“ตามมานี่อยู่ด้านหลังข้าเอาไว้ ระวังตัวด้วย”
ชิงหูหยักยิ้มเล็กน้อยคิดพาหลินเมิ้งหยาเข้าไปในห้องที่มืดมิด
นางมองดูรอยยิ้มของเขาหลินเมิ้งหยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คิดจะขายอะไรให้นางกัน?
ทันทีที่คิดจะเดินเข้าไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวมาจากด้านในสวน
“ใคร? ”
ชิงหูรู้สึกตัวก่อนเป็คนแรกดันร่างหลินเมิ้งหยาให้เข้าไปอยู่ในที่มืด
“นายท่านสบายดีอย่างนั้นหรือ? ”
เพียงได้ยินประโยคนี้แม้แต่หลินเมิ้งหยาเองก็ตื่นตระหนก
คนในเถาฮวาอู๋ไม่มีใครรับรู้ถึงการมีชีวิตอยู่ของชิงหู
“เ้าเป็ใคร? ”
ชิงหูเป็คนมีสัญชาตญาณว่องไวไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
ทว่ามือหนากลับแข็งเกร็ง เตรียมพร้อมเข้าไปฆ่าคนผู้นั้นตลอดเวลา
“อย่าตื่นตระหนกข้าเองก็เหมือนท่าน ข้าถอนตัวออกจากเถาฮวาอู๋แล้วแต่ข้ามิได้โชคดีดังเช่นท่านเท่านั้น”
เสียงนั้นแหบแห้งดั่งนกแสกหลินเมิ้งหยารู้สึกหวั่นใจ
“ที่แท้ก็เป็เ้าในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เหตุใดจึงไม่ปรากฏตัวออกมา”
ราวกับชิงหูรู้แล้วว่าคนผู้นั้นคือใคร เขาดันตัวหลินเมิ้งหยาเข้าไปในความมืดเพื่อแอบซ่อนเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไป
“ระวังตัวด้วย”
หลินเมิ้งหยาคว้าแขนเสื้อของชิงหูเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“ไม่เป็ไรหรอกเ้าเด็กน้อย เขาสู้ข้าไม่ได้”
หยักยิ้มอ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนทว่า ทันทีที่ออกไป เขารีบลงกลอนประตูทันที
“หยุนจู๋หากเ้าคิดจะเอาชีวิตมาทิ้ง ข้าพร้อมส่งมอบความตายให้เ้าได้ทุกเมื่อแต่เ้าต้องบอกข้าก่อนว่า เ้าหาที่นี่เจอได้อย่างไร”
ชิงหูเดินออกไปทีละก้าวแสงจันทร์สาดส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มแปลกประหลาด
“ทิ้งชีวิต?ฆ่าท่านแล้วทุกสิ่งทุกอย่างของข้าจะกลับมาเหมือนก่อนอย่างนั้นหรือ? ชิงหูที่ข้าเอาชีวิตรอดมาได้ มิใช่เพราะ้าเอามันมาทิ้งหรอกนะ”
อีกฝั่งของสวนอยู่ ๆ ก็ปรากฏร่างของคนสวมชุดดำคนหนึ่ง
คนผู้นั้นไม่เหมือนผู้ชายทว่าผ้าคลุมและชุดสีดำที่กำลังสวมใส่ทำให้คนผู้นั้นดูน่ากลัวมิต่างอะไรจากผี
“การที่ข้าเจอที่นี่นั่นแสดงให้เห็นว่าข้าผ่านการคัดกรองของมั่วหรานมาแล้วมิใช่หรือ? แต่ว่าข้าสงสัยยิ่งนัก ฝูหรงโหลวของเ้า มีคนที่ข้าคุ้นหน้ามากมายเหลือเกิน”
หยุนจู๋ต้องเป็นักฆ่าเก่าแห่งเถาฮวาอู๋อย่างแน่นอน
หลินเมิ้งหยาแอบนึกในใจแต่พอลองฟังคำพูดของชิงหูแล้วเหตุใดนางจึงรู้สึกว่าทั้งสองมีความแค้นต่อกันมาก่อน?
มั่วหราน?หรือจะเป็คนที่ฝูหรงโหลวคนนั้น?
