“ทำไมข้าต้องตามพวกเ้าด้วย? ทางที่ข้าจะไปก็เป็ทิศตะวันออกเหมือนกันก็เท่านั้น” ิอวี่ไม่พอใจกับท่าทีที่ไม่สอบถามอะไรก่อนก็ตัดสินทุกอย่างไปแล้ว
“หือ?”
ความรู้สึกแรกที่ซ่งเหยามีต่อิอวี่นั้นธรรมดามาก แต่ในเวลานี้นางกลับมีความรู้สึกแปลกใจ “บังเอิญขนาดนั้นเลย ข้ากับเฟิงอวินกับจะไปทางทิศตะวันออก และเป็เส้นทางที่ยาวไกลมากด้วย เ้าจะไปทางเดียวกับเราได้อย่างไร พูดเป้าหมายที่แท้จริงของเ้ามาดีกว่า”
เดินทางไปยังทิศตะวันออก เส้นทางที่ยาวไกลมาก? หรือว่า ทั้งสองคนนี้จะมีพลังเทียบเท่าขีดจำกัดสูงสุดหนึ่งหมื่นตัว หรือว่า ...
“พวกเ้าจะไปที่สำนักเทพอัคคีหรือ?” ิอวี่คาดเดาเช่นนี้แล้วจึงเอ่ยปากถาม
“เ้ารู้หรือ?”
จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยามองหน้ากันแล้วจ้องไปบนตัวของิอวี่
เมื่อมองไปที่จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยา ิอวี่ถึงได้รู้ว่าที่แท้ที่พวกเขาสองคนซื้ออสูรสัตว์ปีก ก็เพื่อ้าเดินทางไปยังสำนักเทพอัคคีให้ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งพอคิดดูแล้วมันก็ไม่แปลก พวกเขาดูแล้วยังอายุน้อยกันอยู่ และมีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว ด้วยเงื่อนไขของพวกเขาแล้วการจะมีเป้าหมายเป็สำนักเทพอัคคีมันก็ไม่แปลก
“สถานที่ที่ข้าจะไปก็คือสำนักเทพอัคคีเช่นกัน ข้าจะไปเข้าร่วมการทดสอบ” ิอวี่ตอบตามความเป็จริง
“เ้า?” จี้เฟิงอวินรู้สึกเหมือนตัวเองฟังผิดไป
ส่วนซ่งเหยาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เ็า “เหอะๆ เ้าน่ะหรือจะเข้าร่วมการทดสอบของสำนักเทพอัคคี? ข้าว่าเ้าน่าจะเป็สายลับของราชวงศ์ไหนมากกว่า ที่คิดอยากจะมาสืบหาตำแหน่งที่ตั้งของสำนักเทพอัคคี แล้วค่อยกลับไปรายงานใช่ไหม? ข้าเตือนเ้าไว้ก่อนนะ หากเ้าตามเรามาอีกข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
ระหว่างที่พูด ซ่งเหยาก็ปล่อยพลังลมปราณที่ดุดันออกมา กระโปรงของนางพลิ้วไหวเล็กน้อย ดวงตาของนางเริ่มปรากฏจิตสังหารออกมา
“ข้าจะบอกอีกครั้งนะ ข้าจะไปสำนักเทพอัคคีเหมือนกัน หากไม่มีเื่อะไรแล้วข้าก็ไม่อยากเถียงกับพวกเ้าอีก ข้าจะต้องเดินทางต่อไป” ิอวี่หน้านิ่งไป
ซ่งเหยาพูดอย่างเ็าว่า “เถียงหรือ? ข้าก็แค่บอกเื่จริงกับเ้า ราชวงศ์เวิ่นเจี้ยนของเราเป็ราชวงศ์อันดับต้นๆ สามารถส่งข้ากับเฟิงอวินมายังสำนักเทพอัคคีพร้อมกันทีเดียวสองคน ส่วนราชวงศ์ของเ้า ต่อให้ได้ข้อมูลของสำนักเทพอัคคีไปก็ไม่มีทางมีสิทธิเข้าร่วมการทดสอบแน่นอน”
“เ้าคิดว่ามันเป็อย่างไรก็ตามนั้น เ้ามีความสุขก็พอแล้ว”
ิอวี่ไม่อยากจะพูดมากกับซ่งเหยาอีกแล้ว พอพูดจบเขาก็บังคับเ้าวิหคัปีกมืดเดินหน้าต่อไปทันที
“หยุดนะ!”
