จับอินทรีทองอย่างนั้นหรือ?
หลีซีเอ๋อร์นิ่งไป รุ่นพี่หลินนี่กล้าหาญจังเลยนะไม่เหมือนกับเราที่ไม่ดิ้นรนต่อสู้อะไรเลยสักนิดเมื่อได้ยินเสียงกระตุ้นของหลินลั่วหรานอีกครั้ง เธอก็ร้อนใจขึ้นมาเธอพยายามนึกหาอะไรอยู่สักพักก่อนจะนึกถึงอาวุทเวทเส้นใสที่ข้อมือของตัวเองขึ้นมาได้...ใช่แล้ว!
หลีซีเอ๋อร์ใช้มือร่ายเวทเมื่อเส้นเอ็นใสได้รับพลังอย่างท่วมท้นก็โบยบินออกไปจากมือของเธอหลีซีเอ๋อร์ส่งเสียงนุ่มดังขึ้น “ไป” เส้นเอ็นใสก็โจมตีไปยังอินทรีทองทันทีหลินลั่วหรานดึงดูดความสนใจของนกั์เอาไว้แล้ว การ “ลอบโจมตี” อันน่าใของหลีซีเอ๋อร์นั้น มันไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
เส้นเอ็นบางทำให้มันไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด มันยกกรงเล็บขึ้นตวัดแต่ใครจะรู้ว่า “เส้นเอ็นใส” นั้นไม่ได้ขาดลงแต่อย่างใด แต่ว่าพันเข้าที่กรงเล็บของมันอย่างแ่าเส้นเส้นเอ็นใสนี้ดูราวกับจะต่อเนื่องไร้จุดจบ ไม่เพียงแต่พันรัดปีกของมันเอาไว้แต่ยังพันเกี่ยวไปยังกรงเล็บแหลมคมและจะงอยปากของมันอีกด้วยเส้นเอ็นใสลึกลับเส้นนี้ ยิ่งดิ้นรนขัดขืนเท่าไร มันก็จะยังพันรัดแน่นขึ้นเท่านั้นอินทรีทองจึงไร้หนทางโดยสิ้นเชิง
อินทรีทองแสนก้าวร้าวสิ้นฤทธิ์ที่จะต่อสู้ไปในทันทีและเนื่องจากปีกของมันถูกมัดแน่นเอาไว้ มันจึงไม่สามารถกระพือปีกและบินไปได้ดวงตาของมันมองลงไปยังหุบเหวด้านล่าง กรงเล็บที่ถูกหลินลั่วหรานจับเอาไว้นั้นพยายามที่จะขยับไปยังส่วนที่ยื่นออกมาจากหน้าผา
หลีซีเอ๋อร์รู้สึกว่าเป็ดั่งความฝันเธอพุ่งตัวเข้าไปจะรั้งแขนเสื้อของหลินลั่วหรานแต่เสื้อที่หลินลั่วหรานใส่อยู่กลับไร้แขน หลีซีเอ๋อร์ไม่มีที่ให้ลงมือจึงได้แต่จ้องมองหลินลั่วหรานด้วยน้ำตา “รุ่นพี่หลินพี่ไม่เป็อะไร ดีจริงๆ เลย”
หลินลั่วหรานเห็นว่าสายตาของเธอดูราวกับน้องหมาตัวน้อยอีกทั้งยังมีสภาพไม่สู้ดีนัก สามวันที่ผ่านมาคงจะลำบากไปไม่น้อยเส้นทางที่ยากลำบากมักจะสร้างความรู้สึกขึ้นมาได้ดีดูเหมือนว่าเธอทั้งสองจะพลัดหลงกับกลุ่มใหญ่แล้ว ในเวลาหนึ่งเดือนนี้ก็คงมีแต่ต้องอยู่ด้วยกันสองคนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลินลั่วหรานก็ไม่อาจจะทำตัวเ็ากับหลีซีเอ๋อร์ได้อีกเมื่อเห็นน้ำตามากมายของเธอ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ เธอเขินอายอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถามออกมา “หิวหรือเปล่า?”
