กู้เป่ยเยวี่ยผู้ซึ่งนิ่งสงบอยู่เสมอก็มีสีหน้าเขียวคล้ำ เขาเป็หัวหน้าหมอหลวงและอยู่ใกล้ชิดกับฮ่องเต้ เหล่าขุนนางทุกคนทั้งในและนอกวังต่างเคารพเขา แต่น่าเสียดายที่เจอองค์หญิงที่หยิ่งผยองและไม่มีเหตุผลขนาดนี้ เขาเองก็จนปัญญาเช่นกัน
เขาหวังว่าแม่ทัพมู่จะสามารถพูดแทนหานอวิ๋นซีได้ แต่น่าเสียดายที่เวลานี้แม่ทัพมู่ยืนอยู่ที่ประตูโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หานอวิ๋นซีี้เีเกินกว่าจะโต้เถียงกับองค์หญิงฉางผิง และถามต่อไปว่า “เช่นนั้นองค์หญิงฉางผิง เ้ามีหมายจับหรือไม่?”
ความผิดที่ก่อโดยคนของราชวงศ์เองก็จะถูกจัดการโดยศาลต้าหลี่เช่นกัน อย่างไรก็ตามหาก้าจับกุมคนก็ต้องมีหมายจับ หานอวิ๋นซีเป็หวังเฟยและอยู่ในการดูแลของไท่เฮา การจับกุมนั้นต้องออกโดยไท่เฮาเท่านั้น
“ตอนนี้ยังไม่มี!” องค์หญิงฉางผิงตอบอย่างมั่นใจ
“เช่นนั้น เวลานี้ข้าก็ถือว่าไม่ใช่คนผิดใช่หรือไม่?” หานอวิ๋นซีถามอย่างอดทน
องค์หญิงฉางผิงอึกอัก ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร แต่จู่ๆ หานอวิ๋นซีก็พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า “ไม่มีแล้วมาทำอะไรล่ะ? รีบไปให้พ้นหน้าข้าซะ!”
องค์หญิงผู้นี้ไม่มีหมายจับแล้วยังมาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้าอีกหรือ? ฉางผิงเป็องค์หญิง แต่นางเป็ฉินหวังเฟย เป็ผู้าุโของนาง เป็เสด็จอาหญิงของนาง!
องค์หญิงฉางผิงใสะดุ้งโหยงและคว้ามือของหานอวิ๋นซีทันที พูดด้วยความไม่เชื่อว่า “หานอวิ๋นซี เ้านี่มันช่างบังอาจยิ่งนัก เ้ากล้าด่าข้างั้นหรือ เ้ากล้าพูดกับข้าแบบนี้ได้อย่างไร!”
“ทำไมข้าจะไม่กล้าล่ะ?” หานอวิ๋นซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงเ็า พร้อมกับมองด้วยสายตาน่ากลัว
ในฐานะหมอ สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือการรักษาถูกขัดจังหวะและผู้ป่วยถูกรบกวน
ในฐานะผู้หญิง สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือพวกคนประเภทที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า เ้ากี้เ้าการ ไม่มีเหตุผล และดื้อด้าน!
องค์หญิงฉางผิงรู้สึกหวาดกลัวกับดวงตาที่น่ากลัวของหานอวิ๋นซี จึงรีบปล่อยมือของนางและถอยหลังไปสองก้าว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น นางกลัวผู้หญิงคนนี้งั้นหรือ?
องค์หญิงฉางผิงพยายามไม่สนใจความกลัวที่อธิบายไม่ได้ในใจ อย่างไรนางก็ยังไม่ยอมรับ วันนี้นางมาที่นี่เพื่อจัดการกับหานอวิ๋นซี ไม่ใช่มาเพื่อเสียหน้า!
