อวิ๋นโส่วจู่รับเงินด้วยความยินดี กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ผู้ดูแลจางไม่รอให้เขาพูด รีบพูดขึ้นก่อนว่า “นี่เป็เงินมัดจำสิบตำลึงเงินที่ให้เ้า หลังจากเื่สำเร็จ ข้าจะให้เ้าอีกเก้าสิบตำลึงเงิน รวมเป็หนึ่งร้อยตำลึงเงิน!”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวิ๋นโส่วจู่ก็ไม่พูดพล่ามอีก “ตกลง เช่นนั้นท่าน้าให้ข้าไปตีกลองร้องทุกข์เมื่อใด?”
ผู้ดูแลจางตอบ “ไม่ต้องไปตีกลองร้องทุกข์ เ้าแค่แอบเอาสิ่งนี้ไปซ่อนไว้ที่บ้านของอวิ๋นโส่วจง ไม่ว่าจะเป็ที่ใดก็ตาม คอกหมู คอกวัว หรือที่อื่นๆ ก็ได้” กล่าวจบเขาก็หยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ แล้วยื่นให้อวิ๋นโส่วจู่
อวิ๋นโส่วจู่เปิดกล่องดู ข้างในเป็ตราประทับหินเืไก่ [1] ที่สลักเป็รูปูเาและสายน้ำอันประณีตสวยงาม
“นี่เป็ของสำคัญ เป็ของที่ทำให้อวิ๋นโส่วจงไม่มีวันพลิกตัวกลับขึ้นมาได้ หากเื่นี้ลุกลามใหญ่โต เขาอาจถูกตัดสินโทษให้เนรเทศทั้งครอบครัว! เ้าต้องซ่อนให้ดี แต่อย่าให้ตอนที่เ้าหน้าที่ไปตรวจค้นแล้วหาไม่เจอเชียวล่ะ!”
เมื่อได้ยินว่าสามารถทำให้อวิ๋นโส่วจงไม่มีวันพลิกตัวขึ้นมาได้ และอาจทำให้พวกเขาถูกเนรเทศทั้งครอบครัว อวิ๋นโส่วจู่ก็ตื่นเต้นขึ้นมา เขาต้องเสียเปรียบเพราะอวิ๋นโส่วจงและอวิ๋นเจียวมามาก ในใจอยากจะฆ่าพวกเขาให้ตายตกไปตามกันเสียเดี๋ยวนี้
เขารีบปิดกล่องไม้ แล้วตบหน้าอกเสียงดังพลางเอ่ยรับรองว่า “ท่านวางใจเถิด ข้าจะจัดการเื่นี้ให้เรียบร้อย! เพียงแต่หลังจากข้าทำสำเร็จแล้ว ต้องไปหาท่านที่ไหน?”
ผู้ดูแลจางตอบ “สามวันให้หลังข้าจะมาหาเ้าเอง เวลาสามวันก็น่าจะเพียงพอให้เ้าจัดการเื่นี้ให้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?”
อวิ๋นโส่วจู่รีบตอบ “แน่นอน เื่นี้ท่านวางใจได้”
เมื่อเห็นผู้ดูแลจางกำลังจะจากไป อวิ๋นโส่วจู่จึงเอ่ยขึ้น “ท่านมีเงินเศษติดตัวหรือไม่?”
ผู้ดูแลจางมองเขาด้วยความสงสัย “จะเอาไปทำอะไร?”
อวิ๋นโส่วจู่ลูบมือพลางหัวเราะแห้งๆ “ข้าบอกท่านพ่อไปว่ามีสมุนไพรจะขายให้ท่าน หากข้าไม่เอาเงินเศษไปให้ท่านพ่อสักหน่อย เพื่อทำให้ท่านพ่อพอใจ เื่ต่อไปคงทำได้ยาก เพราะอย่างไรบ้านพี่รองไม่ต้อนรับข้า หากไม่มีท่านพ่อ ข้าคงไม่มีทางเข้าไปในบ้านของพี่รองได้”
ดวงตาของผู้ดูแลจางฉายแววดูถูก เขาคร้านจะพูดมาก จึงหยิบเงินเศษออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้
อวิ๋นโส่วจู่โค้งคำนับแล้วกล่าวขอบคุณ ผู้ดูแลจางลากเสียงยาว “ไม่ต้องรีบขอบคุณ หากเ้าทำงานนี้ไม่สำเร็จ คนที่จะต้องติดคุกก็คือเ้า!”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวิ๋นโส่วจู่ก็พลันรู้สึกหวาดกลัว รีบยืนยันอีกครั้ง จากนั้นก็โค้งคำนับส่งผู้ดูแลจางออกไป
หลังจากพวกเขาเดินจากไปไกลแล้ว ก็มีเสียงฝีเท้าเหยียบใบไผ่ดังกรอบแกรบออกมาจากด้านหลังป่าไผ่...
