เหยาเหยาไม่เพียงได้เกิดใหม่ ระดับของมันก็เพิ่มขึ้นจากระดับสามไปสู่ระดับห้าในทันที และคุณสมบัติทั้งหมดของมันก็เพิ่มมาอีกเท่าตัว มันที่มีเลเวลเพียง 12 แต่กลับมีค่าพลังเวทมนต์สูงถึง 2,650 หน่วยและยังมีทักษะฟื้นคืนชีพอีกด้วย การปลดล็อคปราการิญญาทมิฬทั้งสามล้วนแสดงให้เห็นว่าจิ้งจอกหิมะทมิฬนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน........
ปราการชำระแค้นคือทักษะพิเศษที่แข็งแกร่งมาก ทุกวินาทีจะผลักศัตรูออกไปเป็ระยะสามเมตรและยังเพิ่มการสร้างความเสียหายจำนวนมากเข้าไปด้วย เพียงเกราะนี้เปิดใช้งานถ้าหากความเร็วในการเคลื่อนที่ไม่สูงนักก็ดูเหมือนจะไม่มีทางเข้าใกล้ตัวเหยาเหยาได้เลย ส่วนปราการเกราะ์สามารถใช้ได้นานต่อเนื่องถึง 20 วินาที แล้วยังมีเวลาคูลดาวน์เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้นด้วย นี่มันแข็งแกร่งกว่าิญญาัปีศาจของเย่เทียนเซี่ยตั้งหลายเท่า บางทีคงมีเพียงเหยาเหยาเท่านั้นแหละที่จะปรากฏทักษะสุดยอดแบบนี้ออกมาได้ และท้ายที่สุดปราการบึง์ ทักษะอำนวยพรและป้องกันที่กินขอบเขตเป็บริเวณกว้าง เพียงเกราะนี้ถูกเปิดใช้งานไม่เพียงมันจะปกป้องเพื่อนร่วมทีมที่อยู่โดยรอบ แต่มันยังทำให้ความสามารถในการรักษาของตัวมันเองยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งด้วย
โชคชะตาไม่ได้มอบความสามารถในการโจมตีอันแข็งแกร่งให้มัน แต่กลับมอบความสามารถในการป้องกันอันน่ากลัวเป็การชดเชยมาแทน แม้ว่าเหยาเหยาในเวลานี้จะฟื้นคืนพลังมาได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่มันกลับทำให้เย่เทียนเซี่ยแสดงสีหน้าตกตะลึงออกไปเนื่องจากความแข็งแกร่งของมัน
หมาป่าหิมะที่ถูกผลักกระเด็นออกไปพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ทว่าเหยาเหยาที่ตกลงไปบนพื้นพลับไม่มีความลังเลหรือชะงักไปเลยแม้แต่น้อย แสงสีแดงเืทรงกลมส่องสว่างขึ้นบนร่างขาวราวหิมะของมันอย่างฉับพลัน
ปั้ง!
ปั้ง!
ปั้ง!
เกราะแห่งการชำระแค้นปกคลุมร่างของตัวมันเองและคลอบคลุมไปถึงเย่เทียนเซี่ยกับซูเฟยเฟยด้วย เกราะนี้ขยายความกว้างคลอบคลุมไปทั่วรัศมี 5 เมตร และเมื่อเสียง “ปั้ง” ดังขึ้นมาครั้งแรกเกราะสีแดงสดก็กระพริบขึ้นมาเป็แสงสีแดงทันที หมาป่าหิมะสามตัวที่ก้าวเข้ามาในรัศมี 5 เมตรถูกพลังที่ไม่อาจต้านทานได้โจมตีเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ร่างของพวกมันถูกเกราะอันแข็งแกร่งหลักกระเด็นออกไปภายนอก
-612,-612,-612……
