ซูจิ่นซีมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเยี่ยเซินในทันทีนางยกยิ้มมุมปากอย่างเ็า
“ซูจิ่นซี เ้ามันเลวทรามต่ำช้า ข้าก็เพียงไม่ถูกชะตากับเ้า ข้าทำให้เ้าเป็ทุกข์เสียกี่ครั้งกัน? เ้าถึงกับมาพูดจาให้ร้ายข้าเช่นนี้ ข้าจะฆ่าเ้า! ”ทันใดนั้นหวาหรงจวิ้นจู่ก็รีบพุ่งออกมาจากกลุ่มฝูงชน นางดึงดาบที่องครักษ์นายหนึ่งสะพายออกมาแล้วหันทิศทางดาบเตรียมแทงซูจิ่นซี
การกระทำของหวาหรงจวิ้นจู่รวดเร็วมาก แทบจะเป็เวลาเดียวกันกับที่สิ้นสุดคำพูดหวาหรงจวิ้นจู่พุ่งมายังด้านหน้าของซูจิ่นซี เดิมทีซูจิ่นซีก็ไม่รู้วิชาศิลปะการต่อสู้นางจึงไม่ทันได้หลบออกไป
ทว่าซูจิ่นซีทำเพียงแค่หรี่ตาลงและมองไปที่หวาหรงจวิ้นจู่อย่างไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
ฝูงชนที่อยู่รอบข้างต่างพากันปาดเหงื่อ ทว่าไม่มีผู้ใดออกมาขัดขวางส่วนหนึ่งคือไม่มีความสามารถ อีกส่วนหนึ่งก็คือไม่กล้า
เมื่อดาบในมือของหวาหรงจวิ้นจู่ใกล้จะแทงเข้าที่หัวใจของซูจิ่นซีนั้น ซูจิ่นซีก็รู้สึกเพียงว่ามีเงาร่างสีน้ำเงินลอยผ่านหน้าพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆโชยเข้ามาในจมูก เอวถูกมือหนาเย็นเฉียบคู่หนึ่งประคองเอาไว้
หลังจากนั้นร่างของนางก็ลอยไปทางด้านหลังเบาๆด้วยความแข็งแรงของมือคู่นั้น
ดวงตาของซูจิ่นซีสบเข้ากับดวงตาที่หล่อเหลาของจิ่วหรง ทำให้นางเหม่อลอยไปชั่วขณะ
เวลานี้ เยี่ยโยวเหยาที่เฝ้ามองด้วยความเฉยเมยมาโดยตลอด ในที่สุดก็มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นดวงตาของเขาค่อยๆ หรี่ลง
ขณะนั้น หวาหรงจวิ้นจู่พลันกรีดร้องขึ้นมาดาบยาวในมือถูกจิ่วหรงใช้ขลุ่ยปัดป้องจนหักออกเป็หลายท่อน
ดาบท่อนหนึ่งตกลงมาเฉียดแก้มของหวาหรงจวิ้นจู่เข้าพอดี
ทันใดนั้นนางก็กรีดร้องดัง “โอ้ย!” ขึ้นมาหนึ่งครั้ง
“ซูจิ่นซี เ้ากล้าหาญมากที่ทำร้ายธิดาของข้า วันนี้ข้าจะต้องนำตัวเ้าไปปะาชีวิตอย่างแน่นอน”ฮ่องเต้ตรัสอย่างโกรธเคือง
ฮ่องเต้ไม่ได้ตาบอด พระองค์ต้องทอดพระเนตรได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อครู่นี้เป็จิ่วหรงที่ทำร้ายหวาหรงจวิ้นจู่ฮ่องเต้้าควบคุมตัวซูจิ่นซีไว้ด้วยพระทัยหนักแน่น วันนี้พระองค์จะไม่ปล่อยซูจิ่นซีไปอย่างแน่นอนและผู้ใดก็ไม่สามารถโต้แย้งได้!
