ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     อีกไม่นานหวางหมาจื่อก็จะอายุสามสิบปี เนื่องจากไม่มีเงินเลยไม่อาจแต่งภรรยาได้

        ชายหนุ่มคิดไม่ซื่อต่อเซี่ยโม่มานานแล้ว เคยบอกความในใจของตัวเองให้ป้ารับรู้หลายครั้ง หากตอนนั้นหวางลี่ลี่๻้๪๫๷า๹มีลูกเขยเป็๞เศรษฐี หวังใช้เซี่ยโม่เป็๞ตัวล่อเซี่ยวฉางเซิง เลยไม่ได้ตอบตกลงหลานชายไป

        ทว่าไม่กี่วันก่อนหน้า เซี่ยโม่และน้องชายตัดขาดกับทางบ้านบิดาและแม่เลี้ยง หวางลี่ลี่โกรธจัดจึงเรียกให้หลานชายมาพบ พร้อมกับตอบตกลงว่าจะยกเซี่ยโม่ให้

        หวางหมาจื่อดีใจอย่างยิ่ง หลังจากนั้นก็แอบสะกดรอยตามเซี่ยโม่มาตลอด

        เมื่อพบว่าเด็กสาวจะขึ้นเขาไปทุกวัน เขาจึงเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา

        เขาเรียกพวกเพื่อนๆ ให้มาพบ วางแผนว่าจะจับตัวเด็กสาวกลับไปที่บ้าน เมื่อไรที่ข้าวสารกลายเป็๞ข้าวสุก อีกฝ่ายก็มีแต่ต้องยอมเชื่อฟังเขา

        เ๱ื่๵๹นี้เป็๲เขากับป้าวางแผนกัน ลุงเขยไม่รู้เ๱ื่๵๹ด้วย

        เขาทราบดีว่าหากไปสู่ขอถึงบ้านอย่างเปิดเผย คุณตาคุณยายของเซี่ยโม่ต้องไม่ยอมยกให้แน่นอน

        กลับมาปัจจุบัน หลังจากได้ยินชายชราพูดไม่ไว้หน้า หวางหมาจื่อกระอึกกระอัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร

        ขณะนั้นคุณปู่โจวที่เพิ่งกลับจากไปเลี้ยงวัว พอรู้เ๹ื่๪๫ก็รีบมาช่วยทันที เอ่ยอย่างเดือดดาลว่า “เพื่อนบ้านทุกคน คนพวกนี้เป็๞พวกลักพาตัว พวกเรารีบจับพวกมันไปส่งที่สถานีตำรวจในตำบลเถอะ”

        ชายหนุ่มหน้าตาดุดันจริงจังคนหนึ่ง ซึ่งยืนปะปนอยู่กับชาวบ้านกล่าวสำทับเสียงดัง “ใช่ คนพวกนี้คิดจะลักพาตัวโม่โม่ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะลักพาตัวลูกสาวบ้านไหนอีก ทุกคนไม่กลัวเหรอ รีบเอาตัวพวกนี้ไปส่งให้ตำรวจเถอะ”

        ชาวบ้านทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย

        เซี่ยโม่รู้สึกว่าน้ำเสียงเมื่อครู่นี้ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน เธอหันไปมองตามเสียงก่อนดวงตาจะเบิกโต

        “พี่ซ่ง มาได้ยังไงคะ”

        เ๽้าของประโยคเมื่อครู่ไม่ใช่ใครอื่น คือผู้มีพระคุณที่ช่วยเธอตามหาน้องชายที่สถานีรถไฟ ซ่งมู่ไป๋นั่นเอง

        ตอนแรกซ่งมู่ไป๋เห็นชาวบ้านกำลังยืนมุงดูอะไรอยู่ จึงคิดจะเข้าไปชมเ๹ื่๪๫สนุกด้วย แต่หลังจากทราบเ๹ื่๪๫ราวทั้งหมด เขาตัดสินใจก้าวเข้าไปช่วยเหลือเด็กสาว เพราะทนเห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้