หลีซีเอ๋อร์เม้มปากแน่น เธอพยักหน้าอย่างบ้าคลั่งก่อนจะรีบส่ายหน้าอย่างเร็วพลัน “ไม่หิว...แต่ว่าคอแห้งค่ะ...”
จะว่าไปก็ใช่ ที่นี่ขึ้นไปต่อไม่ได้ ลงไปก็ไม่สุดแน่นอนว่าเื่แหล่งน้ำคงจะเป็ปัญหาเธอจึงเอาน้ำแร่ขวดหนึ่งออกมาจากถุงจักรวาลและมอบให้กับหลีซีเอ๋อร์เมื่อเห็นว่าหลีซีเอ๋อร์ดื่มลงไปด้วยความรีบร้อนหลินลั่วหรานก็ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ “ฉันจำได้ว่าในถุงมีน้ำและอาหารสำหรับหนึ่งเดือนอยู่นะ?”
หลีซีเอ๋อร์รู้สึกไม่ดีเท่าไร เธอตอบออกมาเสียงเบา “ฉันเอาเสื้อผ้าใส่มาน่ะค่ะ...”
เด็กผู้หญิงนั้นรักสวยรักงามเกินกว่าอะไร หลินลั่วหรานจึงตั้งใจว่าจะปล่อยผ่านมันไปหลีซีเอ๋อร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากแห้งผากของเธอก่อนจะพูดออกมาอย่างน่าสงสาร “รุ่นพี่ ฉันอยากอาบน้ำ...” เธอเคยเห็นหลินลั่วหรานเพียงตวัดมือออก ด้านหน้าก็ปรากฏสะพานน้ำขึ้นเธอจึงอยากจะให้หลินลั่วหรานโปรยหยาดน้ำลงมาให้เธอได้ทำความสะอาดเสียหน่อย
หลินลั่วหรานมองไปยังใบหน้าที่เปรอะเปื้อนราวกับแมวจรจัดของเธอเมื่อคิดขึ้นว่าตัวเองเป็คนโยนเธอไปยังหินนั่นก็ถอนหายใจออกมา พร้อมกับปล่อยเวท “ทำความสะอาด” ลมเบาๆ ผัดผ่านอย่างนุ่มนวลพร้อมกับพัดพาเศษฝุ่นสกปรกบนตัวของหลีซีเอ๋อร์ให้หายออกไปด้วย
หลีซีเอ๋อร์ดีใจจนเกือบจะพุ่งตัวเข้าจูบหลินลั่วหรานเธอหยิบเอาเสื้อผ้าโบราณขึ้นมาชุดหนึ่ง เลือกแล้วเลือกอีกก่อนจะนำชุดหนึ่งขึ้นมาเปลี่ยน และนำอีกชุดที่เป็สีขาวยื่นให้หลินลั่วหราน
หลินลั่วหรานยกอินทรีทองในมือขึ้น แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เธอถือมันเอาไว้ไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า หลีซีเอ๋อร์ตบเข้าที่หัวของตัวเอง “รุ่นพี่ ให้ฉันถือเอาไว้เถอะ เ้านี่รังแกฉันมาสองวันแล้วต้องให้มันรู้เสียบ้าง!”
