"ท่านพี่ๆ"
"พี่ๆ"
"แอ้!"
เสียงเด็กมาจากไหนกันไม่ใช่ว่าเธอตายไปแล้วหรอ ใช่สิเส้นเืใหญ่ถูกตัดขาดเช่นนั้นจะมีชีวิตรอดมาได้ยังไง อ๊ะ?วอทเดอะ...แล้วทำไมเธอยังรู้สึกตัวอยู่ล่ะ โอ๊ย...ความรู้สึกปวดแป๊บแผ่ซ่านไปทั่วลำคอด้านซ้ายตรงตำแหน่งที่เธอใช้มีดผาตัดปลิดชีพตัวเอง
หรือนี่จะเป็ความรู้สึกสุดท้ายที่ติดมากับชีวิตหลังความตาย?
แล้วิญญายังต้องหายใจเหมือนกับเธอในตอนนี้อยู่อีกหรอ เกาหนิงซินที่หลับตาอยู่ขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตกไหนจะเสียงเด็กที่ร้องอยู่ข้างหูนี่อีก ลองลืมตาขึ้นดูดีไหมจะได้รู้ๆไปเลย
วอท เดอะ เฮล?!
เมื่อหญิงสาวพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมาก็ต้องพบกับเื่ช๊อคโลกตรงหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น ด้วยประสบการณ์ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาทำให้เธอเก็บรายละเอียดรอบตัวอย่างรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบล้วนเป็ป่ารกทึบคาดว่าคงจะห่างไกลจากแหล่งชุมชนเปป็นอย่างมาก ตัดควาคิดที่จะหาเครื่องมือสื่อสารเพื่อตติดต่อใครให้มาช่วยเหลือได้เลย ยิ่งตอนนี้เธอได้รับาเ็สาหัส...เอ๋
หญิงสาวยกแขนที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาััลำคอข้างซ้ายของตน คลำไปคลำมาก็ต้องใเพราะนอกจากความเรียบรื่นของผิวแล้วก็ไม่มีรอยาแใดๆเลย หลอกผีแล้ว! หรือว่าเจอาร์ให้ยาหลอนประสาทกับเธอก่อนที่จะนำเธอมาทิ้งไว้ในป่ากินคนงั้นหรอ
"ท่านพี่ท่านพื้นแล้วอาิเป็ห่วงท่านแทบแย่"
"ใช่ๆอาจูก็เป็ห่วงท่านเช่นกัน"
"แอ้ๆๆ"นั่นคือเสียงร้องจากคนตัวเล็กสุดในกลุ่มเพราะยังพูดสื่อสารไม่ได้จึงเลือกที่จะส่งเสียงร้องอย่างน่ารักออกไปแทน
"พวกหนูเป็ใคร...แล้วเรียกใครว่าพี่?"เกาหนิงซินได้แต่ปลอบใจตัวเองว่านี่คือตลกร้าย แต่คนเป็ๆสามคนที่นั่งเรียงหน้าสลอนเป็หัวผักกาดน้อยเรียงแถวหน้ากระดานส่งสายตาวิ๊งๆมาให้นี่คือความจริง
ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไปมากกว่านี้เกาหนิงซินเริ่มสำรวจร่างกายของตัวเองทันที ต้องตรวจให้แน่ใจว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่แต่ที่แน่ๆคือเธอยังมีชีวิตอยู่ หัวใจที่เต้นรัวกระหน่ำอยู่ในอกคงหลอกกันไม่ได้อีกทั้งเธอได้ลองกลั้นหายใจดูแล้วผลคือเกือบขาดใจ
นี่...มันไม่เป็วิทยาศาสร์เกินไปเธอแน่ใจว่าการลงมีดของศัลยแพทย์ระดับเอพลัสไม่มีทางพลาดได้ ซึ่งนั่นก็คือต่อให้มีเทพแห่งการรักษาปรากฎตัวก็ยื้อชีวิตเธอไว้ไม่ได้
เกาหนิงซินที่เงียบไปหลังจากเอ่ยปากออกมาม่กี่ประโยคพลางยกมือขึ้นมาสำรวจเงียบๆ นี่ไม่ใช่มือของเธออย่างแน่นอนจากการวิเคราะห์โครงสร้างของกระดูกนี่เป็ร่างกายของเด็กที่ยังโตไม่เต็มวัยคาดว่าคงอายุได้สิบหกสิบเจ็ด แล้วร่างนี้เป็ชายหรือหญิง
ไว้กว่าความคิดหญิงสาวเอื้อมมือคว้าหมับที่่ล่างตรงจุดสำคัญที่บ่งบอกเพศสภาพของมนุษย์ทันที อืม…ไม่มีส่วนงอกส่วนย้อยถือว่าเธอทำบุญมากกว่าทำบาปสินะถึงได้มาอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงที่ผอมแห้งเป็หนังหุ้มกระดูกเช่นนี้
คิดไม่ถึงว่าการที่เธอล้อเลียนมารดาวัยชราเอาไว้ว่างมงายไม่เป็วิทยาศาสตร์ติดละครหลังข่าวบ้านิยายแนวเทพเซียนทะลุมิติอะไรเทือกนั้นจะทำให้เธอมีจุดจบเช่นนี้
ทะลุมิติหรอ
ยืมร่างคืนิญญาหรอ
นรกมันเถอะ!