ด้วยความอายที่กลายเป็ความโกรธ นางเข้าไปใกล้หานอวิ๋นซีและด่าทอว่า “หานอวิ๋นซี เ้าอวดดีอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่ว่าเป็แค่ขยะหรือเป็หญิงสาวที่ส่งตัวเองมาถึงหน้าประตูหรือ เ้าคิดว่าตัวเองจะกลายเป็หงส์ได้จริงๆ หรือ? ข้าจะบอกเ้าให้นะ ขยะอย่างไรก็เป็ขยะอยู่วันยังค่ำ! นกกระจอกก็ยังเป็นกกระจอกอยู่ดี! เ้าคิดว่าตัวเองเป็อะไรกัน อย่าได้คิดว่าจะมีคนมาเอาอกเอาใจเ้าเลย! นังสารเลว!
นังสารเลว!
องค์หญิงฉางผิงพูดคำนี้อย่างเน้นย้ำ ราวกับชี้นิ้วที่หานอวิ๋นซีแล้วด่าทอ
ใบหน้าของหานอวิ๋นซีซีด มือทั้งสองกำหมัดแน่น อยากจะทุบตีใครบางคนเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม นางยังคงสงบนิ่ง นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสร้างปัญหา แต่เป็เวลาที่ต้องช่วยคน เพราะหน้าที่ในตอนนี้ของนางคือหมอ
ใน่สามวันนี้ หากพิษในร่างกายของมู่ชิงอู่ปะทุขึ้นมาก็ต้องรักษาอย่างเร่งด่วน จะได้ไม่มีปัญหาอื่นๆ เกิดขึ้น
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์และพูดอย่างใจเย็นว่า “องค์หญิงฉางผิง เ้าพูดว่าข้าไม่รู้ทักษะทางการแพทย์และเป็แค่คนไร้ค่า เช่นนั้นข้าขอถามเ้าหน่อย เ้ารู้ทักษะทางการแพทย์งั้นหรือ?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา องค์หญิงฉางผิงถึงกับพูดไม่ออก “ขะ ข้า...”
หานอวิ๋นซีถอนหายใจอีกครั้ง นางต้องอดทนอีกเท่าไรกัน นางต้องทำทุกอย่างได้เพื่อผู้ป่วย
“เช่นนั้นแล้ว องค์หญิงฉางผิง รบกวนเ้าให้เกียรติด้วย นอกจากนี้ ข้ายังเป็เสด็จอาหญิงของเ้า การมีมารยาทต่อผู้าุโเป็สิ่งที่เ้าควรมีไม่ใช่หรือ? แล้วข้าก็ขอพูดเป็ครั้งสุดท้ายว่า เชิญเ้าออกไป อย่ารบกวนคนป่วย”
เสด็จอาหญิง เป็ความจริงที่เป็ผู้าุโขององค์หญิง แต่ในแง่ขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์แล้วแน่นอนว่านางต้องได้รับความเคารพ อย่างไรก็ตาม ในเทียนหนิงมันแตกต่างออกไป เสด็จอาขององค์หญิงฉางผิงคือฉินอ๋องและหานอวิ๋นซีเป็ฉินหวังเฟย
ฉินอ๋องเทียบไม่ได้กับเครือญาติของราชวงศ์ แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องให้ความสำคัญกับเขา!
ภรรยาที่มีความโดดเด่นตามสถานะของสามี และหานอวิ๋นซีก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสอนบทเรียนให้กับองค์หญิงฉางผิง
อย่างไรก็ตาม องค์หญิงฉางผิงผงะไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมา “เสด็จอาหญิงงั้นหรือ? หานอวิ๋นซี เ้าไม่ละอายใจหรือไร! กล้าดีอย่างไรถึงมาบอกว่าเป็เสด็จอาหญิงของข้า? เ้ามันก็ไม่ต่างไปจากโสเภณีหรอก!”
โสเภณี?
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างอ้าปากค้างพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะได้สติกลับคืนมา หานอวิ๋นซีก็ตบหน้าองค์หญิงฉางผิงอย่างแรง พร้อมกับเสียง “เพียะ!” ดังลั่น!
ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน ใครทนได้ก็ทนไป แต่ข้าทนไม่ไหวแล้ว!
การเผชิญหน้ากับคนอย่างองค์หญิงฉางผิง ความอดทนนั้นไร้ประโยชน์ การใช้เหตุผลก็ไร้ประโยชน์ ใช้ปากไม่ได้ผลก็ต้องใช้กำลังเท่านั้น
หานอวิ๋นซีะเิความโกรธออกมาอย่างสมบูรณ์!
