“พี่เปียว พี่มาแล้ว ไอ้เวรสองคนนี้แหละ พี่ต้องแก้แค้นให้เราพวกผมนะ!ดูหน้าตาจองหองของมันสิ พวกมันอัดพวกผมหน้ายับจนแม้แต่พ่อแม่ก็จำหน้าไม่ได้”
ทันทีที่จางเปียวมาถึงเ้าหัวแอโฟรที่หดหู่ก็กลับมามีชีวิตชีวาทันทีเหมือนกับเห็นบรรพบุรุษฟื้นคืนชีพขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าตอนนี้จางเปียวกำลังเดินมาหาลุงฝูจึงก้าวมาข้างหน้าของฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงใช้มือห้ามเสียก่อน
ตอนนี้มีภารกิจเกี่ยวกับจางเปียวแล้วฉินเฟิงต้องจัดการด้วยตัวเอง
จางเปียวนำคนเดินเข้ามาหาฉินเฟิงจนถึงระยะประชิดก็มองเห็นหน้าตาของฉินเฟิงได้ชัดเจน สีหน้าของมันเปลี่ยนไปทันทีกล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเล็กน้อย
จางเปียวรู้ดีที่สุดว่าในเมืองเว่ยเฉิงแห่งนี้ใครควรหาเื่และใครไม่ควรหาเื่และสองคนต่อหน้าเขาจัดอยู่ในหมวดที่เขาไม่เคยคิดหรือแม้แต่อยากจะหาเื่ด้วยตลอดชีวิต
เพราะทั้งคู่เป็คนจากตระกูลฉินแห่งเมืองเว่ยเฉิงถ้าใครหาเื่พวกเขาคงได้แต่รอฆ่าตัวตายและอธิษฐานให้ชาติหน้าเกิดมาในตระกูลเศรษฐีก็พอแล้ว
และตอนนี้เองจางเปียวก็อยากจะฆ่าเ้าหัวแอโฟร
สถานะของเ้าหัวแอโฟรต่ำเตี้ยเรี่ยดินแต่ตอนนี้มันไม่รู้สถานการณ์ และไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าหม่นหมองของจางเปียว
เมื่อเห็นว่าจางเปียวกำลังมาทั้งตัวมันก็เต็มไปด้วยแรงฮึดและชี้หน้าฉินเฟิงพร้อมกับด่า “พี่เปียวไอ้สองตัวนี้แหละที่ไม่กลัวตาย แม่มันเถอะ กล้าดียังไงถึงไม่ไว้หน้าพี่เปียว”
“โดยเฉพาะตาแก่นั่น...จ้องหาอะไรวะ ฉันพูดถึงแกอยู่อายุก็ห้าสิบกว่าแล้วยังลงมือกับเราด้วยความโเี้คราวนี้พี่เปียวอยู่ที่นี่แล้ว ดูซิว่าแกจะกล้าทำหยิ่งได้อีกไหม!”
เ้าหัวแอโฟรด่าทอรุนแรงมากขึ้นที่สำคัญคือดูเหมือนอีกฝ่ายไม่กล้าตอบโต้ทำให้เขารู้สึกดีและความหดหู่ในใจก็มลายหายไป เขารู้สึกเหมือนกำลังตัวลอย
ไม่ใช่เพราะลุงฝูไม่กล้าลงมือแต่เพราะฉินเฟิงไม่ได้ออกคำสั่งต่างหาก เขาจึงไม่อยากยุ่งกับพวกตัวตลก ตรงกันข้ามกับผู้อำนวยการฟางเมื่อเขาเห็นคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงชี้หน้าด่าแหลกอดีต ‘เ้าแห่งพลัง’ หยวนฝูเขาก็ใและหลั่งเหงื่อเย็นๆ
วัยรุ่นสมัยนี้นี่หยิ่งจองหองจริงๆหนอ...
เพียะ!
