“ราชวงศ์แห่งเสวี่ยเยว่ บรรพบุรุษตระกูลต้วน ต่างก็บรรลุไปถึงขั้นนั้น!” ดวงตาของหลินเฟิงฉายแววประหลาดใจไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกเขาถึงสามารถปกครองอาณาจักรได้นานเช่นนี้ นั่นเป็เพราะสืบทอดพลังทางสายเืที่แข็งแกร่งนั่นเอง
มีพลังทางสายเืที่บรรพบุรุษมอบให้ ต่อให้พร์ห่วยแตกอย่างไร ก็ยังแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาอยู่ดี จุดแข็งนี้ทำให้พวกเขาก้าวนำคนอื่นไปหนึ่งก้าว และยังสามารถสืบทอดจิติญญาทางสายเืได้!
“เพราะความเข้มข้นของพลังทางสายเืไม่เท่ากัน ดังนั้นพร์ของคนรุ่นหลังจึงแตกต่างกัน นอกจากนี้จิติญญาทางสายเืยังสามารถแบ่งออกได้หลายระดับ มีแข็งแกร่งบ้างมีอ่อนแอบ้าง ด้วยเหตุนี้ตระกูลต้วนจึงกำหนดกฎขึ้นมาว่า ลูกหลานตระกูลต้วนจะต้องมีเมียมาก ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี”
หลินเฟิงชะงักก่อนจะส่ายหัวเบาๆ เพราะการที่พลังทางสายเืจะเข้มข้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ ดังนั้นตระกูลต้วนจึงคาดหวังว่ายิ่งมีลูกหลานมาก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการกำเนิดอัจฉริยะออกมา ในบรรดาลูกหลานสักรุ่นหนึ่ง ขออัจฉริยะแค่ 1 คนก็พอแล้ว หลินเฟิงเข้าใจความคิดของคนตระกูลต้วน
“เพราะกฎนี้ ลูกหลานของตระกูลต้วนจึงมีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกัน และไม่สามารถอาศัยอยู่ในพระราชวังได้ทั้งหมด ดังนั้นใครอ่อนแอก็ต้องถูกกำจัดทิ้ง ข้าเคยได้ยินมาว่าบรรพบุรุษของข้าได้กระทำความผิดอะไรบางอย่าง จึงถูกไล่ออกจากวัง แต่ความจริงข้ารู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบนั้น สาเหตุที่แท้จริงที่เขาถูกไล่ออกมานั่นก็เพราะว่า เขาอ่อนแอ แน่นอนว่ายังมีคนอีกมากที่เป็แบบบรรพบุรุษของข้า”
ต้วนเฟิงยังคงกล่าวต่อไป หลินเฟิงพยักหน้าเงียบๆ คนตระกูลต้วนมีเมียมากย่อมมีลูกหลานมาก ต่อให้พระราชวังกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน ก็ไม่อาจบรรจุลูกหลานได้นับพันนับหมื่นคนได้ ยิ่งไปกว่านั้นมีคนมากเท่าไรก็ยิ่งวุ่นวาย การขับไล่จึงเป็เื่ที่เลี่ยงไม่ได้
“เพราะว่าลูกหลานตระกูลต้วนทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการสืบทอดพลังทางสายเื ถึงแม้ว่าจะถูกขับไล่ แต่ก็มีผู้ทรงอำนาจในหลังม่านคอยจับตาดูอยู่ พวกเขาจะส่งคนไปติดตามลูกหลานตระกูลต้วนที่ถูกไล่ ขอเพียงพบว่ามีลูกหลานคนไหนสืบทอดพลังทางสายเืที่เข้มข้นปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็จะรีบเรียกตัวให้กลับมาทันที”
“พี่หลินเฟิง ข้าบอกกับท่านตรงๆ เลยนะ ญาติที่ข้าเคยกล่าวถึงน่ะ เขาพบว่าข้ามีพลังทางสายเืเข้มข้นในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงแนะนำข้าให้กับสำนักเทียนอี้ นอกจากนี้สถานะของเขายังสูงส่งเป็อย่างมาก เขาคือองค์ชายสองของราชวงศ์นี้ ทั้งมีอำนาจทั้งสูงส่ง พร์ของเขาไม่เพียงแค่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังชำนาญด้านกลยุทธ์อีกด้วย เขาเป็คนที่แข็งแกร่งมาก”
องค์ชายสอง? หลินเฟิงไม่คิดว่าต้วนเฟิงจะรู้จักคนใหญ่คนโตเช่นนี้
“ต้วนเฟิง พร์ของเ้าไม่เลวเลยนะ คงสืบทอดพลังทางสายเืมาไม่น้อยเลยใช่ไหม?”