อวิ๋นเจียวนั่งอยู่ที่บ้านอย่างเบื่อหน่าย เนื่องจากมือได้รับาเ็ ฟางซื่อจึงไม่ให้อวิ๋นเจียวทำอะไรเลย นางจึงได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ มองดูนางเย็บปักถักร้อย
อวิ๋นเจียวตกลงกับนางแล้วว่าจะจ้างนางให้ช่วยเย็บปักถักร้อย โดยให้ค่าจ้างเดือนละสองตำลึงเงิน ตอนแรกอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ไม่ยอมรับเด็ดขาด แต่อวิ๋นเจียวบอกว่าหากนางไม่รับ นางก็จะไม่จ้างนางเย็บปักถักร้อยอีก อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์จึงยอมตกลง
พอพระอาทิตย์ขึ้นสูง รถม้าของร้านฝูหรงเซวียนก็มาเยือนอีกครา ตอนนี้บ้านของอวิ๋นโส่วจงแตกต่างจากเดิม อวิ๋นเหนียงก็มาที่นี่ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ดังนั้นชาวบ้านต่างก็เห็นจนชินตา ไม่มีใครมาดูความสนุกสนานอีก
เมื่ออวิ๋นเหนียงมา อวิ๋นเจียวก็ต้องออกไปต้อนรับแขก อวิ๋นเจียวยังไม่ทันจะคำนับ อวิ๋นเหนียงก็มองดูมือของนางด้วยความเป็ห่วง “มือของเจียวเอ๋อร์ยังเจ็บอยู่หรือไม่? ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
อวิ๋นเจียวตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจ็บแล้วเ้าค่ะ แค่ถลอกนิดหน่อย ไม่ได้ร้ายแรงอะไร”
อวิ๋นเหนียงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าดูแล้วาแก็ดูร้ายแรงอยู่ เด็กสาวไม่ว่าจะาเ็ตรงไหน ก็เป็เื่ใหญ่ทั้งนั้น!”
ฟางซื่อพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าให้เด็กคนนี้พักผ่อนให้มากๆ แต่เด็กคนนี้กลับบอกว่าข้าทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่ ยืนยันว่าไม่เป็อะไรแล้ว เชิญน้องหญิงเข้าไปนั่งข้างในเถิด พวกเราเข้าไปคุยกันในห้อง”
หลังจากเข้าไปในห้อง ชุนเหมยก็ยกชามาต้อนรับแล้วขอตัวออกไป ส่วนสาวใช้ที่ติดตามอวิ๋นเหนียงมา ก็นำกล่องหลายใบมาวางไว้บนโต๊ะ
ฟางซื่อเอ่ยขึ้น “เ้ามาถึงที่นี่ก็มาเถิด เหตุใดยังต้องเกรงใจกันเช่นนี้อีก?”
อวิ๋นเหนียงตอบ “ข้าได้ยินว่ามือของเจียวเอ๋อร์ได้รับาเ็ จึงนำสมุนไพรมาฝาก อ้อ ยาลบรอยแผลเป็นี้เป็ของที่สหายจากเมืองหลวงให้ข้ามา ใช้ดีอย่างยิ่ง สามารถลดรอยแผลเป็ได้”
ยาลบรอยแผลเป็หรือ? ฟางซื่อรู้จักของสิ่งนี้ มันเป็อย่างที่อวิ๋นเหนียงพูดจริงๆ เมื่อใช้แล้วจะทำให้ิัที่มีรอยแผลไม่ทิ้งรอยแผลเป็ไว้ แต่ของสิ่งนี้หายากมาก โดยทั่วไปแล้วจะเป็ของที่พระราชทานออกมาจากในวัง
“จะได้อย่างไรเล่า ของสิ่งนี้ราคาแพงเกินไป!” ฟางซื่อไม่กล้าพูดตรงๆ ว่ายาลบรอยแผลเป็นั้นล้ำค่า เพราะของแบบนี้มีไม่กี่คนที่รู้จัก หากนางผู้เป็เพียงแค่สตรีธรรมดาพูดออกมาเช่นนี้ ก็คงดูแปลกประหลาดเกินไป
อวิ๋นเหนียงพูดว่า “ไม่แพงหรอกพี่หญิง ท่านให้เจียวเอ๋อร์ใช้อย่างสบายใจเถิด”
เมื่อเห็นดังนั้น ฟางซื่อก็ไม่อยากจี้ประเด็นนี้ต่อ จึงเอ่ยถามว่า “เ้าอยู่ในอำเภอ แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเจียวเอ๋อร์ได้รับาเ็?”
