ทางเข้าใต้ดินถูกเปิดเผยภายใต้กำแพงที่พังทลาย
เมื่อหนิงเทียนมาถึง หลายคนก็เข้าไปแล้ว
ภายใต้ซากปรักหักพังของสถานที่นี้มีวังใต้ดินที่สร้างขึ้นด้วยหินชนิดพิเศษ สลักลวดลายและยันต์ที่ดูมีมนต์ขลังตั้งอยู่
ประตูวังใต้ดินปิดสนิท โดยมีร่องกลมอยู่ที่ประตูหินนั้นดูเหมือนจะเป็จุดใส่กุญแจที่ต้องใช้ในการเปิดประตู
ยอดฝีมือทั้งสิบสี่คนมารวมตัวกันที่นี่ โดยทั้งหมดถูกร่องวงกลมดึงดูดอย่างลึกล้ำ
“กุญแจอยู่ในรูปวงแหวน รีบไปหาให้เจอเร็วเข้า”
ชิวอีเซี่ยนเป็คนแรกที่เร่งรีบออกไป เขาไม่อยากอยู่ในสถานที่บ้าๆ นี้อีกต่อไปแล้ว
หากมีโอกาสออกไปจากที่นี่ได้ นั่นเป็วิธีที่ดีที่สุด
มีหลายคนที่คิดแบบนี้ ความน่าสะพรึงกลัวของโลกนี้ทำให้แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่านก็หวาดกลัว
กลุ่มคนแยกย้ายกันไปในทันที จนเหลือเพียงหนิงเทียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
เวลาและสถานที่เงียบงัน
หนิงเทียนใช้ ‘หมื่นสรรพสิ่งในใจ’ ััถึงความเคลื่อนไหวของวังใต้ดินอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น เสียงแ่เบาก็ดึงดูดความสนใจของหนิงเทียน
ร่างเงาปรากฏขึ้น ที่แท้ก็เป็ชิวซานอวิ๋นที่ลอบกลับมาอย่างเงียบๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้โอกาสในการสังหารหนิงเทียน
เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้ความของหนิงเทียน ชิวซานอวิ๋นก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาตั้งสมาธิรวบรวมลมปราณด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ก่อนจะพุ่งเข้าหาหนิงเทียนราวภูตผี เมื่อเข้ามาใกล้พอก็ลงมือโจมตีจุดตายในพริบตา มือขวามีพลังอันน่าสะพรึงกลัว ออกหมัดต่อยเข้าที่อกของหนิงเทียน
“ตาย!”
ชิวซานอวิ๋นยิ้มดุร้ายด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามอยู่ดีๆ หนิงเทียนก็หันกลับมาในพริบตา แววตาสว่างวาบด้วยความเร่าร้อน ความสงบนิ่งของเขาทำให้ชิวซานอวิ๋นรู้สึกถึงลางร้ายในใจ
หนิงเทียนชกออกไป ร่างกายเป็เหมือนดวงอาทิตย์ที่ะเิออก หอคอยพลังในร่างกายหมุนวนพร้อมปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว
ชิวซานอวิ๋นหัวเราะอย่างดุเดือดและพูดว่า “คิดโต้กลับข้า เ้าก็แค่...อ๊าก!!!”
หมัดของทั้งสองฝ่ายปะทะกันในชั่วพริบตา พร้อมกับเสียงกระดูกหักและเสียงกรีดร้องอันแหลมคม ชิวซานอวิ๋นถูกหมัดกระแทกจนกระเด็นออกไปด้วยความตื่นตะลึง
ก่อนความเ็ปสาหัสทำให้เขากรีดร้อง ทำไมมันจึงเป็เช่นนี้ นี่ไม่อาจยอมรับได้!
“อ๊า! มือของข้า หนิงเทียน เ้าเด็กแสบ ข้าจะฆ่าเ้า!”
ชิวซานอวิ๋นกรีดร้องอย่างดุเดือด ร่างของเขาพังเสาหินไปสองต้นจึงถูกปกคลุมไปด้วยหินที่ถล่มลงมา
“ฆ่าข้า เ้าไม่มีโอกาสแล้ว แต่เ้ามีโอกาสตายในมือของข้าอยู่นะ”
หนิงเทียนมองสถานที่ทรุดตัวลง หมื่นสรรพสิ่งในใจรับรู้ถึงสภาพร่างกายของชิวซานอวิ๋นอย่างชัดเจน รู้ว่าเขาไม่ได้รับาเ็สาหัส
“ปะาิญญา!”