เกาหนิงซินฝืนความเ็ปที่ศีรษะผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว การทำเช่นนี้ส่งผลให้เืไปเลียงสมองไม่ทันจึงทำให้เธอหน้ามืดอย่างช่วยไม่ได้ แล้วกลุ่มความทรงจำกลุ่มหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ตระกูลเกาครอบครัวชาวนาอันแสนยากจน สมาชิกในครอบครัวมีทั้งหมดหกชีวิตสำหรับครอบครัวชานาทั่วไปสมาชิกในครอบครัวหกคนถือว่าไม่มาก แต่กับครอบครัวตระกูลเกาที่แสนยากจนในยากจนอีกทีถือว่ามีคนในครอบครัวมากเกินไป เกาหนิงซินคือลูกสาวคนโตมีน้องชายอีกสามคน สองคนแรกเป็ฝาแฝดอายุห้าขวบชื่อเกาิกับเกาจูส่วนน้องเล็กอายุเพียงสองขวบชื่อเกาปิน
สาเหตุที่สี่พี่น้องตระกูลเกามาโผล่กลางป่าเขาเช่นนี้ก็มีที่มาที่ไปอยู่ เนื่องด้วยหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ประสบภัยแล้งติดต่อกันมาหลายปีชาวบ้านส่วนใหญ่จึงอพยพหนีความอดอยากไปจนหมดครอบครัวเกาก็เป็หนึ่งในนั้น ในความทรงจำการเดินทางอย่างไร้จุดหมายของครอบครัวนี้กินเวลาไปเกือบหนึ่งปี สองสามีภรรยาแซ่เกาก็เสียชีวิตจากไข้ป่าไปเมื่อเดือนก่อน เหลือไว้เพียงเด็กสาวอายุสิบเจ็บกับเด็กน้อยอีกสามคน
ชีวิตตลอดหนึ่งเดือนที่ปราศจากพ่อแม่เกาหนิงซินดูแลน้องๆอย่างสุดความสามารถเพราะไร้ซึ่งเงินทองและที่อยู่อาศัยเป็หลักแหล่งหญิงสาวจึงเลือกที่จะหากินในป่าเป็หลัก จนวันนี้เ้าตัวออกมาล่ากระต่ายป่า ด้วยมองไม่เห็นว่าด้านหน้าเป็เนินเขาจึงลื่นตกลงไปหัวก็ไปกระแทกกับโขดหินเดิมคิดว่าตนไม่เป็อะไรมากเมื่อปีนขึ้นมาจึงสลบไป
เกาหนิงซินที่ค้นความทรงจำของอีกฝ่ายจนเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างเป็อย่างดี แม่เด็กคนนี้น่าจะาเ็จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนบวกกับอาการขาดสารอาหารอย่างหนักจึงทำให้ช๊อคจนเสียชีวิต แล้วิญญาอย่างเธอก็เข้ามาแทนที่
ด้วยความเคยชินในอาชีพเกาหนิงซินไม่กล้าหย่อนยานกับร่างกายนี้แม้แต่น้อยอาการาเ็ที่สมองถือเป็ะเิเวลาชนิดหนึ่ง จนกว่าจะติดดตามอาการอย่างใกล้ชิดจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเธอถึงจะวางใจ หญิงสาวเริ่มจากตรวจสอบการมองเห็นเป็อันดับแรก นิ้วชี้ขวาถูกยกขึ้นมาตั้งฉากในระดับสายตายพร้อมกับคล่อยๆเคลื่อนไปด้านซ้ายและขวาตามลำดับในขณะเดียวกันสายตาของเธอก็เคลื่อนตามนิ้วไป เมื่อแน่ใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติเธอจึงวางใจได้ในระดับหนึ่ง
"ท่านพี่..."