อวิ๋นเหนียงใเล็กน้อย พอนางได้รับคำสั่งจากท่านโหว จากนั้นก็รีบไปเตรียมของทันที ยังไม่ได้คิดข้ออ้างเลย
แต่ถึงอย่างไรนางก็ผ่านโลกมามาก สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ก็คิดข้ออ้างออกทันที “เมื่อวานบังเอิญลูกจ้างร้านของข้าคนหนึ่ง ไปเยี่ยมญาติที่ตำบลไป๋อวิ๋น จึงได้เห็นเหตุการณ์ลอบสังหารพอดี บังเอิญเขาเห็นคุณชายใหญ่กับเจียวเอ๋อร์ด้วย หลังจากกลับมาก็เล่าให้ข้าฟัง บอกว่าเห็นเจียวเอ๋อร์มือถลอก”
ฟางซื่อยิ้มๆ “อ้อ เป็เช่นนี้นี่เอง ขอบใจเ้ามากที่เป็ห่วง!”
อวิ๋นเหนียงยิ้มๆ “พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เื่แค่นี้ไม่เห็นต้องเกรงใจ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ข้ามาในวันนี้เพราะมีจุดประสงค์ ข้าเพียงแค่อยากทำดีกับพวกท่านให้มากหน่อย หวังว่าพี่หญิงจะเห็นแก่ความหวังดีของข้า รีบขายสูตรสบู่ผลึกแก้วให้ข้าเถิด!”
ฟางซื่อชอบความตรงไปตรงมาของอวิ๋นเหนียง ยิ่งไปกว่านั้นเื่นี้ครอบครัวของนางก็ตัดสินใจกันไว้แล้ว จึงไม่ปฏิเสธอวิ๋นเหนียงอีก
นางพูดว่า “สูตรนี้พวกเราไม่คิดจะขาย แต่บ้านพวกเราไม่มีโรงผลิต ทำออกมาได้ไม่มากเท่าไร ดังนั้นเ้าใหญ่จึงเสนอว่า พวกเราจะนำสูตรนี้มาลงทุน ร้านฝูหรงเซวียนเป็ฝ่ายจัดหาคนและโรงผลิต รวมถึงรับผิดชอบเื่การขาย”
อวิ๋นเหนียงได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก รีบพูดขึ้นว่า “เยี่ยมไปเลย ลงทุนร่วมกันก็ได้!”
ในใจนางแอบชื่นชม ไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มวัยสิบสามปีอย่างอวิ๋นฉี่เยว่ จะมีความเฉลียวฉลาดเทียบเท่าท่านโหวของพวกนาง
“แต่เ้าใหญ่บอกว่า บ้านพวกเราไม่มีเวลาไปตรวจสอบว่าในแต่ละปีร้านฝูหรงเซวียนขายสบู่ผลึกแก้วไปเท่าไร หรือได้กำไรมากแค่ไหน จึงคิดจะถือหุ้นแบบตายตัวไปเลย ปีละสามหมื่นตำลึงเงิน ส่วนกำไรจากการขายสบู่ผลึกแก้วของร้านฝูหรงเซวียนได้มากน้อยเท่าไร พวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยว ต่อให้ร้านฝูหรงเซวียนขายได้ปีละหนึ่งล้านตำลึงเงิน ก็ไม่เกี่ยวกับบ้านพวกเรา”
จริงๆ แล้วนี่เป็ความคิดของอวิ๋นเจียว แต่เพื่อปกป้องบุตรสาว ทุกคนในครอบครัวจึงตัดสินใจให้อวิ๋นฉี่เยว่เป็คนรับหน้าไปแทนจะเหมาะสมกว่า
อวิ๋นเจียวรู้ว่าสบู่ผลึกแก้วมีกำไรมหาศาล แต่นางก็ไม่อยากเป็หนี้บุญคุณของฉู่อี้ แค่สร้างบ้านชาวนา ฉู่อี้ถึงกับแนะนำขุนนางสองคนที่ลาออกจากกรมโยธาให้ แถมทั้งสองคนยังเป็จิ้นซื่อสองบัญชีอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ตั่งกับอาจารย์หม่าก็รับพี่ใหญ่กับพี่รองเป็ศิษย์! บุญคุณครั้งนี้ ยิ่งใหญ่นัก!
ต้องรู้ว่าบุคคลที่มีฐานะเช่นนี้ ไม่มีทางเป็ทาสในบ้านของฉู่อี้แน่นอน การที่ฉู่อี้สามารถเชิญบุคคลสำคัญทั้งสองท่านนี้มาได้ ไม่รู้ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง ตอนนั้นบ้านของนางช่วยเขาไว้ เป็แค่การช่วยเหลือโดยบังเอิญ ไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ จากฉู่อี้
เชิงอรรถ
[1] หินไก่เื (鸡血石) เป็หินที่มีสีสันโดดเด่น โดยส่วนมากจะมีลักษณะสีแดงเข้มคล้ายเืของไก่ หินชนิดนี้มักใช้ในการแกะสลักตราประทับ