“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารรักษาพระองค์เข้ามาอุดปากนางกำนัลที่กำลังคุกเข่าผู้นั้นและลากออกไปทันทีภายในห้องเหลือเพียงคนสนิทสองคนที่ตัวสั่นขาสั่น ไม่มีใครกล้าหายใจแรง
“เสด็จแม่รู้สึกโกรธ ลงที่ลูกก็พอแล้ว ไยจึงต้องดึงผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย?”
ผ่านไประยะหนึ่ง องค์รัชทายาทจึงเอ่ยขึ้นเป็ประโยคแรก ั์ตาฮองเฮาคู่นั้นจ้องนิ่งไปที่เขา
“เ้าคิดว่าแม่ไม่กล้าหรือ? ไหนเ้าลองพูดซิ กงอี่โม่ตัวดีปากหวานพูดจาหว่านล้อมอะไรเ้าเ้าจึงช่วยนางถึงเพียงนี้” เมื่อได้ยินเช่นนี้กงเช่อจึงเงยหน้ามองนาง
“ลูกอยากทราบว่าเพราะเหตุใดเสด็จแม่จึงโกรธถึงเพียงนี้มากกว่า?”
คำพูดของเขาทำให้ฮองเฮาชะงักไป นางหลบสายตาหนี กงเช่อรู้สึกไม่อยากเชื่อจริงๆ
“เสด็จแม่ทำเช่นนี้ได้อย่างไรสิ่งของบรรเทาทุกข์เ่าั้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราควรแตะต้อง”
“ในเมื่อคนอื่นแตะต้องได้ ไฉนข้าจึงแตะต้องไม่ได้? เ้าเป็บุตรชายของข้าทำไมจึงไม่เข้าใจถึงความลำบากของข้าบ้าง?” คำตำหนิของเขาทำให้ฮองเฮาเดือดดาล
“เ้ารู้หรือไม่ การดูแลทั้งหมดนี้จำเป็ต้องใช้ทรัพย์สินมากแค่ไหน? หากเทียบที่ชาติกำเนิดตระกูลมารดาของข้าอำนาจค่อยๆ ลดลง ตอนนี้เทียบหลี่เสียนเฟยไม่ได้แล้วหากเทียบที่ความโปรดปราน ข้าก็สู้หลงกุ้ยเฟยไม่ได้เลยตำแหน่งฮองเฮาของข้าไม่มั่นคงนัก หากไม่วางแผนให้ดีสักวันต้องถูกคนอื่นแทนที่อย่างแน่นอน แล้วข้าผิดตรงไหน?”
“แต่อย่างไรก็ห้ามแตะต้องสิ่งของบรรเทาทุกข์อยู่ดี”กงเช่อมีสีหน้าร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“การเดินทางไปแดนประจิมครั้งนี้สำคัญกว่าครั้งก่อนๆ ยิ่งนักเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งแดนประจิมเป็การถาวรครั้งนี้เสด็จพ่อได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หากเสด็จพ่อไม่ได้ให้ความสำคัญแล้วท่านคิดว่าเขาจะอนุญาตต่อข้อเสนอออกเดินทางสามประตูในเวลาเดียวกันขององค์หญิงจาวหยางหรือ?”
“หากไม่ได้ให้ความสำคัญท่านคิดว่าเสด็จพ่อจะยอมให้กรมคลังปล่อยรถม้าเพิ่มขึ้นอีกสามร้อยคันโดยทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้หรือ? ครั้งนี้ท่านทำไม่สำเร็จก็ดีแล้วหากทำสำเร็จ เวลานี้เสด็จแม่คงไม่สามารถลงโทษลูกได้เช่นนี้หรอก”
คำพูดของเขาราวกับค้อนหนักทุบลงบนร่างของฮองเฮา นางทรุดนั่งอยู่บนตั่งหงส์ั์ตาของนางค่อยๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“สิ่งที่เ้าพูดเป็ความจริงหรือ? เสด็จพ่อของเ้า เขาให้ความสำคัญกับเื่นี้มากจริงๆ หรือ?”
กงเช่อพยักหน้า “ตอนนั้นองค์หญิงจาวหยางกล่าวกับลูกเกี่ยวกับเื่นี้ลูกไม่ได้ตัดสินใจออกคำสั่งอย่างวู่วาม นางเป็เพียงหญิงสาวที่ไม่เคยออกจากวังแต่นางกลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในเมืองหลวงเมื่อหลายเดือนก่อนอีกทั้งยังมาขอความช่วยเหลือจากลูก นั่นก็หมายความว่านางได้รับอนุญาตโดยปริยายจากเสด็จพ่อดังนั้นลูกจึงยอมช่วยนาง เดิมทีคิดว่าเป็การสร้างมิตรไมตรีต่อกันแต่คาดไม่ถึงว่าการกระทำครั้งนี้ ยังมีเสด็จแม่ร่วมอยู่ด้วยเพราะเหตุใดเสด็จแม่จึงไม่บอกข้าล่ะ?”