"ล้อพวกเ้าเล่นเท่านั้น เห็นหรือไม่พี่สาวาเ็"เกาหนิงซินได้แต่ปลอบใจหัวผักกาดน้อยทั้งสามเมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะปล่อยโฮอย่างกลั้นไม่อยู่ ด้วยการฝึกฝนของกองทัพทำให้ทักษะการแฝงตัวให้กลมกลืนกับสถานการณ์ของเธออยู่ในระดับดีเยี่ยม
หญิงสาวไม่พูดพร่ำให้มากก็รีบจัดการาแบนศีรษะอย่างลวกๆแล้วก็ลุกขึ้นไปอุ้มน้องเล็กมาผูกไว้กลางหลัง เสร็จแล้วก็หันไปหยิบกระต่ายป่าตัวอ้วนสองตัวขึ้นมามัดขารวมกันแล้วก็ผูกไว้รอบเอว ส่วนน้องชายอีกสองคนเธอก็อุ้มกระเตงทั้งซ้ายขวาเมื่อรู้สึกว่าได้ที่แล้วสองขาเรียวเล็กก็เริ่มก้าวเดินออกไปอย่างมั่นคง
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสี่พี่น้องอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งมาตลอดโชคดีที่่นี้เป็ฤดูร้อนหากเป็หน้าหนาวหรือหน้าฝนเกรงว่าจะอาศัยอยู่ในป่าไม่ได้ หน้าฝนก็ต้องกังวลเื่น้ำป่าส่วนหน้าหนาวก็เกรงว่าจะะเเข็งตายเพราะไม่มีเครื่องนุ่งห่มที่มีคุณภาพพอ เมื่อเดินกันมาราวๆหนึ่งเค่อก็มาถึงปากถ้ำ ภายในไม่ได้กว้างใหญ่เท่าใดเพียงพอให้พวกเธออาศัยอยู่ได้ เกาหนิงซินสำรวจสัมภาระขอองทั้งครอบครัวอยู่รอบหนึ่งก็ได้แต่ถอนหายใจ
มีห่อผ้าอยู่สี่ห่อดูแล้วไม่ใหญ่มากบนพื้นถูกปูด้วยหญ้าซ้อนกันจนหนาปูทับด้วยเสื้อผ้าเก่าๆซึ่งเธอเดาได้ว่านั่นคงเป็เสื้อผ้าติดกายของสองสามีภรรยาแซ่เกา นี่แหละคือความจนเมื่อถึงจุดนี้ไม่มีใครสนใจว่านี่คือของผู้ที่ล่วงลับ จุดนี้เ้าของร่างเดิมถือว่าทำได้ดี คนตายก็ตายไปส่วนคนที่อยู่ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป
เกาหนิงซินจัดแจงให้เด็กน้อยทั้งสามนั่งเล่นอยู่บนที่นอนหญ้า"พวกเ้าทั้งสามคนเล่นกันไปก่อนพี่สาวจะก่อไฟทำอาหารเย็น เล่นด้วยกันดีๆอย่าทะเลาะกันเข้าใจหรือไม่"
"ขอรับ"เกาิเกาจูพยักหน้าขานรับย่างรู้ความ
หญิงสาวหันมามองเ้าหัวผักกาดคนเล็ก"แอ้ๆ"เ้าหนูเกาปินส่งเสียงอย่างรู้ความ เมื่อเห็นว่าเด็กๆว่าง่ายเช่นนี้เธอก็ยิ่งเอ็นดูมากยิ่งขึ้น
เตาไฟที่ก่อขึ้นจากการนำก้อนหินมาวางเป็ทรงครึ่งวงกลมเธอมองอยู่สักพักก็คิดได้ว่าเ้าของร่างนี้มีความฉลาดเฉลียวไม่น้อยเลยทีเดียวการก่อเตาในลักษณะนี้จะะช่วยเก็บความร้อนไ้อย่างดีอีกทั้งเป็การประหยัดฟืนอีกด้วย ถ่านในเตายังไม่มอดนี่จึงช่วยประหยัดเวลาไม่น้อย นอกจากเนื้อสัตว์ที่ล่ามาได้เธอยังเห็นหัวเผือกหัวมันที่กองอยู่มุมถ้ำ ยังมีกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำเอาไว้จนเด็มอีกหลายกระบอก
