เฉินเนี้ยนหรานมองบน “หรือก็คือคนพวกนี้มีความเป็ไปได้ที่จะมีคนที่มีงานอดิเรกเก็บตู้โตวจริงๆ แต่พวกเราไม่ต้องกลัวเ้าชอบเก็บสะสมไม่ใช่หรือ ข้าสามารถย้ายคนแปลกพวกนี้ออกไป ถึงตอนนี้พวกเราต้องเบี่ยงเบนความสงสัยของพวกเ้าไปทุกอย่างย่อมแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เอาล่ะ ไม่ต้องกลัว ขอแค่คุยกับคนพวกนี้ได้การเดินทางครั้งนี้ของพวกเรานับว่าคุ้มค่า”
โจวอ้าวเสวียนปรายตามองใบหน้าขาวซีดของสตรีคนนี้ เหตุใดเขามีความรู้สึกว่านางในตอนนี้ความจริงแล้วรู้สึกเสียใจภายหลังกัน
ก็จริง รับคนที่มีงานอดิเรกประหลาดเช่นนี้ไว้ จะอย่างไรย่อมรู้สึกไม่สบายใจเท่าไรนัก
“ภรรยาที่รัก เ้าไม่...สนใจจริงๆ หรือ?” เขาถามเย้านาง
เฉินเนี้ยนหรานตบอกรับประกันอย่างผ่าเผยมาก “ไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่านักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ มักจะมีนิสัยแปลกๆ เล็กน้อยพวกเราจะต้องเคารพงานอดิเรกของพวกเขา อย่างมากก็แค่ยอมรับในงานอดิเรกของคนอื่นเอาล่ะสามี พวกเราวางแผนการสักแผน นั่นคือตอนนี้พวกเราจะไปพูดโน้มน้าวคนพวกนั้นอย่างไร!”
โจวอ้าวเสวียนครุ่นคิด แล้วจัดเสื้อผ้าตนเองครู่หนึ่ง
“ก็ได้ ไปเถิด แต่ข้าอยากรู้ว่าเ้าจะใช้อะไรไปพูดโน้มน้าวพวกเขา”
เฉินเนี้ยนหรานหมุนตัวล้วงกระดาษภาพออกมา “เหอะๆ ถึงแม้คนพวกนี้ล้วนเป็คนพิกลแต่เ้าพูดแล้วไม่ใช่หรือ คนพวกนี้มีจุดที่เหมือนกัน นั่นคือสนใจกับทุกอย่างที่เป็การออกแบบของแปลกใหม่สิ่งที่ข้าจะทำเหมาะกับความชอบของพวกเขา แทนที่คิดหาวิธีไปตอบสนองความชอบแปลกประหลาดของพวกเขาสู้ให้พวกเขางานยุ่งทั้งวันจะดีกว่า เมื่อเป็เช่นนี้ เ้าว่าพวกเขาจะยังมีความคิดอื่นอย่างนั้นหรือ?”
นางหัวเราะร้ายกาจออกมา
วินาทีนั้นทำให้โจวอ้าวเสวียนมองเหม่อไป ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดจมูกของนาง“เ้านี่นะ”
น้ำเสียงมีความเอ็นดูอย่างถึงที่สุด
“ฮ่าๆ ...ไม่เป็ไร เ้าจะพูดว่าข้าแย่มากก็ได้นะ แต่นั่นหมายความว่าเ้าชื่นชอบความร้ายกาจของข้า”
ประโยคด้านหลังนางร้องเหอะในใจ แต่ผู้เป็สามีปรายตามองนางเป็การอธิบายว่าความคิดในใจของนางเขาเข้าใจทั้งหมด เพียงแต่เขาไม่ชอบพูดมันออกมาเท่านั้น
เอาเถิด ความรู้สึกถูกรักถูกโอ๋นั้นไม่เลวเลยจริงๆ โดยเฉพาะทั้งๆ ที่เขารู้ว่าตัวนางมีความร้ายกาจเล็กๆแต่ยังคงรักและเอ็นดูเช่นนี้…
ภายในห้องด้านล่าง ตาเฒ่าหม่ากำลังฮึดฮัดไม่หยุด
ตาเฒ่าหม่า “เ้าพูดสิ สตรีนางนี้หนังหน้าหนาก็ช่างมันเถิด เหตุใดถึงได้ไม่รู้จักให้เกียรติคนแก่เลยไอ๊หยา สังคมตอนนี้ตกต่ำลงเรื่อยๆ แล้ว”
คนแปลกแซ่หลิวที่อายุน้อยกว่าสักหน่อยรีบพูดแทรกขึ้นมา
