บทที่ 134 มอบของขวัญ
สายลมพัดผ่านลานเรือน ผ้าโปร่งแสงพริ้วไสว กลิ่นหอมฟุ้งโชยตามลม ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
ั้แ่บทสนทนาสั้นๆ ระหว่างฉู่อวิ๋นและฉู่ซินเหยา ฉากดังกล่าวช่างลึกซึ้ง คนหนุ่มสาวต่างจับจ้องฉู่อวิ๋นด้วยสายตาที่ไร้ความปรานีและอิจฉามากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพูดดีอย่างไรก็ไม่อาจกระตุ้นความสนใจของคนงามได้ แต่คนป่าคนนี้ไม่เพียงแต่เดาความหมายของเพลงได้เท่านั้น แต่ยังได้สนทนาใกล้ๆ กับฉู่ซินเหยา ยอมไม่ได้
ผู้คนที่นี่ล้วนเป็เยาวชนที่มีพร์ในขั้นมหาสมุทรซ้ำยังสูงกว่า ภูมิหลังลึกซึ้ง แต่การถูกเด็กชาวป่าจากขอบเขตควบแน่นพลังปราณถีบตนให้เหนือกว่า ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่พอใจ
โดยเฉพาะคุณชายแห่งเคหาสน์เขากระบี่ โม่ซิว ที่ฉายแววอาฆาตในดวงตาออกมาครู่หนึ่ง คิดหาวิธีทำให้ฉู่อวิ๋นต้องอับอายขายหน้าอย่างหนักในงานเลี้ยงนี้
นอกจากโม่ซิวผู้แสนเ้าอารมณ์แล้ว ก็ยังมีบางคนที่้าจัดการกับฉู่อวิ๋น แม้ว่าภายนอกคนเหล่านี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจกลับน่ากลัวและชั่วช้านัก คิดยืมมีดฆ่าคน
ไม่นาน เมื่อเห็นทุกคนดูโกรธ ฉู่เจิ้นหนานก็หัวเราะอย่างชั่วร้ายอีกครั้ง ก่อนจะออกมาควบคุมสถานการณ์ในเวลาที่เหมาะสมโดยกล่าวว่า “ฮ่าๆ ในเมื่อซินเหยาเล่นบทเพลงแห่งเทพธิดาจนทุกท่านต่างก็ะเืใจกันแล้ว หรือว่า... พวกท่าน... ไม่มีอะไรจะแสดงออกอีกแล้วหรือ?”
เมื่อฉู่เจิ้นหนานพูดเช่นนี้ ความหมายก็ชัดเจนยิ่ง เขา้าให้ทุกคนมอบของขวัญให้กับฉู่ซินเหยา
และในความเป็จริง สมบัติและวัตถุิญญาที่มอบให้นี้ก็จะตกไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้คิดจะใช้คุณค่าของคนงามมาดึงดูดผู้มีความสามารถจากทุกสารทิศเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ให้มากยิ่งขึ้น ร้ายกาจและฉลาดยิ่งนัก
แน่นอนว่า หลังจากที่ฉู่เจิ้นหนานเอ่ยเตือนเช่นนี้ ทุกคนก็เริ่มตื่นเต้น รู้สึกเหมือนมีโอกาสที่จะได้รับความโปรดปรานจากคนงามอีกครั้ง!
“คราวนี้ ข้าจะใช้กำลังทั้งหมดที่มีครองใจนาง!”
“ฮ่าๆ โชคดีที่วันนี้ข้าได้เตรียมการมาเพียงพอ นำทรัพย์สมบัติมาไม่น้อย ข้าไม่เชื่อว่าคนงามจะไม่หวั่นไหว!”
กลุ่มหนุ่มสาวที่มีพร์กำลังเตรียมพร้อมที่จะแข่งขันกัน เมื่อครู่นี้ฉู่อวิ๋นเป็ผู้ที่ได้รับความสนใจจากฉู่ซินเหยา แต่คราวนี้พวกเขารู้สึกว่าเด็กป่าคนนี้อับโชคเสียแล้ว!
