สามวันต่อมา
จวินหวงยืดกายบิดี้เี หาวหวอดๆ เดินออกมาที่ห้องรับแขก
นางสลบไปเพียงคืนเดียวแล้วก็ฟื้นขึ้นมาั้แ่สองวันก่อนแล้ว บังเอิญว่าหนานสวินถามว่านางจะไปที่ใด นางจึงได้เดินทางร่วมกับหนานสวินมาฉีตู[1]
แม้จะผ่านการเดินทางที่แสนลำบาก แต่จวินหวงได้หลับสบายมาตลอดคืน จึงรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พอเข้ามาในห้องโถงก็มองเห็นหนานสวิน
"อรุณสวัสดิ์" จวินหวงยกมือทักทายหนานสวิน
หนานสวินพยักหน้าก็นับว่าเป็การตอบรับแล้ว เขาเหลือบมองไปที่จวินหวง นางยังคงแต่งกายในชุดบุรุษอยู่ ท่าทางสบายๆ ไม่มีพิธีรีตอง นอกจากความพริ้มเพราที่ติดตัวนางมา ก็ดูไม่ออกว่ามีสิ่งใดผิดปกติ
ภายในห้องอาหารเช้าตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว จวินหวงเห็นอาหารน่ากินอยู่ตรงหน้าก็ตาโตน้ำลายสอ เรียกหนานสวินเป็มารยาทคำหนึ่ง แล้วก็ถือตะเกียบขึ้นลงมือกินเอาๆ ราวกับพายุ
"กินช้าๆ หน่อย อย่าให้สำลัก" หนานสวินรู้สึกรื่นเริงใจที่เห็นจวินหวงส่งอาหารทุกอย่างเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม เขาเทน้ำส่งให้จวินหวงถ้วยหนึ่ง ในดวงตามีความอ่อนโยนโดยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว
"ขอบคุณ" จวินหวงเองก็มิได้เกรงใจ รับถ้วยน้ำมาก็ดื่มเข้าไปอึกใหญ่
หลังจากกินอิ่มหนำสำราญแล้ว คนรับใช้ก็เข้ามาเก็บถ้วยเก็บโต๊ะ จวินหวงลังเลใจอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดก็เอ่ยขึ้น "รบกวนท่านมาหลายวัน ตอนนี้ข้าก็มาถึงฉีตูแล้ว ข้าคิดว่าควรจะ..."
"รัชทายาทเสด็จ!"
จวินหวงยังกล่าวไม่ทันจบ ก็มีคนกลุ่มใหญ่กรูเข้ามาในห้องอย่างกะทันหัน
ผู้ที่เดินนำเข้ามาเป็บุรุษสูงใหญ่อาภรณ์สีดำคอเสื้อขลิบทอง ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลาประดุจหยก หล่อเหลาคมคาย คิ้วัเหินดุดันทรงอำนาจ
จวินหวงตะลึงไปชั่วครู่ หนานสวินลุกขึ้นออกไปต้อนรับ
"องค์รัชทายาท"
คนผู้นี้ก็คือฉีอินรัชทายาทเป่ยฉีหรือ?
จวินหวงมองพิจารณาฉีอินอย่างละเอียด ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเจิดจ้า ท่าทางกระตือรือร้นมีชีวิตชีวา ทุกอากัปกิริยาล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายสูงศักดิ์ที่มีมาแต่กำเนิด
"หนานอ๋องไม่จำเป็ต้องมากพิธี เสด็จพ่อทรงทราบว่าหนานอ๋องถูกลอบโจมตีระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวง จึงให้ข้ามาเพื่อปลอบขวัญก่อนเป็การเฉพาะ" ฉีอินหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วหันไปสั่งการ "ไปนำของเข้ามา"
องครักษ์จำนวนหนึ่งหามหีบไม้สีแดงขนาดใหญ่จำนวนสี่ห้าหีบเดินเข้ามา ฉีอินหัวเราะและกล่าวว่า "ทั้งหมดนี้ล้วนเป็เงินทอง เพชรนิลจินดาเล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าหนานอ๋องจะไม่สามารถช่วยเหลือซีเชว่ไว้ได้ แต่ก็ได้ช่วยจัดพิธีบรมศพให้จวินหงโม่ฮ่องเต้แห่งซีเชว่ผู้วายชนม์ แสดงถึงความเกรียงไกรของแคว้นเป่ยฉีเราก็นับว่าเป็ผลงาน”
จวินหวงฟังถึงตรงนี้ ในใจก็กระจ่างขึ้นหลายส่วน
การที่ฉีอินกล่าวว่าหนานอ๋องจัดพิธีศพนับเป็ผลงาน แท้จริงแล้วคือการเย้ยหยันว่าหนานอ๋องไร้ประโยชน์ ยกทัพใหญ่เดินทางไกลไปถึงซีเชว่ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือซีเชว่ไว้ได้ ทั้งยังถูกซุ่มโจมตีระหว่างเดินทางกลับอีกด้วย
คิดดูแล้วเื่ที่หนานอ๋องถูกลอบซุ่มโจมตีในเขตแคว้นเป่ยฉี คงไม่แคล้วมีความเกี่ยวข้องกับฉีอินรัชทายาทเป่ยฉีผู้นี้เป็แน่
"พระองค์ทรงให้เกียรติมากเกินไปแล้ว" หนานสวินทำราวกับว่าฟังการเย้ยหยันในคำพูดของฉีอินไม่ออก ดวงตาของเขาไม่กะพริบด้วยซ้ำ
ฉีอินดูเหมือนจะคาดการณ์เอาไว้นานแล้วถึงท่าทีตอบสนองที่เมินเฉยของหนานอ๋อง สีพระพักตร์ครึ้มลงชั่วครู่ แต่ก็คืนกลับมาดังเดิมในเวลารวดเร็ว สายตาเปลี่ยนเป้าหมายย้ายมาตกอยู่ที่ตัวของจวินหวงที่อยู่ด้านข้าง
"เ้าเป็ใคร พบเปิ่นกง[2] แล้วเหตุใดไม่ทำความเคารพ?"
หนานสวินขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะกล่าวความ จวินหวงกลับยืนขึ้นอย่างเอ้อระเหย
"ถวายบังคมองค์รัชทายาท" จวินหวงโค้งกายถวายความเคารพ "ข้าสามัญชนเฟิงไป๋อวี้ ไม่ทราบว่ารัชทายาทเสด็จมาเยือน ขอพระองค์โปรดอภัยโทษ"
นางแต่งกายเป็บุรุษ ชื่อจวินหวงนี้ก็ไม่เหมาะสมอีกต่อไป ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็ชื่อเฟิงไป๋อวี้
"เฟิงไป๋อวี้" ฉีอินหรี่ตาลงในฉับพลัน "เ้าก็คือเฟิงไป๋อวี้ที่ไม่ห่วงความเป็ความตายช่วยเหลือหนานอ๋องเอาไว้น่ะหรือ?"
"เป็ข้าพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ" จวินหวงกล่าว
เื่ที่นางช่วยหนานสวิน เกรงว่าตอนที่นางอยู่ที่เมืองหม่าอาน ฉีอินก็รู้แล้ว ด้วยเหตุนั้นนางจึงไม่คิดปิดบังั้แ่แรก
“ในเมื่อช่วยชีวิตหนานหวาง[3] เอาไว้ นั่นก็เป็ผลงานใหญ่ ตามเหตุผลแล้วควรมีรางวัล" ฉีอินยื่นมือออกมา องครักษ์ก็ส่งกล่องของขวัญชิ้นหนึ่งให้ทันที
"นี่คือหยกเถียนที่แคว้นอู๋ส่งบรรณาการมาเมื่อหลายวันก่อน ใต้หล้ากว้างใหญ่ มีเพียงชิ้นนี้ชิ้นเดียว" ฉีอินเปิดกล่องไม้หยิบเอาหยกขาวด้านในออกมา
หยกขาวไร้ตำหนิ เรืองแสงอ่อนๆ เป็ประกายเยือกเย็น เป็จริงดังคำกล่าวของฉีอินที่ว่าเป็หยกดีชิ้นหนึ่ง
"หนานอ๋องเป็ขุนนางสำคัญของเป่ยฉีเรา เ้าช่วยชีวิตหนานอ๋องก็นับว่าเป็ขุนนางผู้มีคุณูปการของเป่ยฉีเรา หยกนี้เป็รางวัลให้เ้า" ฉีอินกล่าวจบก็ส่งหยกมาตรงหน้าจวินหวง
ท่าทางของฉีอินดูผิดปกติอย่างมาก จวินหวงมองไปที่หนานสวินคราหนึ่งตามสัญชาตญาณ เห็นหนานสวินหัวคิ้วขมวดเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด นางชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจรับหยกไว้ "ขอบพระทัยรัชทายาท..."
นางกล่าวได้เพียงครึ่งเดียว บังเอิญเห็นความเหี้ยมเกรียมในก้นบึ้งดวงตาของฉีอินเข้า ในหัวใจชาวาบ ขณะที่กำลังจะถอยหลัง แต่การเคลื่อนไหวของฉีอินยังไวกว่านาง
"เพล้ง!" หยกเถียนเนื้อดีตกลงพื้นอย่างแรง หยกงามแตกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา
ฉีอินกริ้วจัดในทันที "เฟิงไป๋อวี้ เปิ่นกงให้หยกงามเป็รางวัลแก่เ้า แต่เ้ากลับเจตนาทำหยกตกแตกอย่างโจ่งแจ้ง ทหาร! จับตัวเขามาให้เปิ่นกง!"
