“ผู้าุโ ข้ายังมีเื่อยากขอคำชี้แนะจากท่าน” เ่ิูร้อนรนขึ้นมา
ทว่าร่างมายานั้นกลายเป็ควันไปเสียแล้ว ราวกับกลายเป็เซียนบนสรวง์ สลายหายเป็อากาศธาตุ
ประหนึ่งว่าไม่เคยมีใครอยู่ตรงนั้นมาก่อน
“หยกหลีเป่ยินั่นเ้าอย่าเอาไปเสียล่ะ ข้าทิ้งจิตไว้ในนั้นเพื่อข่มทนต์ัอาบเืเอาไว้ ป้องกันไม่ให้จิตสังหารของมันรั่วไหลออกไปข้างนอก ทำร้ายชีวิตในใต้หล้าแห่งนี้...สหายน้อย อนาคตเ้าไกลนัก รักษาตัวดีๆ หากมีภัยพิบัติใหญ่เข้ามาหา ความหวังของอาณาจักรที่เ้าอยู่อาจจะขึ้นอยู่กับเ้าก็เป็ได้...ตอนที่ไปจากที่นี่ กลับไปตามทางเก่าที่เ้ามาเสีย บัลลังก์น้ำแข็งแม้จะเสื่อมโทรมแต่ก็มีแรงฆ่าผลาญเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะชีพจรัเทพในกายเ้า เ้าได้ตายไปั้แ่ครึ่งทางแล้ว...สหายน้อย ไว้พบกันอีกครา ฮ่าๆๆๆ!”
เสียงสุดท้ายของชายลึกลับดังแว่วมา
เสียงหัวเราะสะท้อนก้องในอากาศ
เ่ิูจะถามอีกครั้ง ทว่ากายมายานั้นกลับจากไปอย่างสิ้นเชิง
เสียวจิ่วดมฟุดฟิดรอบทิศ สีหน้างงงัน
เ่ิูเดิมทียังอยากถาม ว่าโลงศพใต้ยอดเขาน้ำแข็งนั่นเป็ใคร ตอนนี้กลับไม่ทันเสียแล้ว
ร่างลึกลับไม่ได้เอ่ยถึงเซียนหญิงชุดขาวในโลงน้ำแข็งผนึกนั่นเลย บางทีอาจเป็เพราะโลกของคนทั้งสองไม่เกี่ยวข้องกันกระมัง
เมื่อเดินมาตรงหน้าแท่นบูชาผลึกน้ำแข็งใหม่อีกครั้ง สายตาก็ไปตกอยู่บนหยกหยางจื่อสีขาว เ่ิูรู้ได้ว่าหยกประหลาดนี้น่าจะเป็หยกหลีเป่ยิที่กดทับทนต์ัอาบเืนั้นไว้ เื่อะไรกันอีกล่ะนี่?
บนแท่นบูชาผลึกน้ำแข็งนั้นนอกจากหยกขาวแล้วก็ไม่มีจำพวกฟันัอะไรอยู่นี่
เ่ิูรู้สึกแปลกใจ
“ได้เวลาไปแล้ว คราวนี้บุกเข้าส่วนลึกของหลุมศพัหิมะกับเ้าเสียวจิ่วนี่เลินเล่อไปหน่อย ขาดอีกประเดี๋ยวก็จะถูกเพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์แช่แข็งตายเสียแล้ว หากไม่ได้ร่างมายาที่ตื่นขึ้นฉับพลันช่วยล่ะก็ ตอนนี้ข้าคงกลายเป็ผงไปแล้ว”
เ่ิูนอกเหนือจากความเปรมปรีดิ์แล้ว ก็มีความกลัวย้อนหลังอยู่ด้วย
ยังดีที่ได้เก็บเกี่ยวมามาก
“เพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์ ออกมา!”
เขาสั่งการในใจ เปลวเพลิงสีเงินลอยอยู่บนฝ่ามือเขาราวกับดวงิญญาโลดแล่น
เปลวเพลิงนี้มิใช่หนึ่งในสิบไฟประหลาด แต่สูงค่ายิ่งกว่านั้น
แม้จะเอ่ยว่ามันเป็ไฟ แต่เนื้อแท้ของมันคือหมอกน้ำแข็งที่เย็นสุดขั้ว รูปร่างเหมือนเปลวไฟ ของอะไรก็ตามเมื่อได้ััไฟน้ำแข็งนี้จะถูกแช่แข็งเป็ผุยผง เหมือนดาบโค้งอักษรนามเล่มนั้น ศักยภาพการฆ่าคงเหมือนกับเปลวไฟแผดเผากระมัง ถึงได้ชื่อว่าไฟน้ำแข็ง แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ไฟ
เมื่อเข้าใจพลังของไฟน้ำแข็งนี้แล้ว เท่ากับว่าเ่ิูเข้าใจพลังต้องห้าม
ไฟน้ำแข็งตามตำนานว่ากันว่าสามารถสังหารเทพและปะามาร ฆ่าัไม่ต้องเอ่ยถึง เป็พลังงานหนึ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก แม้ว่าเ่ิูจะเพิ่งเข้าถึงมันได้ครู่เดียว ยังไม่คุ้นเคยจนชินมือ ทว่าหากหาเวลาและโอกาสลงมือให้เหมาะสม น่ากลัวว่าผู้แข็งแกร่งอาณาทะเลระทมก็ยังต้องศิโรราบในฝ่ามือเขาเลย
เ่ิูหัวเราะร่า เขาะโดิ่งจากยอดเขาสู่เบื้องล่าง
“โฮ่ง?” เสียวจิ่วจิกบ่าเ่ิูแน่น มันกลัวจนหอนออกมาเสียงดัง เบิกตากว้างอย่างฉับพลัน “เ้านาย? ท่านบ้าไปแล้วหรือ? มีเื่อะไรเก็บกดบอกเสียวจิ่วได้นะท่าน”
เ้าตะกละนี่คิดว่าเ่ิูจะฆ่าตัวตาย
ที่นี่เดิมทีก็มีอำนาจกดดันน่ากลัวอยู่แล้ว เมื่อเ่ิูกระโจนลงไป จึงตกลงข้างล่างเร็วขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ อากาศเสียดสีร่างกายเขาจนกลายเป็ประกายไฟ กายเนื้อเขาราวกับดาวตกจากฟากฟ้า ท้ายสุดทั้งร่างจึงมีเปลวเพลิงลุกท่วม กลายเป็ลำแสงเพลิงตะลุยสู่พื้นดิน
เปลวไฟของจริง!
เสียวจิ่วเห่าหอนอย่างบ้าคลั่ง มันจิกเล็บกับผมเ่ิูสุดแรงเกิด
เ่ิูหัวเราะร่า ในมือมีเพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์สายหนึ่งส่งพลังรั่วไหลออกมาส่วนหนึ่ง เท่านั้นเปลวเพลิงก็ไม่อาจเข้าใกล้ร่างได้แล้ว
พริบตาเดียวก็ห่างจากพื้นแค่สิบกว่าเมตร
ในกายเ่ิูเต็มไปด้วยเสียงครวญแห่งัอันแจ่มชัดและยาวนาน ัปราณหิมะยี่สิบสายพันรอบร่าง ทุกสายมีชีวิต หัวั เล็บั เกล็ดัและหางัชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งมวล เป็สิ่งมีชีวิตโดยแท้ มิใช่ภาพมายาที่รับเอากลิ่นอายัหิมะแล้วเป็ภาพอีกแล้ว แต่เป็ัเงินาที่แท้จริง มีพลังอันเกรียงไกรและพิสดาร ติดต่อกับจิตใจของเ่ิู ราวกับัเทพขดกายพิทักษ์เป็ชั้นๆ พริบตาเดียวก็หน่วงร่างกายเ่ิูเอาไว้ แรงดิ่งสู่พื้นลดฮวบ เขาร่อนลงสู่เบื้องล่างเบาๆ
สัจธรรมัฟ้า!
เ่ิูมีกลิ่นอายัหิมะอยู่ในกาย เขาล่วงรู้ถึงสัจธรรมัฟ้า ใต้การกระตุ้นกำลังภายใน พลังปราณกลายเป็ัหิมะา กำลังแรงแกร่งกล้า
ตอนนี้แม้เขาจะยังเป็จอมยุทธ์อาณาน้ำพุิญญาตาที่ยี่สิบดังเดิม แต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของอากาศรอบด้านเลย เขาเดินไปมาได้อย่างเสรี
“โฮ่งๆ...โฮ่งกลัวจะตายอยู่แล้ว เ้านาย คราวหน้าก่อนจะกระโจนลงเหวช่วยบอกข้าก่อนได้ไหม” เสียวจิ่วยกมือทาบอก มันหอบแฮ่กๆ จนลิ้นห้อย แววตาเหมือนบอกว่าโฮ่งกลัวแทบบ้าเพราะนายท่าน จ้องเ่ิูไม่กะพริบ
เ่ิูหัวเราะเฮฮา
“พวกเราไปจากที่นี่เถอะ ไข่ัหิมะฟองนี้...” เ่ิูมองไข่ทรงรีสีขาวที่เขาได้มันมา พินิจทุกซอกทุกมุมอยู่ครู่หนึ่ง
สุดท้าย เขาจึงตัดสินใจได้
“เราบุกเข้าหลุมศพัหิมะโดยไม่ตั้งใจครานี้ได้ลาภก้อนใหญ่มามากพอแล้ว จะโลภมากไม่ได้...ภาษิตที่ว่ามีห้าสิบส่วน จงใช้แค่สี่สิบเก้า ใต้หล้านี้ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์พร้อม ทุกสิ่งไม่อาจสมบูรณ์แบบ และความสมบูรณ์แบบไม่อาจเกิดขึ้นในทุกสิ่ง ความไร้ที่ติไม่มีอยู่จริง ความหมายอันแน่นอนไม่มีจริง สิ่งที่เรียกว่าโอกาส อาจผลาญโชคของข้าได้ โชคของคนๆ หนึ่งย่อมมีขีดจำกัด หากผลาญมากเกินไปต้องมีวันเคราะห์ร้ายมาเยือนเป็แน่ ภาษิตว่าไว้ว่าหมื่นเื่จงทิ้งไว้เื่หนึ่ง ข้าไม่อาจเดิมพันโชคลาภกับเคราะห์ร้ายได้ ทิ้งไข่ัหิมะไว้ที่นี่แล้วกัน”
คิดถึงตรงนี้ เ่ิูจึงวางไข่ัหิมะกลับลงไปในรังนกผลึกน้ำแข็งที่โลงผลึกหิมะดังเดิม
หมาบื้อเสียวจิ่วกะพริบตาปริบๆ มันมองการกระทำของเ่ิูอย่างไม่เข้าใจ
“พวกเราไปเถอะ”
เ่ิูกอดเสียวจิ่วไว้แล้วกระตุ้นปีกของเกราะศึกลาจากหลุมศพั
หลายสิบอึดใจต่อมา เขาบังเกิดความรู้สึกในใจ จึงหันหน้ามองกลับไป เห็นยอดเขาน้ำแข็งเดียวดายนั้น ฉับพลันก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา
“ยอดเขาน้ำแข็งนั่น...”
เ่ิูตระหนกอยู่กลางอากาศ
เขาเข้าใจทนต์ัอาบเืที่ชายลึกลับมายาท่านนั้นพูดถึงแล้ว
ต้องมองจากมุมไกลอย่างละเอียดเท่านั้นถึงจะพบว่า ยอดเขาน้ำแข็งเดียวดายนั้นมิใชู่เาหิมะอะไรเลย แต่เป็ฟันัสีเืที่ถูกตัดจนหัก เสียบอยู่กลางหลุมศพัหิมะ เพียงแต่ว่าพื้นผิวมันเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งจึงไม่อาจมองเห็นเนื้อแท้ของมันได้...เทพ์ ฟันัสูงหลายหมื่นเมตร!
มิน่าเล่าถึงได้รู้สึกถึงจิตสังหารดุร้ายอ่อนๆ จากยอดเขานั้น
เพราะเป็ความดุร้ายของฟันันี่เอง
แต่ทำไมถึงเรียกว่าทนต์ัอาบเืกันนะ?
ัประเภทไหนกันถึงจะมีฟันเช่นนี้อยู่ในปากได้?
จากที่จินตนาการจากตัวอย่างที่เห็น เ่ิูอดใจเต้นแรงไม่ได้ ัั์ที่มีฟันเช่นนั้นต้องเกินกว่าคำว่ามหึมาไปมากโขแล้ว
ร่างมายาลึกลับบอกไว้ว่า ต้องใช้จิตส่วนหนึ่งผนึกฟันันี้ไว้ หรือว่ามันอาจจะมีชีวิตขึ้นมาได้อีก?
เ่ิูคิดว่าวันนี้ตนได้ััความลับอันยิ่งใหญ่ของสมัยา หน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกเถ้าธุลีผนึกไว้ นำพาเขามาพบยอดูเาน้ำแข็ง...ในหลุมศพัหิมะแห่งนี้แอบซ่อนไว้มากมาย...มากมายนัก
“เก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ไว้ในใจข้าตลอดกาลเถอะ เื่ในวันนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด”
เ่ิูรำพึงกับตัวเอง เขาพาเสียวจิ่วโจนทะยานออกไปจากหลุมศพัหิมะ
...
...
เขตชายแดนใต้ของทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะ
ยามเช้าตรู่ ลมหิมะแรงกล้าพัดผ่านอากาศ
ตูม!
เสียงกัมปนาทเลือนลั่น
ชั้นน้ำแข็งร้อยจ้างบนพื้นถูกะเิถล่มทลาย น้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่ว
ร่างๆ หนึ่งโลดโผนสู่เบื้องบน สลัดสิ้นทุกสิ่งอย่าง
“ฟู่ ออกมาจนได้”
ร่างนั้นคือเ่ิู
เขาแสงอรุโณทัยทางทิศตะวันออก แสงของดวงตะวันพาใจคนแหลกร้าว
ถูกขังอยู่ในรังัหิมะมานานหนึ่งเดือน เมื่อได้สูดเอาอากาศบริสุทธิ์โลกเบื้องบนนี้เข้าปอด เ่ิูสบายกายสบายใจยิ่งนัก ความรู้สึกราวกับเกิดใหม่
หมาบื้อเสียวจิ่วก็สูดหายใจเอาอากาศอย่างแรง ท่าทางลุ่มหลงและโลภจัด!
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปะทะกับยอดฝีมือเผ่ามาร เ่ิูมุ่งลงใต้อยู่ใต้พื้นน้ำแข็ง ใช้ประโยชน์จากกำลังของเพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์แผดเผาชั้นน้ำแข็ง เหมือนัน้ำแข็งขุดอุโมงค์ เขาเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตร ตำแหน่งที่เขาหลุดพ้นมานี้คือเขตชายแดนใต้ของทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะไม่ผิดแน่ เป็เขตที่มนุษย์และปีศาจปกครองร่วมกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอเยี่ยนปู้หุยอยู่ที่นี่
“ไป กลับบ้านกัน!”
เ่ิูสยายปีกอาชาขาว เขาอุ้มเสียวจิ่ว กลายเป็ลำแสงตรงสู่ทิศด่านโยวเยี่ยน
พลังของเขาเพิ่มทวี ความเร็วในการบินสูงนัก พริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายสิบลี้
ชั่วแวบเท่านั้น เด็กหนุ่มเห็นด่านโยวเยี่ยนอยู่ลิบๆ
ดวงอาทิตย์แดงฉานเคลื่อนคล้อยขึ้นสู่ฟ้า สาดส่องแนวภูผาและนทีหมื่นลี้แห่งโยวเยี่ยน ช่างงดงามเสียนี่กระไร
ซิ่ว!
ฉับพลันก็มีลำแสงสีชาดยิงออกมาจากกลุ่มเมฆไกลๆ
เ่ิูยกมือ ใช้สองนิ้วคีบเอาไว้
เป็ลูกธนูอักขระเจาะเกราะสีชาด
เรือเหาะอักขระขนาดเล็กแหวกชั้นเมฆออกมา ้ามีพลทหารโยวเยี่ยน แม่ทัพกองโจรผู้เป็หัวหน้าคนหนึ่ง ในมือถือคันธนู เขาะโสั่งอยู่ไกลๆ “ไม่รู้ว่าสหายคนใดผ่านมา ท่านเข้าเขตด่านโยวเยี่ยนแล้ว โปรดหยุดแล้วแสดงตัวด้วย!”
เจอคนของด่านโยวเยี่ยนแล้ว
เ่ิูละความระแวดระวังแล้วตอบไป “ทูตถือดาบตรวจการณ์แห่งด่านโยวเยี่ยน เ่ิูกลับด่าน นี่เป็ตราประทับนายทัพของข้า”
เอ่ยพลางกระตุ้นตราประทับนายทัพโยนออกไป
อีกฝ่ายยื่นมือรับ เขาอ่านเสียคราหนึ่ง ไม่ได้ตอบในทันที เปลวเพลิงปะทุส่งข่าวจากบนเรือเหาะ แสงสีแดงอาบเคลือบนภากว้าง เห็นได้ชัดว่าแจ้งข่าว
เ่ิูรออย่างใจเย็น
ไม่ถึงสิบอึดใจ กลับมีเรือเหาะอักขระหลายสิบลำปรี่เข้ามาจากทุกทิศทางอย่างเชื่องช้า โอบล้อมเ่ิูไว้ตรงกลาง พลทหารแต่ละลำล้วนติดอาวุธเตรียมพร้อม ชักดาบและน้าวสายธนู พลังงานอักขระบนเรือเหาะเต็มอัตราศึก ระยับเป็คลื่นพลังงานซัดสาด เรือเหาะรวมเป็กระบวนทัพจู่โจม ล้อมเ่ิูไว้ มีกลิ่นอายของศัตรู
“อืม? อะไรกันเนี่ย?”
เ่ิูประหลาดใจอย่างหนัก