เขาเป็เพียงคนป่า จะมอบอะไรให้ได้?
ต่างคนต่างมั่นใจ ไม่มีใครอยากด้อยกว่าใคร จึงตั้งใจมอบของขวัญอันล้ำค่าที่สุดเพื่อครองใจสาวงาม
ต่อมา อัจฉริยะรุ่นเยาว์เ่าั้มาที่ศาลาทีละคน มอบของขวัญผ่านสาวใช้ไปให้ฉู่ซินเหยา
แต่แม้ว่าของขวัญจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ฉู่ซินเหยาก็ยังไม่สนใจ อย่างมากนางก็แค่เอ่ยคำขอบคุณ ทำให้ทุกคนคิ้วขมวดและรู้สึกผิดหวัง
“เฮ้อ หรือว่าของขวัญนั้นดีไม่พอกัน?” หลายคนถอนหายใจและรู้สึกหงุดหงิด
ในตอนท้าย เหลือชายหนุ่มเพียงไม่กี่คนจากแถวหน้าที่ยังไม่ได้มอบของขวัญ นั่นคือโม่ซิว ตงฟางสยง และเสวี่ยหานเฟย
“คงมีแค่สามคนนี้กระมังที่พอจะทำให้คุณหนูฉู่หวั่นไหวได้” นักพรตหญิงบางคนแอบคาดเดาว่าเพราะสามคนนี้มีพื้นฐานค่อนข้างได้เปรียบ จึงอาจหาอุบายอันน่าทึ่งขึ้นมาได้
ในเวลานี้ โม่ซิวเหลือบมองอีกสองคน ยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เดินไปที่ศาลาและเริ่มมอบของขวัญก่อน
“คุณหนูฉู่ นี่เป็อาวุธลึกลับระดับต่ำที่มีลายสลัการ้อยกล ข้าใช้ทรัพยากรทั้งหมดของสำนัก กำชับให้สร้างขึ้นอย่างสุดฝีมือ เรียกว่ากระบี่หทัยหงส์ สลักตัวอักษร 'ซินเหยา' ทั้งสองตัวไว้บนด้ามจับที่คล่องมือ เชื่อว่าท่านต้องชอบมันแน่!”
“และภายภาคหน้า ข้าสามารถสอนวิธีใช้กระบี่ให้ท่านเป็การส่วนตัวได้ ให้ท่านบำเพ็ญกระบี่ร่วมกันกับข้า”
หลังจากพูดจบ โม่ซิวก็ยื่นกล่องกระบี่ให้สาวใช้ เชิดหน้าขึ้นสูงอย่างหยิ่งผยอง
ทุกคนต่างประหลาดใจ คุณชายท่านนี้ใจกว้างเกินไปแล้ว! เพื่อให้ได้รับรอยยิ้มจากคนงาม ถึงกับมอบอาวุธลึกลับร้อยกลอันล้ำค่าแก่นางได้จริงๆ?!
แม้ว่าระดับของกระบี่หทัยหงส์นี้จะเป็เพียงขั้นต่ำ แต่มูลค่าของมันก็ไม่อาจเทียบเคียงกับสมบัติอื่นๆ ได้!
เนื่องจากอาวุธลึกลับระดับต่ำสุดมีราคาอย่างน้อยหนึ่งหมื่นหินิญญา ซึ่งตีเป็เหรียญทองหลายสิบล้านเหรียญ เป็ที่้าอย่างยิ่งในตลาด ล้ำค่ามาก!
