“เป็เด็กตัวเหม็นจากที่ใดกัน? มาพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ไม่กลัวลิ้นจะกุดหรือ?”
เด็กรับใช้หน้าบ่อนพนันบังเอิญได้ยินคำกล่าวของไป๋เซี่ยเหอเข้าโดยบังเอิญ จึงผลักร่างของนางด้วยสีหน้าดูแคลน “ไปๆๆ ขนยังขึ้นไม่ครบยังจะริเล่นพนัน ไปทางอื่นเสีย อย่ามารบกวนการค้าของพวกเรา”
ไป๋เซี่ยเหอหลบมือที่ดันมาของเด็กรับใช้ นางเหลือบมองเขาด้วยแววตาลึกล้ำและเย็นเยียบ โดยมีประกายของความเฉียบคมแฝงอยู่ในนั้น
“บ่อนพนันไม่ได้มีไว้เพื่อพนันเงินเท่านั้น เ้าจะสนใจไปไยว่าข้ามีเงินมากหรือน้อย? หากข้าแพ้ด้วยเงินหนึ่งเหรียญทองแดงย่อมต้องจากไปอยู่แล้ว หรือจะบอกว่า เ้ากลัวว่าข้าจะเอาชนะพวกเ้าด้วยเงินหนึ่งเหรียญทองแดงอย่างนั้นหรือ?”
“เด็กน้อยคนหนึ่งคิดจะเอาชนะบ่อนพนันว่านก้วนหรือ? คุยโวโดยไม่ละอายแก่ใจเลยจริงๆ”
“เด็กน้อยจากจวนผู้ใดกัน? อายุเท่านี้ก็ริเล่นพนันแล้ว บิดามารดาไม่ดูแลเอาเสียเลย”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรอบด้านไม่ทำให้ไป๋เซี่ยเหอสะทกสะท้านแม้แต่น้อย นางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้
“เ้า...”
ใบหน้าของเด็กรับใช้แดงก่ำ เขาไม่รู้จะตอบโต้ถ้อยคำของไป๋เซี่ยเหออย่างไรดี แม้จะบอกว่าบ่อนพนันคือสถานที่สำหรับพนันเงิน ทว่ากฎเหล็กของบ่อนพนันว่านก้วนคือไม่ให้คนจนเข้าไปข้างใน
นี่เป็กฎที่บังคับใช้ตลอดหลายปีมานี้ ไม่เคยมีผู้ใดกล้าบุกรุกเข้าไปข้างในอย่างใจกล้าหน้าด้านมาก่อน
นี่คือคนแรก!
“ปล่อยพวกเขาเข้ามา”
บุรุษผู้หนึ่งที่ไว้เคราเล็กๆ สองข้างและยืนอยู่ที่หน้าประตูบ่อนกล่าวขึ้น ผมของเขาบางและถูกมัดเป็เกลียวเล็กห้อยอยู่หลังศีรษะ ดวงตาเรียวกำลังหรี่ลง เผยประกายลามกสายหนึ่งเป็ครั้งคราว
“เถ้าแก่สวี!”
เด็กรับใช้หันไปเอ่ยด้วยความเคารพ
เถ้าแก่สวีคือเถ้าแก่ที่อยู่เื้ับ่อนพนันว่านก้วน
แท้จริงแล้วเขาเกิดและเติบโตขึ้นในพรรคโจร เมื่อปล้นจนมีเงินมากพอแล้ว เขาก็ลงมือทำการค้าทันที ท้ายที่สุดก็เปิดบ่อนพนันว่านก้วนขึ้นมา
เถ้าแก่สวีย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“ในเมื่อพี่น้องสองท่านนี้้าเปิดหูเปิดตาก็ให้พวกเขาเข้ามาเถิด เพียงแต่อีกประเดี๋ยวเมื่อแพ้จนไม่เหลือสักแดงก็อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งเสียเล่า”
สายตามุ่งร้ายของเถ้าแก่สวีมองไปทางจิ่วหาน โดยมองข้ามไป๋เซี่ยเหอที่ดูไม่โดดเด่นไป
แม้ว่าจิ่วหานจะเป็มือสังหาร ทว่าดันเกิดมามีใบหน้าดั่งหยกประดับกวน ดวงตาสดใสราวกับดวงดารา หากเป็ยุคปัจจุบันก็คือลูกหมาน้อยนั่นเอง!
สายตาลามกที่ไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อยนั้นจับจ้องเสียจนจิ่วหานรู้สึกหวาดกลัว
เขาเสียใจเล็กน้อยที่ออกมากับเ้านายในคืนนี้...
