เมื่อสตรีทั้งสามคนกลับมาถึงบ้าน ก็นั่งพูดคุยกันตรงโถงรับแขก และเป็ลี่หลินที่เอ่ยกับบุตรสาวขึ้นมาว่า “เยว่เอ๋อร์แม่มีความคิดขึ้นมาว่าจะสอนท่านป้าเมิ่งหลานของเ้า เกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างที่เ้าสอน รวมถึงเื่การบำรุงผิวพรรณ เ้าช่วยเตรียมสิ่งที่จำเป็ต้องใช้ให้แม่หน่อยได้หรือไม่ พรุ่งนี้แม่จะนำไปมอบให้นางที่จวนน่ะ”
หลัวฮูหยินคือลูกค้าอันทรงเกียรติ มีสตรีคนใดไม่อยากให้ตนเองดูดีในวัยกลางคนบ้าง การทำอาชีพเกี่ยวกับความงามของสตรี ช่างเป็งานที่ดึงดูดเงินเข้ากระเป๋าได้ง่ายที่สุดแล้ว ซินเยว่ยกยิ้มเ้าเล่ห์เล็กน้อยแต่ก็ถูกเสี่ยวหลานรู้ทันเข้าจนได้
“นายหญิงดูคุณหนูสิเ้าคะ กำลังทำสีหน้าเ้าเล่ห์อีกแล้วเ้าค่ะ ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”
“หืม แต่นางก็เป็บุตรสาวของข้าเองนะ”
“อุ๊ย! ลูกสาวใครกันนะช่างน่ารักและยังเก่งกาจด้วยนะเ้าคะ” เสี่ยวหลานมักจะหยอกล้อเช่นนี้เสมอหากมีช่องโหวให้นางเห็น
ลี่หลินเลิกสนใจเสี่ยวหลานนางยื่นตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงให้กับบุตรสาว “เยว่เอ๋อร์นี่เป็เงินค่าจ้างที่แม่ได้มาจากทำงาน แม่มอบให้เ้าเก็บเอาไว้เพราะแม่รู้ว่าเ้ามีเื่ต้องใช้เงินอีกมาก ส่วนแม่ยังมีเงินที่เ้าให้มาครั้งก่อนเหลือใช้อยู่”
“ขอบคุณท่านแม่เ้าค่ะข้าสัญญาจะไม่ทำให้ท่านแม่ลำบาก จะหาเงินให้มากขึ้นกว่านี้หลาย ๆ เท่า ท่านแม่จะได้นั่งนับเงินอยู่ที่บ้านก็พอเ้าค่ะ” ซินเยว่รับตั๋วเงินมาถือไว้ แต่ไม่ลืมเื่ที่นางสัญญากับมารดาไว้เช่นกัน
“ทุกวันนี้แม่ก็สบายดีมีความสุขไม่ได้ลำบากอะไรเลย เป็เ้าต่างหากอย่าหักโหมจนเกินไปเข้าใจหรือไม่” ลี่หลินเอ่ยเตือนบุตรสาวด้วยความเป็ห่วง
เสี่ยวหลานที่เห็นซินเยว่ทำท่าจริงจังนางจึงอยากทำเช่นนั้นบ้าง “บ่าวก็เช่นกันเ้าค่ะ จะทำทุกอย่างไม่ให้นายหญิงต้องลำบากเ้าค่ะ”
“งั้นเ้าไปเอาน้ำชามาให้ข้าหน่อยสิ เมื่อกี้ข้านั่งฟังเ้าเล่าเื่ที่ไปพบเจอมาหลายเื่ จนข้าคอแห้งไปหมดแล้ว”
แต่กลายเป็ซินเยว่ที่กำลังทำหน้างงอยู่ว่า อะไรคือการที่คนนั่งฟังเื่เล่าเป็ฝ่ายคอแห้งไปเสียได้
“นายหญิงคือว่าบ่าว…”
“ทำไมยังไม่ไป แค่ให้ไปเติมน้ำชายังไม่รีบไปจัดการอีก”
“แต่ว่านายหญิงเ้าคะ คือท่าน…” เสี่ยวหลานอ้าปากกำลังจะพูดแต่ก็ไม่ทันคนเป็นายอีกจนได้
“เ้าจะเรียกข้าทำไมบ่อย ๆ ก็เห็นว่าข้านั่งอยู่ตรงนี้นะเสี่ยวหลาน เ้าจะไปหรือไม่ไป ถ้ายังไม่ไปข้าจะออกไปจัดการเองแล้วนะ” ลี่หลินที่ถูกสาวใช้เรียกซ้ำ ๆ เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย เนื่องจากเสี่ยวหลานไม่ยอมลุกออกไปจัดการตามที่นางสั่งเสียที
“โธ่ แล้วบ่าวจะไปได้อย่างไรล่ะเ้าคะ ก็เท้าของนายหญิงเล่นเหยียบชายกระโปรงของบ่าวอยู่ บ่าวลุกขึ้นได้ก็แปลกแล้วเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานรีบพูดก่อนที่จะพูดไม่ทันเ้านายอีกครั้ง