เสียงเ็าเผยให้เห็นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรง ทันทีที่ดังขึ้น ประตูิญญาก็ปรากฏ แสงิญญาที่น่าสะพรึงกลัวควบแน่นเป็สายฟ้าโจมตีชิวซานอวิ๋น
นี่คือทักษะโจมตีิญญา มันสามารถสังหาริญญา และทำให้เกิดความตาย ซึ่งน่ากลัวอย่างยิ่ง
ชิวซานอวิ๋นกรีดร้อง พร้อมกับพลังสีม่วงที่พุ่งออกมาจากหน้าผาก ก่อนแปลงเป็กวานทองอินทนิลที่สวมลงบนศีรษะของเขา
ก่อนที่การปะาิญญาของหนิงเทียนจะล้มเหลวใน่เวลาต่อมา นั่นเพราะมันถูกขัดไว้ด้วยอาวุธิญญาของเขา
“กวานจักรพรรดิ? หากข้า้าฆ่าเ้า จักรพรรดิยังต้องนอนราบแทบเท้า”
แส้เกล็ดมรกตัทมิฬปรากฏขึ้นในมือของหนิงเทียน ก่อนจะกลายเป็หอกที่สั่นไหวทำลายก้อนหินที่ปกคลุมรอบร่างกายของชิวซานอวิ๋น แล้วเล็งเข้าที่หัวใจของเขา
ชิวซานอวิ๋นกรีดร้องอย่างดุเดือดร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน ความแข็งแกร่งสูงสุดของขอบเขตเปลี่ยนผ่านขั้นแรกะเิออก พร้อมกับผลึกโบราณซึ่งเป็อาวุธวิเศษเผยขึ้นในมือ ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยทรงพลังเทียบเท่ากับน้ำเต้าเจ็ดสี
แส้ยาวของหนิงเทียนเปรียบเสมือนหอก มันพุ่งโจมตีผนึกโบราณหลายสิบครั้งในชั่วพริบตา คลื่นกระแทกที่แผ่ออกไปทำให้ร่างกายของชิวซานอวิ๋นสั่นเทิ้มจนไม่อาจทานทนไว้ได้
เขาอยู่ในขั้นแรกของขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ทว่ากลับไม่สามารถปราบได้แม้กระทั่งมดในขอบเขตผนึกดาราได้อย่างไร?
หัวใจของเขาคำราม เจตนาฆ่าทำให้เขาแทบบ้าคลั่ง
“เงาอินทนิลประจักษ์”
หลังจากเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ประสิทธิภาพการต่อสู้ของชิวซานอวิ๋นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าสามารถเอาชนะคนรอบข้างได้ จึงไม่เชื่อว่าตนจะไม่สามารถฆ่าหนิงเทียนได้
ในความเป็จริง ความสามารถในการต่อสู้ของชิวซานอวิ๋นไม่ได้อ่อนแอเลย หากหนิงเทียนไม่ได้เข้าสู่ขั้นสองของขอบเขตผนึกดาราและควบแน่นประตูิญญาก่อนหน้านี้ เขาคงไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้จริงๆ
ปัจจุบันหนิงเทียนได้ฝึกฝนหมื่นสรรพสิ่งในใจและมีข้อได้เปรียบในการต่อสู้ เขาสามารถรู้สภาพร่างกายของศัตรูได้ตลอดเวลา ทั้งยังเข้าใจจุดอ่อนในการเคลื่อนไหวของศัตรู จึงสามารถหลีกเลี่ยงคมแหลมของท่าจู่โจม และโจมตีจุดอ่อนได้อย่างง่ายดาย
สายเืเงาอินทนิลของชิวซานอวิ๋นนั้นแข็งแกร่งมาก อีกทั้งเงาอินทนิลสามารถเปลี่ยนรูปได้ตาม้า ซึ่งจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และทำให้ยากต่อการป้องกัน
เงาอินทนิลจึงสังหารศัตรูได้ในพริบตา แต่มันไร้ผลกับหนิงเทียน
เงาอินทนิลจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในพื้นที่เล็กๆ
ชิวซานอวิ๋นคิดว่าหนิงเทียนเป็เื่ยากที่จะมองเงาอินทนิลออก ดังนั้นเขาจึงโจมตีจากด้านข้าง ใครจะคิดว่าจิตใจของหนิงเทียนสามารถมองผ่านภาพลวงตาทั้งหมดในโลกได้ ขณะที่ชิวซานอวิ๋นเข้ามาใกล้ หนิงเทียนก็เฆี่ยนตีออกไป มือซ้ายสะบัดแส้ยาวราวกับกระบี่ที่ปลดปล่อยปราณกระบี่ในการโจมตี
นี่คือทักษะแกะสลักหินของชายชราท่าทางง่อนแง่น หนิงเทียนไม่ได้เรียนรู้ทั้งหมด แต่เขาก็แอบเรียนรู้เคล็ดลับบางอย่างมาได้เช่นกัน
การโจมตีอย่างมุ่งมั่นของชิวซานอวิ๋นถูกสกัดกั้นด้วยแส้ยาวของหนิงเทียน แต่คมกระบี่ของหนิงเทียนนั้นเกินความคาดหมายของชิวซานอวิ๋น มันจึงพุ่งแทงทะลุหัวใจจนเขากรีดร้องดังลั่น
“เกราะบรรพตพิศวง!”