ไป๋เซี่ยเหอเองก็เมินเถ้าแก่สวีเช่นเดียวกัน นางเดินเข้าไปในบ่อนพนันอย่างผึ่งผาย
บ่อนพนันแบ่งเป็สามชั้น
ชั้นหนึ่งคือห้องโถงใหญ่ ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ที่นี่
มีเพียงผู้ที่แสดงทักษะการเล่นพนันอย่างยอดเยี่ยมในชั้นหนึ่งเท่านั้นถึงจะสามารถขึ้นชั้นสองได้ ทว่าในเวลาเดียวกันเงินเดิมพันที่ชั้นสองก็มากกว่าชั้นหนึ่ง
สำหรับชั้นสามนั้น
เป็สถานที่สำหรับบุคคลชั้นสูง คนธรรมดาขึ้นไปไม่ได้
หลังจากไป๋เซี่ยเหอเข้ามาในบ่อนพนันก็เหลือบมองไปที่ชั้นสาม ก่อนจะตรงไปยังโต๊ะพนันที่อยู่ใกล้ที่สุด
กฎของโต๊ะพนันตัวนี้ง่ายมาก
นั่นคือ เดิมพันแต้มสูงต่ำ
ลูกเต๋าสามลูก จำนวนแต้มน้อยกว่าเก้าคือแต้มต่ำ ส่วนจำนวนแต้มมากกว่าเก้าคือแต้มสูง
“ข้าลงแต้มสูง!”
เมื่อสิ้นเสียงของบุรุษคนดังกล่าว กลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาล้วนแต่ลงแต้มสูงตามไปด้วย แม้กระทั่งคนจำนวนหยิบมือหนึ่งที่ลงแต้มต่ำ ก็ย้ายเงินเดิมพันของตนไปที่แต้มสูงทันที
“สุดยอดเกินไปแล้ว ชนะติดกันถึงห้าตา ตีข้าให้ตายก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็เื่บังเอิญ”
“ข้าว่าอีกไม่นานเขาต้องถูกเชิญขึ้นไปที่ชั้นสองเป็แน่”
“ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ถือโอกาสลงแต้มสูงตามเขาเสียั้แ่ตอนนี้เถิด รับเงินสักก้อนก็พอแล้วกระมัง”
เมื่อบุรุษที่เป็ผู้นำในการลงแต้มสูงได้ยินเช่นนั้น ก็เชิดหน้าขึ้นจนจมูกแทบจะทิ่มท้องฟ้า ขอโทษจริงๆ ที่เขาไม่มีความสามารถอื่นใด เพียงเกิดมาดวงดีชนะทุกการเดิมพันเท่านั้น!
“ข้าลงแต้มต่ำ!”
เสียงที่ลงเดิมพันต่างจากผู้อื่นดังขึ้น
ต่อมาเหรียญทองแดงเหรียญหนึ่งก็ถูกโยนเข้าไปในวงกลมที่เขียนไว้ว่า ‘แต้มต่ำ’ บนโต๊ะ
เหรียญทองแดงหมุนวนอยู่เจ็ดหรือแปดวินาทีก่อนจะตกลงบนโต๊ะ
ทุกคนเงียบกริบทันที
เสียงเหรียญทองแดงตกกระทบกับโต๊ะนั้นฟังดูบาดหูอย่างยิ่ง
จู่ๆ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น “เด็กน้อยจากจวนใดกัน? นึกไม่ถึงว่าจะวิ่งมาร่วมความครึกครื้นที่บ่อนพนัน น่าขันเกินไปแล้วกระมัง”
ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีคนลงแต้มต่ำ บุรุษที่เป็ผู้นำในการลงแต้มสูงก็มีสีหน้ามืดมนและไม่สบอารมณ์ ทว่าเมื่อเห็นว่าไป๋เซี่ยเหอมีอายุเพียงสิบกว่าปี สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็ดูถูกเหยียดหยาม
ก็แค่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนหนึ่งเท่านั้น
“เริ่มได้!”
ห้า ห้า หก
แต้มสูง!
มุมปากของจิ่วหานกระตุก เริ่มต้นได้ไม่ดีเลย
ช่างเถิด เพียงหนึ่งเหรียญทองแดงเท่านั้น
คิดเสียว่าทำเงินหล่นหายโดยไม่ระวังแล้วกัน
ไป๋เซี่ยเหอยื่นมือมาทางจิ่วหาน เมื่อเห็นเช่นนั้น มุมปากของจิ่วหานก็กระตุกถี่กว่าเดิม
เ้านายของข้า หากพนันไม่เป็ก็อย่าได้ฝืนโชคชะตาเลย
อย่างไรก็ตาม เขายังคงหยิบเหรียญทองแดงเหรียญที่สองออกมาอย่างซื่อสัตย์
ใครใช้ให้เขาฝีมือด้อยกว่าจนกลายเป็ลูกน้องของนางเล่า
หลังจากเ้ามือพนันเขย่าลูกเต๋า มันก็ตกลงบนโต๊ะ
“วางเดิมพันได้!”