หลินลั่วหรานยกยิ้มขึ้น แต่ไม่ได้ดูถูกท่าทางของสาวน้อยเลย
เส้นเอ็นใสของหลีซีเอ๋อร์มัดอินทรีทองเอาไว้แน่นความจริงแล้วปลายเส้นของมันยังอยู่ที่ข้อมือของเธอบางทีอาจจะเป็จุดเด่นในตัวของอาวุธเวทชนิดนี้ทำให้เธอถือเ้าสัตว์ตัวใหญ่นี่เอาไว้ได้โดยไม่ได้กินแรงเลยแม้แต่น้อยแต่กลับดูราวกับกำลังเล่นแกว่งเชือกอยู่ และก็ให้ความรู้สึกราวกับเล่นว่าวอินทรีทองที่น่าสงสารถูกแขวนเอาไว้ท่ามกลางหุบเขา ร่างแกว่งไปมาหากว่าสามารถมองลึกลงไปใต้ขนของมันได้อย่างชัดเจน ก็จะเห็นว่ามันเป็สีแดงจัดเห็นได้ชัดว่าถูกแขวนเอาไว้นานเกินไป จนเืเริ่มจะคั่งที่หัวแล้ว!
ชุดที่หลีซีเอ๋อร์มอบให้เธอมานั้นมีคุณภาพดีและการปักเย็บที่ละเอียดอ่อนบนแขนเสื้อปักดอกลิลลี่เอาไว้สองดอกเมื่อเทียบกับชุดไร้แขนที่เธอใส่อยู่ในตอนนี้แล้วชุดนี้ดูเหมาะกับเจาเสวี่ยกว่ามาก...โอเค ความจริงแล้วท่านเทพป๋ายที่ซ่อนตัวอยู่ในหินิญญาก็รับรู้เื่ราวข้างนอกทั้งหมดเธอพูดถากถางชุดเดรสแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อดังบนตัวของหลินลั่วหรานมานานแล้วบางครั้งก็ยังเยาะเย้ยรสนิยมของยุคปัจจุบันขึ้นมาอีกด้วยหลินลั่วหรานออกจะเริ่มรำคาญกับเสียงแมลงกวนหูเหล่านี้ขึ้นทุกที
ชุดที่ได้รับมานั้น เป็ไปตามความ้าของท่านเทพป๋ายไร้รอยฝุ่นเปรอะเปื้อน แม้จะไม่ได้ดีอะไรมากนัก แต่ก็ยังมีกลิ่นอายความโบราณอยู่และท่านเทพป๋ายดูจะรับกับอะไรแบบนี้ได้มากกว่า แล้วทำไมไม่ลองดูสักหน่อยเล่า?
ในขณะที่หลีซีเอ๋อร์ใช้สายตาจับจ้องอินทรีทองอย่างกระตือรือร้นนั้น หลินลั่วหรานก็สร้างม่านน้ำขึ้นมาเป็ที่บังอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนชุดด้วยความรวดเร็ว เมื่อพลังน้ำเ่าั้กระจายหายไปหลินลั่วหรานก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของหลีซีเอ๋อร์ลมในหุบเขาพัดพาให้ชุดบนตัวของเธอปลิวไสว เธอยืนอยู่บริเวณริมก้อนหินดูราวกับนาง์ที่จะปลิวขึ้นไปบนฟ้าลอยตามลมได้ทุกเมื่อ
หลีซีเอ๋อร์สติหลุดไปชั่วขณะ ส่วนอินทรีทองตัวนั้นก็น่าสงสารเหลือเกิน “เส้นเอ็นใส” ในมือของเธอ ความจริงแล้วมันเรียกว่า “เชือกวิเศษ” มันมีคุณสมบัติในการยืดขยายได้เป็อย่างดี เมื่อมือของเธอขยับออกอินทรีทองก็ไถลไปตามมือของเธอ หลินลั่วหรานไม่ได้พูดอะไรรีบเข้ามาช่วยเธอจับเชือกวิเศษเอาไว้ แล้วดึงอินทรีตัวน้อยๆ ที่กำลังใขึ้นมา
หลินลั่วหรานจ้องไปยังอินทรีที่ใจนเกือบตายก่อนจะพูดออกมาโดยไม่ยืดเยื้อใดๆ “ข้าจะรับเ้าไว้เป็ข้ารับใช้เ้าเต็มใจหรือไม่?”
หลีซีเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆเธอไม่เข้าใจการที่หลินลั่วหรานคุยกับสัตว์ที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยขน โอเคแม้ว่าเ้านกตัวนี้จะเก่งมาก แต่ว่ามันก็เป็แค่นกที่ตัวใหญ่นิดหน่อยก็เท่านั้นเองทำไมรุ่นพี่หลินจะต้องให้มันมาเป็ข้ารับใช้ด้วยล่ะ? อินทรีทำงานบ้านได้เหรอ?
อินทรีทองถูกแขวนเอาไว้นาน เืคั่งอยู่บริเวณหัวของมันไม่น้อยมันอยากจะฉีกเ้าสัตว์น่าเกียจทั้งสองออกเป็ชิ้นๆแต่ปีกของมันนั้นกลับไม่อาจจะขยับขึ้นมาได้เลยมันแปลกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าในสายตาของหลินลั่วหรานนั้นไม่ได้มีความ้าจะทำร้ายมันปรากฏอยู่แม้ว่าถ้อยคำที่เธอพูดนั้น จะไม่อาจจะเข้าใจได้ มันขยับดวงตาของมัน ยอมสยบให้และแสดงท่าทางแสดงถึงการขอให้เธอยกโทษให้
หลินลั่วหรานยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เ้ายังเด็กอยู่เลยคงจะฟังข้าพูดไม่รู้เื่เป็ธรรมดา รีบร้อนเกินไปแล้ว”
อย่างไรอินทรีทองก็ไม่ได้ปฏิเสธออกมาและมันก็ไม่มีสิทธิ์ในการเรียกร้องอะไรอยู่แล้ว หลินลั่วหรานจึงใช้โอกาสนี้กัดเข้าที่นิ้วกลางก่อนจะร่ายมนตร์บางอย่างออกมาเธอใช้เืสดเ่าั้วาดตัวอักษรขึ้นกลางอากาศก่อนจะซึมซาบเข้าไปยังส่วนหัวของอินทรีทอง...นี่คือพันธสัญญาที่เหล่าผู้ฝึกศาสตร์ต้องทำเมื่อจะรับสัตว์วิเศษมาเป็ข้ารับใช้การที่ใช้เืสดวาดขึ้นแบบนี้ เรียกว่าพันธะเื เป็พันธสัญญาที่หนาแน่นที่สุดระหว่างนายและข้ารับใช้โดยทั่วไปมักจะใช้กับเหล่าสัตว์ร้าย
อินทรีทองรู้สึกได้ถึงพลังที่บังคับให้เข้าไปใกล้ มันอยากจะต่อต้านพันธะเืมันเองก็เป็สัตว์วิเศษชนิดหนึ่ง มันรู้สึกได้ถึงความสามารถที่แตกต่างกันแม้ว่าพลังวิเศษของมันจะยังไม่ได้ถูกปลุกขึ้นมาแต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งนี้จะทำให้มันสูญเสียอิสระไป...แต่ว่า “สัตว์” ที่ดูเก่งกาจตรงหน้านี้จะจับตัวมันโยนลงไปยังหน้าผาลึกหากว่ามันปฏิเสธหรือไม่?
อินทรีทองนึกถึงความรู้สึกที่ต้องตกลงไปขึ้นมาก็โอนอ่อนลงทันทีใน่ระยะเวลาที่มันกำลังลังเล พันธะเืก็ทำการยืนยันแล้วเรียบร้อยทำให้แม้ว่ามันจะเสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว!
