หลังจากที่โทโดพูดคำว่า
"ลูกสาวของผมเอง"
ออกไป เสียงรอบตัวก็เงียบไปในทันที ราวกับว่าโลกหยุดหมุนชั่วขณะ
สายตาหลายคู่ที่ก่อนหน้านี้จับจ้องไปยังเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่ข้างเขาอย่างชื่นชม ก็ค่อย ๆ หันกลับมามองที่ชายผู้พูดด้วยความสับสนปนตกตะลึง
บางคนขมวดคิ้ว บางคนเบิกตากว้าง บางคนถึงกับหลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
เพราะหากจะพูดกันตามตรงแล้ว ไม่มีใครในห้องนี้แม้แต่คนเดียว ที่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
เด็กหญิงที่ชื่อ เอริ คนนี้ ทั้งหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู ราวกับนางฟ้าตัวน้อยจากโลกนิทาน ผิวขาวเนียน ผมสีเงินอ่อนดูเป็ลอนนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตที่ดูสดใสและมีชีวิตชีวา ขนาดยืนเฉย ๆ ยังสะกดทุกสายตาให้มอง
ส่วน โทโด นั้น...
เอ่อ... จะว่าไปแล้ว เขาก็ดูธรรมดาเกินไปเสียด้วยซ้ำ
ชายวัยกลางคนผู้มีผมสีดำมธรรมดา ๆ ตัดสั้นตามระเบียบ หน้าตาทั่วไป ไม่มีจุดเด่นอะไรให้จำได้ง่าย หน้าตานิ่งขรึม พูดน้อย และมีท่าทางขี้เกรงใจผู้อื่นจนแทบจะกลืนหายไปกับฝูงชน
ใครจะไปคิดว่าชายแบบนี้จะมีลูกสาวที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากโฆษณาเสื้อผ้าเด็ก หรือโปสเตอร์อนิเมชั่นยอดนิยม
แต่โทโดเองก็ดูจะรู้ดีว่าต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอึดอัด หรือแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะควักซองใส่เอกสารขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อสูท
"นี่ครับ ผลตรวจ DNA"
เขายื่นมันไปข้างหน้าอย่างสุภาพแต่มั่นคง
การที่ต้องพกสิ่งนี้ติดตัวตลอดเวลา ไม่ใช่เื่ที่เขารู้สึกภาคภูมิใจเลย แต่ก็จำเป็
ก่อนหน้าไม่กี่วันมานี้ เวลาเขาพาเอริออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะไปซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านของเล่น หรือแม้แต่สวนสาธารณะ ก็ไม่วายถูกจับตามองด้วยสายตาแปลก ๆ
บางครั้งมีคนเดินมาถามอย่างสุภาพ บางครั้งก็ไม่สุภาพ บางทีก็ถึงขั้นมีเ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทัก เพื่อสอบถามว่า "เด็กคนนี้เป็ลูกของคุณจริงหรือ?"
เขาเองก็เข้าใจดีว่าทุกคนก็แค่ทำหน้าที่ หรือไม่ก็ด้วยความหวังดี แต่พอเื่เกิดขึ้นบ่อย ๆ มันก็กลายเป็ความลำบากใจโดยไม่รู้ตัว
และนั่นคือเหตุผลที่เขาต้องพกผลตรวจ DNA ไว้ตลอดเวลา
แม้จะไม่ได้อยากโชว์ใคร แต่ถ้ามันช่วยให้สถานการณ์จบลงเร็วขึ้น เขาก็ยอมทำ
กระนั้นก็ตาม... แม้จะเห็นเอกสารยืนยันอยู่ตรงหน้า คนรอบตัวก็ยังคงมีสีหน้าคลางแคลงใจ บ้างก็ทำเป็ยิ้มรับ บ้างก็ยักไหล่ บางคนถึงกับกระซิบกับคนข้าง ๆ แบบไม่พยายามปิดปากให้มากนัก
สีหน้าแบบ “ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องยอมเชื่อ” มันชัดเจนจนโทโดเองก็รู้สึกเจ็บแปลบอยู่บ้าง
แน่นอนว่าเมื่อทุกคนเริ่มเชื่อว่า เอริเป็ลูกของโทโด คำถามถัดมาก็ผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขาแทบจะพร้อมกัน
แล้วแม่ของเด็กคนนี้ล่ะ... เป็ใคร? หน้าตาเป็ยังไง?