ขณะที่หมาป่าหิมะสามตัวถูกผลักกระเด็นออกไปพลังชีวิตของพวกมันก็ถูกลดลงไปมากกว่าหนึ่งในสาม
พลังเวทย์ที่ไร้คุณสมบัติคือสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาน้อยมากๆ และก็เป็พลังเวทย์ที่น่ากลัวมากเช่นกัน เพราะมันไร้คุณสมบัติจึงหมายความว่าไม่มีภูมิต้านทานใดๆจะสามารถต้านทานเวทมนต์ชนิดนี้ได้ และมันก็ยังไม่สามารถป้องกันได้อีกด้วย แต่ระดับความยากในการปลดปล่อยเวทมนต์ชนิดนี้ก็สูงมากเช่นกัน เวทย์ลมจะใช้ธาตุลมเป็สื่อ เวทย์ไฟก็จะใช้ธาตุไฟเป็สื่อ........ แต่เวทมนต์ที่ไร้คุณสมบัติจะใช้ “ความว่างเปล่า” เป็สื่อในการปลดปล่อย มันไม่้าธาตุ มันใช้เพียงแค่ “ความว่างเปล่า” ปลดปล่อยเวทมนต์ออกไป และคุณสมบัติในการโจมตีของมันก็แข็งแกร่งมาก ัสะบั้นของเย่เทียนเซี่ยสามารถสร้างความเสียหายได้สองเท่า แต่เกราะแห่งการชำระแค้นกลับสามารถสร้างความเสียหายทางเวทมนต์ให้ผู้ที่เข้าใกล้ทั้งหมดได้ถึงสามเท่า
รูปร่างของเหยาเหยาหลังผ่านการวิวัฒนาการไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น มันยังคงเป็จิ้งจอกตัวเล็กๆแสนน่ารักที่มองดูแล้วไม่มีพิษมีภัยใดๆตัวหนึ่งเท่านั้น ขณะที่เปิดใช้เกราะแห่งการชำระแค้น ทักษะรักษาิญญาทมิฬของเหยาเหยาก็ถูกเปิดใช้ขึ้นมาพร้อมกันทันที
+1020,+1020,+1020……
ตัวเลขการฟื้นฟูหลักพันสามตัวลอยขึ้นมาบนหัวของเย่เทียนเซี่ย ซูเฟยเฟย และจั้วพั่วจวิน พลังชีวิตที่ถูกความหนาวเย็นกัดกินไปถูกฟื้นฟูขึ้นมาจนเต็มในชั่วพริบตา
เย่เทียนเซี่ยมองเหยาเหยานิ่งๆอยู่สักพักก่อนจะหมุนตัวด้วยความรวดเร็วแล้วจะโกนใส่จั้วพั่วจวินที่กำลังตกตะลึงพร้อมกับกำลังถูกหมาป่าหิมะอีก 5 ตัวไล่ล่า “พั่วจวิน รีบมาที่นี่เร็วเข้า!!”
“อ...อืม...........โอ้!” จั้วพั่วจวินมึนงงไปเล็กน้อยจากนั้นเขาก็รีบหันหัวม้าของตัวเองแล้วพุ่งเข้าไปในปราการแห่งการชำระแค้นที่เย่เทียนเซี่ยอยู่ในนั้น
หลังจากสร้างปราการแห่งการชำระแค้นขึ้นมาแล้วขอบเขตของเกราะนี้ก็ไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้นิ่งๆ แต่มันจะเคลื่อนที่ไปตามการเคลื่อนที่ของเหยาเหยาและคลอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 5 เมตรรอบตัวมันเสมอ หลังจากที่จั้วพั่วจวินพุ่งทะยานเข้ามาในปราการแห่งการชำระแค้นแล้วหมาป่าหิมะ 5 ตัวที่ตามหลังเขามาติดๆก็วิ่งเข้ามาด้านในด้วยเช่นกัน......... แล้วจากนั้นพวกมันก็ถูกปราการแห่งการชำระแค้นที่กระพริบวูบวาบผลักออกไปอย่างแรงตามมาด้วยตัวเลขความเสียหายจำนวนมหาศาลที่ลอยขึ้นมา...........