ชิวซานอวิ๋นสังเวยอาวุธิญญา นั่นคือชิ้นส่วนเกราะ หลังจากสวมใส่สามารถปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายได้
“หนิงเทียน ข้าจะไม่มีวันแพ้ให้เ้า”
ความเกลียดชังของชิวซานอวิ๋นมากพอๆ กับความบ้าคลั่ง เมื่อครั้งที่เขาอยู่ในขั้นเก้าของขอบเขตผนึกดารา เขาก็พ่ายแพ้ให้กับหนิงเทียนซึ่งอยู่ที่ขั้นห้าของขอบเขตจิตหยั่งลึก
ตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเปลี่ยนผ่านขั้นแรกแล้ว ใครจะคิดว่าเขายังคงพ่ายแพ้ให้กับหนิงเทียนซึ่งอยู่เพียงขั้นสองของขอบเขตผนึกดารา นี่เป็เพียงเื่บ้าบอ
“ยามเ้าพูดเช่นนี้ มันหมายความว่าเ้าแพ้แล้ว”
แส้ยาวพุ่งไปราวัทะยานฟ้า มันมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน โดยผสมผสานแก่นแท้ของทักษะเก้าร่างเถาวัลย์ั บังคับให้ชิวซานอวิ๋นต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากสถานที่นั้นแคบ เขาจึงไม่มีที่ไหนที่จะหลบหนีได้เลย
“ไปให้พ้น!”
จู่ๆ ชิวซานอวิ๋นก็ใช้กั้งทองสีม่วง ซึ่งเป็อาวุธิญญาที่เขาได้รับจากวังวนหลากสี พลังโจมตีนั้นรุนแรงมากจนทำให้แขนของหนิงเทียนรู้สึกชา
อาวุธิญญาอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่ถูกรวบรวมเป็หนึ่งเดียว อุปกรณ์ของชิวซานอวิ๋นเรียกได้ว่าหรูหราเลยทีเดียว เมื่อรวมกับความแข็งแกร่งด้านขอบเขตของเขา ว่ากันว่าสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ทั้งหมดในขอบเขตผนึกดาราได้ แต่สถานการณ์จริงคือเขาถูกหนิงเทียนทุบตีจนกระอักเื และได้รับาเ็สาหัสจนจิติญญาแห่งการต่อสู้ของเขาสูญสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง
ชิวซานอวิ๋นรู้สึกว่านี่คือความฝัน มันไม่ใช่เื่จริง
เขามีกั้งทองสีม่วงและเกราะบรรพตพิศวงปกป้องร่างกาย ไม่ว่าจะเป็การโจมตีด้วยิญญาหรือการโจมตีทางกายภาพก็ยากที่จะทำร้ายเขาได้
ผนึกโบราณที่ผสมผสานกับกวานทองอินทนิลนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่มันกลับถูกแส้เกล็ดมรกตัทมิฬและน้ำเต้าเจ็ดสีของหนิงเทียนบดขยี้
ชิวซานอวิ๋นกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เขาทั้งกรีดร้องและคำราม การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วและเฉียบคม และการเคลื่อนไหวก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจนไม่อาจคาดเดาได้ แต่ทำไมเขาถึงทำร้ายหนิงเทียนไม่ได้เลย?