“ความจริงแล้วที่นางพูดเหมือนจะไม่ผิดนะ คิดไปแล้วหากข้าเป็สตรีกำลังนวดอยู่ในห้องแล้วยังถูกกลุ่มตาเฒ่าอายุครึ่งร้อยมาแอบฟัง ในใจคงรู้สึกไม่สบายใจ”
พอคนแปลกแซ่หลิวเอ่ยคำพูดนั้นออกมา กลับได้รับสายตาเหยียดหยามของกลุ่มคนแปลกมองมาทันที
“ถุยๆ เ้าเด็กประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ออกไปฟังก็ช่างเถิดยังมาพูดนั่นพูดนี่ หากไม่ใช่เ้าชอบสะสมตู้โตวแปลกๆ ของพวกสตรี พวกเราจะไม่พูดเลยแต่เ้าพูดสิ เ้าพูดสิ…”
ตาเฒ่าหลิวไม่กล้าเอ่ยปากอีก ยกมือยอมแพ้เตรียมตัวเปิดประตูออกไปสูดอากาศ
ครั้นเปิดประตูออกไปก็สบเข้ากับสายตาแปลกๆ ของสตรีหน้าตางดงาม
เฉินเนี้ยนหรานมองคนแปลกตรงหน้าอย่างพิจารณาด้วยความประหลาดใจจากใจจริงๆ เมื่อครู่ตอนที่นางได้ในยินคนในห้องพูดว่ามีการเก็บตู้โตวเอาไว้ จึงคิดมาตลอดว่าคนคนนี้จะต้องหน้าตาบิดๆเบี้ยวๆ
ทว่าคนหนุ่มตรงหน้าคนนี้หน้าตาดีมากจริงๆ
ผิวขาวใสราวหิมะ ผมยาวสีแดงเข้มสวยจนเกือบจะดูชั่วร้ายดวงตาใสราวกับกระจกสีน้ำตาลเมื่อรวมองค์ประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วทำให้คนหลงใหลจนยินยอมที่จะตกนรกคิ้วและดวงตาราวกับรูปภาพนั้น ทำให้คนจะมองอย่างไรย่อมรู้สึกว่ามองไม่พอ และทำให้คนมองรู้สึกคล้ายอยู่ในสายลมท่ามกลางแสงจันทร์และดอกไม้ที่ปลิดปลิวตามสายฝน
ผมยาวสีแดง ในยุคสมัยนี้ถือเป็สิ่งที่หาเจอได้ยากมากจริงๆ
ภายใต้ความหล่อเหลา ยังแฝงเสน่ห์เย้ายวนแบบชั่วร้ายออกมา
บุรุษวัยหนุ่มเช่นนี้ กลับเป็สมาชิกของกลุ่มไกว่ถาย!
เฉินเนี้ยนหรานถลึงตามองโจวอ้าวเสวียน ยังดึงสติกลับมาไม่ได้เล็กน้อย
โจวอ้าวเสวียนในตอนนี้เอง มองคนแปลกหลิวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจเช่นกัน
“กลุ่มคนประหลาด! ปีศาจ!”
เพียงแค่คำเรียกเดียว กลับทำร้ายจิตใจจนคนแปลกแซ่หลิวสีหน้าถมึงทึงขึ้นมาเขาตีหน้าขรึมดึงหน้ามองทั้งสองคน เท้าเอวด้วยท่าทางวางก้ามเตรียมฝีปากด่า
“พูดถึงผู้ใดกัน พูดถึงผู้ใด กล้าด่าข้าว่าเป็ปีศาจ เ้าสิปีศาจดูเ้าสิ หน้าตาไม่บุรุษไม่สตรี มีคนเช่นเ้าด้วยหรือ หา ปีศาจ ข้าว่าทั้งครอบครัวของเ้าสิปีศาจบรรพบุรุษสิบชั่วโคตรของเ้าสิปีศาจ”
องครักษ์เงาหนึ่งที่อยู่ในเงามืดกัดหูขององครักษ์คนที่สอง “ฟังสิล้วนแต่เป็คำพูดแบบของเ้า ดูเหมือนว่าเขากับเ้าน่าจะพิจารณาให้เป็คู่กันได้นะ”
องครักษ์เงาสอง “ถุย เ้าปีศาจนั่นขโมยคำพูดของข้าไป เหอะ ทั้งๆที่เป็แค่ปีศาจตัวหนึ่ง ในที่ที่พวกเราอยู่ คนที่มีผมสีแดงมักจะถูกเรียกว่าปีศาจทั้งนั้นบุรุษคนนี้แปลกมากเกินไปจริงๆ ”
เหล่าตาเฒ่าที่อยู่ในห้อง หลังจากได้ยินคำด่าของเสี่ยวหลิวพลันตาถลนออกมา
“โอ้ๆ นี่มันแม่นางที่ได้รับาเ็คนนั้นนี่นา เหตุใดตอนนี้มาหาเื่กันถึงที่อย่างนั้นหรือ!”