เอ๋ ทำไมอยู่ๆ ก็รู้สึกว่าสัตว์ที่อยู่ตรงหน้าดูเป็มิตรขึ้นมาแล้วกันนะ? อินทรีทองนั้นมีมันสมองเพียงธรรมดาทั่วไปแน่นอนว่ามันไม่รู้ว่ามันคือการตอบรับของพันธสัญญาระหว่างนายและข้ารับใช้สายตาของมันแสดงความไม่เข้าใจออกมา ก่อนจะจ้องมองไปยังหลินลั่วหราน
เมื่อพันธสัญญากำเนิดขึ้น หลินลั่วหรานก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอินทรีทองเธอบอกให้หลีซีเอ๋อร์เก็บอาวุธเวทไป ไม่ต้องมัดมันเอาไว้อีกต่อไปแล้ว
หลีซีเอ๋อร์อึ้งกับสิ่งเหล่านี้จนตาค้างไปแล้วไม่รู้ว่าหลินลั่วหรานให้ตัวเองทำอะไร แต่ว่ารุ่นพี่หลินนั้นฝึกมาอย่างล้ำลึกด้วยการร่วมมือของทั้งสองคน ถ้าหากอินทรีทองทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมาหลีซีเอ๋อร์ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะจับมันไว้ได้อีกครั้งจึงปล่อยมันตามที่หลินลั่วหรานบอก
เมื่อปล่อยมันออก อินทรีทองก็รู้สึกว่าตัวเองเป็ต่อขึ้นมามันโกรธเกลียดหลีซีเอ๋อร์ที่มัดมันเอาไว้ตั้งนาน มันขยับปีกขึ้นตั้งใจจะเข้ามาจิกเธอ
หลีซีเอ๋อร์กรีดร้องออกมาด้วยความใจนลืมแผนการที่คิดเอาไว้อย่างดีได้แต่เข้าไปหลบอยู่หลังหลินลั่วหรานเท่านั้น
“เสี่ยวจิน ั้แ่นี้ไป เ้าชื่อเสี่ยวจินมาฝึกศาสตร์ด้วยกันต่อไปกับข้านะ” หลินลั่วหรานใช้จิตความคิดนำความหมายของตัวเองส่งไปสู่สมองของอินทรีทอง มันแปลกใจที่ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นในหัวอีกทั้งยังสามารถเข้าใจได้
เสี่ยวจิน ข้าชื่อเสี่ยวจิน? แม้ว่ามันจะไม่รู้ว่าชื่อคืออะไรแต่ก็รู้ว่าเสี่ยวจินคือสิ่งที่ใช้เรียกตัวเอง เสี่ยวจินนั้นแสดงออกได้เพียง ชอบโกรธ เศร้า สุข อารมณ์ธรรมดาทั่วไป แต่ก็ไม่ได้เข้าใจภาษามนุษย์เมื่อพบกับความสนิทสนมของหลินลั่วหราน มันได้แต่ขยับเข้ามาใกล้อยากจะเข้ามาไถตัวหลินลั่วหราน แต่กลับทำให้หลีซีเอ๋อร์ใจนเกือบจะตกหน้าผาไป
“เอ๋? รุ่นพี่มันฟังคำพูดของรุ่นพี่รู้เื่จริงๆ ด้วย!”
เมื่อเห็นว่าอินทรีทองไม่ได้มีท่าทางดุร้ายอย่างที่คิดเอาไว้หลีซีเอ๋อร์ก็ประหลาดใจ แต่ยังคงหลบอยู่ด้านหลังของหลินลั่วหรานไม่กล้าที่จะเข้าไปทำการสนิทสนม
หลินลั่วหรานยิ้มขึ้น “ซีเอ๋อร์เสี่ยวจินไม่เพียงแต่ฟังที่เราพูด แต่อีกเดี๋ยวจะพาเราออกไปจากที่นี่ด้วยนะ!”
พาเราออกไปเหรอ? ความไม่อยากจะเชื่อเกิดขึ้นในแววตาของหลีซีเอ๋อร์ทำให้เสี่ยวจินข่มอารมณ์ไว้ด้วยความลำบากจนเกือบจะะเิออกหลีซีเอ๋อร์เม้มปากแน่น ตัดสินใจที่จะหุบปากของตัวเองเอาไว้อย่างชาญฉลาดและไม่ออกความเห็นอะไรออกมาง่ายๆ อีก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้