ขณะที่เ้าหัวแอโฟรกำลังด่าอย่างมันปากลูกตบอันหนักหน่วงก็ปะทะเข้าที่ใบหน้าของมันทันที มันหมุนสามตลบและเห็นดาวสีเหลืองบนหัว
ใบหน้าเดือดดาลของจางเปียวเขียวปี๋และแอบด่าพวกลูกเต่าที่ไม่มีตา พวกมันจะหาเื่ใครก็ได้แต่ทำไมต้องหาเื่นายน้อยแห่งตระกูลฉิน แถมพวกมันยังลากเขามาซวยด้วยเ้าพวกหมูงี่เง่า
“พี่เปียว พี่...พี่ตบผิดคนแล้ว มันเป็ไอ้สองคนตรงนั้น”
เ้าหัวแอโฟรตะลึงที่ถูกตบกะทันหันมันเอามือปิดหน้าที่มีรอยแดงและมองจางเปียวด้วยความสับสนเมื่อมันกำลังอ้าปากพูดบางอย่างอีกตบหนึ่งก็ปะทะที่ใบหน้าของเขาจนฟันหน้ากระเด็นและเืกบปาก
“แม่งเอ๊ย คนที่พ่ออยากตบก็คือแกนั่นแหละ! ไอ้ลูกเต่า แหกตาดูซะสองท่านต่อหน้าพวกแกคือคนจากตระกูลฉินเมืองเว่ยเฉิง!”
จางเปียวตบสุดแรงเกิดราวกับว่าอยากจะตบเ้าหัวแอโฟรให้ตายก่อนที่มันจะพูดอะไรโง่ๆออกมา
ตระกูลฉินเมืองเว่ยเฉิง?
สี่คำนี้สั่นสะท้านยิ่งกว่าตบสองครั้งของจางเปียวเ้าหัวแอโฟรและคนอื่นๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าและจ้องจนตาจะถลนออกมา
ถ้าพวกเขารู้ว่าสองคนนี้คือสมาชิกตระกูลฉินต่อให้มีความกล้ามากกว่านี้สิบเท่าพวกเขาก็ไม่กล้า
แม้แต่คนเฝ้าประตูตระกูลฉินก็เป็เื่ที่พวกเขาไม่สามารถ
ยิ่งถ้ารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคือลูกชายเพียงคนเดียวของฉินหวงประมุขตระกูลฉิน คนกลุ่มนี้คงใจนสลบเหมือด
“นายน้อยฉิน ท่านผู้าุโ...ข้าน้อยเป็คนมีตาหามีแววไม่เป็หมาไม่รู้ฟ้าดิน โปรดยกโทษให้ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยสักครั้งเถิด”หลังจากเ้าหัวแอโฟรได้สติ มันก็คุกเข่ากราบและร้องขอความเมตตา
“นายน้อยฉิน ท่านผู้าุโ พวกเราผู้เยาว์รู้ตัวแล้วว่าผิดผู้ยิ่งใหญ่ย่อมใจกว้าง อย่าถือสาพวกเราผู้เยาว์เลย!”ลูกน้องทั้งห้าที่อยู่ข้างหลังก็คุกเข่า และร้องขอความเมตตาตามเขา
กลุ่มคนหกคนคุกเข่าบนพื้นเต็มทางเดินหลังจากเห็นคนคุกเข่าร้องขอความเมตตาทีละคนหลินเป้ยเป้ยและผู้อำนวยการฟางก็ตกตะลึง
“ไอ้พวกลูกเต่าเอ๊ย...ลากไอ้พวกบ้านี่ออกไปสอนบทเรียนมัน”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงไม่พูดอะไรในใจของจางเปียวก็ยิ่งกังวลมากขึ้นจนเหงื่อเริ่มออกเต็มหลังเขากัดฟันและมองไปที่เ้าหัวแอโฟรกับคนอื่นๆแล้วก็โบกมือบอกให้คนที่เขาพามาลากพวกมันออกไปสั่งสอน
ทางเดินแคบๆกว้างขึ้นทันทีหลังจากที่พวกมันจากไป เหลือแค่จางเปียวและพวกของฉินเฟิง
“นายคือจางเปียว?” ฉินเฟิงมองจางเปียวและถามเบาๆ
“ครับ นายน้อยฉิน ข้าน้อยไม่ได้สั่งสอนลูกน้องให้เหมาะสม โปรดเมตตาด้วย”จางเปียวป้องมือ และกล่าวด้วยความเคารพ
ฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไรเขากำลังนึกถึงภารกิจกำราบจางเปียวของระบบ
ความจริงตอนนี้ดูเหมือนสถานะตระกูลฉินอย่างเดียวก็พอสยบจางเปียวได้แล้วแต่จางเปียวเป็คนตรงไปตรงมาและมีความจงรักภักดี ถ้าบังคับให้มันยอมจำนนมันคงติดตามเขาอย่างไม่เต็มใจ
“ฉันได้ยินมาว่านายค่อนข้างมีฝีมือถ้านายให้ฉันต่อยหนึ่งทีก็ถือว่าเื่นี้เจ๊ากันไป” ฉินเฟิงกล่าวเข้มขรึม
จางเปียวสับสนแม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอฉินเฟิงมาก่อน และไม่รู้ว่าฉินเฟิงเป็คนแบบไหนแต่มีข่าวลือว่าคนที่หาเื่นายน้อยฉินไม่เคยรอดไปง่ายๆ มาก่อน
เป็ไปได้หรือว่าเื่มันจะจบแค่ให้เขาต่อยหนึ่งครั้ง?
ความจริงจางเปียวดูแคลนหมัดของฉินเฟิงอย่าว่าแต่หมัดเดียว ต่อให้สิบหมัดเขาก็ไม่กลัว
ขณะที่ฉินเฟิงพูดกลิ่นอายบนร่างก็เพิ่มขึ้นทันที ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวเขาก็พุ่งไปต่อยเข้าที่ท้องของจางเปียว
ปัง!
หมัดนี้ทั้งทรงพลังและเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อเสียงกระทบของมันดังก้องไปทั้งทางเดิน
ั์ตาของลุงฝูเป็ประกายและมองจางเปียวที่ถอยไปห้าหรือหกก้าวก่อนที่จะหยุดลงเขาถอนหายใจ ดูเหมือนเขาจะประเมินเพลงหมัดกำลังภายนอกของฉินเฟิงต่ำไป
มันทั้งรุนแรงและทรงพลังจนมิอาจหยุดยั้ง...เป็เพลงหมัดกำลังภายนอกระดับสูงแน่นอน
“จางเปียว ฉันจะให้โอกาสนายติดตามนายน้อยผู้นี้ในภายภาคหน้า!”
หลังจากฉินเฟิงปล่อยหมัดออกไปเขาก็พูดอย่างสงบ เขาไม่ได้ใช้สถานะบังคับให้มันยอมแพ้แต่ให้มันประทับใจในพลังของเขาจะดีกว่า
ถ้าคนอย่างจางเปียวเต็มใจรับใช้เขาเขาก็จะได้ลูกน้องดีๆ
จางเปียวมองฉินเฟิงด้วยความใเขาไม่คิดว่าร่างกายที่ดูบอบบางจะซ่อนพละกำลังมหาศาลเอาไว้เขายังเคยได้ยินข่าวลือเื่ฉินเฟิงมาก่อน
จางเปียวดูแคลนพวกลูกคุณหนูที่อยู่ในตระกูลดีแต่ทำอะไรไม่เป็แต่ขณะนี้เขาเชื่อมั่นในตัวฉินเฟิงอย่างสมบูรณ์
หมัดนั้นมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อและไวอย่างน่าตะลึง จางเปียวไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย
“นายน้อยฉินไว้หน้าแล้ว กาลข้างหน้าหาก้าใช้อาเปียวโปรดบอกได้เลย”
หลังจากคืนสติกลับมาจางเปียวก็อดทนความเจ็บในช่องท้องขณะที่พูด และดวงตาก็ฉายแววความตื่นเต้นมีูเาใหญ่อย่างฉินเฟิงเป็ที่พักพิง เขาจะทะยานสู่ความสำเร็จในอนาคตแน่นอน