-612,-612,-612,-612,-612……
คนทั้งสามมารวมตัวกับอยู่ข้างกายเหยาเหยาซึ่งเป็ตำแหน่งใจกลางปราการแห่งการชำระแค้น จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่หมาป่าหิมะสิบตัวที่อยู่รอบๆพุ่งเข้ามาด้วยความรู้สึกแตกต่างกัน.......... ถ้าหมาป่าหิมะมีไอคิวมากพอหลังจากที่ปราการแห่งการชำระแค้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งพวกมันก็คงจะไม่พุ่งเข้ามาและรอให้ปราการแห่งการชำระแค้นหายไปซะก่อน......... แต่เห็นได้ชัดว่าถ้าไอคิวของหมาป่าพวกนี้สูงพอพวกมันก็คงไม่ใช่หมาป่า
การถูกปราการแห่งการชำระแค้นผลักออกไปไม่เพียงไม่ทำให้พวกมันถอยห่าง แต่กลับเป็การกระตุ้นความดุร้ายของพวกมันขึ้นมาแทน หลังจากผ่านไปเป็ระยะเวลาสั้นๆกลิ่นอายอันบ้าคลั่งก็พุ่งไปทางด้านหน้าอีกครั้งจากนั้นพวกมันก็ถูกปราการแห่งการชำระแค้นผลักออกไปอีกครั้ง
-612,-612,-612……
ด้วยพลังชีวิต 1,600 หน่วยของหมาป่าหิมะ หลังจากที่พวกมันถูกปราการแห่งการชำระแค้นผลักออกไปถึงสามครั้งพวกมันก็ล้มลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง......... แม้แต่ศพของพวกมันก็ยังถูกผลักออกไปนอกปราการแห่งการชำระแค้นด้วยเช่นกัน ความตายของหมาป่าหิมะด้านหน้าไม่ได้เป็ตัวอย่างที่มากพอสำหรับหมาป่าหิมะที่อยู่ด้านหลัง พวกมันยังคงพุ่งเข้าหาเป้าหมายที่อยู่ด้านหน้าอย่างต่อเนื่องจากนั้นก็ถูกปราการแห่งการชำระแค้นกวาดพลังชีวิตไปจนหมด
ในแต่ละครั้งปราการแห่งการชำระแค้นจะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้มากสุด 20 วินาที แต่มันยังเปิดใช้งานต่อเนื่องได้ไม่ถึง 10 วินาทีหมาป่าหิมะทั้งหมด 10 ตัวก็ถูกผลักไปด้านนอกปราการแห่งการชำระแค้นจนหมด
เมื่อมองซากศพที่อยู่บนพื้นรอบๆเกราะสีแดงจั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟยก็ได้แต่อึ้งค้าง และบางทีคำว่าใก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะอธิบายความรู้สึกรุนแรงที่พุ่งขึ้นมาในใจของพวกเขาได้ เมื่อมองจิ้งจอกตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างเท้าของเย่เทียนเซี่ยพวกเขาก็ทำได้เพียงจ้องมองมันราวกับเห็นสัตว์ประหลาด
“เหยาเหยา ทำได้ดีมาก” เย่เทียนเซี่ยอุ้มเหยาเหยาขึ้นมาแล้วโอบกอดมันเอาไว้ก่อนจะพูดออกมายิ้มๆ ท่ามกลางความตื่นเต้นและความประทับใจนั้นแม้แต่ความหนาวเย็นที่เสียดแทงไปถึงกระดูกก็ดูเหมือนจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป
“พี่รอง..........นี่........นี่.............นี่มันเป็จิ้งจอกสายรักษาธรรมดาๆจริงเหรอเนี่ย?”
เลเวล 12 สภาพแววล้อมที่โหดร้าย แต่มันกลับปกป้องพวกเขาทั้งสามคนได้อย่างสบายๆ แล้วยังจัดการมอนสเตอร์เลเวล 25 สิบตัวทั้งหมดได้ในระยะเวลาสั้นๆอีก
พร์ของเย่เทียนเซี่ยบวกกับความสามารถและคุณสมบัติของเขาในตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเข้าขั้น “สุดยอด” แล้ว และหากรวมสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่ไม่ใช่เพียงแค่สัตว์เลี้ยงธรรมดาๆข้างกายเขาเข้าไปอีก คำว่าสุดยอดนั่นมันก็ดูกากไปเลย
“อย่าเพิ่งถามอะไรมากเลย พวกเราจะต้องรีบไปจากที่นี่แล้วล่ะ.......... เวลาผ่านไปนานมากแล้ว พวกเราไม่มีเวลาแล้วล่ะ” เย่เทียนเซี่ยพูดแล้วดึงมือซูเฟยเฟยขึ้นมาพร้อมทั้งช่วยเธอกระชับเสื้อคลุมหิมะที่อยู่บนตัวของเธอให้เข้าที่ แม้ว่าจะมีเสื้อคลุมหิมะอยู่บนร่าง แต่ซูเฟยเฟยก็ไม่ใช่เขาหรือจั้วพั่วจวิน เธอเป็เพียงแค่คุณหนูที่ไม่เคยพบเจอกับความลำบากมาก่อน ระดับความอดทนและความสามารถในการรองรับเื่พวกนี้ยังห่างไกลนักเมื่อเทียบกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหยุดอยู่ที่นี่ได้นานนัก
ด้านหน้าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอยู่ไหม?