บุรุษที่เป็ผู้นำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโยนเงินทั้งหมดที่ตนเองชนะลงบนโต๊ะ นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของเขาในวันนี้แล้ว
“ลงแต้มสูง!”
“ข้าก็ลงแต้มสูง!”
“แต้มสูง!”
“ข้าลงแต้มต่ำ” เสียงที่ไม่เข้าพวกนั้นยังคงเป็ไป๋เซี่ยเหอเช่นเคย
มีคนอารมณ์เสียขึ้นมาแล้ว “ข้าว่านะไอ้หนู เ้าเดิมพันเป็หรือไม่เป็กันแน่?”
ไป๋เซี่ยเหอเพียงแคะเล็บโดยไม่ชายตามองแม้แต่น้อย “เป็หรือไม่เป็แล้วเกี่ยวอะไรกับเ้า? ข้าใช้เงินเ้าหรือ?”
“เ้า...”
“ห้ามทะเลาะวิวาทกันในบ่อนพนัน!”
บุรุษที่เป็ผู้นำถลึงตามองไป๋เซี่ยเหอ ก่อนจะเบือนหน้าไปจ้องโต๊ะพนัน ตานี้เขาชนะแน่!
ไป๋เซี่ยเหอเขยิบเข้าไปใกล้โต๊ะให้มากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ก่อนจะใช้นิ้วเคาะที่ข้างโต๊ะราวกับไม่ได้ตั้งใจ
การกระทำนั้นแเีมากเสียจนจิ่วหานที่ยืนอยู่ข้างนางไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ
“เปิด”
โต๊ะพนันที่เดิมทีมีเสียงดังเซ็งแซ่กลับเงียบลงอย่างกะทันหัน เงียบเสียจนได้ยินเสียงเข็มตกพื้น
“เป็ไปไม่ได้!”
“เป็แต้มต่ำได้อย่างไร!”
ชนะติดกันห้าตา ทว่าตาที่หกกลับแพ้ย่อยยับเสียอย่างนั้น!
“เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้”
บุรุษที่เป็ผู้นำดูเสียสติไปแล้ว เขาส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือ การถูกอันธพาลของบ่อนพนันโยนตัวออกไป
ปัจจัยพื้นฐานที่สุดในบ่อนพนันที่ทำให้ผู้คนเล่นพนันได้อย่างสบายใจก็คือ
ความปลอดภัย
นับั้แ่บุรุษที่เป็ผู้นำกรีดร้องอย่างเสียสติไปจนถึงตอนที่เขาถูกโยนตัวออกไปนั้น ใช้เวลาเพียงสองถึงสามนาทีเท่านั้น
บางคนถอนหายใจและจากไป บางคนดวงตาแดงก่ำ
ต่อมา
ไป๋เซี่ยเหอชนะติดกันเก้าตารวด นี่ต่างหากที่เรียกว่าชนะทุกการเดิมพันอย่างแท้จริง
สิ่งสำคัญคือ ทุกตานางจะวางเดิมพันเพียงหนึ่งเหรียญทองแดงเท่านั้น
นางต่างหากที่เป็าานักพนันตัวจริง!
บรรยากาศดุเดือดขึ้นมาทันที
จิ่วหานยิ้มไม่หุบจนตีนกาขึ้นหลายเส้น สองมือของเขาถือกล่องใบใหญ่ที่บ่อนพนันเตรียมไว้ให้ ข้างในมีเงินอยู่เต็มกล่อง
เ้านายก็คือเ้านาย เก่งกาจอย่างที่คาด
ใช้เพียงไม่กี่เหรียญทองแดงก็หาเงินได้มากปานนี้
การติดตามนางไม่เสียเปรียบเลย ไม่เสียเปรียบเลยสักนิด
การกระทำของไป๋เซี่ยเหอดึงดูดความสนใจของเถ้าแก่สวีอย่างรวดเร็ว เขาเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาตบไหล่ของนาง
“ไอ้หนู ดวงไม่เลวเลย มิสู้พวกเรามาเดิมพันอย่างอื่นกันดีหรือไม่?”
นี่คือจุดประสงค์ของไป๋เซี่ยเหอในคืนนี้ นางละทิ้งการเดิมพันในมือทันที ก่อนจะหันไปมอง
แววตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับเด็กที่แอบกินลูกกวาดแล้วจู่ๆ ก็พบลูกกวาดเต็มลิ้นชักก็ไม่ปาน
ดีใจจนขึ้นสมอง
“ตกลง เดิมพันอะไรหรือ?”
เถ้าแก่สวีแสยะยิ้ม เขายื่นมือไปลูบคาง ก่อนจะตวัดสายตาไม่ประสงค์ดีไปยังร่างของจิ่วหาน สีหน้าของเขาดูกระตือรือร้นจนน้ำลายแทบหก
“เดิมพันด้วยองครักษ์คนนี้ที่อยู่ข้างหลังเ้าแล้วกัน!”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้