แม้ครอบครัวนี้จะยากจนแต่เห็นได้ชัดว่าการเลือกมาอาศัยอยู่ในป่าของพวกเขาเป็สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ เกาหนิงซินเริ่มลงมือทำมื้อเย็นทันทีก่อนอื่นนำกระบอกไม้ไผ่ที่ตัดเตรียมไว้เติมน้ำสะอาดลงไปนำไปวางไว้ในเตาไฟที่ถูกจุดเอาไว้ เสร็จแล้วเธอก็เดินไปเลือกหัวมันเทศมาสองหัวใช้มีดทำครัวเล่มเดียวในครอบครัวที่มีอยู่ปลอกเปลือกออกให้หมดแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็ชิ้นพอดีคำใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับต้นขาของผู้ชายตัวโต สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกทึ่งกับความอุดมสมบูรณ์ภายในป่าแห่งนี้ไม่ได้
รอให้น้ำเดือดและตัวมันเทศสุกหญิงสาวเดินออกไปเก็บผักป่าที่ขึ้นอยู่บริเวรรอบๆปากถ้ำมาหนึ่งกำมือใช้น้ำล้างให้สะอาดหั่นเป็เส้นใส่ลงไปในมันเทศต้ม น้ำที่กำลังเดือดปุดๆส่งกลิ่นหอมหวานอบอวน เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารหญิงสาวเติมเกลือที่มีอยู่ราวๆสองร้อยกรัม ในความทรงจำเกลือถุงนี้ั้แ่ใช้เงินครึ่งหนึ่งในครอบครัวซื้อมามันก็แทบจะไม่ได้นำมาปรุงอาหารเลย
ซื้อมานอนกอดเช่นนี้ทำให้คนที่กินอาหารรสจัดมาตลอดเช่นเธอรู้สึกรับไม่ได้จริงๆ เติมเกลือลงไปในซุปเล็กน้อยเท่านี้ก็ใช้ได้ ซุปมันเทศต้องเคี่ยวอีกสักพักถึงจะใช้ได้ กระต่ายสองตัวที่ล่ามาได้ก็ถูกนำออกมาจัดการ ก่อนอื่นต้องถลกหนังผ่าท้องควักเครื่องในกระบวนการหล่านี้หญิงสาวลงมือได้อย่างคล่องแคล่ว หนังกระต่ายถูกนำไปผึ่งลมด้านนอกถ้ำส่วนเนื้อกระต่ายล้วนถูกทาด้วยเกลือบางๆด้วยมีเด็กน้อยกินด้วยจำนวนโซเดียมก็ต้องลดปริมาณลงไป
กระต่ายหนึ่งตัวถูกกางแผ่ออกใช้ไม้ไผ่ที่ผ่าครึ่งหนีบเอาไว้ซ้ายขวาส่วนปลายมัดด้วยเถาวัลย์เส้นเล็กกันตัวกระต่ายลื่นหลุด กระต่ายอีกตัวที่เหลือเธอนำกิ่งไผ่ตัดปลายแหลมเสียบเนื้อ่ขาหน้าทั้งสองนำไปผึ่งแดดด้านนอกให้เป็เนื้อแดดเดียวเก็บไว้ทำอาหารพรุ่งนี้ บรรยากาศนอนกลางดินกินกลางทรายอย่างนี้ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ่วัยรุ่นเืร้อนออกรบเพื่ออุดมการณ์ ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะเป็ยังไงบ้างท่านจะใจสลายหรือไม่ที่ลูกสาวเพียงนเดียวได้จากไปแล้ว
ซุปมันเทศได้ที่แล้วหญิงสาวใช้ใบไม้สดรองมือจับกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุซุปร้อนๆเอาไว้จนเต็มยกขึ้นมาวางพักไว้ พอดีที่ฟืนท่อนเล็กเผาไห้จนเหลือแต่ถ่านแดงๆเธอนำเนื้อกระต่ายเสียบไม้มาย่างทันที ไม่นานทั่วทั้งถ้ำก็อบอวนไปด้วยกลิ่นของเนื้อย่าง
"เอาล่ะเสร็จแล้ว เ้าหัวผักกาดน้อยทั้งหลายหยิบตะเกียบประจำตัวแล้วมากินข้าว"เกาหนิงซินหันไปเรียกบรรดาน้องชายที่นั่งยืดคอมองเธอทำอาหารมาพักใหญ่ เด็กหนอคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าของกินแล้วสินะ ทั้งสามเดินจูงมือกันมาอย่างพร้อมเพรียงในมือของสองแฝดถือตะเกียยบคู่เล็กส่วนเ้าน้องเล็กยังใช้ตะเกียบไม่เป็จึงถือช้อนคันเล็กมา
