ความเจ็บที่หลังยังไม่ทันหายลู่เป๋าเหยียนก็โน้มตัวเข้ามาประกบเรียวปากของเธอทันที
เขาใช้แขนข้างหนึ่งดันผนังและใช้ร่างสูงใหญ่ขังเธอเอาไว้พลางจูบเธออย่างรุนแรงและดุดัน
“อื้อ...อื้อ...”
ูเี่อันพยายามผลักเขาออกไปแต่เหมือนการกระทำของเธอจะทำให้เขายิ่งโกรธ
สองแขนของเขาโอบเอวเธอพลางล็อกมือเธอเอาไว้อย่าว่าแต่ดิ้นหนีไปไหนเลย ตอนนี้แค่ขยับตัวสักนิดเธอยังทำไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถดูดดื่มกับความอ่อนหวานของเธอได้ดั่งใจอยาก
ในความทรงจำของูเี่อันถึงบางครั้งลู่เป๋าเหยียนจะชอบเอาเปรียบเธอแต่อย่างน้อยเขาก็ยังคงความเป็สุภาพบุรุษอยู่บ้าง ทว่าครั้งนี้เขาใช้กำลังจูบเธอราวกับจะดูดิญญาของเธอออกไปจนหมด พอเธอเริ่มต่อต้านเขาก็ส่งลิ้นเข้ามารุกล้ำหาความอ่อนหวานอย่างเอาแต่ใจ มือที่รัดเธออยู่ก็ยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เธอรู้สึกราวกับจะถูกเขากลืนกินไปทั้งตัวในไม่ช้า
ไม่นานูเี่อันก็รู้สึกหายใจไม่ทัน
เขากับเธอแสดงความใกล้ชิดแบบนี้มาหลายครั้งไม่ว่าจะตอนที่เขาจูบเธอในงานประมูลเพื่อให้ซูหยวนหยวนดูที่ถึงแม้จะเป็จูบที่ดุดันแต่ก็ยังแฝงด้วยความอ่อนโยนอยู่บ้างเขายังใส่ใจว่าเธอหายใจทันหรือเปล่า คืนวันนั้นที่เธอไปรับเข้าที่โรงพยาบาลเขาก็จูบเธออย่างแ่เบาเพื่อให้เธอสบายใจ
จูบทั้งสองครั้งทำให้เธอหลงเคลิบเคลิ้มไปกับมัน
แต่ว่าจูบครั้งนี้เขาเหมือนปีศาจร้ายที่ควบคุมความ้าของตัวเองไว้ไม่ได้จนอยากจับเธอกลืนกินไปทั้งตัวอย่างไรอย่างนั้น เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากวงแขนเขาแต่กลับถูกเขาขบกัดที่ริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บหลังจากนั้นก็เริ่มได้กลิ่นคาวเืตามมา...
ทุกอย่างหยุดชะงักเหมือนมีใครมากดปุ่มหยุดชั่วคราว
ลู่เป๋าเหยียนปล่อยูเี่อันให้เป็อิสระเขาเห็นปากเธอมีเืออก ความใและเสียใจในการกระทำของตนฉายชัดอยู่ในแววตาของเขา
“เจี่ยนอัน...” เสียงของเขาแหบต่ำ
ูเี่อันผลักเขาออกไปพร้อมตาแดงๆพลางใช้มือขวาปาดคราบเืออกจากเรียวปาก
ลู่เป๋าเหยียนยื่นมือออกมาเพื่อจะััแผลของเธอแต่เธอกลับเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ มือเขาชะงักค้างอยู่อย่างนั้นแล้วจึงค่อยๆ ลดมือลง
ูเี่อันมองเขาอย่างโมโห“ลู่เป๋าเหยียน ฉันไม่ใช่หานรั่วซี นายมองให้ดีๆ!”
ในที่สุดเธอก็พูดชื่อนี้ออกไปจนได้
เหมือนลู่เป๋าเหยียนจะอารมณ์ดีขึ้นในพริบตาเขามองูเี่อันอย่างหาคำตอบ
“เธอเห็นข่าวแล้ว ไม่ชอบใจ?”
“ทำไมฉันจะต้องไม่ชอบใจด้วย?” เืเริ่มไหลซิบๆ ออกมาอีกแล้วูเี่อันยกมือปาดมันออกไป
“ในวันแต่งงานฉันก็เคยบอกนายแล้วนี่ว่าฉันไม่สนว่านายกับหานรั่วซีจะไปทำอะไรกันลับหลังเพราะฉะนั้นนายเองก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเื่ฉันเหมือนกัน”
“เธอคิดจะทำอะไรถึงไม่อยากให้ฉันยุ่ง หือ?” ลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามาใกล้เธอ
“จะไปหาเจียงเส้าข่าย?”
ูเี่อันสะบัดหน้าหนี“ฉันจะไปหาใครก็ไม่เกี่ยวกับนาย นายไปทำอะไรกับใครฉันยังไม่เข้าไปยุ่มย่ามเลยเราสองคนต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างใช้ชีวิตเข้าใจไหม!”
ว่าแล้วเธอก็หันตัวเดินกลับขึ้นห้องเืที่เรียวปากงามหยุดไหลลงเสียที แต่น้ำตาเธอนี่สิที่เริ่มเอ่อล้นออกมาแทน
สองเดือนของชีวิตการแต่งงานถึงแม้ในชีวิตจริงเธอกับลู่เป๋าเหยียนจะไม่ได้รักกันหวานชื่นเหมือนที่คนอื่นคิดแต่ก็ไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ
นี่เป็ครั้งแรกที่เธอกับเขาทะเลาะกัน
ูเี่อันไม่เคยนึกว่าเลยว่าการทะเลาะกับลู่เป๋าเหยียนจะทำให้ตัวเองรู้สึกเสียใจขนาดนี้
ที่จริงเธอจะไม่สนใจเื่ที่เขากับคนอื่นอยู่ด้วยกันได้อย่างไรตอนที่เธอเห็นข่าวฉาวของเขากับหานรั่วซี ถ้าเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านของลั่วเสี่ยวซีหรือไม่ได้ยุ่งอยู่กับการตามหาตัวคนร้าย ป่านนี้เธอคงคลั่งไปแล้ว
เธอไม่มีวันลืมความรู้สึกในตอนนั้นทุกตัวอักษรในข่าวเป็ดั่งเข็มที่ทิ่มแทงสายตาและหัวใจของเธออย่างไม่ปรานี
ความเ็ปทำให้เธอตื่นจากความฝันอันแสนสุขสิ่งที่ลู่เป๋าเหยียนทำให้เธอเป็เพียงแค่การแสดงความอ่อนโยนที่เคยมีให้กันก็แค่ฉากหนึ่งของบทละคร ที่เมื่อเล่นจบเขาจะไปอยู่กับคนอื่นก็ไม่ใช่เื่ยาก
เธอยอมอดทนเวลาที่เขาอยู่กับคนอื่นเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขาในฐานะภรรยา แล้วทำไมเขาต้องมายุ่งกับชีวิตเธอด้วย?
ในขณะเดียวกันลู่เป๋าเหยียนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของูเี่อัน เขาคิดจะยกมือเคาะประตูอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ทำมันลงไป
จนท้ายที่สุดก็เดินกลับเข้าห้องตัวเอง
พวกเขาสองคนคง้าเวลาสงบสติอารมณ์สักหน่อย
ูเี่อันรู้สึกเหมือนหัวใจมันหน่วงๆทั้งๆ ที่ง่วงมากแต่ข่มตาหลับไม่ลง เธอนอนพลิกไปพลิกมาจนกระทั่งตีสามกว่าจะหลับวันรุ่งขึ้นกว่าเธอจะตื่นจึงปาไปเกือบเที่ยงแล้ว
เมื่อมั่นใจว่าลู่เป๋าเหยียนออกจากบ้านไปแล้วเธอจึงเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าหนึ่งชุดจากนั้นฝากให้ลุงสวีบอกกับลู่เป๋าเหยียนว่าคืนนี้เธอจะไปนอนบ้านเพื่อนลุงสวียังไม่ทันตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอก็ขับรถออกจากบ้านไป
เื่ทีู่เี่อันหนีออกจากบ้านในครั้งนี้ลั่วเสี่ยวซีรู้สึกแปลกใจเป็อย่างยิ่ง
ูเี่อันที่เธอรู้จักไม่ใช่เด็กน้อยที่เมื่อมีเื่อะไรก็หนีออกจากบ้านมาเพื่อแสดงความไม่พอใจคราวนี้ดูท่าจะเป็เื่ใหญ่
“เธอกับบอสใหญ่ทะเลาะกันเหรอทำไมล่ะ? แล้วเขาอธิบายเื่ที่อยู่กับหานรั่วซีที่โรงแรมแล้วหรือยัง?”