ไม่เคยมีใครกล้าชักสีหน้าใส่นาง ซ่งเหยาหน้านิ่งลงทันที “เ้าบอกว่าเ้าเองก็จะไปที่สำนักเทพอัคคี เ้ามีอะไรมาพิสูจน์พร์กับความสามารถของเ้ากัน? รับกระบวนท่าของข้าให้ได้สามกระบวนก่อนแล้วค่อยมาพูด!”
ซ่งเหยาตะคอกออกมาจากบนหลังนกกระเรียนเซียนเมฆา จากนั้นก็ชักกระบี่ในมือออกมา ลมปราณขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วสูงสุดะเิออกแล้วพุ่งไปบนตัวกระบี่ จากนั้นก็แทงออกมาอย่างรวดเร็วราวกับอสรพิษ ลมปราณกระบี่พุ่งแทงไปยังดวงตาทั้งสองข้างของิอวี่โดยไม่ปราณี!
พอลงมือก็คิดจะเล่นงานดวงตาของิอวี่เลย
ที่จริงนางก็ไม่ได้อยากจะรู้หรอกว่าิอวี่จะใช่สายลับหรือเปล่า นางแค่หาข้ออ้างสั่งสอนเขาเท่านั้นเอง ใครบอกให้เขาอยู่ดีไม่ว่าดีมาแอบดูนางพรอดรักกันอยู่ สมควรถูกควักลูกตาออกมาแล้ว!
ลมปราณที่ราวกับสายรุ้งสีแดงรวดเร็วว่องไวมาก มันพุ่งมาตรงหน้าของิอวี่ในทันทีที่นางแทงกระบี่ออกมา
พริบตาเดียว ิอวี่ก็ส่งสัญญาณให้กับวิหคัปีกมืด มันจึงเอียงตัวบิดไปด้านข้าง เพื่อหลบปลายกระบี่ที่แหลมคมนั้น
“หือ?” ซ่งเหยารู้สึกแปลกใจ เมื่อครู่นางจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วยังใช้กระบวนท่าของเพลงกระบี่เวิ่นชิงที่มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัวออกไป หากไม่ได้มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งไม่มีทางหลบการโจมตีแบบเล่นถึงตายอย่างนี้ได้แน่
แต่ถึงอย่างนั้น ซ่งเหยาก็ยังไม่เชื่อในความสามารถของิอวี่อยู่ดี นางเป็ถึงพญาหงส์ มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว ใต้หล้านี้ใครจะเทียบนางได้อีก?
ซ่งเหยายืนบนตัวของนกกระเรียนเซียนเมฆา รูปร่างหน้าตาสง่างามอย่างมาก ในมือของนางถือกระบี่ราวกับเทพธิดา แต่ในความงดงามของนางนั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง
“ข้าจะดูสิว่าเ้าจะหลบไปได้ถึงเมื่อไหร่”
พูดจบซ่งเหยาก็ฟันกระบี่ออกไปอีก ลมปราณกระบี่ตัดอากาศจนขาด เสียงอากาศฉีกมันพุ่งไปหาิอวี่ในทันที
ในเวลานี้ ในใจของิอวี่กำลังคิดทบทวนอย่างต่อเนื่องว่าเขาควรจะตอบโต้ซ่งเหยากลับไปไหม?
