“กัวไฮว่ นายให้พวกเขาสละสิทธิ์เหรอ มั่นหน้า กล้าหาญ ฉันชอบ ฮ่าๆ” ซย่าโหวเทียนค่อยลุกขึ้นมาแล้วพูดยิ้มๆ กับกัวไฮว่
“่ความฝันงั้นเหรอ สุดยอดไปเลย ถ้าไม่ให้พวกเขาสละสิทธิ์นายก็คงหาวิธีทำให้เขาสละสิทธิ์ใช่ไหมล่ะ” กัวไฮว่พูดพลางหรี่ดวงตาตอนที่เข้ามาในสนามแข่งแล้วบังเอิญพบซย่าโหวเทียนนั้นกัวไฮว่ก็ได้ใช้วิชาอ่านจิตกับเขาแล้วก็ใจนเหงื่อไหล เด็กหนุ่มคนนี้ดันสามารถควบคุม่ความฝันได้นี่มันไม่ใช่แบบเดียวกับที่มารฝันทำให้ท่านเทพ[1]เสียเปรียบในตอนนั้นหรอกหรือ
“นายรู้พลังวิเศษของฉันได้ นายเป็ใครกันแน่” ซย่าโหวเทียนมองไปรอบด้านคนรอบๆ กลับไม่ได้ยินในสิ่งที่กัวไฮว่พูดจึงตระหนกขึ้นมา เขาหรี่ดวงตามองกัวไฮว่แล้วถามขึ้น
“ฉันก็เป็นักเรียนฟู่จงน่ะสิ ทำไม อยากควบคุม่ความฝันฉันเหรอ ลองดูได้ฉันก็อยากจะรู้นักว่าพลังวิเศษของนายจะดีสักแค่ไหนเชียว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“นี่การแข่งวิชาการ จะชนะนายไม่ต้องใช้พลังวิเศษหรอกถึงฉันจะไม่รู้ว่าพลังวิเศษนายคืออะไรแต่นายกล้ามาสู้กับฉันอย่างยุติธรรมสักตาหนึ่งไหมล่ะ”
“แข่งอย่างยุติธรรมแน่นอนว่าไม่ได้ แต่ถ้านายจะใช้พลังวิเศษฉันก็จะไม่ห้ามนาย” เมื่อกัวไฮว่พูดจบซย่าโหวเทียนก็ััได้ถึงไอความเย็นเยียบ จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคนะโเรียกชื่อตนเอง
“ซย่าโหวเทียน เธอเองก็อยากดื่มน้ำสักแก้วไหม ถ้าไม่อยากตอนนี้เริ่มการแข่งขันของพวกเธอได้แล้วหรือยัง” หานเฟยเฟยมองซย่าโหวเทียนก่อนจะถามขึ้นยิ้มๆ
“เริ่มเลยเถอะครับ กัวไฮว่ นายถามได้เลย” ซย่าโหวเทียนเบิกตาถามกัวไฮว่เสียงดังเขารู้ว่าเมื่อกี้กัวไฮว่ต้องทำอะไรพิสดารๆ อย่างแน่นอน
“จงบอกชื่อพร้อมที่ตั้งของหอสมุดหลวงสี่แห่งของเมืองจีน”
“หอสมุดเหวินยวนเก๋อที่ปักกิ่ง หอสมุดเหวินซั่วเก๋อที่เสิ่นหยางหอสมุดเหวินจินเก๋อที่เฉิงเต๋อ หอสมุดเหวินหลานเก๋อที่หังโจว”
“เจ็ดสัตบุรุษแห่งป่าหลินจู๋มีใครบ้าง”
“จีคัง หร่วนจี๋ ซานเทา เซี่ยงซิ่ว หร่วนเสียน หวังหรง หลิวหลิง”
“ในความเรียงแปดขา แปดขาหมายถึงอะไรบ้าง”
“คำนำ บทนำ เปิดเื่ เริ่มเื่ บทกลาง บทท้าย บทสรุป”
“แปดประหลาดแห่งหยางโจวหมายถึงใครบ้าง”
“หวังซื่อเซิ่น หลี่ซ่าน จินหนง หวงเซิ่น เกาเสียง เจิ่งเซี่ย หลัวพิ่น”
“สิบละครโศกนาฏกรรมคลาสสิกของจีนมีเื่ไหนบ้าง”
“เื่ความแค้นของโต้วเอ๋อ เื่เด็กกำพร้าแห่งตระกูลเ้าเื่ธงแห่งความภักดี เื่ชิงจงผู่ เื่ดอกท้อโบกไสว เื่สารทฤดูในวังฮั่นเื่บันทึกผีผา เื่บันทึกชมพูนวล เื่ตำหนักอายุยืน เื่เจดีย์เหลยเฟิง”
“ในเมื่อนายถามละครโศกนาฏกรรม งั้นฉันขอถามซย่าโหวเทียนว่าสิบละครตลกคลาสสิกมีเื่อะไรบ้าง”