ตาเฒ่าหม่าโกรธมาก ชี้ไปทางเฉินเนี้ยนหรานจะบิดเอวแล้วต่อว่าที่พูดว่าเขาบิดเอวด่า ก็เพราะเขาเท้าสะเอวด้วยท่าทางสบายๆ เลิกคิ้วชี้นิ้วเรียวยาว…
ท่าทางนั้นทำให้เฉินเนี้ยนหรานคิดถึงเหล่าขันทีในราชวังขึ้นมาอย่างฉับพลันบุรุษก็ไม่ใช่สตรีก็ไม่เชิง…
เอาเถิด โลกของคนแปลกนางไม่มีทางเข้าใจได้ในทันที จึงมองข้ามไปนางแค่จะมาจ้างงานเท่านั้น
“อะแฮ่ม ท่านลุง ท่าทางนี้ไม่ค่อยจะงดงามเท่าใดวันหลังข้าจะสอนท่าทางที่งดงามให้กับท่าน เอ่อ วันนี้ ตอนอยู่ด้านนอกข้าเห็นกลุ่มช่างฝีมือในชนบทกลุ่มหนึ่ง พวกเขากำลังทำของที่ยอดเยี่ยมมากชิ้นหนึ่งข้าเห็นแล้วหลงใหลมาก ดังนั้นจึงเก็บกระดาษร่างพวกนี้มา ได้ยินมาว่าพวกนี้เป็คนของค่ายประหลาดดังนั้นข้าจึง้าจ้างให้พวกท่านทำของแปลกประหลาดเช่นนี้ออกมาเกรงว่า…ทุกท่านจะทำออกมาไม่ได้”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มร้าย โจวอ้าวเสวียนที่อยู่ด้านข้างกางกระดาษภาพร่างออกไม่รอให้คนกลุ่มนี้ปฏิเสธ และไม่ให้โอกาสพวกเขาปฏิเสธเช่นกัน
แต่พวกนางที่คนหนึ่งพูด อีกคนหนึ่งปฏิบัติ จึงไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดี
ตอนนี้ตาเฒ่าหม่ากำลังโมโหอยู่ เขาคิดว่าตนเองที่อายุมากเท่านี้ กลับถูกสตรียังสาวไล่ออกมาจะคิดอย่างไรก็ไม่ค่อยจะถูกต้อง
“ไปๆ พวกเ้าออกไป พวกเราไม่ใช่คนของค่ายประหลาด พวกเ้าสองคนมาผิดแล้วมาผิดแล้ว พวกเ้าสองคนกลับไปทำเสียงประหลาดๆ ต่อไปเถิด ข้าไม่ส่งนะ”
เอ่อ ตาเฒ่าคนนี้ อารมณ์รุนแรงมากเป็พิเศษเชียว
เฉินเนี้ยนหรานกับโจวอ้าวเสวียนที่ถูกไล่ออกมาเหมือนไก่เดินออกไปข้างนอกโจวอ้าวเสวียนใส่แรงลงเท้ายึดติดอยู่ตรงนั้น แล้วแสดงภาพในมือ
“ทุกท่านไม่ดูจริงๆ หรือ สือหม่าจะไม่ดูเลยสักนิดหรือ?” เขาปรายตามองเหล่าคนแปลกที่หดหัวอยู่ในห้องตลอดด้วยท่าทางราวกับจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ตาเฒ่าที่ถูกเรียกชื่อคนนั้น จึงไม่สามารถหดหัวซ่อนหางได้อีกฮึดฮัดแล้วเดินออกมา
สายตาหยุดอยู่ที่กระดาษแผ่นนั้นในมือของเขา พอมองไปสายตาก็เอาแต่จ้องอยู่เช่นนั้น
“ออกไป ออกไป ข้าพูดแล้วว่าไม่้าเห็นคนอย่างพวกเ้า สตรีคนหนึ่งมีที่ใดกันหน้าหนาเช่นนั้น”
ตาเฒ่าหม่ายังคงไล่ทั้งสองคนไม่หยุด แต่สือหม่าที่อยู่ภายในห้องกลับร้องเสียงแหลมออกมา
“ตาแก่หม่า รีบมาดูเร็วเข้า นี่คือสิ่งใด ์ รูปร่างใหญ่เช่นนี้แบบการสร้างชัดเจน ไม่เคยเห็นสิ่งของที่ชาญฉลาดเช่นนี้ ชิ้นส่วนเล็กๆ เช่นนี้ เอามาใช้ทำสิ่งใด? เ้าของที่ดูกลมๆ เหมือนจะเอามาใช้ให้มันขยับได้? หรือจะเอามาสร้างอาวุธลับพิเศษ? ไม่เหมือนไม่เหมือน นี่จะสร้างของอย่างไรกัน?”