หลินเฟิงยิ้มให้ต้วนเฟิง การที่ต้วนเฟิงได้รับเชิญให้ไปเมืองหลวงโดยองค์ชายสอง เห็นได้ชัดว่าต้วนเฟิงจะต้องมีพร์และจิติญญาทางสายเืที่เข้มข้นมาก
“มันเป็ไปไม่ได้ที่จะตัดสินว่าคนคนหนึ่งจะแข็งแกร่งแค่ไหน จากการสืบทอดพลังทางสายเื สิ่งสำคัญก็คือการฝึกฝนและพัฒนาจิติญญาทางสายเืของตัวเอง เพราะว่าความแข็งแกร่งของจิติญญาทางสายเืสามารถเพิ่มพูนได้เรื่อยๆ ตอนนี้จิติญญาทางสายเืของข้ายังอ่อนแอ และยังห่างไกลจากองค์ชายสอง แต่ทว่าคนที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่องค์ชายสอง ในรุ่นของพวกเราได้ปรากฏอัจฉริยะปีศาจคนหนึ่งออกมา พร์ของเขาสูงที่สุดในรอบร้อยปีที่ผ่านมา และยังถูกยกย่องว่าเป็ผู้ที่สืบทอดพลังทางสายเืเข้มข้นที่สุดในรอบพันปีของตระกูลต้วน”
หลินเฟิงจดจ่ออยู่กับคำพูดของต้วนเฟิง จากคำพูดของต้วนเฟิงดูเหมือนว่าองค์ชายสองเป็อัจฉริยะที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แต่ว่าก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่แข็งแกร่งกว่าเขา
“คนคนนั้นก็คือองค์รัชทายาท ต้วนหวู่ต้าว เขาถูกกำหนดให้ขึ้นปกครองอาณาจักรเสวี่ยเยว่ เขาถูกยกย่องให้เป็อัจฉริยะในรอบพันปีของตระกูลต้วน เขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ 8 คุณชายแห่งเสวี่ยเยว่ ไม่เคยมีใครมาแย่งอันดับหนึ่งจากเขาได้ มันอาจเป็เื่ปกติที่รัชทายาทจะทรงพลัง ความสามารถของเขาราวกับไม่มีที่สิ้นสุดและจิติญญาทางสายเืของเขาเองก็ยังเข้มข้นมากด้วย”
“ต้วนหวู่ต้าวคืออัจฉริยะที่แท้จริง เขาเืเย็นและแข็งแกร่งเป็อย่างมาก เขาเคยสังหารผู้คนนับไม่ถ้วน ว่ากันว่าเมื่อต้วนหวู่ต้าวทรงพลังขึ้น เขาได้ท้าทายอาจารย์ของตัวเองและสังหารทิ้ง ในความคิดของเขาคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองย่อมไม่มีคุณสมบัติเป็อาจารย์ของเขาอีกต่อไป มีหลายคนที่เกลียดชังเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าลองดีกับเขา ต้วนหวู่ต้าวจะสังหารทุกคนที่ไม่เชื่อฟังเขา!”
สังหารแม้กระทั่งอาจารย์ของตัวเอง นี่มันโหดร้ายและเืเย็นเกินไปแล้ว!