“มั่วหรานสั่งให้เ้ามาที่นี่อย่างนั้นหรือ? ”
ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าชิงหูคลายการป้องกันของตนเองแล้ว
หยุนจู๋หัวเราะเสียงแหบแห้ง
เขายกมือขึ้นดึงผ้าคลุมหน้าของตนเองออก
“ข้าเปลี่ยนเป็เช่นนี้ไปแล้วยังจะไม่ไว้ใจอีกหรือ? ”
ภายใต้แสงจันทร์นางได้เห็นสภาพของหยุนจู๋ อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
ล้วนเอ่ยว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงคือใบหน้าแต่ว่าใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้ากลับหย่อนคล้อยเสมือนคนชรา
“หน้าของเ้า...”
ชิงหูส่งเสียงเพราะความตกตะลึงเล็กน้อย
ในเถาฮวาอู๋เขาได้เจอกับคนทุกรูปแบบ
วันนี้เขาเพียงแค่ได้เจอหญิงสาวที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็หญิงชราแต่เพียงเท่านั้น
“ร่างกายที่ถูกพิษของข้าถูกยอดฝีมือถอนพิษให้ครึ่งหนึ่งแล้วแต่ใบหน้าของข้ากลับถูกทำลาย”
แม้จะเอื้อนเอ๋ยด้วยท่าทางสบายๆ แต่หลินเมิ้งหยาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเสียใจในน้ำเสียงของหยุนจู๋
ในสมัยปัจจุบันมีคนจำนวนมากต้องทนทุกข์กับโรคชราก่อนวัยอันควร
แต่หยุนจู๋แตกต่างออกไปที่นางเป็เช่นนี้ก็เพราะยาพิษ
“ตอนนั้นเ้าได้รับการขนานนามว่าหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองน่าเสียดายเหลือเกิน”
แม้ชิงหูจะทำการถอนพิษไปแล้วแต่ใบหน้าของเขายังคงเหมือนเด็กอายุยี่สิบกว่าปี
อีกทั้งเขายังขลุกอยู่กับพวกหลินเมิ้งหยาทั้งวันดังนั้นอารมณ์ขุ่นมัวจึงหายไปด้วย
หลินเมิ้งหยามองผ่านรอยแยกของประตูเพื่อดูคนบ้าทั้งสองหวังว่าพวกเขาจะไม่ต่อสู้กัน
“สาวงามอันดับหนึ่ง?คิกคิกจะมีใครรู้บ้างว่าข้าที่เป็สาวงามอันดับหนึ่ง เป็หนึ่งในนักฆ่าตัวฉกาจแห่งเถาฮวาอู๋?เลิกพูดจาไร้สาระกันได้แล้วข้าได้ยินมั่วหรานบอกว่าเ้าเที่ยวประกาศไปทั่วว่าสามารถถอนพิษได้ใช่หรือไม่? ”
ชิงหูขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับกำลังกลัวหญิงสาวตรงหน้า
“แน่นอนว่าข้าพูดเช่นนั้นแต่เ้าถอนพิษแล้วมิใช่หรือ? ”
ร่องรอยของความโศกเศร้าปรากฏขึ้นในดวงตาของหยุนจู๋
“ขอเพียงเ้าสามารถถอนพิษให้เขาได้ข้ายอมทำทุกอย่าง ต่อให้ต้องกินยาพิษอีกครั้งข้าก็ยอม”
ชิงหูชะงักหญิงสาวตรงหน้าเคยหักหลังเถาฮวาอู๋เพราะไม่้าถูกควบคุมอีกต่อไป
แต่เหตุใดวันนี้จึง...