คำตอบก็คือ............ ไม่มี
ความหนาวเย็นของเส้นทางกระดูกน้ำแข็งถือเป็บททดสอบที่โหดร้ายและยากที่สุดแล้ว คนที่สามารถต้านทานมันแล้วผ่านมาได้เหมือนเย่เทียนเซี่ยนั้นถือว่าน้อยมาก ส่วนใหญ่ผ่านมาครึ่งทางก็ทนไม่ไหวและกลับไปนานแล้ว แต่ซูเฟยเฟยที่ทนมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะความดื้อรั้นของตัวเธอเอง และยังต้องขอบคุณเสื้อคลุมหิมะตัวนี้ด้วยเช่นกัน หมาป่าหิมะไม่กี่ตัวด้านหน้าเส้นทางกระดูกน้ำแข็งนั้นถือเป็ความช่วยเหลือที่ระบบมอบให้ผู้เล่นในการผ่านด่านเส้นทางกระดูกน้ำแข็ง........ เพราะมีเพียงการตัดเย็บเสื้อผ้ากันหนาวจากหนังของหมาป่าหิมะที่เก็บรวบรวมได้จากร่างของมันหลังจากที่กลับไปแล้วเท่านั้น โอกาสในการผ่านเส้นทางกระดูกน้ำแข็งจึงจะมีเพิ่มมากขึ้นมาอีกหน่อย
ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ของเส้นทางกระดูกหิมะ แม้ว่าจะเป็มอนสเตอร์เลเวล 25 ธรรมดาๆ แต่ก็ยังถือเป็การทดสอบที่ยากและน่ากลัวสุดๆอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นใน่นี้เลย แต่ให้เป็กลุ่มผู้เล่นเลเวล 25 ที่ฟอร์มทีมกันมาอย่างเต็มที่ก็ยังยากที่จะผ่านหมาป่าหิมะทั้งหกตัวนั้นมาได้ ส่วนหมาป่าหิมะทั้ง 11 ตัวต่อจากนั้นก็เลิกพูดถึงไปได้เลย
หมาป่าหิมะทั้ง 11 ตัวนั้นถือศัตรูกลุ่มสุดท้าย.......... หากผ่านพวกมันมาได้ก็จะถือว่าผ่านการทดสอบของเส้นทางกระดูกน้ำแข็ง ภารกิจนี้ก็จะถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
แต่ก็เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
หลังจากผ่านไปครึ่งนาทีทางออกของเส้นทางกระดูกน้ำแข็งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาในที่สุด หัวใจของทั้งสามคนทั้งตื่นเต้นและปั่นป่วน........ ที่ปั่นป่วนก็เพราะด้านหน้าคือส่วนที่ลึกยิ่งขึ้นของถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง มันอาจะเป็สถานที่ที่หนาวเย็นยิ่งกว่าเส้นทางกระดูกน้ำแข็งก็เป็ได้ เพราะตามปกติแล้วยิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งน่ากลัว
ม้าัขาวทั้งสามตัวทะยานออกไปจากเส้นทางกระดูกน้ำแข็งพร้อมๆกัน ทันทีที่พวกเขาหลุดพ้นจากเส้นทางกระดูกน้ำแข็งพวกเขาก็รู้ทันทีว่าความกังวลที่มีอยู่ในใจของพวกเขานั้นมีมากเกินไป
ที่แห่งนี้ไม่ใช่น้ำแข็งอีกต่อไป แต่มันกลายเป็หิมะที่ปกคลุมไปจนทั่ว หากตัดสินจากความรู้สึก สิ่งที่อยู่ใต้เท้า ด้านล่างของหิมะก็น่าจะเป็ชั้นน้ำแข็ง และสภาพแวดล้อมของที่นี่ก็คล้ายกับดินแดนหิมะด้านหน้าถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง........... ถ้าความรู้สึกของพวกเขาว่องไวพอพวกเขาก็จะรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกันด้วย
ที่แห่งนี้ยังคงมีสภาพแวดล้อมเป็น้ำแข็ง แต่หากเปรียบเทียบกับเส้นทางกระดูน้ำแข็งแล้ว หลังจากที่พวกเขามาถึงสถานที่แห่งนี้พวกเขาก็ััได้ถึงความรู้สึกเหมือนแสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องลงมา ใบหน้าที่แทบจะขาวซีดของซูเฟยเฟยและจั้วพั่วจวินเริ่มอบอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็มีแสงสว่างสาดส่องมาที่เย่เทียนเซี่ย.......... เนื่องจากด้านหน้านอกจากหิมะสีขาวสะอาดแล้วก็ไม่มีอะไรอีก.......... แม้แต่เส้นทางที่จะเดินเข้าไปด้านหน้าก็ไม่มี ตอนนี้พวกเขาได้เดินมาจนสุดทางแล้ว
และเมื่อดวงตาของเย่เทียนเซี่ยมองตรงไปด้านหน้า ทันใดนั้นเขาก็ค่อยๆพูดออกมาช้าๆ “อย่าเดินไปข้างหน้า ดูข้างหน้านั่นสิ!”