“เื่แบบนี้ข้าจะให้เ้าเข้ามายุ่งได้อย่างไร เ้าเป็ถึงองค์รัชทายาท หากเป็ไปตามที่เ้ากล่าวมาตอนนี้ทำอย่างไรดี?” สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนเป็ตื่นตระหนก นางหลบตา ยิ่งคิดนางก็ยิ่งใบนหน้าผากมีเหงื่อผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตระกูลฝ่ายมารดาของนางถูกลดอำนาจลงเรื่อยๆ ทำให้ฮองเฮารู้สึกหวาดกลัวตอนนี้แม้ว่านางทำไม่สำเร็จ ทว่าเมื่อคิดว่าหากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดโปง หลงกุ้ยเฟย และหลิ่วเสียนเฟยไม่มีทางยอมปล่อยโอกาสเช่นนี้พวกนางต้องเล่นงานนางอย่างแน่นอน
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว บนหน้าผากของนางมีเหงื่อกาฬไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง กงเช่อใจแข็งไม่ได้อีกต่อไป เขาจึงกล่าวเสียงอ่อน“เสด็จแม่อย่ากลัวไปเลย เหตุการณ์นี้ยังไม่สำเร็จคงไม่เป็เื่กระมัง”
หากเป็เพียงการทุจริตทั่วๆ ไป ขอแค่ไม่มีใครเติมเชื้อเพลิงใส่ไฟก็ไม่น่าเป็เื่ได้
ดูเหมือนกงเช่อพลันคิดถึงเื่บางอย่าง เขาจึงรีบกล่าวขึ้น“เหตุการณ์นี้สำคัญมาก ตอนนี้ในเมื่อน้องเก้าเดินทางออกจากเมืองหลวงได้สำเร็จแล้วเสด็จแม่ควรรีบเรียกคนกลับคืน จะได้ไม่เกิดพิรุธ”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของกงเช่อแล้วสายตาของฮองเฮาจึงเริ่มมีประกาย
“เ้าพูดถูกต้องเ้าพูดถูกต้อง”
“เหตุการณ์นี้แม่ผิดไปแล้ว แม่ไม่อยากให้เ้าต้องเข้ามายุ่งกับเื่วุ่นวายเหล่านี้ดังนั้นแม่จึงไม่ได้บอกเ้า เป็เพราะแม่ไม่ดีเอง” เมื่อเห็นกงเช่อยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นนางจึงเข้าประคองกงเช่อขึ้นมาด้วยตัวเองพร้อมกล่าวอย่างรู้สึกผิด
ขณะที่กล่าวนั้นดวงตาหงส์มีน้ำตาไหลออกมา นางรู้สึกผิดมากจริงๆ
เมื่อคิดเหตุผลที่แท้จริง นางทำเื่เหล่านี้ก็เพื่อตัวเขาทั้งนั้นกงเช่อพลันใจอ่อน เขารีบกล่าวปลอบนาง “เสด็จแม่อย่ากลัวเลย ไม่เกิดเื่หรอก”
ทว่าไม่รู้เป็เพราะเหตุใด เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเลย
เหตุการณ์เป็ไปตามคาด ขณะที่ฝ่ายในคนสนิทของฮองเฮาออกไปสอบถามเื่ราวนั้นมีทหารนายหนึ่งพลันเข้ามา ข่าวที่เขารายงานทำให้ฮองเฮาสิ้นหวังทันที
ทำไมจึงเป็เช่นนี้?
แย่แล้วนางร้อนใจลุกลี้ลุกลน
หากจะโทษก็ต้องโทษลูกพี่ลูกน้องของนางคนนั้น เขาคิดว่าตัวเองฉลาดเห็นขบวนลำเลียงผิดปกติก็ยังไม่ยอมรีบถอนมือออกมา ที่แท้นอกจากประตูทักษิณแล้วรถม้าในขบวนสิ่งของทั้งทางเมืองบูรพาและเมืองประจิมล้วนเป็ทหารรักษาพระองค์ของฝ่าา
จากการคาดเดา ขณะที่กลุ่มคนชุดดำคิดดักขบวนถือโอกาสสับเปลี่ยนสิ่งของนั้นเมื่อทหารรักษาพระองค์ลงมาจากรถม้าแล้ว พวกเขาต่างใจนแทบสิ้นสติ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับคำสั่งลับจากฮ่องเต้ให้จับเป็เฉพาะหัวหน้าส่วนคนอื่นให้สังหารทิ้งทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีโอกาสกลับมารายงานฮองเฮาเนื่องจากพวกเขาอยู่ระหว่างทางไปนรกนานแล้ว
ฮองเฮาพลันล้มลงกับพื้น
เกรงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ล้วนเป็แผนร้ายของใครบางคน เริ่มจากยุยงให้ตระกูลหลิวของพวกนางไปสับเปลี่ยนสิ่งของบรรเทาทุกข์จากนั้นจึงแอบไปทูลกับฝ่าา มิฉะนั้นฝ่าาจะเตรียมการล่วงหน้าได้อย่างไรอีกทั้งยังเป็การโจมตีอย่างรวดเร็ว
ใครกันแน่ที่เป็ผู้บงการอยู่เื้ั?ใครกันที่้าบีบนางให้ตกอยู่ในทางตัน?
