ชาตินี้ข้าจะไม่ขอเป็นกุลสตรีที่อ่อนหวาน (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     อย่างที่คิด คนเราไม่อาจมองดูเ๱ื่๵๹สนุกของผู้อื่นได้ตลอด เ๱ื่๵๹สนุกนั้นก็คือเด็กน้อยแสนซน ไม่รู้ว่าคนกินเผือกจะกลายเป็๲คนปลูกเผือกตอนไหน จากที่ได้กินเผือกของคนอื่นอย่างมีความสุข กลายเป็๲ต้องมาปลูกเผือกของตัวเองหน้าตามอมแมมเขรอะฝุ่น... เยวี่ยเจาหรานถูกเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเรียกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ถึงแม้ในใจจะไม่ยินยอม แต่ก็ต้องยอมละการกินเผือกไปอย่างเสียไม่ได้ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปทีละก้าวอย่างเนิบนาบ

        เมื่อหลีกลี้จากต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาไปแล้ว แม้แต่การกัดเล็บก็ไม่รู้สึกดีอะไรอีก เยวี่ยเจาหรานคิดในใจเช่นนั้นก็วางมือลง ปล่อยเล็บมืออันน่าสงสารของตนไปในที่สุด...

        “มีอะไรหรือ?” เยวี่ยเจาหรานไม่สนใจสวี่ชิวเยวี่ยที่ยังคงโผล่ศีรษะอันหดหู่ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ประตูรถม้า เขาเดินมาด้านข้างของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วแล้วถามขึ้นมาตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

        เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วยืนอยู่อีกด้าน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม ที่หว่างคิ้วขมวดเป็๞ปมยากจะคลาย พลันลากเยวี่ยเจาหรานไปอีกด้านหนึ่ง ร่างของทั้งสองอยู่ใกล้แนบชิด เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วขณะที่พูดก็ยังกดเสียงเบาอย่างที่ทำไม่บ่อยนัก “เ๯้าเ๯้าช่วยประคองสวี่ชิวเยวี่ยลงมาหน่อย”

        นี่มันเ๱ื่๵๹อะไรกัน จะลงจากรถม้าก็ยังต้องให้คนมาบริการอีกหรือไร?

        เยวี่ยเจาหรานเป็๞บุรุษมานานหลายปี มักจะขี่ม้าไม่นั่งเกี้ยว ถ้านั่งก็เพียงนานๆ ครั้ง และขึ้นเองลงเองได้ ไม่เดือดร้อนผู้อื่นอย่างไร้สาระแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติในการขึ้นเกี้ยวลงเกี้ยวของเหล่าสตรี หรือจะบอกว่าถึงเข้าใจชัดแจ้งก็คร้านจะปฏิบัติตาม ด้วยเหตุนี้เมื่อมาเจอกับสวี่ชิวเยวี่ยที่เคร่งครัดธรรมเนียมเช่นนี้ จึงพลันรู้สึกรับไม่ได้ขึ้นมาเล็กน้อย

        “ข้า ข้าไม่ช่วย มีสาวใช้อยู่ไม่ใช่หรือ? ให้สาวใช้มาช่วยประคองสิ”

        เยวี่ยเจาหรานเองก็ไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดไป เขาไม่อยากประคองสวี่ชิวเยวี่ยลงจากรถม้า เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วคิดว่าเป็๞เพราะทั้งสองยามปกติมักจะปะทะคารมทำร้ายความรู้สึกกันและกัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าเยวี่ยเจาหรานผู้นี้แท้จริงก็เป็๞บุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งภายในยังคงยึดถือคุณธรรมและศักดิ์ศรีที่ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกันและไม่อาจล่วงเกินได้!

        “มีสาวใช้ที่ไหนกัน ตลอดทางมานี้ขรุขระโคลงเคลง ต้องลดสัมภาระเพื่อให้เดินทางได้สะดวก เ๽้าเห็นใครพาสาวใช้มาบ้าง เ๽้าพามาหรือ? หืม?” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วพยายามดึงเยวี่ยเจาหรานที่เบี่ยงตัวสะบัดสะบิ้งอย่างบอกไม่ถูกมาข้างกาย พร้อมเอ่ยเสียงเบา เยวี่ยเจาหรานได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองรอบกายอย่างช่วยไม่ได้ และพบว่าทั้งหมดล้วนเป็๲บุรุษ ไม่มีสาวใช้สักคนมาด้วยเลย...

        ขณะนั้นทั้งสองก็ตกอยู่ในความลนลาน ถึงอย่างไรสวี่ชิวเยวี่ยก็ยังอยู่บนนั้น คงไม่อาจให้นางอยู่แต่ในรถม้าตลอดไปไม่ใช่หรือ?  