เพราะการเตือนของเย่เทียนเซี่ย ซูเฟยเฟยและจั้วพั่วจวินจึงมองไปทางที่เย่เทียนเซี่ยชี้บอก แล้วพวกเขาถึงได้พบว่าห่างไปจากพวกเขาประมาณ 10 เมตรมีหมาป่าตัวหนึ่งนอนหมอบอยู่
มันคือหมาป่าสีขาวตัวหนึ่ง สีขาวของมันขาวจนแทบจะเป็สีเดียวกับหิมะ เป็สีขาวบริสุทธิ์ที่ไม่มีรอยตำหนิเลยแม้แต่จุดเดียวทำให้รอบๆร่างของมันเหมือนถูกปกคลุมด้วยหิมะจนดูเหมือนกับร่างของมันหลอมรวมไปกับหิมะที่อยู่รอบๆอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่มองให้ดีๆก็คงจะมองไม่เห็นเค้าร่างของหมาป่าตัวนั้นเลย หมาป่าตัวนั้นมีขนาดใหญ่มาก หากมองดูมันคร่าวๆจากที่มันนอนอยู่ตรงนั้นคงสามารถบอกได้ว่ามันน่าจะมีความยาวประมาณห้าเมตรเลยทีเดียว
“หมาป่าสีขาว......... หรือว่ามันจะเป็หมาป่าหิมะน้ำแข็งที่เป็เป้าหมายของภารกิจ?” จั้วพั่วจวินพูดออกมาเสียงเบาด้วยความระมัดระวัง เขาเกรงว่าหากเสียงดังไปจะเป็การปลุกมอนสเตอร์เซียนอันน่ากลัวให้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลได้ มอนสเตอร์เซียนตัวนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์เซียนตัวน้อยเลเวล 15 ที่อยู่ในป่าเงาเวทมนต์ แต่มันคือมอนสเตอร์เซียนที่ผู้เล่นไม่สามารถต้านทานได้
หมาป่าหิมะน้ำแข็งที่ตายแล้ว : คุณสมบัติ : ไม่มี
ข้อมูลที่ได้มาจากดวงตาัปีศาจทำให้เย่เทียนเซี่ยตกตะลึง........ นี่คือหมาป่าหิมะน้ำแข็งแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่..... “ตายแล้ว” หมายความว่าอะไร!? หมาป่าั์ตัวนี้ที่แท้เป็แค่ซากหมาป่าหิมะน้ำแข็งซึ่งเป็เป้าหมายที่ภารกิจพูดถึงอย่างนั้นเหรอ?
คิ้วของเย่เทียนเซี่ยขมวดเข้าหากันแน่น เขามองไปยังหมาป่าหิมะน้ำแข็งเงียบๆสักพัก การรับรู้ของเขาก็บอกเขาว่า........... ร่างของหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวนี้ไม่มีสัญญาณแห่งชีวิตอยู่เลยแม้แต่น้อย
นี่มันคืออะไรกันแน่?
“พวกนายอย่าเพิ่งขยับนะ...... ฉันจะเข้าไปดูหน่อย” เย่เทียนเซี่ยพูดจบเขาก็ขยายประสาทการรับรู้ของเขาจนถึงขีดสุดแล้วก้าวเข้าไปหาหมาป่าหิมะน้ำแข็งที่นอนนิ่งเงียบไม่ขยับเขยื้อนทีละก้าวๆ
10 เมตร.......... 9 เมตร............ 8 เมตร............. 5 เมตร...............
เมื่อเย่เทียนเซี่ยก้าวเข้าไปห่างจากร่างของหมาป่าหิมะน้ำแข็งประมาณ 5 เมตรความรู้สึกอันตรายที่น่ากลัวก็พุ่งเข้ามาจากบนหัวของเขาอย่างฉับพลัน เย่เทียนเซี่ยไม่ทันจะเงยหน้าขึ้นเขาก็ใช้ “เงาัสะบั้น” พุ่งไปด้านหลังอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปยังตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้
ปั้ง!!
แท่งน้ำแข็งยาวๆแท่งหนึ่งตกลงมาจาก้าแล้วปักลงบนพื้นหิมะอย่างหนักหน่วง จากนั้นมันก็ะเิออกเป็เศษน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนและกระจายออกไป