การปรากฏตัวของม้ามืดต่างทำให้ผู้ชมตื่นเต้น จิติญญาของผู้คนที่อยู่ในเขตจตุรัสเมืองเซียงหยางเดือดพล่าน ชายหนุ่มที่ชื่อเจียงเฉินเป็ผู้สร้างปาฏิหารย์ ขณะเดียวกันหลายคนต่างกังวลถึงความปลอดภัยของเจียงเฉิน เพราะเจียงเฉินได้ล่วงเกินหนานเป่ยเฉา และเหลียงเซียว ทั้งสองมิใช่ผู้ที่สามารถจัดการได้โดยง่าย โดยเฉพาะหนานเป่ยเฉา ดาวรุ่งพุ่งแรงของแคว้นฉี ผู้ที่มีความภาคภูมิใจในตอนเองสูงและหยิ่งยโส
ศิษย์ทั้งหมดจากสี่นิกายใหญ่มองไปยังเจียงเฉินด้วยท่าทางหลากหลาย ความสามารถของเจียงเฉินทำให้พวกเขาทั้งหมดเสียหน้า การแข่งขันประจำแคว้นฉีได้จัดขึ้นมาหลายปีก่อน และนี่เป็ครั้งแรกที่คนนอกได้อันดับหนึ่ง
การแข่งขันรอบแรกได้เสร็จสิ้นแล้ว และการแข่งรอบสองกำลังจะเริ่ม การแข่งครั้งนี้เป็การต่อสู้ นี่เป็สิ่งที่ผู้คนต่างเฝ้ารอคอยรับชมว่าเพราะอัจฉริยะที่แท้จริงนั้นมาจากาาของการต่อสู้นี้ แม้ว่าเจียงเฉินจะได้อันดับหนึ่งในการแข่งรอบแรก แต่ไม่มีใครมองว่าเจียงเฉินจะชนะ แม้ว่าเขาจะทนแรงกดดันได้มิใช่หมายความว่าเขาจะมีความสามารถในการต่อสู้
"การแข่งขันรอบแรกได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคนเตรียมพร้อมลงสนามประลอง"
หนานเป่ยเฉาพูดออกมา สี่อัจฉริยะนิกายใหญ่ได้เคลื่อนไหว พวกเขาไปบนอากาศ ไปหยุดบนเวทีสูงใหญ่ใจกลางลานกว้าง ด้านหน้าหอคอยมีสนามประลองสูงกว่าสองจ้างได้ถูกสร้างขึ้นรวมทั้งสิ้นสิบห้าแห่ง ซึ่งเตรียมไว้สำหรับผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคน
สนามประลองได้ถูกออกแบบไว้สำหรับการแข่งขันประจำแคว้นฉี และได้จัดขึ้นที่นี่เหมือนทุกปี ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคน ต้องสู้กันบนสนามประลองแบบ ตัวต่อตัว สนามประลองเพียงสิบห้าแห่งก็เพียงพอต่อผู้เข้าแข่งขันสามสิบคน
ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคนที่อยู่ใกล้เส้นทางสู่์ต่างมุงหน้าไปยังสนามประลอง พวกเขาต่างมีจิตมุ่งมันกับการต่อสู้
สามารถอยู่รอดมาถึงรอบนี้จากศิษย์หลายร้อยคน พวกเขาต่างอยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ยกเว้นเจียงเฉินซึ่งอยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น เจียงเฉินในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนที่เขาจะปีนเส้นทางสู่์ เขาได้ตราประทับัเพิ่มขึ้นอีกหกดวงส่งผลให้พลังการต่อสู้ของเขายกขึ้นไปอีกระดับ และระดับการบ่มเพาะพลังของเขาได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น อีกก้าวเดียวเขาก็จะทะลวงผ่านแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางสำเร็จ
บนเวที้า เหลียงเซียวเดินขึ้นมาด้านหน้า แล้วพูดเสียงกังวาน
"เส้นทางสู่์เป็เพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น ไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับอันดับ จะอันดับหนึ่งหรืออันดับสามสิบไม่มีอะไรต่างกัน รอบแรกเป็เพียงการคัดกรองคนเข้าสู่รอบสองเท่านั้น มีเพียงคนที่มีศักยภาพโดดเด่นในการแข่งขันรอบที่สองเท่านั้น ที่จะสามารถชนะและรับรางวัลสุดท้ายไปครอง"
เป็ที่ชัดเจนว่า คำพูดของเหลียงเซียวนั้นมุ่งตรงไปยังเจียงเฉิน ความหมายนั้นชัดเจน อันดับหนึ่งในการแข่งขันรอบแรกไม่มีความหมาย และการแข่งรอบสองคือสิ่งสำคัญที่สุด
"ศิษย์พี่เหลียง พวกเราอยากทราบว่ารางวัลในปีนี้คืออะไร พอจะบอกได้ไหม?"
ใครบางคนจากนิกายเทียนเจี้ยนเอ่ยถาม
"ใช่แล้ว บอกพวกเราก่อนสิ จะได้มีแรงจูงใจในการแข่งขัน"
อีกคนหนึ่งพูดเสริม ไม่เพียงแต่ผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แม้แต่เหล่าคนดูต่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง การแข่งขันประจำแคว้นฉีจัดขึ้นมาโดยสี่นิกายใหญ่ รางวัลต้องไม่ธรรมดาเป็แน่
"ได้ ข้าจะบอกเดี๋ยวนี้ละ ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศจะได้รับสมบัติสามอย่าง หนึ่งยุทธ์ภัณฑ์ระดับกลาง หนึ่งแหวนมิติ กับอีกหนึ่งผลหลิงเหยาหยวนพันปี"
เหลียงเซียวพูดเสียงดัง ทุกคนที่อยู่ในลานกว้างต่างได้ยินเขาชัดเจน เมื่อพวกเขาได้ยินรางวัลทั้งสามอย่าง ทั่วทั้งลานกว้างต่างฮือฮาในทันใด
"สุดยอด สมแล้วที่เป็สิ่งที่นิกายใหญ่ทั้งสี่เลือกเฟ้น ยุทธภัณฑ์ระดับกลาง แม้จะเป็สี่นิกายใหญ่มีเพียงศิษย์ในเท่านั้นที่มีโอกาส และในตอนนี้เป็หนึ่งในรางวัลของการแข่งขันระหว่างศิษย์นอก! "
"แหวนมิตินั้นล้ำค่ายิ่งกว่า มันเก็บของได้มากมายกว่ากระเป๋ามิติที่คนทั่วไปใช้ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กพกพาสะดวก แถมยังประทับััเทวะ ทำให้มีเพียงเ้าของเท่านั้นที่สามารถใช้ได้"
"ผลหลิงเหยาหยวนพันปีหายากยิ่งกว่า ข้าได้ยินมาว่ามันเติบโตยากมาก มันต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และดูดซับพลังหยวนอย่างต่อเนื่อง ภายในนั้นมีแก่นแท้ปฐีบรรจุอยู่ นี้แหละคือรางวัลใหญ่!"
เสียงประหลาดใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนทั่วไป สมบัติทั้งสามนั้นหายากมาก พวกเขาไม่สามารถได้แม้กระทั่งในความฝัน เป็ได้เพียงจินตนาการเท่านั้น แต่ตอนนี้มันได้ถูกประกาศให้เป็ของรางวัล แน่นอนว่ามันได้จุดประกายจิติญญาการต่อสู้ของทุกคน การประลองครั้งนี้ต้องเข็มข้นขึ้นเป็แน่
เจียงเฉินยังคงมีท่าทีสงบ ด้วยประสบการณ์ครั้งหนึ่งของเขาเคยเป็ยอดนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า สิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ค่า เขาไม่เคยแม้จะมองมันมาก่อน ยุทธภัณฑ์ระดับกลางเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย แต่แหวนเก็บของนั้นเป็ของดีอยู่ ตอนนี้เขาใช้กระเป๋าเก็บของธรรมดา ถ้าเขาได้มันมาเขาจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการเก็บของในอนาคต
แต่ที่เขาสนใจจริงๆคือผลหลิงเหยาหยวนพันปี มันเป็ทรัพยากรธรรมชาติที่หาได้ยาก แก่นแท้ปฐีที่มีอยู่ในผลหลิงเหยาหยวนพันปีนั้นไม่มากเท่าไร แต่ก็เพียงพอสำหรับเขาในตอนนี้ ด้วยผลหลิงเหยาหยวนพันปีรวมกับผลประโยชน์ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ เจียงเฉินมั่นใจเต็มร้อยว่าเขาจะทะลวงผ่านขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง หรืออาจมากกว่านั้น
ท่ามกลางฝูงชน หวงต้ากำลังมีความสุขกับการคำนวณสิ่งที่มันเก็บเกี่ยวมาได้โดยไม่สนใจสายตาผู้คนรอบตัวมัน
"เ้าหมาเหลือง เ้าคิดยังไงกับเ้าหนุ่มนั่นในการแข่งรอบสองนี้"
ใครบางคนถามขึ้น
"ยังต้องคิดอีกรึ! แน่นอนว่าต้องได้อันดับหนึ่ง"
หวงต้า พูดอย่างสบายๆ
"อันดับหนึ่ง? ตลกแล้ว เ้าหมาสีเหลือง เ้ากล้าเดิมพันอีกครั้งรึไม่?"
ชายคนนั้นพูดต่อในทันที เขากลัวว่าหวงต้า จะตอบว่าไม่ ถ้าเป็เช่นนั้นเม็ดยามนุษย์หยวนของเขาก็จากไปอย่างถาวร
"แน่นอนว่ากล้า! กลัวว่าพวกเ้าจะไม่กล้าน่ะสิ! แต่ครั้งนี้ สัดส่วนไม่ใช่หนึ่งต่อสิบ แต่เป็หนึ่งต่อสอง!"
หวงต้าพูดอย่างจริงจัง ไม่มีใครสังเกตสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในตาของเ้าหมานี่ มันได้ซ่อนความฉลาดแกมโกงไว้ข้างใน
"ฮ่าฮ่า เ้าหมาเ้ากลัวหรือไร สัดส่วนหนึ่งต่อสอง ดูเหมือนว่าครั้งนี้เ้าจะไม่มั่นใจในตัวเ้าหนุ่มนั่นนะ! เ้าเด็กเหลือขอนั่นเพียงแค่แก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แน่นอนว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของาาปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวง! มันเป็ไปไม่ได้ที่เขาจะเป็ที่หนึ่ง ข้าลงเดิมพันด้วยเม็ดยามนุษย์หยวนที่เหลือหนึ่งร้อยเม็ด"
"ใช่แล้ว เพราะเ้าหมาสูญเสียความมั่นใจ มันถึงได้ปรับลดสัดส่วนเหลือเพียงหนึ่งต่อสอง! มันกลัวว่าชายหนุ่มคนนั้นแพ้การแข่งแล้วมันจะสูญเสียทั้งหมด เพราะงั้นจะไปกลัวอะไร มาเล่นพนันกันดีกว่า"
"ข้าลงด้วย บัดซบ! บิดาเ้าต้องชนะแล้วเอาคืนมาทั้งหมด"
ในตอนนี้มีคนมาเล่นพนันกันมากกว่าการแข่งรอบแรกเสียอีก ผู้คนที่เสียในรอบแรกต่างหวังว่าพวกเขาจะชนะเอาทุนคืนมาในรอบสอง และผู้คนที่ไม่ได้พนันในรอบแรกต่างไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ ไม่มีผู้ใดเชื่อว่าเจียงเฉินจะเป็ที่หนึ่ง ในความเป็จริง การที่สามารถทนแรงกดดันได้ กับการที่สามารถจัดการาาปีศาจน้อยได้ ทั้งสองอย่างมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มุมปากของหวงต้าฉีกกว้างจนเกือบถึงหลังหู แผนการชั่วร้ายของมันสำเร็จอีกครั้ง มันเพียงปรับลดสัดส่วนลง ทำให้ผู้คนคิดว่ามันเป็กังวล ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและส่งเม็ดยามนุษย์หยวนของพวกเขาไปให้
"ว๊ะก่ะก่ะ ข้านี่ช่างหลักแหลมเสียจริง ช่างเป็ธุรกิจที่ง่ายดายอะไรขนาดนี้"
หวงต้ารู้สึกภูมิใจในตัวของมัน มันรู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ไม่มีผู้ใดฉลาดกว่าตัวมัน ถ้ามีกระจกอยู่ตรงหน้ามัน มันจะคุกเข่าลงต่อหน้าภาพของมันเอง
ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคนพร้อมแล้ว พวกเขาต่างรอคำสั่งจากหนานเป่ยเฉา
หนานเป่ยเฉาก้าวออกมาข้างหน้า เขาสะบัดมือของเขา สร้างแผ่นไม้ทั้งสามสิบแผ่นสร้างจากไม้สีเขียว บินออกไปเป็เส้นตรงไปยังหน้าของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
"มีแผ่นไม้ทั้งหมดสามสิบแผ่น ้าของมันจะสลักไปด้วยเลขหนึ่งถึงสิบห้า ผู้ที่จับได้หมายเลขเดียวกันให้มาแข่งขันกันบนสนามประลองของแต่ละคน"
หนานเป่ยเฉาอธิบาย กติกาก็เหมือนการแข่งขันครั้งที่แล้ว หลายคนต่างทราบดี
"น้องเจียง หากพวกเราจับได้เลขเดียวกัน เ้าไม่จำเป็ต้องออมมือ"
ฮันหยานพูดด้วยรอยยิ้ม
"แน่นอน"
เจียงเฉินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"รางวัลของการแข่งขันนี้มีเพียงผู้ที่ได้อันดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถรับไปได้ แต่ความสามารถและอันดับการแข่งขันของทุกคนจะเป็ที่ประจักษ์ในทุกนิกาย นิกายของพวกเ้าก็จะให้รางวัลเป็รายบุคคลไปตามผลลัพธ์ ขอให้ทุกคนแข่งขันด้วยกำลังทั้งหมดที่มี"
กวนอี้หยุนพูดเสียงดัง จุดประสงค์หลักคือศิษย์นิกายเซวียนอี้
"เอาล่ะ เริ่มต้นการแข่งขัน"
หนานเป่ยเฉา พูด
ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามสิบคนต่างเดินเข้าไปเลือกแผ่นไม้ จำนวนของผู้เข้าแข่งทั้งสามสิบคนนั้นมาจากสี่นิกายใหญ่มีจำนวนใกล้เคียงกัน แปดคนจากนิกายเทียนเจี้ยนและอัคคีผลาญฟ้า เจ็ดคนจากนิกายเซวียนอี้ หกคนจากหุบเขาสุขสันต์ และเจียงเฉินผู้เป็คนนอก
เจียงเฉินพลิกแผ่นไม้ในมือของเขามีเลข "แปด" ได้เขียนไว้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ได้เลข "แปด" คือคู่ต่อสู้ของเขา และเขาต้องสู้บนสนามประลองหมายเลขแปด
การเลือกนี้ดูเหมือนจะยุติธรรม แต่ที่จริงมันกลับถูกควบคุมไว้อย่างลับๆ ซึ่งในสถานการณ์ปกติ นิกายเดียวกันจะไม่พบกันเองบนสนาม และพวกเขาเพียงสู้กับนิกายอื่น แต่มันไม่ใช่เช่นนั้น มิเช่นนั้นการแข่งขันก็จะสูญเสียความหมายของมัน
"ข้าจะบอกกฎการต่อสู้อีกครั้ง การต่อสู้นี้คือการต่อสู้เป็ตาย ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากความตายคือยอมแพ้เท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสี่นิกายใหญ่ แต่ถ้ามีความสามารถ จะสังหารคู่ต่อสู้โดยมิให้โอกาสยอมแพ้เลยก็ย่อมได้" หนานเป่ยเฉาพูดด้วยท่าทางโเี้
นี่คือกฎการแข่งขันประจำแคว้นฉี มีเพียงอยู่รอดหรือว่าตายเท่านั้น บนสนามประลอง โอกาสเดียวที่ผู้แพ้สามารถอยู่รอดได้คือยอมแพ้เท่านั้น
"ข้าได้หมายเลขเก้า ใครคือคู่ต่อสู้ของข้า"
"บิดาได้หมายเลขหนึ่ง บัดซบ! คู่ต่อสู้ของบิดาอยู่ที่ไหนกัน? รีบเข้ามาตายไวๆได้แล้ว"
ชายร่างกำยำ ได้ะโขึ้นไปบนสนามประลองหมายเลข 1 และะโอย่างหยิ่งยโส เขามาจากนิกายอัคคีผลาญฟ้า เขาอยู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส แต่เพียงแค่ไม่นานหลังจากเห็นคู่ต่อสู้ของเขา ความหยิ่งยโสได้สลายหายไปจากใบหน้าของเขา กลิ่นอายที่สง่างามของเขาหายไปในทันที เขารู้สึกเหมือนใบหน้าอันขมขื่นของเขาได้ร่วงลงสู่พื้น
เพราะว่า ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือาาปีศาจน้อย
"บัดซบ! บิดาโชคร้ายจริงๆ ข้าขอยอมแพ้!"
ชายร่างกำยำได้ก่นสาปแช่ง แล้วหมุนตัวกลับะโลงจากสนามประลองด้วยความเร็วที่เร็วกว่าตอนะโขึ้นสนามประลองเสียอีก แม้ว่าเขาจะหยิ่งยโส แต่เขารู้ขีดความสามารถของตนดี สู้กับาาปีศาจน้อยไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!
นิกายอัคคีผลาญฟ้าพ่ายแพ้ไปหนึ่งคนแล้ว ทุกคนต่างะโขึ้นบนสนามประลอง บนสนามประลองหมายเลขแปด ศิษย์ผู้ที่สวมเครื่องแบบนิกายเทียนเจี้ยน ะโขึ้นเข้าสู่สนาม.