“เ้าจิ้งจอกเ้าเล่ห์รีบปล่อยข้าออกไปเร็วเข้า”
น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังลอดออกมาหยุนจู๋ผงะไปอย่างเห็นได้ชัด
ในที่สุดใบหน้าของชิงหูก็มิได้สุขุมดั่งเคย
แต่แสดงสีหน้าประหนึ่งเด็กถูกจับได้ว่าทำความผิดก่อนจะเปิดประตูทางด้านหลัง
“เ้าพูดคุยอย่างสบายใจไม่สนใจเลยหรือว่าข้าต้องรู้สึกเช่นไร โชคดีที่ข้าไม่กลัวความมืดมิเช่นนั้นข้าคงใตายไปแล้ว”
เพียงออกมาข้างนอกได้หลินเมิ้งหยาก็กำหมัดแน่น เตรียมจะเหวี่ยงมันออกไปใส่ชิงหูเสมือนโงกุนจะปล่อยพลังั
ชิงหูที่หลบไม่ทันร้องออกมาเสียงดังด้วยความทรมานยกมือขึ้นปิดคางของตนเองเอาไว้ พลางส่งสายตาตำหนิใส่หลินเมิ้งหยา
เ้าเด็กน้อยเถื่อนมากขึ้นทุกวัน
ทั้งสองทะเลาะกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสังเกตเห็นสายตาตื่นตะลึงของหญิงสาวอีกคน
“ขอโทษด้วยข้าสอนเขาไม่ดี เลยทำให้เ้าต้องเห็นเื่น่าขันเข้า”
ภายใต้แสงจันทร์หลินเมิ้งหยาถอนผ้าคลุมออกจากศีรษะ เผยให้เห็นใบหน้างดงามรูปไข่
“ไม่เป็ไรหากยังสั่งสอนไม่เสร็จก็สามารถจัดการต่อได้ ไม่ทราบว่าเ้าคือ...”
“ข้าคือครอบครัวของเขาอาจจะกลายเป็เ้านายของเ้าในอนาคต เรียกข้าว่าหลินเมิ้งหยาก็ได้”
ยื่นมือออกไปแสดงท่าทางใจกว้าง หยุนจู๋ลังเล คลายคิ้วที่ขมวดเข้าหากันออก ก่อนจะหยักยิ้ม
“คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะยังสาวและสวยเช่นนี้เหมือนกับข้าในตอนนั้นไม่มีผิด”
ยิ่งไปกว่านั้นหยุนจู๋คิดไม่ถึงเลยว่านายท่านแห่งเถาฮวาอู๋ที่นักฆ่าทุกคนต่างหวาดกลัวมิกล้าสบตาจะ....
ว่านอนสอนง่าน!ใช่ ต้องใช้คำนี้มาจำกัดความ
หรือหญิงสาวตรงหน้าจะมีอะไรพิเศษกันนะ?
“แม้พิษในร่างของเ้าจะถูกถอนออกไปแล้วแต่พิษบนใบหน้าของเ้าไม่สามารถถอนออกได้ง่าย ๆหรืออาจพูดได้ว่าเ้าใช้วิธีการบางอย่างทำให้พิษทั้งหมดเปลี่ยนตำแหน่งไปที่ใบหน้า”
หลังจากจับมือกันแล้วหลินเมิ้งหยาจึงอธิบายสภาพการณ์ของหยุนจู๋ให้ฟัง
อดีตนักฆ่าหญิงมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาประหลาดใจผู้หญิงคนนี้รู้ได้อย่างไร?
“เ้าพูดถูกแล้วข้าเรียนวิชาบางอย่างเมื่อสำเร็จแล้วจะสามารถรวบรวมพิษทั้งหมดในร่างกายและสามารถย้ายไปไว้ที่ใดที่หนึ่งได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะย้ายมาอยู่บนใบหน้าของข้า”
เสมือนกำลังพูดเื่คนอื่นก็ใช่ คนที่เป็นักฆ่าไม่มีทางใจอ่อนอย่างแน่นอน
“แต่เ้าคงไม่รู้ว่าแม้วิธีนี้จะช่วยรักษาชีวิตเอาไว้ได้่หนึ่งแต่สักวันมันจะะเิออกมาอยู่ดีเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นเ้าจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส”
วิธีนี้ไม่ต่างอะไรกับการฝังพิษไว้ในร่างกายเสมือนตัวหนีบเอกสาร
หากตัวหนีบตัวนั้นหลุดออกเกรงว่าแม้แต่เทพต้าหลัวก็คงมิอาจช่วยได้