ในขณะนี้ ทั้งชายหญิงในลานเรือนและฉู่เจิ้นหนานเองต่างก็จ้องมองไปที่กล่องกระบี่ด้วยแววตาละโมบ
“เชอะ! ทำเป็อวดดี แม่นางฉู่ไม่ชอบกระบี่สักหน่อย”
ฉู่อวิ๋นเยาะเย้ย ทำให้เสวี่ยหรูเยียนที่อยู่ข้างๆ สับสน จึงถามว่า “คุณชายอวิ๋น กระบี่เล่มนี้ไม่ดีหรือ? คุณหนูฉู่อาจจะชอบมันก็ได้นะ”
“ก็แค่อาวุธลึกลับระดับต่ำ มีอะไรน่าประหลาดใจกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบกระบี่หรอกนะ” ฉู่อวิ๋นยกมือกอดอกอย่างไม่สนใจ
ในความเป็จริง ฉู่อวิ๋นเองก็เป็เ้าของกระบี่ชื่อยวน ซึ่งเป็อาวุธลึกลับลายสลัการ้อยกล และยังเป็อาวุธิญญาด้วย สำหรับเขา กระบี่หทัยหงส์นั้นไม่มีอะไรพิเศษ
แต่เมื่อเสวี่ยหรูเยียนได้ยินคำพูดนี้ นางก็ประหลาดใจมาก ผู้สืบทอดของตระกูลโบราณนี้ดูถูกอาวุธล้ำลึกระดับต่ำหรือ?
ถ้าเช่นนั้น หิมะย่ำรุ้งที่นางมอบให้ก็ดูเล็กน้อยเกินไปใช่หรือเปล่า?
“ควรให้สิ่งที่ล้ำค่ากว่านั้นแก่อวิ๋นชูหรือเปล่า?” เสวี่ยหรูเยียนแอบคิดกับตัวเองอย่างจริงจัง
ยามนี้ ฉู่ซินเหยาที่อยู่ในศาลาได้รับกระบี่แล้ว นางมองไปในกล่องกระบี่และตกอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้ทุกคนกลั้นหายใจและสงสัยว่านางจะตอบสนองอย่างไร
แต่เป็ดังที่ฉู่อวิ๋นกล่าว สีหน้าของฉู่ซินเหยาเ็ามาก นางแค่เหลือบมองมัน จากนั้นก็โยนมันทิ้ง
โยน... ทิ้งไป...
“แกร๊ง-“
เกิดเสียงโลหะกระทบพื้น
ทันใดนั้นทุกคนก็ตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึง นี่... คนงามนางนี้เอาใจยากเกินไปแล้วกระมัง?! ต่อให้ทุ่มกำลังทรัพย์ถึงระดับอาวุธลึกลับ ก็ยังไม่อาจสร้างความประทับใจให้นางได้
และดูเหมือนจะยิ่งทำให้นางโกรธและต่อต้านขึ้นมา
อันที่จริง ฉู่ซินเหยาโกรธมากจริงๆ ดังคำกล่าวที่ว่าเห็นของแล้วก็คิดถึงคน นางจะคิดถึงฉู่อวิ๋นทุกครั้งที่เห็นกระบี่ แต่กระบี่ที่อยู่ตรงหน้านางนี้ไม่ใช่กระบี่ที่เขาใช้ ทำให้ฉู่ซินเหยาเสียใจมาก
ดังนั้น นางจึงหลุดท่าทีไร้มารยาทเช่นนี้ออกมา
“คุณหนูฉู่... ท่าน... ท่าน...”
ดวงตาของโม่ซิวมัวหมอง ราวกับถูกใครบางคนตบหน้า ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว และยืนอึ้งอยู่กับที่
เขาใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างกระบี่เล่มนี้ขึ้นมา แต่ฉู่ซินเหยาเพิ่งโยนมันทิ้งไป
เมื่อถูกหญิงงามดูิ่ต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ ภายภาคหน้าเขาจะมีหน้าไปพบใครได้อีก?
“ทำไม! กระบี่เล่มนี้ไม่ดีหรือ?” โม่ซิวถามเสียงดังอย่างหยิ่งยโส ไม่พอใจในผลดังกล่าว
ทุกคนงงงวย เพราะพวกเขารู้ว่ามูลค่าของกระบี่หทัยหงส์เล่มนี้สูงลิ่วแค่ไหน
“เป็ข้า ถ้าใครให้อาวุธลึกลับมา ข้าจะตอบตกลงแต่งงานตรงนั้นเลย” นักพรตหญิงบางคนแอบกระซิบอย่างอิจฉาและงุนงงในเวลาเดียวกัน
แต่ฉู่ซินเหยาไม่ได้พูดหรือตอบอะไรโม่ซิว เห็นเขาเป็เพียงธาตุอากาศ
“อยากรู้หรือว่าทำไม?”