องค์หญิงฉางผิงถึงกับตกตะลึง แก้มที่บอบบางและงดงามของนางแดงแจ๋ขึ้นมาก แสดงให้เห็นว่าการตบของหานอวิ๋นซีนั้นแรงเพียงใด
บริเวณรอบๆ แม้กระทั่งมู่หลิวเยวี่ยที่กำลังแอบดูเื่สนุกๆ ก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง โอ้พระเ้า ผู้หญิงคนนี้...นางช่างกล้าเหลือเกิน!
ในไม่ช้า องค์หญิงฉางผิงก็รู้สึกตัว ร้องไห้ฟูมฟายและพุ่งเข้าหาหานอวิ๋นซีด้วยมือทั้งสองข้างอย่างบ้าคลั่ง “นังสารเลว เ้ากล้าดีอย่างไรมาตบข้า!”
“ข้าจะเอาคืนเ้า! ขนาดเสด็จแม่ยังไม่เคยตบข้าเลย เ้าเป็ใครกัน!”
“หานอวิ๋นซี เ้ามันเลว นังโสเภณี!”
…
หานอวิ๋นซีคว้ามือขององค์หญิงฉางผิงไว้แน่น ด้วยความทนไม่ไหวอีกต่อไป ก็พูดเสียงดังขัดคำด่าทอของนาง “พอได้แล้ว! อายุก็ยังน้อยแต่พูดคำหยาบคายเต็มไปเสียหมด เสด็จแม่ของเ้าสั่งสอนเ้ามาอย่างไรกัน? เ้าถึงได้กลายเป็คนแบบนี้?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา องค์หญิงฉางผิงก็ตกตะลึง โอ้พระเ้า หญิงสาวคนนี้ตบนาง แล้วยังบอกว่าเป็ความผิดของแม่นางอีกหรือ?
“หานอวิ๋นซี เ้าบังอาจยิ่งนัก!” องค์หญิงฉางผิงะโ ดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถสลัดมือของหานอวิ๋นซีให้หลุดได้
“ทหาร! ทหาร จับตัวนางไว้! เร็วเข้า!”
องค์หญิงฉางผิงะโ องครักษ์ทั้งสองของนางที่กำลังจะออกมาข้างหน้า หานอวิ๋นซีกลับส่งสายตาอาฆาตมา “พวกเ้ากล้าจับฉินหวังเฟย เ้าถามฉินอ๋องแล้วหรือยัง? ใครให้ความกล้าพวกเ้ากัน?”
ฉินอ๋อง สามีของนาง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนชื่อนี้ก็เป็ดั่งโล่ทองคำ
องครักษ์ทั้งสองลังเลใจ องค์หญิงฉางผิงเองก็โกรธจัด “หานอวิ๋นซี เ้าปล่อยข้านะ ไม่งั้นข้าจะไปบอกเสด็จพ่อ!”
หานอวิ๋นซีถอนหายใจ แล้วสะบัดองค์หญิงฉางผิงไปด้านข้างและพูดอย่างเ็าว่า “เอาสิ ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ให้ฉินอ๋องมาพาข้าไป”
องค์หญิงฉางผิงตบโต๊ะพลางร้องไห้ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ นางกล้าไปหาเสด็จพ่อจริงๆ เสียที่ไหนกัน เสด็จพ่อไม่ยินยอมที่จะให้นางแต่งงานกับมู่ชิงอู่มาตลอด ทั้งยังไม่ชอบให้นางมาที่จวนแม่ทัพมากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น หากฉินอ๋องรู้เื่นี้ต้องเป็ปัญหาอย่างแน่นอน นางรู้ดีว่านางไม่สามารถเอาชนะได้
องค์หญิงฉางผิงยกมือกุมหน้าและพูดอย่างดุร้ายว่า “หานอวิ๋นซี เ้ากล้าตบข้า ข้าไม่มีทางปล่อยเ้าไปแน่!”
หลังจากที่นางพูดจบก็กระทืบเท้า หันหลังกลับแล้ววิ่งออกไป องครักษ์สองนายและมู่หลิวเยวี่ยก็รีบตามออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาที่ปิดประตูไปอย่างไม่แยแส เป็การขังหานอวิ๋นซีข้างใน
นี่มันจังหวะอะไรกัน?