กงอี่โม่? ไม่มีทาง เ้าเด็กตัวดีไม่มีทางเก่งกล้าสามารถถึงขนาดนี้ฮองเฮาคิดถึงคำพูดของกงเช่อตอนก่อนหน้านี้กรมคลังปล่อยรถม้าเพิ่มขึ้นอีกสามร้อยคัน
กรมคลังหลงกุ้ยเฟย
เหงื่อกาฬพลันแตกพลั่กเต็มหน้าผากฮองเฮา นางตื่นตระหนกมาก คาดไม่ถึงจริงๆว่าเื้ัการบรรเทาทุกข์ง่ายๆ ครั้งหนึ่งกลับเป็การเล่นงานนางถึงชีวิตหลงเซียงเซียงสตรีนางนั้น ไม่ลงมือไม่มีอะไรแต่เมื่อลงมือกลับเล่นงานจนนางไร้ทางออก
ครั้งนี้นางจบแล้วจริงๆ
กงเช่อก็ใกับข่าวนี้อยู่ไม่น้อยเดิมทีเขาคิดเพียงว่าใครกันที่ช่างโลภมากเช่นนี้ไม่รู้ว่าจะถูกฮ่องเต้จับได้หรือไม่ ทว่าคาดไม่ถึงว่าบุคคลผู้นั้นคือเสด็จแม่ของเขาครั้งนี้ไม่ใช่คดีทุจริตธรรมดาอีกแล้วแต่เป็แผนร้ายที่ถูกเตรียมการไว้ล่วงหน้าอย่างยาวนาน
เวลานี้เขาหลับตาทั้งคู่ลงจากนั้นจึงหมุนกายเดินออกไปจากตำหนัก
“เ้าจะไปไหน?”ตอนนี้ผมของฮองเฮายุ่งเล็กน้อย คนสนิทของนางรีบก้าวขึ้นมาประคองนางพุ่งไปข้างหน้า สะดุดขาสองสามก้าว คว้าชายเสื้อของกงเช่อไว้
“ข้าจะไปสารภาพผิดกับเสด็จพ่อ ถือโอกาสก่อนที่เสด็จพ่อจะบันดาลโทสะ” กงเช่อไม่ได้หันศีรษะกลับมา
“ไม่ได้”
“หากเ้าไปมันจะจบแล้วจริงๆ เ้าเป็ความหวังหนึ่งเดียวของตระกูลหลิวของพวกเราเ้าต้องห้ามเกิดเื่ ต้องห้ามเกิดเื่” ฮองเฮาหลุดเสียงตะคอกอย่างดุดัน นางก้าวสองสามก้าวขึ้นไปเบื้องหน้าของกงเช่อคว้าชุดของเขาไว้อย่างแ่า
กงเช่อกลับคว้ามืออันสั่นเทาของนาง
“เสด็จแม่ ข้าอายุสิบหกแล้ว ไม่ควรได้รับการปกป้องจากท่านแล้ว ครั้งนี้ให้ข้าเป็ผู้รับผิดชอบเถิด”
“ไม่” ฮองเฮามององค์รัชทายาทสาวเท้ายาวๆ ก้าวออกไป นางพลันทรุดอยู่บนพื้น
ฮองเฮามองเื้ัของเขาด้วยสภาพตะลึงงัน นางรีบร้องะโเสียงดัง
“ยังงงอะไรอีก รีบไปขวางองค์รัชทายาทสิ”
เวลานี้ภายในราชสำนักกำลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเช่นกัน
อัครเสนาบดีฝ่ายขวาผู้เป็บิดาของฮองเฮากำลังคุกเข่าอยู่กลางตำหนัก สายตาต่างๆนานาต่างมองมาที่เขา หนึ่งในนั้นมีสายตาสะท้อนเจตนาร้ายและการวางแผนอย่างโเี้ทำให้ขุนนางาุโอายุกว่าห้าสิบปีผู้นี้รู้สึกเย็นวาบที่หลัง ฮ่องเต้นิ่งเงียบทว่าการนิ่งเงียบของเขาเพียงหนึ่งวินาทีทำให้อัครเสนาบดีฝ่ายขวารู้สึกหายใจลำบากด้วยเช่นกัน
แย่แล้ว แย่แล้วจริงๆ ทั้งๆ ที่สิ่งของบรรเทาทุกข์ถูกสับเปลี่ยนทุกปีแต่ใครจะรู้ว่าปีนี้กลับถูกฝ่าาจับตามอง? แม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะเสี่ยงมากทว่าฮ่องเต้ตื่นตัวถึงเพียงนี้หากไม่ได้เป็แผนการของหลงกุ้ยเฟยและหลิ่วเสียนเฟยย่อมไม่มีทางเป็ไปได้เขาไม่อยากเชื่อเลย เห็นได้ชัดว่าต้องเป็แผนร้ายแผนหนึ่งอย่างแน่นอน