“ทะเลาะกันเพราะเมื่อคืนฉันกลับบ้านดึกน่ะสิเขายังไม่ได้อธิบาย”
พูดจบูเี่อันก็ฉีกถุงขนมเธอล้วงมันฝรั่งทอดกรอบขึ้นมากินอย่างหงุดหงิด
“อ้าวอย่ากินขนมขยะพวกนี้เพื่อระบายอารมณ์สิ”ลั่วเสี่ยวซีดึงถุงขนมออกไปแล้วส่งแอปเปิ้ลมาให้แทน “กินผลไม้ดีกว่าลู่เป๋าเหยียนคงไม่ใช่แค่เพราะเธอกลับดึกเลยทะเลาะกับเธอมั้งเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า”
“เขานึกว่าฉันอยู่กับเจียงเส้าข่ายจนดึก”
ูเี่อันสมมติว่าแอปเปิ้ลเป็ลู่เป๋าเหยียนและกัดลงไปอย่างแรงโดยไม่ได้ระวังแผลบนริมฝีปาก เธอเจ็บแผลจนร้องออกมา
“โว้วๆๆ”ลั่วเสี่ยวซีมองาแบนริมฝีปากของูเี่อันอย่างสำรวจ“บอสใหญ่หึงจนกัดเธอเลยเหรอเนี่ย แล้วทำไมเธอไม่อธิบายความจริงให้เขาฟัง ว่าเธอไปเดินเที่ยวกับฉันเลยกลับดึกล่ะยัยซื่อบื้อ”
ูเี่อันเบะปาก“เขาทำเหมือนไปกินะเิมาอย่างงั้นแหละ ยังไม่ทันฟังคำอธิบายก็ะเิตูมๆๆ...”
ลั่วเสี่ยวซีคิดพลางพูดเสียงต่ำ“งั้นเขาคงไม่ได้หึงธรรมดา แต่หึงมากจนหน้ามืดแล้วล่ะ!”
ูเี่อันไม่สนว่าเขาจะหึงหรืออะไรเธอหยิบ iPad ของลั่วเสี่ยวซีขึ้นมาดูหนังแก้เซ็ง
เธอรู้แต่ว่าวันนี้เธอไม่อยากเจอหน้าเขา
ลั่วเสี่ยวซีรู้ดีว่าเพื่อนเธอคงเซ็งสุดๆในตอนนี้ เลยสะกิดพลางเสนอว่า
“พวกเราไม่ได้ไปดูหนังด้วยกันตั้งนานแล้วเื่ที่เธออยากดูเข้าโรงแล้วนะ ฉันพาเธอไปเลี้ยงหนังดีไหมแล้วพอตกเย็นเราค่อยไปดูการแสดงที่ฮวนเล่อกู่กัน”
ูเี่อันมองหน้าลั่วเสี่ยวซียิ้มๆจากนั้นจึงลุกขึ้นไปใส่รองเท้า แล้วพวกเธอทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปโรงหนังทันที
เมื่อเทียบกับูเี่อันที่กำลังเที่ยวเล่นสนุกสนานลู่เป๋าเหยียนในตอนนี้กำลังยุ่งหัวหมุนสุดๆ
เื่ที่เขาทิ้งการเซ็นสัญญาที่อเมริกากลับมาประเทศก่อนกำหนดเริ่มส่งผลกระทบต่อบริษัท ทางคู่ค้าไม่พอใจอย่างมาก หยาดเหงื่อแรงกายของทีมงานในบริษัทแต่ละคนก็ต้องสูญเปล่า
เพื่อนำทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมาตัวเขาเองจึงต้องทำงานอย่างหนักยิ่งกว่าเดิม
สามทุ่มกว่างานทั้งหมดในวันนี้ก็ได้เสร็จสิ้น แต่เมื่อกลับมาที่บ้าน ลุงสวีก็บอกเขาว่าวันนีู้เี่อันออกไปข้างนอกั้แ่เที่ยง แถมยังบอกอีกว่าวันนี้เธอจะไปนอนค้างบ้านเพื่อน
ลู่เป๋าเหยียนถอดเนกไทสีหน้าเครียดเขาหยิบมือถือมาโทรหาูเี่อัน
คราวนีู้เี่อันยอมรับโทรศัพท์เขาแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันแน่ เพราะยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงเอะอะวุ่นวายก็ดังแทรกเข้ามา
“เธออยู่ไหน”น้ำเสียงของเขาแฝงความหงุดหงิด
“ฮวนเล่อกู่”ูเี่อันตอบอย่างอารมณ์ดี “ลุงสวีไม่ได้บอกนายเหรอ ว่าวันนี้ฉันไม่กลับบ้าน”
“เธออยู่กับลั่วเสี่ยวซี?”
“ใช่น่ะสิ”
ลู่เป๋าเหยียนยกนิ้วนวดขมับพลางตัดสินใจให้เวลาเธออีกหนึ่งคืน
“พรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับเธอกลับบ้าน”
“ไม่ต้อง”ูเี่อันปฏิเสธ เดี๋ยวเธออยากกลับเมื่อไร เธอจะกลับไปเอง
ลู่เป๋าเหยียนให้เธอได้อย่างมากก็แค่คืนเดียวน้ำเสียงของเขาเริ่มเข้มขึ้น
“หรือว่าเธออยากให้ฉันไปรับเลยตอนนี้?”
ูเี่อันนิ่งไป“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาเช้ามาก ฉันไม่รู้ว่าจะตื่นตอนไหน”
“สิบโมง”
“อืม...งั้นแค่นี้แหละ”
ูเี่อันวางสายพลางพูดกับโทรศัพท์
“ตาบ้าหัวรุนแรง”
การแสดงระบำฮาวายยังคงดำเนินต่อไปฮวนเล่อกู่ในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยความสนุกสนานชวนผ่อนคลายลั่วเสี่ยวซีหันมาถามูเี่อันว่า
“บอสใหญ่โทรมาขอคืนดีหรือไง”
ูเี่อันคิดชั่วครู่แล้วจึงตอบว่า“พวกเราอย่ากลับบ้านเลยคืนนี้ ไปนอนโรงแรมแถวนี้ที่เธอชอบดีไหม ห้อง Deluxe twin room เลยเป็ไง!”
ลั่วเสี่ยวซีชูมือขวาขึ้นมาอย่างดีใจ
“ฉันรักเธอ!”
วันรุ่งขึ้นลู่เป๋าเหยียนให้วังหยางไปรับูเี่อันที่บ้านของลั่วเสี่ยวซีแต่วังหยางกลับโทรมาแจ้งว่า ยืนกดกริ่งอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิดประตู
เขาจึงโทรไปหาูเี่อันแต่เธอกลับปิดเครื่อง
เขานิ่งคิดไปชั่วขณะจึงมั่นใจว่า ูเี่อันกล้าหลอกเขา!
เขารีบให้คนไปสืบพิกัดที่อยู่ของเธอจึงรู้ว่าเมื่อคืนเธอไปนอนโรงแรมใกล้กับฮวนเล่อกู่
ลู่เป๋าเหยียนขบกรามแน่นอย่างโมโห
เขาจำไม่ได้แล้วว่าไม่มีคนกล้าหือกับเขาแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว
เสิ่นเยว่ชวนที่เดินเอาเอกสารมาให้ลู่เป๋าเหยียนพอเข้ามาในห้องก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ หลังทักทายด้วยน้ำเสียงสบายๆเขาจึงถามว่า
“เจี่ยนอันเมินนายเข้าให้แล้วล่ะสิ”
ลู่เป๋าเหยียนหันมามองหน้าเสิ่นเยว่ชวน
ทำไมเขาถึงรู้ว่าูเี่อันเมินเขา?
“เป็ฉัน ฉันก็เมินนายเหมือนกันนั่นแหละ” เสิ่นเยว่ชวนมองเขาอย่างดูแคลน“มีอย่างที่ไหน บินไฟล์ทเดียวกัน แถมนอนโรงแรมเดียวกันกับแฟนสาวในข่าว!”
ลู่เป๋าเหยียนโยนมือถือทิ้งอย่างหงุดหงิด
“เื่พวกนี้ฉันไม่รู้มาก่อน”
“แล้วเื่ที่นายกับหานรั่วซีอยู่ด้วยกันในโรงแรมสี่ชั่วโมงล่ะว่าไง”
ลู่เป๋าเหยียนส่งสายตาเย็นเยียบพลางพูด
“นายก็รู้ว่าเื่ราวมันเป็ยังไง!”
“แต่เจี่ยนอันไม่รู้ด้วยนี่!”เสิ่นเยว่ชวนเถียง “เธอก็คงคิดเหมือนกับคนในเน็ตนั่นแหละ ว่านายกับหานรั่วซีคงมีอะไรกันเรียบร้อยแถมตอนนั้นเธอกำลังถูกฆาตกรโรคจิตจับตัวไปพอดี พอนายกลับมาก็ไม่อธิบายอะไรสักคำเธอยอมคุยกับนายนี่ก็นับว่าปรานีแล้ว ฉันบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่ากลับบ้านปุ๊บให้รีบคุกเข่าขอโทษเธอซะ นายก็ไม่เชื่อ...”
เป็ครั้งแรกที่ลู่เป๋าเหยียนถามเสิ่นเยว่ชนอย่างจนปัญญา
“ฉันควรทำยังไง”
“สี่คำสั้นๆอธิบายกับเธอซะ!”
แต่ตอนนี้เธอคงไม่ยอมฟังเขาแน่ๆลู่เป๋าเหยียนนิ่งไปสักพัก แล้วจึงสั่งให้เสิ่นเยว่ชวนไปจัดการเื่หนึ่ง
เสิ่นเยว่ชวนทำหน้าไม่อยากเชื่อ“นายมั่นใจ?”
“ถ้าข่าวนี้ไม่ถูกแชร์ไปทั่วอินเทอร์เน็ตก่อนเที่ยงนายคงได้เตรียมตัวไปดูงานที่เวียดนาม”
“ให้ตายเถอะ!”เสิ่นเยว่ชวนรีบติดต่อกับสื่อทุกสำนักด้วยความเร็วแสงในทันที
