บ้าเอ๊ย เป็หมูหรือไงเนี่ย?
ทำไมถึงหนักขนาดนี้?!
นางเป็ดอกไม้แสนบอบบางที่ไม่อาจต้องลมต้องฝนได้แห่งปรโลก วันนี้กลับต้องมาแบกชายหนุ่มที่ทำตัวเหมือนหมูตายแล้ว แถมยังหนูไล่ไปทั่วูเาอีก
ยิ่งวิ่งสีหน้าของชิงอีก็ยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ นี่นางวิ่งไปที่ใดกัน?!
เ้าหนุ่มน้อยนี่ทำให้นางสับสนแน่ๆ
ทัศนวิสัยเบื้องหน้าของชิงอีคือน้ำตกแห่งหนึ่ง
ชิงอีหยุดฝีเท้าและโยนเซียวเจวี๋ยลง แต่เขายังคงกอดไหล่นางแน่จึงกลายเป็ว่านางเกือบถูกดึงลงไปนอนกองกับพื้น
ชิงอีเหลือมองรอยแผลของเขาตรงข้อมือที่ถูกหนูกัด ซึ่งบัดนี้มันกลายเป็สีดำสนิท
เ้าหนูตัวนั้นเป็สิ่งชั่วร้ายเลยพอคาดเดาได้ว่าพิษของมันจะรุนแรงเพียงใด
อืม ถ้าไม่พิการก็คงอยู่ใกล้ความตายกระมัง
ชิงอีพยายามแกะแขนทั้งสองข้างออกแต่ก็ไม่สำเร็จหรือจะตัดมือทั้งสองข้างของเขาออกดี?
“นี่มันอะไรกัน?” เ้าแมวอ้วนที่ตามมาเห็นชิงอียืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าซีดเซียว โดยมีเซียวเจวี๋ยอยู่บนหลังไม่ต่างจากสัมภาระ เฮ้ ท่าทางคงจะสนิทสนมกันมากแล้วสินะ
เมื่อครู่ตอนที่ชิงอีวิ่งแบกเซียวเจวี๋ยไป เ้าแมวอ้วนหันมาเห็นก็ใคอแทบเคล็ดเพราะคิดไม่ถึงว่านางมารไม่ทิ้งเขาไว้? หรือนี่คือความรู้สึกที่ขาดหายไป?
“เขาเป็ลมจริงๆ น่ะเหรอ?”
“คงงั้น”
เดิมทีจงใจที่จะให้ชายหนุ่มตกอยู่ในอันตรายเพื่อรอดูว่าเขาจะเป็เช่นไร แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็หาเื่ใส่ตัว
ใบหน้างดงามของชิงอีหน้าง้ำหน้างอด้วยความหงุดหงิดเป็อย่างมาก
เ้าแมวอ้วนที่อยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า มันเพิ่งจะถามชิงอีไปเองว่าเกิดอะไรขึ้น? ที่แท้ก็ถูกทำให้สับสนนี่เอง!
มันอดที่จะชื่นชมเซียวเจวี๋ยไม่ได้ เพราะนางมารร้ายมีชีวิตยาวนานถึงเพียงนี้ ทั้งที่ในปรโลกไม่มีใครกล้าชักสีหน้าหรือกล้าลงมือกับนาง แต่ที่โลกมนุษย์นี้นางมารร้ายกลับต้องยอมสยบให้
โลกมนุษย์ ช่างควรค่าเสียจริง!
ด้วยน้ำหนักที่แบกอยู่บนกาย ชิงอีพยายามยืนขึ้นมาฆ่าหนูที่อยู่รอบทิศก็รู้สึกว่าสภาพตนเองนั้นน่าขันนัก จนต้องระบายความโกรธใส่ฝูงหนูเหล่านี้ อย่างไรเสียอูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า[1] ถึงตอนนี้จะดูอับจนหนทางแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน! แม้ว่าพลังยังไม่ฟื้นฟูก็ใช่ว่าหนูพวกนี้จะมาสร้างปัญหาให้นางได้!