ใครหลายคนเริ่มจินตนาการขึ้นมาในใจ เพราะถ้าเอริน่ารักขนาดนี้ แม่ของเธอก็คงจะงดงามราวกับเทพธิดาแน่ ๆ
โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่เป็ผู้ชาย พวกเขาเริ่มเหลือบตามองโทโดด้วยสายตาแปลกประหลาด คล้าย ๆ ว่าจะชื่นชม แต่ลึก ๆ กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอิจฉา
"เอ็งไปได้ผู้หญิงระดับนั้นมาเป็เมียได้ยังไงวะ?"
แม้จะไม่มีใครพูดออกมาตรง ๆ แต่โทโดรู้ดี ว่าทุกสายตากำลังถามคำถามนี้อยู่ในใจ
แต่เขาเตรียมตัวไว้แล้ว
เขาไม่ใช่พระเอกนิยายที่ใสซื่อโลกสวยประเภทที่คิดว่าทุกคนจะไม่สนใจเื่ส่วนตัวของเขา เขารู้ว่าการที่เขาพาเด็กหญิงหน้าตาน่ารักแบบนี้มาทำงานด้วย ต้องมีคำถามแบบนี้แน่นอน
ดังนั้น เขาจึงเตรียมรูปของเอลี่ แม่ของเอริ ไว้ในโทรศัพท์เรียบร้อย
เมื่อเสียงหนึ่งถามขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า
“แล้วแม่ของเด็กนี่ล่ะ หน้าตาเป็ยังไงเหรอครับ?”
โทโดก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดอัลบั้มรูป แล้วเลื่อนหารูปภาพที่้า ก่อนจะยื่นให้ทุกคนดู
รูปของเอลี่ แม่ของเอริ เป็ภาพที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน
ในภาพนั้น เธอสวมชุดลำลองเรียบ ๆ ผมยาวสีเงินถูกรวบไว้หลวม ๆ ใบหน้าแต่งเพียงเล็กน้อย รอยยิ้มของเธออ่อนโยนและดูธรรมดา
ไม่มีแสงเงา ไม่มีฟิลเตอร์ ไม่มีการจัดท่าใด ๆ เป็เพียงภาพผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ดูอบอุ่น และเรียบง่าย
ทันทีที่ทุกคนได้เห็นภาพ สีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนทันตา
บางคนขมวดคิ้วนิด ๆ ด้วยความงง บางคนเบิกตากว้างเพราะผิดคาด บางคนพยักหน้าเหมือนเข้าใจ
และหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชาย ทำหน้า... โล่งใจ
ก็เพราะอย่างน้อยผู้หญิงที่เป็แม่ของเอริ ก็ไม่ได้ “สวยกว่าแฟนฉัน” ขนาดนั้น
ในโลกของผู้ชายทั่วไป เื่แบบนี้มันประหลาดอยู่หน่อย ๆ หรอกนะ ไม่ใช่แค่เื่เงินเดือนหรือรถที่ขับ แต่ “ความสวยของแฟน” ก็เป็สิ่งที่หลายคนใช้เปรียบเทียบกันอยู่เงียบ ๆ
การที่โทโดมีลูกสาวน่ารักระดับนางฟ้า ทำให้หลายคนกลัวว่าเขาอาจจะมีภรรยาที่สวยระดับนางงามจักรวาล
แต่เมื่อได้เห็นเอลี่...
"อ้อ..."
"อืม... แบบนี้นี่เอง"
เสียงพึมพำเหล่านี้ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับสายตาที่หันกลับมามองเอริอีกครั้ง
ก็ใช่... สีผม สีตา คล้ายแม่มาก
แต่หน้าตาโดยรวม เอริน่ะ สวยเกินกว่าพ่อแม่ของเธอจะให้ได้ด้วยซ้ำ
บางคนถึงกับแซวกันเบา ๆ ว่า เอริอาจจะเป็ “มิวเทชันพันธุกรรม” (พวกกลายพันธุ์) หายาก
และกว่าพวกเขาจะทำใจยอมรับความจริงข้อนี้ได้ ว่าพ่อแม่ธรรมดา ๆ ก็สามารถมีลูกที่น่ารักแบบนี้ได้จริง ๆ ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่เลยทีเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้