“เื่ช่วยลมฝุ่น บันทึกปิ่นหยก เื่บันทึกหอตะวันตกเื่สาวรวยแสนตระหนี่ เื่รักกันดูดดื่ม เื่หลี่ขุยรับผิดเื่บันทึกโยวเก๋อ เื่หมาป่าแห่งจงซาน เื่ความผิดพลาดของว่าว”
“กัวไฮว่บอกมาหน่อยว่าสิบสองกฎมีใครบ้าง”
“หวงจง ต้าหลี่ว์ ไท่ชู่ จย๋าจง กูสี่ จ้งหลี่ว์ หรุยปิน หลินจง อี๋เจ๋อหนานหลี่ว์ อู๋อี้ อิงจง”
“ซย่าโหวเทียน กฎว่าด้วยความชั่วสิบประการหมายถึงอะไรบ้าง” กัวไฮว่พูดเล่นสำนวน
“กัวไฮว่ นาย...” ซย่าโหวเทียนถลึงตามองกัวไฮว่จากนั้นก็สูดสมหายใจเข้าเฮือกหนึ่งก่อนจะพูดยิ้มๆ “กัวไฮว่กฎว่าด้วยความชั่วสิบประการหมายถึง ก่อความไม่สงบ ปลุกปั่น ก่อฏ ขัดคำสั่งศาลเสื่อมศีลธรรม หยามศาสนา อกตัญญู กระทำสามัคคีเภท ฉ้อราษฎร์บังหลวงร่วมประเวณีกับญาติ”
ทั้งสองคน คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบราวกับว่าทั้งหอประชุมมีเพียงพวกเขาแค่สองคนพวกเขาสองคนเหมือนกับทหารที่ไม่ยอมถอยให้กัน กรรมการล่างเวทีต่างก็ขมวดคิ้วมุ่น พวกเขาตรวจคำตอบของทั้งสองอย่างสุดความสามารถถึงขั้นที่ว่ามีคนหนึ่งในพวกเขาหวังว่าให้พวกเขาคนใดคนหนึ่งรีบตอบผิดสักข้อาถามไปถามมาครั้งนี้จะได้สิ้นสุดเร็วๆ เสียที
“กัวไฮว่ ซย่าโหวเทียน พวกเธออยากพักหน่อยไหม” ตอนที่ทั้งสองคนผลัดกันตอบคำถามถูกไปแล้วราวสามร้อยแปดสิบข้อหานเฟยเฟยก็ถามขึ้นเบาๆ
“ไม่ต้องครับ” กัวไฮว่กับซย่าโหวเทียนตอบพร้อมกันแล้วทั้งสองคนก็ถามตอบกันต่อ
“กี่คำถามแล้วเหรอ” ล่างเวทีมีคนถามขึ้นเบาๆ
“ไม่รู้ รวมแล้วทั้งสองคนน่าจะเกินพันแล้ว” คนที่อยู่ข้างๆตอบกลับเบาๆ
“ไม่มีถามซ้ำเหรอ” ชายชราผู้หนึ่งถามขึ้น
“ไม่น่าจะมีครับเมื่อกี้กรรมการได้เชื่อมต่อวิดีโอที่แข่งเข้ากับเอไอของสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงไว้แล้วถ้ามีคำถามซ้ำ เอไอจะส่งข้อมูลกลับมายังที่แข่งครับ” ชายวัยกลางคนใส่ชุดสูททั้งตัวที่นั่งอยู่แถวหน้าพูดขึ้นเบาๆ
“กัวไฮว่ เกมภาษาแบบนี้ไม่เห็นจะสนุกเลยไม่งั้นฉันคิดโจทย์บนบอร์ดให้นายแก้ดีไหม” ซย่าโหวเทียนพูดยิ้มๆ
“นายคิดว่าไงฉันก็จะทำตามนั้น” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“คือ...พวกเธอรอเดี๋ยวก่อนนะ” ในขณะที่กระดานคำถามของซย่าโหวเทียนสว่างขึ้นมาชายชราผมหงอกผู้หนึ่งก็ลุกพรวดขึ้นมาพูด
“เหล่าหลู่ ไม่ทราบว่าคำถามนี่มีปัญหาอะไรเหรอ” เหอเถี่ยจุ่ยรีบก้าวไปยังด้านหน้าของชายชราแล้วถามขึ้นยิ้มๆ
คนที่พูดไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยอู่เฉิง บัณฑิตสำนักหัวซย่าสุดยอดด้านคณิตศาสตร์แห่งหัวซย่า คุณหลู่หย่งเซิน
“พ่อหนุ่ม เธอเขียนโจทย์นี้บนกระดาน นายเองทำข้อนี้ได้หรือเปล่าล่ะ” หลู่หย่งเซินมองซย่าโหวเทียนแล้วถามยิ้มๆ
“เหล่า หลู่ เมื่อเดือนก่อนคำถามนี้มีรุ่นพี่แก้ได้แล้ว สถาบันสิบสองราศีเมนซาได้คอนเฟิร์มแล้วว่าคำตอบของข้อนี้ถูกต้อง” ซย่าโหวเทียนพูดยิ้มๆ
กัวไฮว่มองโจทย์เลขบนกระดานแวบหนึ่ง มุมปากยิ้มน้อยๆคิดว่าคำถามยากอะไร แค่นี้เองเหรอ อันที่จริงตอนที่ซย่าโหวเทียนยกกระดานขึ้นมานั้นทุกคนรวมถึงเหล่ากรรมการต่างก็ใจนเหงื่อตก ยาก ยากเกินไปคำถามนี้ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงก็ไม่มีทางแก้ได้
“เหล่าหลี่ เช็ดเหงื่อหน่อย โจทย์เลขเองไม่ใช่เหรอนายต้องเชื่อมั่นในนักเรียนนายสิ เช็ดเหงื่อนะเช็ดเหงื่อ” เฉาสิงหลงยื่นกระดาษทิชชู่ให้หลี่สวินอวี้แผ่นหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆขณะนั้นเองเหล่าผอ.สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่น
“พ่อหนุ่ม แข่งเสร็จถ้านายมีเวลานายมาหาฉันที่มหาวิทยาลัยอู่เฉิงได้นะ” พูดเสร็จ หลู่หย่งเซินก็ยิ้มพลางนั่งบนที่นั่ง
“กัวไฮว่ จากการตัดสินของกรรมการแล้วข้อนี้สามารถให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมงได้ ตอนนี้เธอสามารถคิดคำถามให้แก่ซย่าโหวเทียนได้เช่นกันถ้าพวกเธอไม่สามารถตอบคำถามของอีกฝ่ายได้หรือตอบถูกกันทั้งหมดเช่นนั้นการทดสอบในรอบแรกจะถือว่าเสมอกัน ถ้าพวกเธอคนใดคนหนึ่งตอบถูกฝ่ายที่ตอบถูกก็จะถือว่าชนะไปแล้วพวกเราก็จะเริ่มแข่งถามไวตอบไวหนึ่งร้อยข้อกันได้เลยค่ะ” หานเฟยเฟยมองทั้งสองคนพลางพูดยิ้มๆ
“ในเมื่อซย่าโหวเทียนคิดโจทย์เลขให้ฉันงั้นนายก็ช่วยฉันแก้โจทย์ข้อนี้หน่อยสิ” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็ไปเขียนบนกระดานโดยไว
“พ่อหนุ่ม นายแน่ใจเหรอว่าข้อนี้นายมีคำตอบน่ะ” หลู่หย่าเซินลุกขึ้นมาอีกรอบใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ
“คิดคำถามได้ก็ต้องตอบได้สิ ซย่าโหวเทียน คำถามฉันไม่เลวเลยใช่ไหม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“นายตอบคำถามฉันไม่ได้ ฉันก็ตอบคำถามนายไม่ได้ งั้นก็เสมอกัน” ซย่าโหวเทียนเห็นคำถามที่กัวไฮว่คิด ให้เวลาเขาหน่อยก็อาจจะพอจะคิดวิธีได้แต่จะให้เอาเวลาหนึ่งชั่วโมงมาตอบคำถามแบบนี้ ฝันไปเถอะ
“ในเมื่อซย่าโหวเทียนไม่ตอบคำถามของฉัน งั้น...” กัวไฮว่ยังไม่ทันพูดจบ กรรมการต่างก็พยักหน้ากันเกรียวกราวการแข่งขันของปีศาจทั้งสองก็มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
“ขอฉันตอบคำถามที่นายคิดให้ทุกคนหน่อยล่ะนะ”
[1] ตามตำนานไซอิ๋ว มีตอนหนึ่งที่หงไห่เอ๋อร์ (เด็กแดง)ฝันแล้วถูกมารฝันจับตัวไว้ จากนั้นซุนหงอคงก็ตามไปช่วย