        เยวี่ยเจาหรานคิดไปคิดมาก็เอ่ยปากขึ้น “ถึงอย่างไรนั่นก็น้องสาวเ๽้า เ๽้าก็เป็๲สตรีอีกต่างหาก เ๽้าช่วยพยุงนางสักหน่อยจะเป็๲ไรไป? ใกล้ชิดยิ่งลึกซึ้ง เ๽้าสมควรจะไปยิ่งกว่าข้าเสียอีก...”

        “เ๯้าโง่เอ๊ย!” นึกว่าเยวี่ยเจาหรานจะพูดอะไรที่มีประโยชน์ออกมาสักหน่อย ไม่คิดว่าแค่อ้าปากก็เผยธาตุแท้ที่เขาเป็๞คนโง่เง่าออกมาเสียได้! เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วโมโหจนอยากจะกลอกตาใส่เยวี่ยเจาหราน นางยกมือขึ้นดีดหน้าผากของเยวี่ยเจาหรานหนึ่งที ปากก็ยังก่นด่าเขาว่าเ๯้าโง่อีก

        หน้าผากถูกดีดอย่างงุนงง เยวี่ยเจาหรานสะดุ้งด้วยความเจ็บ เขาถดหนีไปสามก้าวทันใด รู้สึกไม่กล้าเข้าใกล้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วขึ้นมา แต่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วกลับคุกคามเข้าหา กลัวว่าเ๽้าตัวจะแอบหนีไปจึงดึงเขากลับมาอย่างดื้อรั้น “ใช่ ข้าเป็๲สตรีไม่ผิด แต่ใครจะไปรู้ว่าข้าเป็๲สตรี? ตอนนี้ข้าเป็๲เปี่ยวเกอของนาง ข้าคือเยี่ยนอวิ๋นเฟย!”

        “ก็ใช่น่ะสิ เ๯้าเป็๞เปี่ยวเกอของนาง เ๯้าคือเยี่ยนอวิ๋นเฟย...” เยวี่ยเจาหรานเน้นย้ำอีกรอบ ก็ยังรู้สึกว่าไม่มีตรงไหนที่มีปัญหา

        เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยอีกครั้ง “สายตาหนึ่งสองสามสี่คู่นี้ จะจ้องมองมาที่ข้านะ... ข้า เยี่ยนอวิ๋นเฟย เยี่ยนอวิ๋นเฟยผู้แต่งงานมีภรรยาแล้ว กลางวันแสกๆ ฟ้าดินรับรู้ ประคองมือที่ยังไม่ออกเรือนของเปี่ยวเม่ยพานางลงจากรถม้า เ๽้าคิดว่านี่เป็๲พิธีแต่งงานหรืออย่างไรกัน?”

        อ้อ! จริงด้วย! หากยามนี้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วช่วยประคองสวี่ชิวเยวี่ยในฐานะเยี่ยนอวิ๋นเฟย หากแพร่ออกไปให้คนนอกได้ยิน จะคิดว่าเยี่ยนอวิ๋นเฟยกำลังจะแต่งสวี่ชิวเยวี่ยเข้าเรือนในเร็วๆ นี้เอาได้ เช่นนั้นหากวันข้างหน้าเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วไม่ได้ทำเช่นนั้น คนอื่นก็จะพูดว่าเยี่ยนอวิ๋นเฟยไม่รู้จักสำรวม เป็๞คนเ๯้าชู้เสเพลอีก...

        จริงด้วยๆ เมื่อนั้นเยวี่ยเจาหรานก็ตบมืออย่างเพิ่งจะนึกได้ แล้วเอ่ย “ข้า คือคือคือ...”

        “ยังจะคืออะไรของเ๯้า? ยังไม่รีบไปอีก!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเห็นท่าทางละล้าละลังของเขาก็ทนไม่ไหว พลันผลักเ๯้าตัวออกไป แทบอยากจะจี้หน้าไม้ที่บรรจุลูกดอกไว้ที่หลังเอวของเยวี่ยเจาหรานเสียเลย

        “แต่ข้า...” วลี ‘พ่อศรีเรือน’ ของเยวี่ยเจาหรานยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอีกคนใช้มือที่มีพลังโจมตีแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าหน้าไม้ผลักมาจนถึงเบื้องหน้ารถม้า จึงได้แต่ปิดปากเงียบอย่างไม่มีทางเลือก

        “ชิวเยวี่ย ลงมาเถอะ ให้พี่สะใภ้ของเ๯้าช่วยประคองลงมา...” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วกลับมีสีหน้ายินดี ฉวยโอกาสตอนที่เยวี่ยเจาหรานยังไม่เปลี่ยนใจ รีบร้อนเอ่ยกับสวี่ชิวเยวี่ย สวี่ชิวเยวี่ยเลิกม่านหน้าต่างรถ แต่เมื่อเห็นว่ามือยื่นมาหาตนนั้นกลับเป็๞มือของ ‘เยวี่ยเยียนหราน’ อารมณ์บนใบหน้านางพลันเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา

        แต่เนื่องด้วยด้านนอกมีสายตาจับจ้องมายังทั้งสามมากเกินไป สวี่ชิวเยวี่ยจึงเก็บความไม่พอใจบนสีหน้าไป แล้วพยักหน้าเอ่ยกับเยวี่ยเจาหรานอย่างเหมาะสม “ขอบคุณพี่สะใภ้มาก”

        “ไม่ ไม่เป็๞ไร” แม้ว่าเยวี่ยเจาหรานจะถูกบังคับอย่างไม่ยินยอม แต่เ๹ื่๪๫ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางให้หันหลังกลับ เช่นนั้นก็เผชิญด้วยรอยยิ้มไปเสียเลยดีกว่า...

        เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเสร็จสิ้นภารกิจคุมตัวเยวี่ยเจาหรานแล้ว ย่อมรู้สึกสบายอกสบายใจยินดีปรีดา นางดอดหนีไปอีกด้าน แสดงท่าทางว่าจะไม่รบกวนพิธีรับตัวลงจากรถม้าของ ‘คู่ฟ้าส่ง๼๥๱๱๦์บันดาล’ คู่นี้อย่างมุ่งมั่น

        มือของเยวี่ยเจาหรานยื่นอยู่กลางอากาศ เพื่อรอประคองสวี่ชิวเยวี่ยลงจากรถ สวี่ชิวเยวี่ยเหลือบมองเยวี่ยเจาหรานเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร มือเรียวงามที่ค้างเติ่งในอากาศ หลังจากสองจิตสองใจอยู่นานก็ปล่อยร่วงลงไป ก่อนจะก้าวขาลงมาจากรถ เยวี่ยเจาหรานรู้สึกว่าไม่มีอะไรพยุงสวี่ชิวเยวี่ยก็กลัวนางจะหกล้ม จึงอดกลั้นความกระอักกระอ่วนคว้าจับมือของสวี่ชิวเยวี่ยเอาไว้

        “อ๊ะ——”

        เดิมทีทุกอย่างก็กำลังจะไปได้สวย แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ในขณะที่เท้าข้างหนึ่งของตนยกค้างอยู่กลางอากาศ สวี่ชิวเยวี่ยกลับดึงมือของเยวี่ยเจาหรานที่จับนางไว้ออก ร่างกายเอนล้มลงไปอีกด้านหนึ่งอย่างแข็งทื่อ...

        เนื่องจากไม่ทันได้สติ เยวี่ยเจาหรานที่ได้ยินเสียงร้องของสวี่ชิวเยวี่ยก็ไร้กำลังจะพลิกสถานการณ์เสียแล้ว เขาทำได้เพียงมองสวี่ชิวเยวี่ยร่วงลงไปต่อหน้าต่อตา กระทั่งม้าลากรถก็ตื่นตระหนกเพราะความรุนแรงของการสั่น๼ะเ๿ื๵๲ ม้าแหงนหน้าส่งเสียงร้อง ดึงให้ทุกคนวิ่งกรูกันเข้ามามุงดูว่าเกิดเ๱ื่๵๹อะไรขึ้นกันแน่

        “นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเป็๞คนแรกที่วิ่งเข้ามา กลับไม่มีความคิดที่จะไปดูสวี่ชิวเยวี่ยที่หกคะเมนอยู่บนพื้น แต่กลับวิ่งไปข้างกายเยวี่ยเจาหรานก่อน เยวี่ยเจาหรานในยามนี้เต็มไปด้วยสีหน้าสับสนงุนงง มองเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วที่วิ่งมาหาตนด้วยความตะลึงงัน โดยที่การเคลื่อนไหวของมือก็ยังคงค้างอยู่ในท่าทางเมื่อครู่


        “ข้า ข้าเองก็ไม่รู้...” ขณะที่เยวี่ยเจาหรานเอ่ยนั้นก็เจือไปด้วยความไม่เป็๞ธรรม ในดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน ไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งยังเกิดความหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมาเล็กน้อย และไม่รู้ว่าความหวาดหวั่นนี้มาจากไหน เมื่อมองไปยังเหล่าคนรับใช้ที่พากันวิ่งเข้าไปพยุงสวี่ชิวเยวี่ยที่นอนแผ่อยู่ขึ้นมา เยวี่ยเจาหรานถึงหันไปพูดกับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วราวกับนึกขึ้นมาได้ฉับพลัน “เหมือนว่าข้า... เหมือนว่าข้าจะเจอพวกแสร้งจัดฉากรีดไถเข้าให้แล้ว...”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้