นี่คือเป็ผลจากหมื่นสรรพสิ่งในใจ ซึ่งช่วยให้หนิงเทียนมองเห็นโอกาสในการต่อสู้และยังคงอยู่ยงคงกระพัน
นี่เป็การต่อสู้ครั้งแรกของหนิงเทียนหลังจากปลูกฝังหมื่นสรรพสิ่งในใจ ความรู้สึกในการควบคุมทุกสิ่งได้ทำให้เขาเป็เหมือนเ้าแห่งฟ้าดินที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์
หนิงเทียนควบคุมจังหวะอย่างต่อเนื่อง เข้าโจมตีจนชิวซานอวิ๋นหายใจไม่ออกและไม่สามารถหลบหนีได้
ชิวซานอวิ๋นผู้หยิ่งผยองตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจึงเริ่มโต้กลับเพื่อเตรียมหาทางหลบหนี
หนิงเทียนจับการเปลี่ยนแปลงทางจิติญญาของชิวซานอวิ๋นได้ พลังโจมตีของเขาจึงเพิ่มขึ้นทันที หอคอยพลังทั้งสองในร่างกายทะลุทะลวงซึ่งกันและกัน ราวกับว่าเวลาและพื้นที่เชื่อมโยงกัน ช่วยให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น สร้างเป็ผลลัพธ์ที่เกินจินตนาการ
ทันใดนั้นกั้งทองสีม่วงของชิวซานอวิ๋นก็ปะทะเข้ากับแส้เกล็ดมรกตัทมิฬของหนิงเทียน แรงบดขยี้ทำให้ทวารทั้งเจ็ดของชิวซานอวิ๋นหลั่งเื และกั้งทองสีม่วงถูกกระแทกออกไป
จากนั้นแส้ยาวจึงเริ่มโจมตีใส่เกราะบรรพตพิศวง และเจาะเกราะอย่างราบรื่น
ชิวซานอวิ๋นกรีดร้อง อาการาเ็ของเขาที่แย่ลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เขาตื่นตระหนก คราวนี้เขาจะตายด้วยน้ำมือของหนิงเทียนจริงหรือ?
เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ชิวซานอวิ๋นก็เริ่มหวาดกลัว เขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่อีกต่อไป เขาเริ่มเปิดใช้งานผนึกโบราณและกวานทองอินทนิลอย่างบ้าคลั่ง เมื่อต้านทานการโจมตีของน้ำเต้าเจ็ดสีได้ เขาก็เปิดการโจมตีทางจิติญญาทันที
การเคลื่อนไหวนี้อยู่นอกเหนือการคาดเดาของหนิงเทียน เนื่องจากไม่มีการเตือนถึงการโจมตีทางจิตล่วงหน้า กว่าหนิงเทียนจะสังเกตเห็นและเปิดใช้ประตูิญญาเพื่อต่อต้าน ชิวซานอวิ๋นก็ใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีไปเสียแล้ว
ชิวซานอวิ๋นที่ได้รับาเ็สาหัสเลือกวิธีที่ตรงที่สุด เขาพุ่งกายขึ้นไป้าและพุ่งตัวออกมาจากพื้นดินพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด
เสียงนี้ดึงดูดความสนใจของหลายๆ คน เมื่อถึงเวลาที่หนิงเทียนไล่ตามเขาออกมาและ้าฆ่าชิวซานอวิ๋น ลี่ไห่ซิงและหยางวั่นอวิ๋นก็มาถึงแล้ว
“ไอ้หยา เืออกแล้ว น่าอายชะมัด!”
ชิวอีเซี่ยนรีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นชิวซานอวิ๋นมีสภาพแทบคลั่งที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยเื อีกทั้งแขนขวาของเขายังเกือบพิการ ทันใดนั้นเขาก็ร้องด้วยความประหลาดใจ ซึ่งดึงดูดสายตามากมาย
ชิวอีเซี่ยนเป็พยานเพียงคนเดียวที่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างหนิงเทียนและซูอวิ๋น จึงรู้ว่าพลังการต่อสู้ของเขานั้นน่ากลัวมาก
คนอื่นๆ เคยได้ยินเพียงชื่อของหนิงเทียน และได้ยินว่าเขาทรงพลัง แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครรู้ว่าพลังต่อสู้ของหนิงเทียนเป็เช่นไร
หยางวั่นอวิ๋นตกตะลึงมาก ขอบเขตผนึกดาราชนะยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่านจนอีกฝ่ายอยู่ในสภาพอนาถเหมือนสุนัข ทั้งยังต้องหลบหนีออกมาด้วยอาการาเ็สาหัส นี่ไม่ต่างจากเื่เล่าในจินตนาการเลย
“ศิษย์น้องหนิง เ้ารังแกศิษย์หยวนซิวได้อย่างไร? ไม่ว่าอย่างไรเ้าก็ควรไว้หน้าเขาสามส่วน ดูสิว่าเ้าทุบตีเขาจนเป็เช่นไร?”