“อะ อ่อ อะฮึ่ม แล้วทำไมเ้าไม่รีบบอกข้าให้เร็วกว่านี้ล่ะ”
“นายหญิงอย่าเพิ่งพูดเยอะนะเ้าคะ ไม่เช่นนั้นคอของท่านจะยิ่งแห้งกว่าเดิมบ่าวจะรีบไปรีบมาเ้าค่ะ”
เมื่อลี่หลินทำท่ายกเท้าขึ้นเสี่ยวหลานก็รีบวิ่งออกไป เพื่อเตรียมน้ำชามาให้นางอย่างรวดเร็ว ซินเยว่ที่ยังสงสัยจึงหันไปมองหน้ามารดาของตน
“อ้อ เื่นี้น่ะหรือแม่ตั้งใจแกล้งนางเอง ใครใช้ให้นางชอบหยอกเย้าแม่บ่อย ๆ โดนเอาคืนเสียบ้างก็ดี คิก ๆ ๆ” นาน ๆ ลี่หลินจะได้แกล้งสาวใช้คนนี้สักครั้งจึงรู้สึกสนุกไม่น้อย
'เฮ้ออออ ทั้งนายทั้งบ่าวเป็เหมือนกันพอกันทั้งคู่’
วันรุ่งขึ้นยามเฉินอาเซ่อก็มาตามที่ซินเยว่ได้บอกไว้ ทั้งที่ภายในใจของเขากำลังเป็กังวลแต่ต้องทำตัวให้เป็ปกติที่สุด
“คุณหนูเ้าคะอาเซ่อมาแล้วตอนนี้รออยู่ที่ห้องโถงรับแขกเ้าค่ะ”
“ขอบคุณพี่เสี่ยวหลาน”
“พี่อาเซ่อเชิญท่านนั่งลงเถิดไม่ต้องยืนเช่นนั้นหรอกนะ” ซินเยว่เห็นอาเซ่อยืนตัวลีบก็เลยเอ่ยเรียกให้เขานั่งลงพูดคุยกับนาง
“ขอรับ ไม่ทราบว่าคุณหนูให้ข้ามาพบมีเื่อะไรให้รับใช้หรือขอรับ”
“พี่เสี่ยวหลานบอกข้าว่าพี่อาเซ่อรู้จักเ้าสิ่งนี้อย่างนั้นรึ” ซินเยว่ยื่นภาพวาดวัตถุบางอย่างให้อาเซ่อดู เพราะเขาบังเอิญเห็นภาพนี้ตอนที่เสี่ยวหลานกำลังไปสืบหาข้อมูลมาให้นาง
“ข้าเคยเห็นมันอยู่ที่เหมืองเก่าแถวบ้านข้าเองขอรับ มีก้อนหินที่เหมือนในภาพนี้อยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเอาไปทำประโยชน์อันใดขอรับ” เขาตอบซินเยว่ไปด้วยความรู้สึกโล่งอก
“มีจำนวนมากหรือไม่!”
อาเซ่อตอบคำถามซินเยว่ทั้งที่ยังงุนงงเช่นเดิม “เ้าก้อนพวกนี้มันกองเกลื่อนกลาดอยู่ในเหมืองเก่าขอรับ”
“ดีมาก เช่นนั้นวันพรุ่งนี้ท่านช่วยเก็บหินพวกนั้นมาให้ข้าสักหน่อยก็แล้วกัน” ซินเยว่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะลู่ทางหาเงินครั้งใหม่ของนางมาเพิ่มอีกแล้ว
“ได้ขอรับ ว่าแต่คุณหนูจะเอาหินพวกนี้ไปทำอะไรหรือขอรับ”
เป็เสี่ยวหลานที่ตอบอาเซ่อเพราะเห็นว่าเขาถามมากเกินไป “เอามันมาไว้ปาหัวเ้าน่ะสิ คุณหนูจะเอามาทำสิ่งใดจำเป็ต้องรายงานให้เ้ารู้ก่อนงั้นรึ”
“ขอรับ ๆ ข้าจะเก็บเอามาส่งให้คุณหนูั้แ่เช้าแน่นอนขอรับ” อาเซ่อคำนับจนมึนศีรษะเพราะนิสัยนายบ่าวคู่นี้น่ากลัวยิ่งนัก
“ขอบคุณพี่อาเซ่อมากเ้าค่ะ” ครั้งนี้นางจะยังไม่เปิดเผยความลับของเขาก็แล้วกัน
หลังจากคุยเื่หินกับอาเซ่อไปเมื่อวานซินเยว่ก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นอีก นางใช้เวลานั่งเขียนแผนงานและวาดภาพอยู่ในห้องของตนมาสองสามวันแล้ว ส่วนเื่หินนั้นก็ได้รับมันมาจากอาเซ่อเรียบร้อย ซึ่งมันเป็หินที่นางตามหาอยู่จริง ๆ ด้านโรงงานเครื่องปั้นดินเผายังเป็เสี่ยวหลานที่จัดการหาข้อมูลมาให้นางเช่นเคย
วันต่อมาซินเยว่กับเสี่ยวหลานก็มาหาช่างปั้น ที่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาเล็ก ๆ ทางทิศตะวันตกของเมืองเหลียงซาน