มันเป็เพียงการยืดเวลาตายออกไปเท่านั้นไม่ช้าก็เร็วก็ต้องตายอยู่ดี
“แล้วอย่างไรเล่า?ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็อยู่สภาพครึ่งคนครึ่งผี ถ้าหากพวกเ้าสามารถถอนพิษให้ข้าได้ข้าจะยอมทุ่มเทเพื่อพวกเ้าสุดชีวิต แต่ถ้าหากช่วยไม่ได้ข้าจะกระจายข่าวเื่การมีชีวิตอยู่ของชิงหูเมื่อถึงเวลานั้นพวกเ้าเตรียมตัวถูกไล่ล่าได้เลย”
พูดจบนางหมุนตัวแล้วหายเข้ากลีบเมฆไปในทันที
“เป็ยัยบ้าจริงๆ ด้วย เ้าเด็กน้อย พวกเราอย่าไปสนใจนางเลย”
มองตามร่างที่ลับหายไปของหยุนจู๋หลินเมิ้งหยากลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เหตุใดนางจึงถอนตัวออกจากเถาฮวาอู๋? ”
ชิงหูครุ่นคิดก่อนจะเอ่ย
“เพื่อผู้ชายคนหนึ่งตอนนั้นนางเป็สาวสวยคนหนึ่งในเมืองหลวง ผู้ชายคนนั้นมักมาหาและดูแลนางส่วนเื่หลังจากนั้นข้าเองก็ไม่ค่อยรู้เช่นกัน แต่เ้าวางใจเถิด ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางกระจายข่าวลือได้อย่างแน่นอน”
หากเทียบความโเี้กันแล้วหากชิงหูเอ่ยว่าตนเองเป็ที่สอง เช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้าขึ้นเป็ที่หนึ่ง
เขามอบหมายหน้าที่ให้มั่วหรานและชิงหลีกระจายข่าวลือเช่นนี้ก็เพื่อรวบรวมกำลังพลให้กับหลินเมิ้งหยา
โดยเฉพาะพวกที่ได้รับาเ็และคิดหนีออกจากเถาฮวาอู๋
เชื่อว่าความสามารถทางด้านการถอนพิษของหลินเมิ้งหยาจะต้องซื้อใจพวกเขาได้อย่างแน่นอน
“ก็จริงของที่ข้าสั่งให้เ้าเตรียม เ้าเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่? ”
ชิงหูพยักหน้าลงก่อนจะพุ่งไปยังเรือนเล็กว่างเปล่าหลังนั้น
ไม่นานเขาหยิบกล่องเล็กกล่องหนึ่งออกมาจากเรือนเล็กหลังนั้น
กล่องไม้ถูกลงกลอนเอาไว้อย่างแ่าหลังจากสะเดาะกลอนออกแล้ว จึงเผยให้เห็นภายในกล่องที่มีสองชั้น
ภายในทุกช่องถูกปิดผนึกเอาไว้ด้วยแผ่นไม้บาง ๆ
หลินเมิ้งหยาเปิดออกหนึ่งอันกลิ่นหอมหวานพลันพวยพุ่งออกมา
“ละเอียดอ่อนยิ่งนักเ้าทำเช่นไรจึงใส่ยาไว้ในนี้ได้? ”
หลินเมิ้งหยาบีบของชิ้นหนึ่งรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว มีสีแดงเข้ม ภายในคือยาพิษร้ายแรง
ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถฆ่าคนทั้งหมู่บ้านได้
“โห เคลือบด้วยขี้ผึ้งอย่างนั้นหรือเ้ามีพัฒนาการเหมือนกันนี่”
หลินเมิ้งหยาวางยาพิษกลับลงไปในกล่องทั้งหมดในกล่องใหญ่นี้มีราวสามสิบหกกล่องเล็ก
เป็ของที่นำมาใช้เพื่อรักษาชีวิตของตนเองนางจะใช้ยาเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ชิงหูทุ่มเทแรงกายแรงใจหาพวกมันมาให้นางนอกจากนางแล้ว ไม่มีใครสามารถเปิดกล่องนี้ออกได้
“ข้าเพียงแค่ลองดูเท่านั้น”
ชิงหูหัวเราะคิกคักเขาไม่มีทางพูดหรอกว่าหลังจากที่ได้กล่องนี้มาแล้วเขาวางยาคนทำกล่องทั้งครอบครัวจนตาย
หากเ้าเด็กน้อยรู้เข้าเขาต้องถูกด่าอย่างแน่นอน