ตูม
ชั้นบรรยากาศเปลี่ยนสีกะทันหันพร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้น
โขดหินที่ขอบหน้าผาถูกยกลอย ฝูงหนูรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจึงไม่กล้าเดินหน้าและด้วยความกลัวถึงขีดสุดมันจึงร่นถอยออกมาสามฟุต
โก่วต้านและผีทั้งสี่ก็ตัวสั่นอยู่ไม่ไกล ยามใดที่พญามัจจุราชพิโรธ เมื่อนั้นผีนับร้อยต้องคร่ำครวญ
วี๊ด วี๊ด วี๊ด
ลมจากเหนือจรดใต้พาดผ่านูเาโหมกระหน่ำจนกลายเป็พายุหมุนมาบดขยี้หนูจนเหลวเป๋วเป็โคลนไปทีละตัวๆ
มันเป็ฉากนองเืที่เกินกว่าจะทนดูได้
เพียงพริบตาเดียวก็เหลือเพียงเศษเนื้อและคราบเือยู่หน้าน้ำตก
ฟู่
ชิงอีทรุดตัวลงนั่งไขว่ห้างอย่าลืมตัวว่าแบกอะไรไว้ ดังนั้นเมื่อเซียวเจวี๋ยล้มลงกับพื้น ชิงอีที่ไม่อาจทรงตัวได้จึงล้มตามเขาไปอีกคน
ซี๊ด
ริมฝีปากเจ็บขึ้นมาเป็ริ้วๆ พอชิงอีลืมตาขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาและรับรู้ถึงััอ่อนนุ่มจากการที่ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันอย่างแแ่
ฮึ~ เ้าแมวอ้วนกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ล้มได้ถูกที่จริงๆ เหตุใดต้องจูบด้วยล่ะ?
แมวอ้วนอยากจะล้อเลียน ทว่า มันค่อยๆ รับรู้ว่าถึงความผิดปกติเพราะต่อให้นางมารร้ายจะหมกมุ่นแค่ไหน หลังจากจูบแล้วไม่น่าจะเงียบขนาดนี้นี่นา? เมื่อปรี่เข้าไปหามันจึงพบว่าสีหน้าของชิงอีดูแปลกไปราวกับว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
“ชิงอี ไม่เป็ไรใช่ไหม?”
“เป็สิ!” ชิงอีพูดลอดไรฟัน “รีบแยกข้าออกจากเขาเดี๋ยวนี้!”
ใจของแมวอ้วนตกไปอยู่ตาตุ่มและประหลาดใจกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
โอ้ไม่นะ ในปากของหนุ่มน้อยผู้นี้มีหลุมดำซ่อนอยู่...ก็แค่จูบเท่านั้นเองจะกลืนกินพลังของนางมารร้ายไปทำไมกัน!
เห็นชัดว่าเขายังคงไม่ได้สติ พลังในตัวชิงอีเริ่มไหลออกอย่างควบคุมไม่ได้แล้วพลังทั้งหมดก็ถูกดูดเข้าไปในร่างเขา
ซวยแล้ว!
เ้าแมวอ้วนรีบจ้ำไปช่วยนาง แต่ผลกลับกลายเป็ว่าพอมันยกอุ้งเท้าขึ้นก็เหมือนถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กและไม่สามารถขยับได้
“ท่านเป็หมูหรือไง!” ชิงอีะโอย่างฉุนเฉียว
แม้แต่นางยังโดนดูดพลัง แล้วมันจะกล้าเข้าไปช่วยได้อย่างไร
โก่วต้านที่อยู่ใกล้ๆ ลังเลที่จะเข้าไปช่วย เพราะกลัวจิตสังหารของเซียวเจวี๋ย
ผีหนึ่งตนกับแมวหนึ่งตัวมองตากันปริบๆ
แล้วเสียงกรอบแกรบดังขึ้นจากป่าด้านหลัง มีคนกำลังมา!
ดวงหน้างดงามของชิงอีแสนเ็า โดยั์ตาที่สร้างความเย็นะเืไปถึงกระดูกสันหลังสะท้อนกลุ่มคนเ่าั้
“อามิตตาพุทธ” เจี้ยชือยกมือขึ้นพนมด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ ต่างจากชิงอีที่ส่งสายตารังเกียจกลับไปให้ “เป็จริงดั่งที่ลูกศิษย์เล่าให้อาตมาฟังจริงๆ องค์หญิงทรงอยู่ร่วมกับความชั่วร้าย”
ฮึ ชิงอีเหยียดยิ้ม
เจี้ยชือและเหล่าภิกษุด้านหลังเดินเข้ามาหาพวกชิงอี
เ้าแมวอ้วนอดไม่ได้ที่จะกลอกตา สารเลว คราวนี้แหละแผนของเ้าได้ล่มแน่ๆ!
...
วัดตงหวา ภายในอาราม
มีพระอาจารย์หัวล้านรูปร่างอวบอ้วนนั่งขัดสมาธิบนฟูกท่านหนึ่ง ใบหน้าของเขาระบายยิ้มทั้งที่หลับตาอยู่
รอยยิ้มนั้นไม่ได้สร้างความสบายใจให้แก่คนมองสักนิด เพราะมันทำให้นึกถึงการยิงฟันของหนูจะกละที่กัดกินซากศพในรางน้ำเสียมากกว่า ภายในอารามสิ่งที่บูชาเขาบูชาอยู่ตรงหน้าหาใช่พระพุทธรูปแต่อย่างใด แต่มันกลับเป็หนูมัมมี่ตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าแมว โดยใบหน้าละม้ายมนุษย์กำลังฉีกยิ้ม
รอยยิ้มที่ไม่ต่างจากพระอาจารย์อวบอ้วน
“อั่ก “พระอาจารย์อ้วนเหงื่อผุดที่หน้าผากกระอักเืสีดำออกมา
“ศิษย์พี่!” ร่างผอมบางดีดตัวเข้าหา เขาคือวั่งจีตัวปลอมที่ถูกกักขังอยู่ในห้องฟืน!