“ปรารถนาเล่นงานผู้ใด ก็ย่อมหาข้ออ้างมาได้เสมอ! ” ซูจิ่นซีไม่แสดงถึงอาการอ่อนข้อแม้แต่น้อย
“เรียกทหารมา! คุมตัวซูจิ่นซีไปเข้าคุก! ”
องครักษ์ทั้งสี่นายก้าวไปข้างหน้า เตรียมนำซูจิ่นซีเข้าคุกอีกครั้ง
ใบหน้าของจิ่วหรงที่ยืนอยู่ข้างกายซูจิ่นซีค่อยๆ ปรากฏหมอกควันดำครึ้มลอยขึ้นมาองครักษ์ทั้งสี่นายเกิดหวาดกลัวเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ไม่กล้าเดินหน้าต่อ
“ฝ่าา หรือว่าเื่นี้ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? ว่าซิ่งหลิวหลียืมมือฮั่วอวี้เจียวและหวาหรงจวิ้นจู่เพื่อนำเอาสุราอาบยาพิษไปมอบไว้ในตำหนักจ้งหวาของฮองเฮาเหตุใดพระองค์จึงรีบร้อนกักขังหม่อมฉันเช่นนี้ หรือพระองค์คิดหลีกเลี่ยงอันใดบางอย่าง?”
ซูจิ่นซีอารมณ์เดือดพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง นางแสดงความยั่วยุออกมาอย่างเปิดเผย
หากฮ่องเต้ตรัสว่าั้แ่ต้นจนจบพระองค์มองเื่นี้ได้ไม่ชัดเจนนักฝูงชนจะต้องคิดว่าพระองค์โง่เขลา กระทั่งเบาปัญญาอย่างแน่นอน ชาวบ้านคนธรรมดายังสามารถตระหนักรู้ได้ว่าเื่ใดที่พวกเขาไม่เข้าใจ
ตรงกันข้าม... ฮ่องเต้ยิ่งทรงยอมรับไม่ได้
“ซูจิ่นซี เ้าช่างกล้านัก! ” ฮ่องเต้ทรงกริ้วอย่างมาก
สายตาของซูจิ่นซีไม่แสดงออกถึงอาการอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย
เื่ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่มีอันใดต้องกลัวเช่นกัน
“ซูจิ่นซี คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็คำพูดใส่ร้ายของเ้าเพียงฝ่ายเดียว ยากที่จะโน้มน้าวใจให้ทุกคนเชื่อได้อีกทั้งเ้าเองก็ยังไม่มีหลักฐาน แล้วเ้ามีสิทธิอันใดมาพูดว่าตนถูกต้อง? ” เยี่ยเซินกล่าวขึ้น
ทว่าที่เยี่ยเซินพูดออกมาเช่นนี้ แม้แต่ตัวเขาเองยังยากที่จะอธิบาย
เพราะก่อนหน้านี้ฮั่วอวี้เจียวและหวาหรงจวิ้นจู่นั้นได้แสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว
ทว่าภายในใจของเยี่ยเซิน ยังคงคิดปกป้องน้องสาวแท้ๆ ของตนและสตรีผู้เป็ที่รัก
ไม่รอให้ซูจิ่นซีเปิดปากพูด ทันใดนั้นฮั่วซืออวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางฝูงชน“ข้าสามารถเป็พยานให้พระชายาได้”
ก่อนที่จะช่วยซิ่งหลิวหลีออกมาจากผีดิบติดพิษ ฮั่วซืออวี่และฉินเทียนพวกเขาทั้งสองได้ออกไปตามหานาง ดังนั้นจึงเพิ่งได้กลับมาเอาตอนนี้ ทั่วทั้งร่างล้วนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
“ฮั่วซืออวี่ เมื่อครู่เ้าพูดว่ากระไรนะ? ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่?คาดไม่ถึงว่าเ้า้าเป็พยานให้ซูจิ่นซีอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้นางกำลังปรักปรำน้องสาวของเ้าอยู่นะ”
ในใจของฮั่วซืออวี่คิดเพียงว่า้าเป็พยานให้กับซูจิ่นซี เพื่อให้ความจริงถูกเปิดเผยเพียงคิดว่าใบหน้าที่ชั่วร้ายจะไม่มาต่อสู้่ชิงกับซูจิ่นซีอีก ทว่าไม่ได้คิดมากมายถึงเพียงนั้น
ฮั่วซืออวี่ลังเลไปชั่วขณะ ไม่นานก็กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “พ่ะย่ะค่ะ ไท่จื่อหม่อมฉันเป็พยานให้ซูจิ่นซีได้เวลานั้นหม่อมฉันปลอมตัวเป็ฮองเฮาเข้าไปในวัดพุทธฝ่าและถูกเหล่าผีดิบติดพิษโจมตี ภายในถ้ำหม่อมฉันได้ยินกับหูตนเอง ซิ่งหลิวหลีพูดว่านางเป็คนวางยาพิษฮองเฮา”
“แม้ว่าจะเป็เช่นนั้น แล้วมันเกี่ยวอันใดกับหวาหรงและคุณหนูฮั่วเล่า?” เยี่ยเซินกล่าวขึ้น
เ้ายังจะพูดจายอกย้อนอยู่อีกหรือ?