“คารวะท่านลุงเหอเ้าค่ะ ข้าซินเยว่วันนี้มาหาท่านลุงเพราะข้ามีงานมาเสนอให้ท่านลุงทำเ้าค่ะ” ซินเยว่กล่าวทักทายเหอซือเฉินเ้าของโรงงานแห่งนี้ พร้อมยื่นแบบตัวอย่างที่วาดให้กับเขาได้พิจารณาดู
เหอซือเฉิงเคยเป็เ้าของโรงงานเครื่องปั้นดินเผา ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเหลียงซาน แต่เขาโดนน้องชายแท้ ๆ โกงไปอย่างหน้าด้าน ๆ จึงทำได้เพียงพาภรรยาและบุตรชายทั้งสองมาเปิดโรงงานเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่งานก็มีเข้ามาน้อยเหลือเกิน รายได้แทบจะไม่พอกับค่าใช้จ่ายในบ้าน
“เ้าสิ่งนี้ที่คุณหนูจะให้ข้าทำมันคืออะไรหรือขอรับ ถ้าดูตามแบบที่คุณหนูให้มาก็สามารถปั้นมันออกมาได้ แต่มันจะใช้งานอย่างที่คุณหนู้าได้หรือไม่นั้นข้าไม่มั่นใจนะขอรับ”
“มันเป็สิ่งที่ข้าคิดขึ้นมาเ้าค่ะ ถ้าท่านลุงปั้นมันได้สำเร็จข้าจะยอมบอกว่ามันมีไว้ใช้งานอย่างไร แต่ตอนที่ปั้นข้ารบกวนท่านลุงช่วยใส่เ้าสิ่งนี้ผสมลงไปด้วยนะเ้าคะ”
พอซินเยว่พูดจบเสี่ยวหลานจึงยื่นถุงที่ถือมาให้เหอซือเฉิง เมื่อเขารับถุงไปแล้วก็ล้วงเข้าไปหยิบสิ่งที่อยู่ในถุงขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็ผงของหินชนิดหนึ่ง
“ข้าได้เขียนส่วนผสมไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านลุงคิดว่าใช้เวลาในการปั้นประมาณกี่วันเ้าคะ ข้าจะได้กะเวลาเข้ามาตรวจงานได้ถูก” ซินเยว่ยื่นกระดาษที่เขียนรายละเอียดทุกขั้นตอนไว้แล้วให้กับเหอซือเฉิงไป
“อืมม น่าจะสักสิบวันก็เสร็จขอรับ”
“เช่นนั้นอีกสิบวันข้างหน้าข้าจะมาตรวจงานอีกครั้ง เวลาก็ไม่เช้าแล้วข้าขอตัวกลับก่อนนะเ้าคะ” หลังจากการพูดคุยเป็ไปได้ด้วยดีซินเยว่จึงเอ่ยขอตัวกลับบ้านของตน
เหอซือเฉิงยังไม่รับเงินมัดจำค่าปั้นจากซินเยว่ เนื่องจากเขาไม่กล้ารับประกันว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ซินเยว่ยอมรับว่าเหอซือเฉิงเป็คนที่ซื่อสัตย์กับการค้าจริง ๆ นางจึงคิดไว้ว่าเมือกลับไปถึงบ้าน สิ่งที่ต้องทำคงไม่พ้นการร่างสัญญาการค้าเตรียมไว้ล่วงหน้าเสียแล้ว
“คุณหนูของในภาพที่ให้นายช่างเหอช่วยปั้น มันคืออะไรกันแน่เ้าคะ” เสี่ยวหลานอยากรู้ไม่น้อยไปกว่าเหอซือเฉิง จึงคิดถามกับซินเยว่ไปตรง ๆ
“สิ่งนั้นเป็สินค้าตัวใหม่ของข้า ถ้าทำสำเร็จละก็ข้ารับรองว่ามันจะต้องขายดิบขายดีเป็แน่” ซินเยว่มั่นใจอย่างมากว่ามันจะต้องสำเร็จ และเ้าสิ่งนี้จะทำเงินให้นางได้เป็กอบเป็กำ
“ถ้าหากมันขายดีมาก ๆ ก็หมายความว่าเราจะมีรายได้เพิ่มอีกทาง ใช่ไหมเ้าคะคุณหนู”
“ใช่แล้ว…หากท่านลุงเหอทำสำเร็จ เมื่อข้าตรวจดูความเรียบร้อยและผ่านการทดลอง พี่เสี่ยวหลานเตรียมเขียนจดหมายส่งไปให้ท่านน้ามู่เหวินได้เลยนะ” เพราะงานนี้นางจะมอบหมายหน้าที่ให้กับมู่เหวินเป็ผู้รับผิดชอบ
เสี่ยวหลานพอได้ฟังก็ดวงตาเปล่งประกาย ทำเอาซินเยว่อดสงสัยไม่ได้ว่าเสี่ยวหลานกำลังคิดถึงมู่เหวิน และอยากให้อีกฝ่ายเดินทางมาที่นี่ในเร็ววันอย่างแน่นอน