ตาเฒ่าหม่าฟังเขาพูดๆ จึงรีบเข้ามาดู พอเขาดูก็จมลงไปในภาพ ในตอนนั้นตาเฒ่าแปดคนที่เหลืออยู่ในห้องต่างพากันเข้ามาล้อม
เฉินเนี้ยนหรานยกนิ้วให้โจวอ้าวเสวียนด้วยความพึงพอใจ
เอาเถิด การจะจัดการคนประหลาดพวกนี้ย่อมต้องให้บุรุษของนางถึงจะได้
“ดูสิ อีกเดี๋ยวพวกเขาจะต้องขอร้องเ้าว่า้าทำเ้าสิ่งนี้”
เสี่ยวหลิวที่เดิมทีจะออกไปด้านนอก หลังจากได้หยิบภาพร่างรูปแบบประหลาด จึงเดินตามกลับไปทุกคนต่างพากันปรึกษาเื่กระดาษแผ่นนั้นไม่หยุด
“ให้ข้าพูดนะ นี่จะต้องเอาไปทำรถคันหนึ่ง ดูแล้วมีล้อรถเบาคงจะเป็รถคันหนึ่ง”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ข้ารู้สึกว่าควรจะเป็ของที่ใช้ถัก”
“เหอะ เ้าเด็กแปลก พูดอะไรไม่น่าฟังเลยจริงๆ ของที่ลึกซึ้งเช่นนี้จะเป็ของที่เอาไว้ใช้ถักได้อย่างไรผิดแล้ว ผิดแล้ว เ้าเด็กเกินไปจริงๆ ไม่รู้เื่”
“ให้ข้าพูดนะ นี่อาจเป็ของที่เอามาใช้ในการทหาร”
“ผิดแล้ว ไม่ใช่ๆ ”
“ไอ๊หยา มีเ้าของอยู่ตรงนี้ พวกเราถามก็รู้แล้วไม่ใช่หรืออย่างไรว่าเอาไปใช้ทำอะไร?”
และเป็สือหม่าที่ดูกระดาษก่อนผู้อื่นกระทุ้งตาเฒ่าหม่าที่อยู่ข้างตัวทุกคนถึงได้หยุดถกเถียงกัน
เหล่าคนแปลกต่างพากันลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ไม่พอใจเฉินเนี้ยนหราน และพากันไปล้อมสองสามีภรรยา
“พวกเ้าสองคนรีบพูดมา ว่าเ้านี่ ในแบบร่างเอาไว้ใช้ทำอะไร?”
“ใช่ๆ เ้า้าให้พวกเราทำ จะต้องบอกก่อนว่าเ้านี่เอาไว้ใช้ทำอะไร และจะจ้างพวกเราทำนั้นค่าแรงธรรมดาพวกเรารับไม่ได้หรอกนะจะต้อง…ตอบสนองความพึงพอใจด้านงานอดิเรกอันยิ่งใหญ่ของข้าถึงจะได้”
เสี่ยวหลิวยังไม่ลืมที่จะหาผลประโยชน์ให้กับพวกเขา
“ฮ่าๆ ตอบสนองความพึงพอใจในงานอดิเรกหรือ พี่ชาย ช่วยบอกงานอดิเรกของท่านออกมาด้วยเ้าค่ะ”
เฉินเนี้ยนหรานปรายตาไปมองบุรุษหนุ่มสุดแปลกด้วยสายตาเ้าเล่ห์นางยังไม่เชื่อเลยว่าบุรุษคนนี้จะสามารถพูดงานอดิเรกของตนต่อหน้าคนอื่น
เมื่อถูกนางถามออกมาตรงๆ เช่นนี้ บุรุษหนุ่มยังคงไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าทุกคน
แม้นิสัยของเขาจะประหลาด แต่ยังไม่ได้หน้าหนาเพียงนั้น ในตอนนั้นจึงอ้ำอึ้งพูดไม่ออก
ทว่าบุรุษหนุ่มสุดแปลกย่อมไม่ได้ธรรมดาเขากระแอมแล้วคิดอุบายหนึ่งออกมาได้
“อย่างไร ถึงกระนั้นงานอดิเรกของพวกเรา เ้าจะต้องตอบสนองความพึงพอใจของพวกเรากฎการรับงานของพวกเราจะทำลายไม่ได้”