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วในชั่วพริบตา รัชทายาทมีรับสั่ง องครักษ์ก็เดินเข้ามาหมายจับกุมจวินหวงทันที
แววตาจวินหวงเข้มขึ้นในฉับพลัน ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ ที่แท้นี่ต่างหากคือสิ่งที่ฉีอินวางแผนไว้
เขา้าให้หนานสวินสิ้นชีพ แต่ตนเองช่วยชีวิตหนานสวินไว้ เขาทำอะไรหนานสวินไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่จับตนเองมาลงมีดแทน อ้างว่ามอบหยกเป็รางวัล แล้วก็ทำลายหยกยัดเยียดความผิดให้นาง!
"ช้าก่อน!" หนานสวินยกมือขึ้นห้าม แล้วเอากายกำบังปกป้องจวินหวงไว้ด้านหลัง "รัชทายาทจับผู้มีคุณช่วยชีวิตเปิ่นหวางในจวนของเปิ่นหวาง ยังทรงเห็นเปิ่นหวางอยู่ในสายตาอยู่หรือ?"
"แค่สามัญชนกระจอกๆ เจตนาทำหยกเถียนที่เปิ่นกงประทานเป็รางวัลให้แตกอย่างโจ่งแจ้ง หรือเขาเคยเห็นเปิ่นกงอยู่ในสายตา!" ฉีอินชี้มาที่จวินหวง "ไปเอาตัวเขามา"
หนานสวินแววตาเย็นเยียบ ในขณะที่เขากำลังจะลงมือ จวินหวงกลับดึงชายแขนเสื้อของเขาไว้เบาๆ
"รัชทายาทเป่ยฉี ทรงมีจิตใจคับแคบเช่นนี้เองหรือ?" จวินหวงมองฉีอินอย่างเ็า "เป็เช่นนี้เอง"
"เ้า!" ในใจของฉีอินเกิดความละอาย แต่ใบหน้ากลับโมโหสุดขีด
จริงๆ เื่วันนี้เป็เขาที่สูญเสียการควบคุมอารมณ์ แต่บุรุษผู้นี้เป็เพียงสามัญชนธรรมดา ถึงกับกล้าเป็ปฏิปักษ์กับเขาอย่างเปิดเผย
หนานสวินขมวดคิ้วมองจวินหวงปราดหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ร่างกายกลับยังปกป้องจวินหวงอย่างมั่นคง
จวินหวงถอนสายตากลับไปมองหนานสวิน "หนานอ๋องเกิดมาเป็ทหาร ควบม้าออกสนามรบ บุกเบิกดินแดนเพื่อเป่ยฉี ความดีความชอบในการศึกมากมาย พิจารณาว่าเป็วีรบุรุษอันดับหนึ่งของเป่ยฉีก็ไม่เกินไปนัก แต่ตอนนี้..."
นางมองมาที่ฉีอินอย่างฉับพลัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดดุดัน "หนานอ๋องถูกลอบทำร้ายกลับมา ยังไม่ทันจะรักษาแผลให้หาย แต่ท่านกลับจับกุมผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหนานอ๋องในจวนหนานอ๋อง เพียงเพื่อรักษาหน้าตารัชทายาทของท่าน..."
จวินหวงเข้ามาใกล้ฉีอิน ั์ตาหงส์ราวกับเป็คำถามที่เปิดเปลือยทุกสิ่ง "หรือว่าชีวิตของหนานอ๋องในสายตาเป่ยฉีของท่าน ยังเทียบไม่ได้กับหยกเถียนน้ำดีชิ้นเดียวเช่นนั้นหรือ?"
…………………………………………………………………………………..........
[1] ฉีตู คือเมืองหลวงแคว้นเป่ยฉี
[2] เปิ่นกง หมายถึงผู้เป็เ้าของตำหนัก โดยทั่วไปแล้วใช้กับ ฮองเฮา พระสนม หรือ องค์หญิง องค์ชาย ที่เป็เ้าของตำหนักได้ รวมถึงสามารถใช้เป็คำแทนตัวอย่างเป็ทางการของรัชทายาทได้ด้วย เพราะรัชทายาทเป็เ้าของตำหนักบูรพา (东宫) โดยปกติ รัชทายาทจะเรียกแทนตัวเองว่า เปิ่นกง -ตัวข้าผู้เป็เ้าของตำหนัก / เปิ่นไท่จื่อ (ตัวข้าผู้เป็รัชทายาท) / เปิ่นหวาง (ตัวข้าผู้เป็อ๋อง **รัชทายาทก็คือชินอ๋อง) ได้ทั้งสิ้นสุดแล้วแต่ละยุคสมัย
[3] การอวยยศชั้นอ๋อง หรือ หวาง โดยทั่วไปจะเป็ตำแหน่งองค์ชาย คือ เป็พระราชโอรส พระเชษฐา หรือพระอนุชาของฮ่องเต้ แต่ในบางยุคสมัยก็มีการอวยยศอ๋องให้กับขุนนางผู้มีคุณูปการสูงส่งของแผ่นดิน