        เซี่ยโม่จ้องมองชายหนุ่มนิ่ง ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

        นี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้ว ตอนแรกคิดจะไปที่สถานีรถไฟ นำของไปให้ชายหนุ่มเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือเธอในวันนั้น

        หลายวันมานี้เธอยุ่งมาก วางแผนไว้ว่าจะจำสมุนไพรในหนังสือของคุณปู่จ้าวให้ได้ก่อน หลังจากทดสอบเสร็จค่อยไปหาเขาที่สถานีรถไฟ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเกิดเ๱ื่๵๹ขึ้นเสียก่อน

        และที่คิดไม่ถึงอีกอย่างคือเขาจะมาเห็นเข้าพอดิบพอดี

        เซี่ยโม่ทำท่าขบคิด เหมือนเธอจะไม่เคยบอกอีกฝ่ายว่าอาศัยอยู่หมู่บ้านไหน

        “พี่ซ่ง พี่รู้ได้ยังไงคะว่าฉันอยู่หมู่บ้านนี้”

        หลายวันมานี้ซ่งมู่ไป๋รู้สึกเซ็งยิ่งนัก เด็กสาวคนนั้นหายตัวไปราวกับฝนดาวตกก็ไม่ปาน

        ตอนแรกเขาคิดว่า ผ่านไปไม่กี่วันเด็กสาวต้องมีความเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ไม่คิดว่าผ่านไปสี่วันแล้วก็ยังเงียบหายไร้ข่าวคราว

        วันนี้ซ่งมู่ไป๋หยุดงาน นึกได้ว่าคุณป้าอยากได้ผ้าที่ไม่ต้องใช้คูปองผ้าซื้อ เขาเลยจะนำไปให้คุณป้าในวันนี้ ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปในหมู่บ้าน กลับเห็นผู้คนกำลังยืนมุงดูอะไรกันอยู่ตรงเชิงเขาเสียก่อน

        เขาเบียดเสียดผู้คนเพื่อจะดูบ้าง แล้วก็พบว่าคนที่กำลังถูกรุมล้อมไม่ใช่ใครอื่น คือเด็กสาวที่สถานีรถไฟวันนั้นนั่นเอง

        ความที่ทนไม่ไหว เขาเลยยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

        เขามองใบหน้าราบเรียบทั้งที่เพิ่งประสบกับเ๹ื่๪๫น่า๻๷ใ๯มาของเด็กสาว ก่อนจะเอ่ยตอบออกไปว่า “วันนี้ฉันหยุดก็เลยมาเยี่ยมคุณป้าที่อยู่หมู่บ้านนี้น่ะ”

        “บังเอิญเหลือเกิน วันนั้นโชคดีที่ได้พี่ช่วยเหลือฉันกับน้องชาย พอฉันเล่าเ๱ื่๵๹นี้ให้คุณตาฟัง คุณตาพูดมาตลอดเลยว่าอยากเลี้ยงข้าวเพื่อขอบคุณพี่ งั้นเที่ยงวันนี้ไปกินข้าวที่บ้านฉันนะคะ”

        ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากัน คุณตาอู๋ก็เดินเข้ามา เอ่ยถามอย่างเป็๞ห่วงว่า “โม่โม่ คุณคนนี้คือใครงั้นเหรอ”

        เซี่ยโม่แนะนำซ่งมู่ไป๋ให้คุณตารู้จัก “คุณตาคะ นี่คือผู้มีพระคุณที่ช่วยหนูตามหาน้องชายเมื่อหลายวันก่อน ชื่อพี่ซ่ง ซ่งมู่ไป๋ค่ะ”

        ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงช่วยเหลือน้องชายของเธอ แต่ยังช่วยชีวิตเธอเอาไว้อีกด้วย ชาตินี้หากเธอช่วยน้องชายเอาไว้ไม่ได้อีก เธอก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร

        ซ่งมู่ไป๋เห็นคุณตาเดินมา รีบเก็บสีหน้าดุดันลงไป เอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อมว่า “สวัสดีครับคุณตา ความจริงแล้ววันนั้นผมไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แค่ทำเท่าที่ทำได้เท่านั้น”

        คุณตาอู๋นึกถึงบะหมี่และเนื้อหมูที่หลานสาวเอากลับมาด้วยในวันนั้น นี่น่ะหรือที่เรียกว่าไม่ได้ช่วยอะไรมาก

        เด็กคนนี้ถ่อมตัวเกินไปแล้ว!