“หานอวิ๋นซี เ้ารอก่อนเถอะ! เ้ารอข้าได้เลย!”
“เ้าอย่าได้คิดที่จะออกจากห้องนี้แม้แต่ครึ่งก้าว ข้าจะให้เ้าชดใช้อย่างสาสม!”
…
องค์หญิงฉางผิงะโเข้ามาจากนอกประตู หานอวิ๋นซีมองประตูที่ปิดด้วยสีหน้ากลุ้มใจ นี่มันยุคอะไรกันเนี่ย ช่วยคนสักคนอย่างสงบจะไม่ได้เลยหรือไร?
ในไม่ช้า เสียงขององค์หญิงฉางผิงก็หายไป ไม่รู้ว่านางออกไปแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดห้องก็สงบเงียบเสียที
หานอวิ๋นซีถอนหายใจ ดวงตาทั้งสองหนักอึ้ง แววตาก็เต็มไปด้วยความมืดมน
ความซับซ้อนปรากฏขึ้นในดวงตาของกู้เป่ยเยวี่ย “หวังเฟย เมื่อครู่ที่ตบ...”
“นางสมควรโดนแล้ว!” หานอวิ๋นซีะโด้วยความโกรธเกรี้ยว
เอาเถอะ เวลานี้ตอนนี้ นางอารมณ์เสียสุดๆ จะมีใครที่ถูกด่าว่าโสเภณีแล้วมีความสุขบ้างล่ะ?
เป็ความจริงที่นางมาที่หน้าประตูด้วยตนเอง แต่มันก็คือการบังคับเช่นกัน นางไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสูงส่ง และไม่เคยคิดว่าตนเองเป็ภรรยาเอกของฉินอ๋อง อย่างไรก็ตาม นางก็มีศักดิ์ศรีในตนเอง นางคิดว่าตัวเองเป็คนเก่ง ตรงไปตรงมา มีมโนธรรมและไม่ถือตัว
อย่างไรก็ตาม กู้เป่ยเยวี่ยกลับพูดว่า “หวังเฟย ตบได้ดีจริงๆ แต่องค์หญิงฉางผิงเพิ่งพูดว่า...ตอนนี้ยังไม่มีหมายจับ?”
หานอวิ๋นซีผงะไปเล็กน้อย เมื่อครู่นางโกรธมากจนไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดนี้
นางมองไปยังประตูที่ลงกลอนอีกครั้ง เป็ไปได้หรือไม่ว่า...
ไม่ว่าจะเป็พร คำสาป หรือหายนะ หานอวิ๋นซีก็ไม่ได้สนอะไรมากมายอยู่แล้ว นางจิบน้ำ นั่งเอนหลังบนเตียงและดูต่อไป “หมอหลวงกู้ ตราบใดที่เ้าเชื่อใจข้า เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”
นางสังเกตสีหน้าของมู่ชิงอู่ จับชีพจร วัดไข้ และทำการทดสอบพิษของตัวอย่างเือีกครั้ง
นางมั่นใจว่าอีกสามวันพิษจะต้องปรากฏออกมาอย่างแน่นอน! นางบอกทุกอย่างที่ตนเองเข้าใจ ให้กู้เป่ยเยวี่ยรู้ทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออก
เสียงของขุนนางพระราชวังชิงเป่ยแห่งศาลต้าหลี่ดังเข้ามา “ฉินหวังเฟย นี่เป็หมายจับที่ได้รับการอนุมัติเป็การส่วนตัวจากไท่เฮา มีคนรายงานว่าท่านจงใจสังหารชีวิตของแม่ทัพมู่ชิงอู่ โปรดไปกับกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
คนจากศาลต้าหลี่มาถึงแล้ว!
แน่นอนว่าองค์หญิงฉางผิงไม่ได้มาที่นี่ด้วยสองมือเปล่า นางเตรียมพร้อมไว้แล้วและตั้งใจจะส่งหานอวิ๋นซีไปที่คุก!