หากลงมือกับซ่งเหยาจริง ิอวี่มีโอกาสชนะแน่นอน แต่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้มีแค่ซ่งเหยา ยังมีจี้เฟิงอวินอีกคน
ิอวี่อ่านคนเก่งมาก ถึงแม้จี้เฟิงอวินจะดูอวดดีแต่ลมปราณของเขาหนาแน่นมาก ดวงตาของเขาลึกซึ้ง ถือเป็มือกระบี่ชั้นยอด ต่อให้เป็ิอวี่ก็ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะชนะได้
หากิอวี่ตอบโต้ก็จะทำให้ซ่งเหยาโกรธ แล้วนางก็จะต้องไล่ล่าเขาไม่หยุด ถึงเวลานั้น ก็จะเป็การบีบให้ซ่งเหยาใช้กำลังทั้งหมดที่มี แล้วจี้เฟิงอวินจะยืนเฉยๆ โดยไม่ยุ่งได้อย่างไร เขาจะต้องลงมือช่วยแน่!
รับมือจี้เฟิงอวินคนเดียว ิอวี่ยังพอไหว หากต้องรับมือถึงสองคน เขาคิดว่าโอกาสชนะต่ำมาก
ถึงแม้ิอวี่อยากจะฆ่าพวกเขาสองคนให้ตายไปเลย แต่ในตอนที่เขาไม่มีความมั่นใจ เขาจะไม่บุ่มบ่ามทำอะไรเด็ดขาด ไม่แน่ว่าเื่นี้อาจจะเรียนรู้มาจากเื่ของาาอสูร เขามีพื้นฐานในการต่อสู้อยู่!
แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่ต้องถอยก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้!
ิอวี่บังคับเ้าวิหคัปีกมืดอีกครั้งแล้วหลบการโจมตีของซ่งเหยาไป แต่หลังจากนั้นซ่งเหยาก็แทงกระบี่เข้ามา ทำให้ิอวี่ต้องรีบควบคุมวิหคัปีกมืดให้เปลี่ยนทางและพลิกหมุนตัวกลางอากาศ ถึงสามารถต้านการโจมตีเอาไว้ได้
“ผ่านสามกระบวนท่าแล้ว เ้ายังมีอะไรสงสัยอีกไหม?” เสียงของิอวี่ดังขึ้นมาจากหลังวิหคัปีกมืด
“หลบอย่างเดียวเนี่ยนะความสามารถของเ้า?”
ซ่งเหยาไม่พอใจที่ิอวี่เอาแต่หลบอย่างเดียว นางพูดว่า “ยืนอยู่กับที่ห้ามขยับ รับกระบวนท่าของข้าอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าใช้สุดยอดกระบวนท่าสังหารเ้านะ”
พูดจบ ซ่งเหยาก็พุ่งแทงกระบี่ออกไปแล้วตวัดขึ้น ในอากาศเกิดคลื่นแปลกประหลาด พริบตาเดียว พลังงานดาบที่รุนแรงและหนักหน่วงก็บินผ่านหน้าไป
กระบวนท่านี้ มันคือเพลงกระบี่เวิ่นชิง!
ซ่งเหยาไม่ได้คิดอยากจะเอาชีวิตของิอวี่ นางแค่อยากจะควักลูกตาของเขาออกมาเท่านั้น ดังนั้นนางถึงพยายามคุมพลังเอาไว้แล้วปล่อยพลังออกมาแค่หกส่วนเท่านั้น
ถึงจะเป็พลังแค่หกส่วนแต่อานุภาพของมันก็ยังมากอยู่ ปกติผู้กล้าที่มีพลังไม่เทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว ไม่มีทางรับเพลงกระบี่เวิ่นชิงที่ดุดันของนางได้อย่างแน่นอน!
ลมปราณกระบี่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้าิอวี่ กระบี่นี้ดุดันมาก แล้วยังแฝงไปด้วยอารมณ์ ความรัก ความแค้นด้วย!