“ถึงแม้ว่าองค์รัชทายาทคืออัจฉริยะที่แท้จริง แต่องค์ชายคนอื่นๆ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อย่างตัวองค์ชายสองเองก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน เขาอายุน้อยกว่าองค์รัชทายาทไม่กี่ปี แต่ได้กลายเป็ 1 ใน 8 คุณชายแห่งเสวี่ยเยว่แล้ว นอกจากนี้เขายังเป็คนที่ถ่อมตัวและได้รับการชื่นชมจากผู้คนมากมาย”
หลินเฟิงพยักหน้า ดูเหมือนว่าเริ่มจะเข้าใจสภาพภายในของตระกูลต้วนมากขึ้นแล้ว
ต้วนเฟิงกล่าวต่อ “องค์รัชทายาทเป็อัจฉริยะที่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะท้าทายเขา บางทีอาจจะมีแค่องค์ชายสองเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับเขาได้ ได้ยินมาว่าทั้งสองคนนี้ไม่ค่อยลงรอยกัน แม้แต่ตัวข้าเองก็รู้เื่นี้ไม่มากนัก ข้าได้ยินเื่หนึ่งมาจากท่านพ่อ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ คนที่ใกล้ชิดกับองค์รัชทายาทมากที่สุดก็คือ อ๋องเทียนหลง”
“เป็เช่นนี้เอง” หลินเฟิงพยักหน้า “นั่นคือเหตุผลที่ลุงหวังกล่าวว่า ต้วนเทียนหลางส่งข้ามาเพราะเขา้าที่จะทำลายมิตรภาพระหว่างเรา ถ้ากล่าวว่าข้าอยู่ข้างเดียวกับต้วนเทียนหลาง มันก็จะหมายความว่าข้าอยู่ข้างเดียวกับองค์รัชทายาทด้วยเช่นกัน?”
“ใช่ เป็แบบนั้น” ต้วนเฟิงพยักหน้า
ชีวิตดั่งจมลงในทะเลลึก ผู้มีอำนาจหลังม่านล้วนเป็พวกปากหวานก้นเปรี้ยว ที่ต้วนเฟิงถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็เพราะคำสั่งให้เข้าสำนักเทียนอี้ขององค์ชายรองนั่นเอง
ถึงแม้ว่าต้วนเฟิงจะตกอยู่ในอันตรายหลายครั้ง แต่องค์ชายรองก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“องค์ชายรองคนนั้นจิตใจยากจะหยั่งถึง ยังไงก็ระวังตัวด้วย” หลินเฟิงเตือน
“ฮ่าๆๆ ไม่มีใครกล้าที่จะขัดขืนองค์รัชทายาทได้หรอก แม้แต่องค์ชายสองก็เช่นกัน ดังนั้นถ้าหากองค์รัชทายาทลงมือสังหารข้าจริงๆ องค์ชายรองก็คงไม่กล้าปรากฏตัวออกมาหรอก เพราะคนแบบข้ามีอยู่มากมาย มันไม่คุ้มหากต้องปะทะกับองค์รัชทายาท”
แม้ว่าต้วนเฟิงจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงของเขาก็ดูโศกเศร้าเป็อย่างมาก
“บางทีที่องค์รัชทายาทกับองค์ชายรองไม่ปรากฏตัวขึ้นมา ก็อาจเป็เพราะว่า พวกเขาได้ส่งตัวแทนมาจัดการแล้วนั่นเอง”
หลินเฟิงพยักหน้าเห็นด้วย และยังรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา อายุเพียงเท่านี้แต่สามารถมองการณ์ไกลได้ขนาดนี้ นับได้ว่ามีความสามารถจริงๆ องค์รัชทายาทกับองค์ชายรองไม่จำเป็ต้องลงมาจัดการเื่นี้ด้วยตัวเอง ด้วยสถานะที่ยิ่งใหญ่ของเขา จะต้องมีคนจัดการให้อยู่แล้ว
“ข้ามีคำถาม ถ้าสมาชิกตระกูลต้วนทุกคนที่มีจิติญญาทางสายเื แล้วทำไมต้วนเทียนหลางและบุตรชายของเขาถึงใช้ดาบ?”