ทันใดนั้นเอง ฉู่อวิ๋นก็ยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน ทำให้ทุกคนมองเขาอย่างประหลาดใจ
“เ้าอีกแล้ว! คนป่าเช่นเ้าอยากโดนตีมากหรืออย่างไร?” โม่ซิวะโ ตอนนี้เขาถูกฉู่ซินเหยาเมินเฉยแล้ว พูดได้ว่ายามนี้เขาเต็มไปด้วยไฟโทสะ
ฉู่อวิ๋นยิ้มและเอ่ยว่า “คุณหนูฉู่ไม่ชอบการต่อสู้ แน่นอนว่านางย่อมไม่ชอบกระบี่ แม้แต่คนป่าอย่างข้ายังเข้าใจ แต่เ้ากลับขลาดนัก”
“เ้า... เ้า!”
ก่อนที่โม่ซิวจะพูดจบ ฉู่อวิ๋นก็ขัดจังหวะเขาอีกครั้งและพูดว่า “เ้า เ้า เ้า เ้าอะไรนักหนา? เป็ถึงคุณชายแห่งเคหาสน์ใหญ่ แต่เพื่อรอยยิ้มเดียวของหญิงงามกลับยอมเสียทรัพย์สินของสำนักไปมากมายเพื่อสร้างกระบี่เน่าๆ นี่ขึ้นมา”
“เน่าบ้านเ้าสิ! นี่เป็อาวุธลึกลับ ถ้าคนป่าอย่างเ้าไม่รู้จักก็อย่ามาพูดพล่ามอยู่ที่นี่!”
โม่ซิวโต้กลับ ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาไม่เคยคิดเลยว่าในสายตาของคนป่า อาวุธลึกลับนี้จะเป็เพียงกระบี่เน่าๆ ทำให้เขาโกรธมาก
“อะไรนะ? อาวุธลึกลับนั่นอัศจรรย์มากหรือ?”
ฉู่อวิ๋นหรี่ตามองโม่ซิวด้วยท่าทีหยามเหยียดและพูดอย่างรังเกียจ “เพียงเพราะเ้าชอบกระบี่ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะชอบมันด้วย แม้ว่าเ้าจะมอบอาวุธหรือยาเม็ดะให้ ข้าพนันได้เลยว่าคุณหนูฉู่ก็จะยังโยนทิ้งเช่นเดียวกัน”
เมื่อพูดเช่นนี้ ฉู่อวิ๋นก็มองไปยังร่างหลังม่านแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าพูดถูกหรือไม่? คุณหนูฉู่”
“คุณชายพูดได้ถูกต้องแล้ว ข้าเกลียดกระบี่เล่มนี้”
ฉู่ซินเหยาพยักหน้าเล็กน้อย น้ำเสียงเ็า และเห็นด้วยกับคำพูดของฉู่อวิ๋น ทำให้โม่ซิวโมโหจนหน้าแดง หน้าอกสั่นสะท้านด้วยความโกรธ คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นสูง
ขายหน้าไปไกลถึงบ้านบรรพบุรุษแล้ว... ต่อไปเขาจะท่องยุทธภพอย่างไร?
ทุกคนต่างก็หัวเราะคิกคัก โม่ซิวคนนี้มักเรียกคนอื่นว่าขยะ ท่าทีหยิ่งผยอง ยามนี้ถูกคนป่าว่าเข้าให้ จึงเสียหน้าอย่างมาก ไม่อาจยอมได้ นี่เป็ครั้งที่สองแล้ว
“ฮึ่ม!”