เยี่ยเซินคิดจะบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลให้ได้เลยนี่!
เขาช่างหน้าด้านเสียจริง
่เวลานี้ ฮั่วซืออวี่ก็ไม่สามารถบอกได้ถึงสาเหตุที่เป็เช่นนั้น เพราะเขาไม่มีหลักฐานว่าเื่ที่ฮองเฮาถูกวางยาพิษนั้นเกี่ยวข้องกับหวาหรงและฮั่วอวี้เจียวในตอนที่อยู่ในถ้ำ ซิ่งหลิวหลีไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเช่นกัน
ฮั่วซืออวี่ทำเพียงมองไปยังฮั่วอวี้เจียวด้วยท่าทีที่แปลกไป สายตาแฝงไปด้วยความทุกข์ใจจากความรู้สึกผิด
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงครวญครางดังมาจากในหีบ ซิ่งหลิวหลีได้สติขึ้นมาแล้ว
ทันใดนั้นซูจิ่นซีก็คิดบางอย่างในใจ
ในขณะที่ฝูงชนยังคงใกันอยู่ ซูจิ่นซีพูดกับซิ่งหลิวหลีที่ยังไม่ได้สติดีว่า“ซิ่งหลิวหลี ข้าต้องขอนับถือเ้า อุบายที่เ้าใช้เป็กลยุทธ์ที่ดีเสียจริง แม้ว่าตัวคนจะอยู่ภายนอกวังหลวงทว่ากลับใช้ประโยชน์จากบุคคลที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของตระกูลจงหนิงได้ถึงสองคน แต่น่าเสียดายที่เ้าพบเจอกับข้า...ซูจิ่นซีเ้าจึงทำได้ไม่สำเร็จ ชีวิตนี้เ้าอย่าคิดว่าจะสังหารฮองเฮาแห่งจงหนิงของข้าได้”
ซิ่งหลิวหลีที่เพิ่งจะได้สติ ก็ถูกซูจิ่นซีอาศัยโอกาสตอนที่เดินเข้ามาใกล้วางยาหลอนประสาทให้กับซิ่งหลิวหลีอย่างเงียบเชียบเดิมทีสมองของซิ่งหลิวหลียังคงพร่ามัวไม่ได้สติดีนัก ตอนนี้นางก็ยิ่งสับสนมากขึ้น
ซิ่งหลิวหลีมองเห็นทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน นางพบว่าตนเองถูกจับเสียแล้วทว่าซิ่งหลิวหลีไม่ได้คิดอันใดมาก ตรงกันข้าม นางกลับสงบเป็อย่างยิ่ง “หึ หากรู้ว่าจะเป็เช่นนี้ข้าคงไม่ใช้ยาพิษเรื้อรังั้แ่แรก น่าจะใช้พิษร้ายแรงที่ทะลุลำไส้ทำให้ตายเร็ว”
“นับั้แ่โบราณกาลมา มีคำพูดที่ว่าแพ้เป็โจร ชนะเป็าา เ้าจะพูดอันใดก็สายไปเสียแล้วทว่าซิ่งหลิวหลี เ้าไม่ควรเอาผู้บริสุทธิ์มาเกี่ยวข้อง” ซูจิ่นซีหลอกล่อให้นางติดกับดัก
ผู้อื่นเพียงฟังอย่างเงียบงัน รอคอยโดยไม่มีการห้ามปราม