ชามไม้ไผ่สี่ใบถูกนำมาวางบนพื้นที่ปูด้วยใบไม้ใบใหญ่ ชามไม้ไผ่นี้บิดาแซ่เกาเป็คนทำขึ้นมาแม้การใช้มีดทำครัวที่ลับกับหินมานับครั้งไม่ถ้วนในการตัดแต่งไม้ไผ่ลำหนาให้เรียบเนียนไร้เสี้ยนเล็กๆจำต้องใช้ความพยายามอย่างมากชามพวกนี้ถูกทำออกมาได้อย่างสวยงาม เธอสำรวจมีดทำครัวเล่มนั้นแล้วถือได้ว่าการหลอมเหล็กในยุคสมัยนี้มีคุณภาพมากทีเดียว
"กินเยอะๆจะได้โตเร็วๆ"เธอฉีกเนื้อย่างเป็ชิ้นเล็กๆป้อนเด็กทั้งสามที่กำลังซดซุปอย่างมีความสุข
"ขอรับอาิจะรีบโตจะได้ดูแลพี่สาวและน้องๆ"
"อาจูก็จะรีบโตจะตั้งใจเรียนเมื่อสอบเป็ขุนนางได้แล้วครอบครัวเราจะได้สุขสบายมีบ้านหลังใหญ่"
"อื้อๆ"ปินปินน้อยส่งเสียงอืออาให้กับพี่สาวอย่างจริงจัง
"ความฝันช่างยิ่งใหญ่นัก หากพวกเ้ามีความมานะต่อให้ยากเย็นสักเพียงใดพี่สาวคนนี้ก็จะสนับสนุนเ้าอย่างเต็มที่ ดีหรือไม่"
"ดี!"เด็กน้อยทั้งสามประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง เกาหนิงซินคิดว่าตัวเองหูแว่วแต่เสียงเล็กๆที่ร้องว่าดีอย่างไม่ค่อยชัดนั้นเป็เสียงของเ้าน้องเล็ก
"ว้าว...ปินปินของพวกเราพูดได้แล้ว"หญิงสาวลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู เ้าตัวเล็กนี่่เวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มหัดพูดหมดไปกับการเดินทางอันแสนลำบากต้องพบเจอสถานที่ที่ไม่คุ้นชินจึงทำให้เ้าตัวไม่ยอมพูด เด็กทั้งสามถือเป็ความับผิดชอบของเธอการเลี้ยงดูให้พวกเขาให้เติบโตอย่างมีคุณภาพถือเป็การตอบแทนบุญคุณที่เธอติดค้างเ้าของร่างนี้
พี่น้องตระกูลเกากินกันเสร็จก็เป็่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน หญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่เคยชินกับการอาบน้ำเช้าเย็นเป็ประจำก็กระเตงน้องชายทั้งสามไปอาบน้ำที่ลำธาร เธอใช้ความทรงจำที่ได้รับมามุ่งหน้าไยังลำทานสายเล็กทันที อันดับเเรกก็จัดการลอกคราบเ้าหัวผักกาดทั้งสามแล้วนำไปปล่อยไว้ในแอ่งน้ำเล็กๆทั้งสามเป็เด็กที่รู้ความต่างก็อาบน้ำเองได้กันหมด เพื่อให้มองเห็นเด็กๆหญิงสาวจึงเลือกที่จะอาบน้ำอยู่ใกล้ๆเสื้อผ้าทุกชิ้นถูกถอดออกรวมทั้งผ้าแถบที่ใช้รัดหน้าอก เมื่อส่วนที่พันธนาการณ์ได้รับการปลดปล่อยให้เป็อิสระเกาหนิงซินก็ได้รู้ว่าทำไมเด็กนี่ถึงต้องรัดหน้าอกตัวเองเอาไว้ทั้งๆที่เ้าตัวก็ออกจะผอมแห้ง
โอ้วแม่เ้า...หน้าอกแม่หนูนี่อย่างน้อยๆก็ต้องคัพซี!
คัพซีตอนอายุสิบเจ็ดเท่านั้น นี่ก็แสดงว่าในอานาคตมีแนวโน้มที่จะโตขึ้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้