ในที่สุด โม่ซิ่วก็ไม่อาจทนเสียหน้าได้อีก จึงหันกลับมามองฉู่อวิ๋นอย่างเ็า “เ้าท้าทายข้าครั้งแล้วครั้งเล่า อยากลงไปพบอ๋องเหยียนหลัวเร็วๆ หรือ?”
ฉู่อวิ๋นไม่กลัวและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าๆ นรกมีอะไรน่ากลัวกัน? ข้ากลัวว่าอ๋องเหยียนหลัวจะไม่กล้ารับตัวข้าไปด้วยซ้ำ”
“ปากคอเราะราย!”
ในเวลานี้ ดวงตาของโม่ซิวเปลี่ยนเป็เ็า แฝงความอาฆาตออกมาอย่างไม่คิดปกปิด ก้าวไปหาฉู่อวิ๋นอย่างรวดเร็ว “วันนี้เ้าจะไม่มีทางได้ออกไปจากลานแห่งนี้ นี่คือประกาศิตของข้า โม่ซิว!”
หลังจากพูดจบ คุณชายแห่งเคหาสน์เขากระบี่ก็แค่นเสียงเ็าและรีบกลับไปนั่งที่ตัวเอง
เขาจะฆ่าฉู่อวิ๋นให้ได้ ไม่มีทางเปลี่ยนใจ
“คุณชายอวิ๋น...เหตุใดท่านถึงต้องไปมีเื่กับคนพวกนี้หลายครั้งหลายคราด้วย?” หลังจากที่ฉู่อวิ๋นกลับมาที่นั่งแล้ว เสวี่ยหรูเยียนก็ถามอย่างอดไม่ได้
แม้นางจะพูดเบาๆ แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวในใจ ทั้งกังวลและสับสน เมื่อคิดว่าฉู่อวิ๋นคงจะกำลังหึงหวง นางก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยและไม่พอใจขึ้นมา
อวิ๋นชูนี้เป็ของนางแต่เพียงผู้เดียว ใครก็ไม่อาจพรากเขาไปได้!
“ข้าเป็คนป่าที่ทนคนหยิ่งยโสพวกนี้ไม่ไหว ถ้าเขาอยากสู้กับข้า ข้าก็จะสนองให้ ใยจึงต้องกลัว?” ฉู่อวิ๋นเหลือบมองโม่ซิวด้วยสายตาเฉียบคม
ในความเป็จริง ถ้าเป็ไปได้ ฉู่อวิ๋นอยากทำให้พวกเขายอมแพ้และผิดหวังกลับไป
วันนี้ เขาตัดสินใจที่จะก่อเื่ใหญ่ในงานที่ยิ่งใหญ่นี้ และเอาชนะอัจฉริยะรุ่นเยาว์พวกนี้!
คิดจะจีบพี่ซินเหยาของเขาหรือ? ฝันไปเถอะ
ขณะที่ฉู่อวิ๋นครุ่นคิดอยู่ลึกๆ ก็ถึงคราวของตงฟางสยงมอบของขวัญ เขาหัวเราะเสียงดัง ลุกขึ้นยืน และเปิดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นแผงอกที่ล่ำสัน
ตงฟางสยงเดินไปหยุดอยู่นอกม่าน เช็ดน้ำลายแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “เทพธิดา ข้าไม่คิดว่าท่านจะชอบกระบี่หรือการต่อสู้เทือกนั้นหรอก ฆ่าฟันกันมีอะไรดี? ผู้หญิงควรคู่กับ... อะแฮ่ม...”
เมื่อตระหนักได้ว่าตนกำลังจะพูดเื่สกปรก ตงฟางสยงก็ยิ้มออกมาทันที หยุดปากพล่อยๆ ของตัวเองแล้วหยิบกล่องของขวัญแวววาวออกมาจากวงแหวนอวกาศอันมืดมิด
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนรวมทั้งฉู่อวิ๋นก็ขมวดคิ้วและกระตุกปากเล็กน้อย พวกเขารู้สึกเสมอว่าคนขี้เหนียวคนนี้ไม่มีทางมอบอะไรดีๆ ได้หรอก