เมื่อความรักและความแค้นผสมกัน ความรู้สึกที่รุนแรงก็ถูกปล่อยออกมาเป็อานุภาพพลังที่น่ากลัว
ิอวี่ชักกระบี่หวงฉวนออกไป เขาะโจากหลังวิหคัปีกมืดแล้วจับกระบี่ด้วยสองมือ เขาฟันกระบี่มรณะสังหารเข้าปะทะกับลมปราณกระบี่ที่น่ากลัวจนเกิดเสียงเสียดฟันอย่างมาก
หลังจากฟันกระบี่ออกไปแล้วิอวี่ก็ตกลงมาจากก้อนเมฆ โชคดีที่เ้าวิหคัปีกมืดมาทันเวลาพอดีเลยรับเขาเอาไว้ทัน
ในเวลานี้เอง ิอวี่ก็คลานขึ้นมาบนหลังของวิหคัปีกมืดอย่างทุลักทุเล ที่หน้าอกของเขามีรอยขาด ถึงแม้จะไม่มีเืออกแต่ก็ยังต้องไอแรงๆ ออกมาสองที
“รับเพลงกระบี่เวิ่นชิงของข้าแล้วยังยืนขึ้นมาได้ถือว่าเ้าดวงแข็ง ข้ายอมเชื่อก็ได้ว่าเ้าจะไปทดสอบที่สำนักเทพอัคคีจริงๆ ”
ซ่งเหยาเหลือบสายตามองมาที่ิอวี่ด้วยความดูถูก เห็นอีกฝ่ายสภาพย่ำแย่ก็รู้สึกสะใจ นางพูดด้วยท่าทางเรียบง่ายว่า “จำไว้ เดินทางห่างจากเราเป็ระยะสิบลี้ ห้ามเข้าใกล้เราเด็ดขาด”
พูดจบ ซ่งเหยาก็เก็บกระบี่เข้าฝักแล้วนั่งลงบนนกกระเรียนเซียนเมฆาอีกครั้ง จากนั้นก็กระซิบอะไรบางอย่างให้กับจี้เฟิงอวิน แล้วทั้งสองคนก็บังคับนกกระเรียนเซียนเมฆาเดินทางต่อไป ทิ้งิอวี่กับวิหคัปีกมืดบินอยู่ที่เดิม
เมื่อพวกเขาสองคนจากไปไกลจนหายไปจากสายตาของิอวี่แล้ว ก็มีแสงสีดำพุ่งออกมาจากหยกโบราณ เฮยจีนั่นเอง
เฮยจีขมวดคิ้วหนักมาก นางเห็นที่หน้าอกของิอวี่มีรอยขาดเลยถามอย่างเป็ห่วงว่า “ิอวี่ เกิดอะไรขึ้น เ้าไม่เป็ไรใช่ไหม?”
“สถานการณ์ ... ไม่สู้ดีนัก” ท่าทางของิอวี่ประหลาดมาก ร่างกายเหมือนจะล้ม
“ไม่จริงมั้ง! ไหนขอข้าดูหน่อย”
เฮยจีเดินเข้าไปพยุงิอวี่แล้วให้เขาพิงมาในอ้อมกอดที่อ่อนนุ่มของนาง จากนั้นนางก็ใช้มือแตะไปบนหน้าอกของิอวี่เพื่อสำรวจอาการาเ็ของเขา
ิอวี่เห็นสีหน้าท่าทางที่จริงจังของเฮยจีจึงใช้มือขวาจับไปที่มือเล็กๆ ของนาง แล้วพูดว่า “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะเป็ห่วงข้าขนาดนี้”
“นี่มันเวลาไหนกันแล้ว เ้ายังพูดอะไรแบบนี้อีก ไหนขอข้าดูแผลบนตัวเ้าหน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะช่วยอะไรเ้าได้บ้าง ตอนนี้เ้ามีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับสูงสุด เป็่หัวเลี้ยวหัวต่อในการทะลวงไปสู่ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง หากาเ็ มันจะมีผลกระทบต่อการฝึกระดับในอนาคตอย่างมากเลยนะ”
ระหว่างที่พูด เฮยจีก็เตรียมที่จะดึงมือกลับมาแล้วทำการตรวจสอบต่อ
แต่ิอวี่กลับยังคงจับมือของนางเอาไว้โดยไม่ได้ปล่อยไป
“ว้าย เ้าจะทำอะไรเนี่ย” เฮยจีมองไปที่ิอวี่แบบโกรธนิดหน่อย
“เอ่อ ... ที่จริงข้ามีเื่อยากจะบอกเ้าเื่หนึ่ง แต่เ้าต้องสาบานก่อนว่าเ้าจะไม่โกรธ แล้วก็ห้ามตีข้าด้วย” ิอวี่พูด
เฮยจีมองบนแล้วพูดอย่างหัวเสียว่า “ว่ามา เห็นแก่ที่เ้าน่าสงสารหรอกนะ ที่ผ่านมาเ้าทำอะไรไม่ดีต่อข้า พี่สาวคนนี้อภัยให้เ้าได้ เพราะข้าไม่ได้เ้าคิดเ้าแค้นขนาดนั้น เื่นั้นไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ข้าไม่โกรธ แล้วก็จะไม่ตีเ้าด้วย”
“จริงนะ?”
เฮยจีพูดอย่างแน่ใจว่า “จริง”
“อือ ที่จริงข้าไม่ได้าเ็อะไรเลย” ิอวี่พูดเสียงเบา
ถึงแม้เขาจะพูดอย่างระวังตัวมากแล้ว แต่หลังจากได้ยิน สีหน้าของเฮยจีก็เหมือนก้อนหินทันที เหมือนนางกำลังสั่งสมอารมณ์ความน่ากลัวอยู่ ...
“เ้าฟังข้าอธิบายก่อน ก่อนหน้านี้หากข้าไม่เสแสร้งให้เหมือนหน่อย ซ่งเหยาก็คงไม่มีทางปล่อยข้าไปแน่ ถึงเวลานั้นหากจี้เฟิงอวินเข้ามายุ่งด้วย ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะต้องเปิดศึกใหญ่กันแน่ ดังนั้นการลงมือกันในเวลานี้มันไม่ใช่แผนที่ดีเลย”
ิอวี่พูดอย่างเป็เหตุเป็ผลว่า “แล้วข้าก็เห็นว่าจี้เฟิงอวินมีลมปราณที่น่ากลัวมาก เขาจะต้องฝึกเพลงกระบี่ที่น่ากลัวมากมาแน่ ซึ่งมันก็เหมาะกับข้า เพียงแต่ตอนนี้ข้าจะต้องทำอะไรอย่างเงียบเชียบที่สุดถึงจะมีโอกาสเอาชนะพวกเขาได้แล้วชิงเพลงกระบี่นั้นมา บัญชีนี้ ช้าเร็วข้าจะต้องเอาคืนแน่”
“เ้าพูดมากมายขนาดนี้ก็เพื่อหลอกพวกเขา ถ้าอย่างนั้นทำไมต้องหลอกข้าด้วย?” เฮยจียิ้มแล้วพูดกับิอวี่
“เพราะ ... ข้าก็แค่อยากเห็นปฏิกิริยาของเ้า ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย ... ”
“ไปไกลๆ เลย”
ยังพูดไม่ทันจบ เฮยจีก็ใช้มือขวาตีไปที่หน้าอกของิอวี่จนเขาถึงกับร้องออกมา แบบที่ว่าอีกนิดเดียวก็แทบกระอักเื แล้วนั่งลงบนหลังของเ้าวิหคัปีกมืด ...
เฮยจีทั้งโกรธทั้งอาย ที่จริงการที่ิอวี่หลอกนางมันไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร เื่สำคัญก็คือปฏิกิริยาของนาง นางเป็ห่วงเขามากๆ เลย
ถึงแม้ปกติเฮยจีจะเป็ภูตสาวที่ท่าทางดูไม่สนใจอะไร แต่ถูกิอวี่เห็นท่าทางแบบนั้นของนางก็รู้สึกเขิน และยังรู้สึกอะไรบางอย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน
ในความเป็จริงแล้ว แม้แต่เฮยจีก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมนางถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนั้นได้ ตอนนี้เป็อะไร แม้แต่เหตุผลจะอธิบายนางก็พูดไม่ออกเลย