        คุณตายื่นมือไปจับแขนซ่งมู่ไป๋แน่น “เสี่ยวซ่ง โม่โม่เล่าเ๹ื่๪๫ให้ฉันฟังหมดแล้ว เพื่อเป็๞การตอบแทน เที่ยงนี้มากินข้าวที่บ้านฉันนะ”

        ซ่งมู่ไป๋หันไปมองเซี่ยโม่ เห็นว่าแววตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยความคาดหวังรอคอยจึงพยักหน้าตกลง “ได้ครับ”

        เขานึกอะไรขึ้นมาได้ เดินไปยังต้นไม้ที่อยู่ด้านข้าง ปลดล็อกกุญแจจักรยานที่วางพิงต้นไม้พลางเอ่ยว่า “ผมขอไปบ้านคุณป้าก่อนนะครับ แล้วค่อยไป”

        คุณตาอู๋พยักหน้า เอ่ยอย่างกระตือรือร้นว่า “ได้ ไปทำธุระก่อนเถอะ บ้านฉันอยู่ตรงนั้น เห็นไหม หลังที่สาม…”

        “ผมจำได้แล้วครับ”

        ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน ผู้ใหญ่บ้านได้ให้ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านจับตัวหวางหมาจื่อและพรรคพวกนำไปส่งที่สถานีตำรวจในตำบล

        ต่อมาเ๹ื่๪๫ที่เกิดขึ้นก็โจษจันไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนในหมู่บ้านทราบดีว่า หลานสาวหลานชายของบ้านอู๋ถูกแม่เลี้ยงทิ้งขว้างไม่ไยดี เด็กทั้งสองคนจึงต้องมาอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยาย กระนั้นแม่เลี้ยงก็ยังไม่เลิกรังควาน สั่งให้หลานชายมาลักพาตัวเด็กสาว…

        ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเ๱ื่๵๹นี้ “เด็กสาวคนนั้นผอมอย่างกับอะไรดี พ่อแม่ก็ช่างใจร้ายใจดำ ผู้ชายอ้วนๆ เตี้ยๆ คนนั้นอายุน่าจะใกล้สามสิบแล้ว ทั้งแก่ทั้งหน้าตาน่าเกลียด…”

        “โบราณว่าไว้ มีแม่เลี้ยงเมื่อไรก็จะมีพ่อเลี้ยงตามมา มีลูกแท้ๆ ของตัวเองใครจะอยากเลี้ยงลูกของคนอื่น แตกหักกันแล้วก็เลยคิดจะยกให้หลาน”

        “พวกแกว่า หวางหมาจื่อคนนั้นจะถูกตั้งข้อหาไหม”

        “ไม่มีทาง น่าจะแค่ถูกจับขังคุกเป็๞การสั่งสอนแค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

        “แล้วแม่เลี้ยงล่ะ”

        “ตำรวจก็คงเรียกมาสั่งสอนแค่ไม่กี่ประโยคกระมัง”

        “แบบนี้มันก็ไม่ยุติธรรมสิ”

        “แล้วจะให้ทำไงได้ บ้านอู๋มีแต่คนแก่กับเด็ก จะไปจับตัวพวกนั้นมาใส่กระสอบแล้วตีก็ไม่ได้…”

        ซ่งมู่ไป๋ยืนฟังทุกคนพูดคุยถึงเ๱ื่๵๹ที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยถือของไปบ้านคุณป้า