“นั่นเป็เพราะว่าจิติญญาทางสายเืได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าหากสืบทอดพลังทางสายเืได้เจือจางมากๆ จิติญญาของพวกเขาก็จะไม่ใช่จิติญญาทางสายเื แต่จะเป็จิติญญาประเภทอื่นแทน แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังมีจิติญญาแห่งสายเือยู่ เพียงแต่ว่ามันจะอ่อนแอมากๆ นี่เป็เหตุผลที่ว่าทำไมต้วนเทียนหลางและบุตรชายของเขาถึงมีจิติญญาแห่งดาบ”
“ถ้าหากพลังทางสายเือ่อนแอ พวกเขาก็จะมีจิติญญานักรบคู่ ด้วยเหตุนี้คนรุ่นหลังจึงแข็งแกร่ง ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!!!” หลินเฟิงพลันตกตะลึงขึ้นมา
“คนที่สืบทอดจิติญญาทางสายเืที่เข้มข้น จะมีอาจารย์มาคอยชี้แนะเกี่ยวกับจิติญญาทางสายเื และทำให้จิติญญาทางสายเืบริสุทธิ์ขึ้นไป อีกทั้งยังแข็งแกร่งมากขึ้น” ต้วนเฟิงกล่าว แม้ว่าท่าทางของเขาจะแปลกไปแต่ก็ยังกล่าวต่อ “พี่หลินเฟิง ความจริงแล้วจิติญญาทางสายเืที่ข้าสืบทอดมา มันบริสุทธิ์เป็อย่างมาก ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจขององค์ชายสอง และทำให้เขาเชื้อเชิญข้าไปที่เมืองหลวง”
หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย เขาได้คาดเดาไว้แล้วว่าต้วนเฟิงคงจะเป็อัจฉริยะและมีจิติญญาทางสายเืที่บริสุทธิ์ นั่นคือเหตุผลที่ต้วนเฟิงดึงดูดคนถึง 2 ประเภท หนึ่งคือผู้ที่้าช่วยเหลือ และสองคือผู้ที่้าสังหารเขา
ต้วนเฟิงยิ้มและกล่าว “พี่หลินเฟิง เป็ไปได้ไหมว่าท่านไม่รู้จักจิติญญาทางสายเื?”
“ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับจิติญญาทางสายเืมาก่อน ไม่เคยเห็นต้วนเทียนหลางและบุตรชายของเขาใช้ด้วย และคงเป็ไปไม่ได้ที่ผู้ที่จิติญญาทางสายเืจะแสดงมันต่อหน้าคนแปลกหน้า” หลินเฟิงกล่าว
“พี่หลินเฟิง ท่านช่วยชีวิตของข้าไว้ถึง 2 ครั้ง พวกเราไม่ใช่คนแปลกหน้ากันอีกแล้ว ตอนนี้ท่านเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของข้า ดังนั้นข้าจะให้ท่านได้เห็นจิติญญาทางสายเืของข้า!”
หลังจากที่ต้วนเฟิงกล่าวจบ ลมปราณแปลกๆ ก็ทะลักออกมาจากร่างของเขา ด้านหลังของต้วนเฟิงได้ปรากฏจิติญญาหนึ่งขึ้นมา
ประตูสีดำ 3 บานลอยอยู่กลางอากาศอย่างสงบ ทั้งยังแผ่กลิ่นอายโบราณออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อประตูสีดำนั่นถูกเปิดก็จะปรากฏความลึกอย่างไร้ที่สุดออกมา
หลินเฟิงมองเข้าไปภายในประตูทั้ง 3 บาน ทันใดนั้นภายในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาดขึ้น
“พี่หลินเฟิง ถ้าท่านต้องเผชิญหน้ากับลูกหลานของตระกูลต้วนในอนาคต ท่านจะต้องระวังไว้ให้ดี จิติญญาพวกนี้ถูกเรียกว่าประตูปิดผนึก มันสามารถปิดผนึกพลังและความแข็งแกร่งของผู้คนไว้ที่ด้านหลังของบานประตู รวมทั้งผนึกชีวิต ยิ่งผนึกไปมากเท่าไร พลังและความแข็งแกร่งก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น มีข่าวลือว่าองค์ชายสองมีประตูปิดผนึกถึง 5 บานและแข็งแกร่งมาก ส่วนองค์รัชทายาทนั้นมีถึง 6 บาน ในตำนานว่ากันว่าบรรพบุรุษของข้านั้นมีประตูปิดผนึกถึง 9 บาน เขาสามารถผนึกจิติญญาของคน 5,000 คนในการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้!!!”
“เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ใช้ความสามารถนี้ ‘ผนึก’ จะปรากฏบนร่างกายของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นความแข็งแกร่งและจิติญญาของเขาก็จะถูกผนึกไว้”
หลินเฟิงถึงกับสะดุ้ง ทำให้เมิ่งฉิงและต้วนเฟิงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา และจ้องมองไปที่หลินเฟิงอย่างใ
“นั่นคือ… ประตูปิดผนึก!” หลินเฟิงถึงกับพูดไม่ออก ปราณที่แข็งแกร่งเล็ดลอดออกมาจากร่างของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตัวเองเคยเห็นบานประตูแบบนี้ที่ไหน ตอนที่เขายังเป็เด็ก เขาเคยเห็นบานประตูเหล่านี่ที่หว่างคิ้วของหลินไห่ บิดาของเขา!!!