หยางวั่นอวิ๋นพูดขึ้นด้วยท่าทีเหยียดหยาม ในความเป็จริงแม้แต่คนโง่ก็ยังบอกได้ว่านี่เป็การเสียดสีและเยาะเย้ย
สีหน้าของลี่ไห่ซิงซีดลง เขามองหนิงเทียนและพูดด้วยความโกรธ “ดีนี่ เ้าช่างกล้า ข้าอยากเห็นว่าเ้ามีความสามารถแค่ไหน”
หยางวั่นอวิ๋นข้ามร่างของเขาเข้ามาเพื่อหยุดลี่ไห่ซิง แล้วพูดเยาะเย้ย “ทำไม เ้าอยากรังแกผู้น้อยหรือ? เ้าต้องคิดให้รอบคอบ เมื่อาเริ่มต้น เ้าทั้งคู่จะต้องพินาศในวันนี้”
ลี่ไห่ซิงพูดด้วยความโกรธ “หลีกไป ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเ้าด้วย!”
หยางวั่นอวิ๋นไม่ยอมแพ้และพูดอย่างเ็า “ในเมื่อเป็เช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นเราก็มาสู้กัน!”
ลมพัดหวือหวาจนฝุ่นฟุ้งกระจาย รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาจากร่างของหยางวั่นอวิ๋น เขาไม่รู้สึกกลัวเลย
ลี่ไห่ซิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เจตนาฆ่าในดวงตาของเขาเปรียบเสมือนมีด ภายนอกร่างกายมีเสาลมฉีกผ่านห้วงอากาศ ก่อนรอยเท้านับไม่ถ้วนจะปรากฏชัดบนพื้น
นี่เป็ทักษะลับของลี่ไห่ซิง ซึ่งค่อนข้างน่ากลัว
ใบหน้าของหยางวั่นอวิ๋นเริ่มเคร่งขรึม เถาวัลย์สีเขียวปรากฏขึ้นนอกร่างกาย ใบเถาวัลย์ส่งเสียงกรอบแกรบตามสายลมที่พัดไหว
ชิวซานอวิ๋นจ้องหนิงเทียน เขาอยากจะฆ่าอีกฝ่ายด้วยมือของตนเอง แต่รู้ว่าโอกาสนั้นมีน้อยมาก
เมื่อมองจากหางตา ชิวซานอวิ๋นก็เห็นอูเหรินเจี๋ย ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งและคว้าลี่ไห่ซิงไว้อย่างรวดเร็ว
“สิ่งสำคัญคือต้องหากุญแจให้ได้ก่อน ยังมีโอกาสมากมายที่จะฆ่าเขา”
ลี่ไห่ซิงลดท่าทีลง ก่อนจะะโขู่ “รอจนกว่าข้าจะพบกุญแจ จากนั้นข้าจะมาฆ่าเ้า”
หยางวั่นอวิ๋นเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าพร้อมเสมอ!”
ชิวซานอวิ๋นเพิกเฉยต่อเขา และดึงลี่ไห่ซิงออกไปอย่างเร่งรีบ
หนิงเทียนแอบเสียใจ หากหยางวั่นอวิ๋นสามารถหยุดลี่ไห่ซิงได้ เขาก็สามารถฆ่าชิวซานอวิ๋นได้
แต่เห็นได้ชัดว่าหยางวั่นอวิ๋นไม่อยากสู้กับลี่ไห่ซิง น้ำเสียงที่แข็งกร้าวเป็เพียงการเสแสร้งเท่านั้น
หนิงเทียนคาดการณ์ว่าหยางวั่นอวิ๋นอาจจะไม่สามารถเอาชนะลี่ไห่ซิงได้ในการต่อสู้เพียงลำพัง เขาจะต้องผนึกกำลังกับอูเหรินเจี๋ยเพื่อปราบปรามอีกฝ่ายเท่านั้น
คนที่เหลือต่างหันมองหนิงเทียน หลายคนใ แต่พวกเขาล้วนมีเจตนาฆ่าเช่นเดียวกัน
ผู้บำเพ็ญอัจฉริยะที่สามารถทำร้ายยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่านได้ทั้งที่ตนเองยังอยู่ในขอบเขตผนึกดารา หากเขาเติบโตขึ้น เขาจะก่อให้เกิดพลังอันมหาศาลที่ต่อต้านซิงซิวและหยวนซิว
คนเช่นนี้ควรถูกกำจัดก่อนเติบโต