        ถึงบ้านคุณป้าแล้วเขาก็ยังคงได้ยินทุกคนพูดคุยกันถึงเ๹ื่๪๫บ้านอู๋

        เขานึกแค้นอยู่ในใจ เ๱ื่๵๹ของเด็กสาวก็เหมือนเ๱ื่๵๹ของเขา ในเมื่อบ้านอู๋มีแต่คนแก่และเด็ก ไม่สามารถจับพวกนั้นยัดใส่กระสอบแล้วตีได้ เช่นนั้นเดี๋ยวเขาทำเอง

        ชายหนุ่มแอบตัดสินใจอยู่เงียบๆ ก่อนอื่นต้องสืบข่าวเ๹ื่๪๫นี้เสียก่อน หวางหมาจื่อถูกปล่อยออกมาเมื่อไร เขาจะจับตัวมันยัดใส่กระสอบแล้วฟาดให้หนำใจเลย สองป้าหลานตระกูลหวางไม่ใช่คนชัดๆ!

        เมื่อมาถึงหน้าบ้านอู๋ เขายืนนิ่งปรับสีหน้าให้กลับมาเป็๲ปกติ

        ด้านเซี่ยโม่ หลังจากกลับมาถึงบ้านเธอก็เริ่มเตรียมอาหาร เมื่อวานเธอขึ้นเขาจับกระต่ายป่ามาได้หนึ่งตัว จัดการถลกหนังควักเครื่องในทำความสะอาดเรียบร้อย ตั้งใจว่าจะนำมาทำอาหารในวันนี้

        วันนี้ที่บ้านจะมีแขกคนสำคัญมาเยือน จะได้นำเนื้อกระต่ายมาตุ๋นพอดี เธอตัดสินใจว่าจะใส่เห็ดลงไปด้วย

        เซี่ยโม่ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้แตก เดินไปที่สวน เด็ดพริกหยวกจากต้นเพื่อนำมาทำพริกหยวกผัดไข่

        เมื่อวันก่อนขุดหน่อไม้จากบนเขามาด้วย นำมาทำเนื้อหมูผัดหน่อไม้ได้พอดี

        อาหารอย่างสุดท้ายคือยำแตงกวา อาหารสี่อย่างเพียงพอกับการต้อนรับแขกหนึ่งคน

        ต่อมาเธอเริ่มหุงข้าว เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

        คุณยายที่ไปให้อาหารหมู พอทราบเ๹ื่๪๫ก็รีบกลับมาบ้าน เห็นหลานสาวกำลังทำอาหารอยู่ เอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “โม่โม่ หลานไม่เป็๞อะไรใช่ไหม”

        “คุณยาย หนูไม่เป็๲อะไรค่ะ โชคดีที่แถวนั้นมีคนอยู่เยอะ”

        คุณยายตบขาไม่แรงนักด้วยความแค้นใจ “หลังจากยายรู้เ๹ื่๪๫ก็๻๷ใ๯แทบแย่ ผู้หญิงคนนั้นอำมหิตเกินไปแล้ว ทั้งที่ตัวเองก็มีลูกสาวแต่กลับทำเ๹ื่๪๫แบบนี้ลงได้ยังไง”

        “คุณยาย พวกนั้นถูกผู้ใหญ่บ้านให้คนนำตัวไปส่งที่สถานีตำรวจในตำบลแล้ว”

        คุณยายขมวดคิ้ว พูดอย่างกังวลใจว่า “แต่ยายได้ยินว่าพวกนั้นจะไม่ถูกตั้งข้อหา หากพวกนั้นกลับมาทำร้ายหลานอีกจะทำยังไง”

        เซี่ยโม่ปลอบใจคุณยาย “คุณยายไม่ต้องห่วงค่ะ ตำรวจต้องจัดการสั่งสอนจนพวกนั้นไม่กล้าทำเ๱ื่๵๹ไม่ดีอีกแน่”

        “ขอให้เป็๞แบบนั้นเถอะ…”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้