ทันใดนั้นซิ่งหลิวหลีก็เปล่งเสียงหัวเราะขึ้นมาดังๆ สองครั้ง “ฮ่าๆ ข้า...ซิ่งหลิวหลียอมรับว่ามือแปดเปื้อนไปด้วยเืข้าเป็หนี้ชีวิตคนไปเท่าไร ในสายตาของคนรอบข้างข้าก็คือมือสังหารที่ฆ่าผู้คนในชั่วพริบตามาช้านานซูจิ่นซี เ้าเองบริสุทธิ์ใจแล้วใช่หรือไม่? เ้าคิดจะโต้เถียงกับข้าว่าอันใดคือความเมตตาอย่างนั้นหรือ?เช่นนั้นข้าจะบอกเ้าให้ว่า ข้า...ซิ่งหลิวหลีตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเ้าในวันนี้ไม่มีอันใดจะพูดอีก เพียงได้ลากบุตรสาวและองค์หญิงผู้สง่างามของแม่ทัพสกุลใหญ่มาลงนรกด้วยกันก็พอใจมากแล้ว”
ซิ่งหลิวหลีพูดจบ ั์ตาพลันสว่างขึ้นมาในทันทีเหมือนว่านางคิดอันใดขึ้นมาได้ซิ่งหลิวหลีมองไปทางฮั่วอวี้เจียว “โอ้ ใช่แล้ว หากข้าจำไม่ผิด ตามกฎหมายจงหนิงของพวกเ้าหากลอบฆ่าคนในราชวงศ์ แม้จะมีส่วนรู้เห็นเพียงเล็กน้อยก็ต้องริบทรัพย์สินและฆ่าทิ้งทั้งตระกูลฉะนั้น ข้าก็ได้กำไรอย่างยิ่ง! และยังมีสกุลฮั่วทั้งตระกูลที่ถูกฝังไปกับข้า!”
ฮั่วอวี้เจียวที่ถูกกดดันเป็เวลานานเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ทันใดนั้นนางก็ก้าวออกไปบีบคอของซิ่งหลิวหลี“เ้าหุบปากเดี๋ยวนี้! หุบปาก! หุบปาก! ข้าไว้ใจเ้าถึงเพียงนี้ ให้เ้าเป็เพื่อนที่รู้ใจที่สุดของข้าเหตุใดเ้าถึงโกหกข้า? เหตุใด? เหตุใดกัน?”
ฮั่วอวี้เจียวร้องะโอย่างควบคุมไม่อยู่ น้ำตาไหลลงมาราวกับลูกปัดที่ขาดออกจากเส้นด้าย
ไม่รู้ว่าภายใต้ฝ่ามือนี้นำเอาพละกำลังมาจากที่ใด ทันใดนั้น ฮั่วอวี้เจียวที่ไม่รู้วรยุทธก็บีบใบหน้าของซิ่งหลิวหลีจนแดงเถือกหากไม่ใช่เพราะองค์รักษ์มาขวางไว้ ฮั่วอวี้เจียวก็คงบีบซิ่งหลิวหลีให้ตายไปแล้ว
่เวลานั้นซิ่งหลิวหลีหอบจนตัวโยน อีกทั้งยังไอออกมาอย่างรุนแรงถึงสองคราทว่าซิ่งหลิวหลีกลับไม่ได้พูดจาอันใด ทำเพียงนั่งอยู่ในหีบไม้ด้วยความประหลาดใจเป็อย่างมากคาดไม่ถึงว่าขณะนั้นซิ่งหลิวหลีจะมองไปทางเยี่ยโยวเหยาด้วยสายตาที่อ้างว้างเล็กน้อย
ทว่านอกจากซูจิ่นซีแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นท่าทางที่ผิดปกติของซิ่งหลิวหลีเลย