อย่างไรก็ตาม การที่ไท่เฮาออกหมายจับด้วยตนเองนั้นโหดร้ายเกินไป
หมายจับคืออะไรน่ะหรือ?
หมายจับก็หมายความว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุมคนผู้นั้น และไม่จำเป็ต้องบอกเหตุผลใดๆ แก่ผู้ถูกจับ เมื่อขังแล้วก็จะค่อยๆ ถูกสอบปากคำ
อย่างไรหานอวิ๋นซีก็เป็บุตรสาวของผู้ที่ช่วยชีวิตนาง ไท่เฮารีบร้อนที่จะกำจัดนางขนาดนี้เลยหรือ?
นอกจากนี้ เื่ของมู่ชิงอู่ในศาลต้าหลี่เองก็ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าหานอวิ๋นซีเป็คนฆ่า มันเป็การสันนิษฐานที่ผิดพลาดเท่านั้น
นี่มันรังแกประชาชนชัดๆ!
กู้เป่ยเยวี่ยที่คาดการณ์ไว้แล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ไร้สาระ!”
หานอวิ๋นซีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สงบนิ่งอย่างมาก นางรู้ว่านี่คือคำสั่งที่ไม่อาจโต้เถียงได้
นางรู้ว่าถ้า้ามีชีวิตที่มั่นคงในโลกนี้ นางต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่ง แต่นางกลับทำไม่ได้
นางเปิดประตูและเดินออกไปด้วยตนเอง เห็นขุนนางเป่ยกงและองค์หญิงฉางผิงยืนอยู่ที่ประตู โดยมีทหารห้าหกนายอยู่ข้างหลัง
หานอวิ๋นซีเพิกเฉยต่อความอวดดีขององค์หญิงฉางผิง มองเป่ยกงอย่างเ็า “ข้าขอถามขุนนางเป่ยกงว่าข้ามีความผิดใดหรือ?”
“มีคนกล่าวหาว่าท่านพยายามลอบสังหารแม่ทัพมู่ หลอกจวนแม่ทัพ ทำเป็รักษาแต่กลับวางยาพิษแม่ทัพใหญ่” ขุนนางเป่ยกงตอบเสียงดัง พูดราวกับว่ามันเป็เื่จริง
“ใส่ร้ายป้ายสี! ขุนนางเป่ยกง ข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าหวังเฟยเป็ผู้บริสุทธิ์ และข้าก็มีส่วนร่วมในการรักษาด้วย” กู้เป่ยเยวี่ยเป็ผู้ที่รักในความยุติธรรมอย่างมาก
ขุนนางเป่ยกงตะคอกอย่างเ็า “ไม่จำเป็ต้องพูดอะไรหรอก นี่คือหมายจับของไท่เฮา ไท่เฮาให้ความสนใจกับเื่นี้อย่างใกล้ชิดและออกหมายจับเอง ฉินไท่เฟย หากท่านมีอะไรจะพูด เชิญไปที่ศาลต้าหลี่แล้วให้ความร่วมมือในการสืบสวนด้วยเถิด หากพวกท่าน้าเป็พยาน โปรดไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อลงบันทึก”
“ขุนนางเป่ยกง...” กู่เป่ยเยวี่ยที่ยัง้าอธิบาย แต่เป่ยกงกลับยกมือขึ้นเป็สัญญาณว่าไม่้ามัน “หมอหลวงกู้ พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ท่านเองก็อยู่ในวัง หมายจับคืออะไรท่านคงรู้ดี”
กู้เป่ยเยวี่ยทำได้เพียงปิดปาก มองไปที่หานอวิ๋นซี ก้มศีรษะและเงียบไปนาน ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ ผู้หญิงคนนี้ที่อุทิศตนเพื่อช่วยชีวิตผู้คน มีความผิดที่ไหนกัน!
เมื่อเห็นความผิดหวังในดวงตาของหานอวิ๋นซี องค์หญิงฉางผิงและมู่หลิวเยวี่ยต่างก็แสดงความอวดดี เฝ้ารอที่จะเห็นนางผิดหวัง เห็นนางคลุ้มคลั่งและเห็นนางร้องไห้เพราะความอยุติธรรม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้