พระอาจารย์อ้วนเช็ดปากแล้วลืมตา โดยดวงตาขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่วเขียวนั้นมีแต่ความอาฆาตพยาบาท
“ไอ้สารเลวนั่น! ฆ่าลูกรักของข้าหมด!”
“อะไรนะ!?” วั่งจีตัวปลอมใจนหน้าถอดสี “นางเก่งกาจถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ศิษย์พี่ หรือว่าองค์หญิงก็เป็คนของเสวียนเหมินด้วย!”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง นางสารเลวคนนี้มีความสามารถสูงนัก ผีทั้งสี่ตัวนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าแล้ว แถมวงเวทบนูเาด้านหลังก็ถูกนางทำลายเช่นกัน สมควรตายนัก! สมควรตาย” พระอาจารย์ตัวอ้วนฉุนเฉียว “ความทุ่มเทในหลายปีที่ผ่านมาของข้า ทั้งหมดต่างสูญเปล่า! ข้าจะต้องกินเนื้อและดื่มเืของนางให้จงได้!”
วั่งจีตัวปลอมหน้าเปลี่ยนสี “เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรดีขอรับ?!”
“วางใจเถิด ต่อให้นางจะเก่งกาจแค่ไหนก็เป็เพียงผู้หญิงเท่านั้น ลูกรักทั้งหลายของข้าต้องไปไม่ตายเปล่า แถมตอนนี้นางถูกเจี้ยชือจับไว้แล้ว!” พระอาจารย์ตัวอวบอ้วนแสยะยิ้ม
“เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลยขอรับ!” วั่งจีตัวปลอมถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ศิษย์พี่ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก หลอกให้พระอาจารย์เจี้ยชือนั่นออกหน้ารับแทน ฮึ่ม นางสารเลวนั่นทำลายแผนการของเราไปตั้งมากมาย อย่าให้นางตายง่ายนักล่ะ!”
“ฮึ ไม่ต้องห่วง ข้าจะให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานสารพัดรูปแบบ แล้วค่อยๆ ละเลียดและดื่มด่ำในรสชาติของิญญานาง! ิญญาของคนของเสวียนเหมินเป็ยาชูกำลังชั้นยอด!” พระอาจารย์ตัวอ้วนเลียปาก “ยิ่งไปกว่านั้น นางเป็เชื้อสายราชวงศ์จึงมีพลังัอยู่ในร่าง หากได้กินนางเข้าไปแล้ว บางทีอาจไม่ต้องซ่อนตัวในวัดตงหวาและไม่ต้องขโมยเครื่องหอมบุญกุศลอีกต่อไป!”
“ยินดีด้วยศิษย์พี่ ยินดีด้วย! เมื่อถึงเวลานั้น ศิษย์พี่โปรดอย่าลืมศิษย์น้องนะขอรับ”
“อย่ากังวลไป เ้าเองก็จะได้ผลประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน!” พระอาจารย์อ้วนเหยียดยิ้มชั่วร้าย “ลูกน้องของเซ่อเจิ้งอ๋องทั้งสองคนก็ไม่เหมือนคนทั่วไป สองคนนั้นมีประโยชน์กับเ้าอยู่ไม่น้อย”
“ส่วนเซ่อเจิ้งอ๋องผู้นั้น...”
พระอาจารย์อ้วนร้องฮึ “ข้าจะใช้เวทของข้าจัดการกับิญญาของเขาเอง”
วั่งจีตัวปลอมที่เห็นด้วยอย่างมาตลอด ยามก้มหัวลงดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เฮอะ พูดตรงๆ ท่านไม่ได้คิดที่ฮุบประโยชน์ทั้งหมดมากกว่าหรอกหรือ?!
องค์หญิงกับเซ่อเจิ้งอ๋อง ท่านน่ะกินแต่เนื้อล้วนๆ ส่วนข้าได้แค่กระดูกเท่านั้น!
หากเขาสามารถกลืนิญญาของทั้งสองได้ละก็...
วั่งจีตัวปลอมหันหลังไปรินชาให้พระอาจารย์อ้วนพร้อมด้วยดวงตาที่มีความอาฆาตพาดผ่านก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
*********************
[1] อูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า หมายถึง ถึงตอนนี้จะตกต่ำแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน