“ฉินเฟิง เหวยเสียวเหล่ยไปแล้ว ดังนั้นครูจะไปนั่งแท็กซี่ล่ะ”เมื่อเห็นว่าเหวยเสียวเหล่ยขับออกไปแล้ว หยุนเซียวก็จะออกไปเหมือนกัน
เธอรู้ว่าฉินเฟิงไม่เคยคิดจะแข่งกับเหวยเสียวเหล่ยและแค่จะไล่เขาไปเท่านั้นเธอค่อนข้างประทับใจกับแผนการอันฉลาดอย่างนี้
ฉินเฟิงไม่เคยคิดว่าจะมีคนให้รถหรูเขาทั้งอย่างนั้นดังนั้นทำไมเขาจะไม่ยอมรับการเดิมพันล่ะ? เมื่อเห็นว่าเวลาเกือบจะหมดแล้วเขาก็เริ่มปั่นจักรยานขณะบอกกับหยุนเซียว “ครูหยุนเซียว จับให้แน่นๆ นะผมจะเร่งเครื่องแล้ว!”
หยุนเซียวกลัวจนแข็งทื่อหัวของเธอขาวโพลนขณะที่จักรยานเร่งความเร็วได้น่าเหลือเชื่อเธอเกือบจะรู้สึกเหมือนกับนั่งบนจรวดแทนจักรยาน
ฉินเฟิงรู้สึกว่าร่างกายของหยุนเซียวเริ่มสั่นเขาจึงใช้อีกแขนที่ว่างอยู่โอบเอวเธอเขารู้ว่าหยุนเซียวอาจจะกลัวที่ขี่จักรยานด้วยความเร็ว
เมื่อเธอรู้สึกถึงแขนที่โอบเอวเธอหยุนเซียวก็เริ่มสั่นยิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและเริ่มดิ้น
บางที่มันคงจะเป็แผลใจจากการเห็นฉินเฟิงฆ่าคนเธอเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อไรก็ตามที่เธอเห็นอะไรสีแดงเธอไม่สามารถอยู่กับคนอื่นๆ ในที่แคบและพื้นที่ปิดได้และเธอรู้สึกอึดอัดใจเวลาที่อยู่ใกล้กับฉินเฟิง
มันไม่ใช่เพราะว่าเธออายที่ฉินเฟิงััเธอแต่เพราะเธอเริ่มต่อต้านไม่ให้คนััตัวเธอมากขึ้น
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ :ช่วยครูหยุนเซียวกำจัดความกลัวและความวิตกกังวล!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 1 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 1,000 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลว ครูหยุนเซียวจะไม่สามารถมีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นได้อีกเลย!”
ตอนนี้ฉินเฟิงกำลังขี่ด้วยความเร็วกว่า200กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเขาได้รับภารกิจจากระบบ มือของเขาก็กระตุกเกือบจะทำให้จักรยานบิน
เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นครูหยุนเซียวก็ดูสบายดี แล้วอาการกลัวกับวิตกกังวลในสังคมมาจากไหน? บทลงโทษของเธอที่ไม่สามารถมีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นมันโหดร้ายมากเกินไป
หรือว่าเธอจะมีแผลใจหลังจากที่เห็นเขาฆ่าคน? เมื่อคิดถึงความเป็ไปได้ว่านี่อาจจะเป็เพราะเขาฉินเฟิงก็ยอมรับภารกิจในใจและตัดสินใจจะช่วยรักษาหยุนเซียวให้ไวที่สุด
ในไม่ช้าฉินเฟิงก็มาถึงบ้านของหยุนเซียวตลอดทั้งการเดินทาง ร่างกายของหยุนเซียวสั่นจนควบคุมไม่ได้ดังนั้นเธอจึงรีบลงจากรถเมื่อเธอเห็นว่าฉินเฟิงหยุดเธอยังรักษาระยะห่างระหว่างฉินเฟิงและตัวเธอ เธอแตะอกที่เชิดขึ้นขณะหายใจเข้าไป
หลังจากนั้นสักพักหนึ่งในที่สุดเธอก็ใจเย็นลงและมองดูฉากคุ้นตารอบๆ “ฉินเฟิง เราถึงแล้วเหรอ...!”เธอร้องออกมาด้วยความใ
หยุนเซียวรีบมองดูโทรศัพท์และพบว่าจากมหาวิทยาลัยมาถึงที่นี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีความเร็วที่เธอกลับถึงบ้านไวที่สุดคือ 30 นาที
เธอมองดูรอบๆและพบว่ายังไม่เห็นแกรนทัวริสโมของเหวยเสียวเหล่ยและแล้วเธอก็ยอมรับความจริงว่าฉินเฟิงชนะเหวยเสียวเหล่ย
แน่นอนฉินเฟิงไม่กล้าบอกหยุนเซียวว่าเพื่อช่วยเธอจากความกลัวและวิตกกังวลเขาเลือกเส้นทางที่ยาวที่สุดทำให้เขาสามารถอยู่ใกล้กับหยุนเซียวให้นานที่สุดเท่าที่เป็ไปได้และพยายามช่วยให้เธอชิน
ไม่อย่างนั้นฉินเฟิงอาจจะใช้เวลาแค่5นาทีก็ถึงแล้ว
ทั้งสองยืนอยู่ไม่กี่นาทีก่อนที่แกรนทัวริสโมรุ่นจำนวนจำกัดของเหวยเสี่ยเล่ยจะเข้ามารับรู้ได้จากเสียงเครื่องยนต์
สิ่งที่น่าตลกคือหลังจากเข้ามาแล้วเหวยเสียวเหล่ยไม่ได้ไปที่บ้านหยุนเซียวในทันที เขาคิดว่าเขาชนะเขาจึงวนรอบบ้านเพื่อประกาศชัยชนะ แล้วหมุน 360 องศาขณะที่หยุดอยู่หน้าบ้านของหยุนเซียว
การควบคุมรถของเหวยเสียวเหล่ยทำให้ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยหมอนี่ค่อนข้างมีฝีมือเลยทีเดียว หลังจากได้รับทักษะการแข่งรถขั้นกลางฉินเฟิงบอกได้ถึงทักษะแข่งรถและการขับรถที่คนอื่นมีได้ในทันที
แต่หลังจากตรวจสอบอย่างระมัดระัิเฟิงก็รู้ว่าทักษะของเหวยเสียวเหล่ยยังห่างไกลจากทักษะแข่งรถขั้นกลางของเขา
ประตูรถเปิดอย่างช้าๆและเหวยเสียวเหล่ยก็ออกมา แผ่รังสีความรู้สึกชัยชนะ เขามองขึ้นฟ้าด้วยมุม 45 องศา พร้อมกับมีสีหน้าที่หยิ่งมาก หลังจากยืนอยู่สักครู่หนึ่งเขาก็หันไปทางบ้านของหยุนเซียว
เมื่อเขาเห็นฉินเฟิงและหยุนเซียวยืนอยู่เขาตัวแข็งทื่อทันที
หลังจากจ้องฉินเฟิงด้วยความสับสนเขาหันไปหาหยุนเซียวและขยี้ตาอย่างรุนแรง แล้วกลับไปมองใหม่และเกือบจะวิ่งชนกำแพง
เขาไม่เชื่อว่าฉินเฟิงจะชนะเขาด้วยการขับจักรยานเก่าๆขณะที่ให้หยุนเซียวซ้อน
สีหน้าของเหวยเสียวเหล่ยเหมือนกับเห็นผีกลางวันแสกๆ
“ไง? นายเดิมพันแพ้แล้ว นายต้องจ่ายแกรนทัวริสโมสะดุดตาคันนี้เป็ของนายน้อยผู้นี้ั้แ่นี้เป็ต้นไปแล้ว”ฉินเฟิงเมินเหวยเสียวเหล่ยที่กำลังสับสนและฉกกุญแจมาจากมือแล้วกลับมาหาหยุนเซียว
“ครูหยุนเซียว ผมชินกับการปั่นจักรยาน 28 นิ้ว แล้วดังนั้นผมจะให้แกรนทัวริสโมรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นให้กับครูละกัน”ฉินเฟิงยังอยากใช้จักรยาน 28 นิ้วในการฝึกร่างกายและไม่สนใจรถหรูหราคันนี้
อย่างไรก็ตามหยุนเซียวส่ายหัว เธอไม่อยากใช้รถสปอร์ตหรูอย่างนั้นยิ่งกว่านั้นยังเป็มือสองจากเหวยเสียวเหล่ยอีก
เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร้ารถสปอร์ตรุ่นจำนวนจำกัดนี้ซึ่งมีแค่ 12 คันบนโลก ฉินเฟิงส่ายหัวด้วยความผิดหวังเขาเดินไปรอบๆ และพบอิฐก้อนใหญ่ แล้วเปิดประตูรถแกรนทัวริสโมสตาร์ทเครื่องและวางมันไว้บนคันเร่ง
วู้ม!
เสียงเครื่องยนต์เกือบจะทำให้ฉินเฟิงหูหนวก
ต่อมาแกรนทัวริสโมก็พุ่งออกไปราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายและชนกับต้นหอมหมื่นลี้ต้นใหญ่ดัง‘โครม’
เสียงรถชนดังมากล้อทั้ง 2ลอยออกมาขณะที่มันยังหมุนในอากาศ รถพลิกคว่ำและมีควันลอยออกมารถรูปร่างภายนอกสปอร์ตหรูหราราคาประมาณหลายสิบล้านหยวนก็กลายเป็เศษเหล็ก
ขณะที่เหวยเสียวเหล่ยกำลังยืนมองอยู่เขาอยากจะหยุดฉินเฟิงหลายครั้ง แต่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างติดอยู่ที่คอซึ่งกั้นไม่ให้เขาพูดออกมา
รถหรูสุดโปรดของเขาโดนทำลายในทันทีซึ่งทำให้ดวงตาลุกเป็ไฟขณะที่สีหน้าโกรธจัดฉายออกมาบนใบหน้าเขาจ้องหลังของฉินเฟิงขณะที่สาบานว่า“พ่อจะหาคนมาจัดการแกและทำให้แกหายไปจากโลกนี้แน่นอน”
ไม่นานนักเหวยเสียวเหล่ยก็ออกไปแต่การชนอย่างรุนแรงทำให้คนหลายคนออกจากบ้านเมื่อเห็นว่ารถหรูแบบนั้นโดนทำให้เป็แบบนี้พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกช็อกและน่าเวทนามาก
มันคงจะเยี่ยมไปเลยถ้าพวกเขาได้รับเป็ของขวัญ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้