป็สีเดียวกันยังมีหมอนอีกหนึ่งใบ มุมหนึ่งของหมอน ก็ปักใบไผ่สีเขียวมรกตสดใสไว้
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวแนะนำด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว"พี่ใหญ่ พวกนี้พี่สะใภ้ใหญ่เป็คนทำให้ท่านเ้าค่ะ ท่านดูสิ เป็แบบเข้าชุดกันใบไผ่บนนี้พี่สะใภ้ใหญ่ก็เป็คนปักเ้าค่ะ"
นางเป็คนปัก?
ฝีมือเย็บปักดีเช่นนี้เหตุใดเขาถึงไม่รู้?
"พี่ใหญ่ ตู้เสื้อผ้านี่พี่สะใภ้ใหญ่ให้คนช่วยทำขึ้นใหม่เ้าค่ะในนั้นมีเสื้อใหม่ของท่าน รู้ว่าท่านใกล้กลับมาแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่จึงซักเสื้อผ้าทั้งหมดของท่านจนสะอาดและตากจนแห้งแล้ว"เซียวจื่อเมิ่งเปิดตู้เสื้อผ้า เซียวยวี่มองดู
ภายในตู้ใบใหม่ เสื้อผ้าถูกพับไว้อย่างเป็ระเบียบวางซ้อนกันเป็ชั้นๆ
ตรงกลาง เป็สีที่เขาไม่เคยได้ใส่อีกเลยั้แ่มาถึงหมู่บ้านสกุลเซียว
ตัวหนึ่งเป็สีคราม อีกตัวหนึ่งเป็สีขาว
เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาเป็สีเทาดำเพราะซักง่ายและเปื้อนยาก ทั้งยังหาซื้อง่าย ดังนั้นราคาจึงถูกมาก
เสื้อผ้าสองตัวที่มีสีนี้น่าจะเพิ่งมีหลังจากเขาออกเดินทางแล้ว นี่ก็เป็สิ่งที่เซี่ยยวี่หลัวเตรียมไว้ให้เขางั้นหรือ?
เซียวจื่อเมิ่งพาเขาเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
หากบอกว่าห้องข้างนอกทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเช่นนั้นพอเข้าห้องด้านในเขาก็รู้สึกสั่นสะท้าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้