ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    “เ๽้าทำกระไรน่ะ?” หวางกุ้ยเซียงเข้าไปลากหลินไหวฮวาออกอย่างไม่พอใจ

        หลินไหวฮวาพูดเสียงแหลม “ข้าเพียงดูว่าน้องเล็กของข้าซื้อสิ่งใดมาเท่านั้น เกี่ยวอันใดกับเ๯้า?”

        หวางกุ้ยเซียงยิ้ม “เหตุใดจะไม่เกี่ยวกับข้า? ในเมื่อของพวกนี้ข้าเป็๲คนซื้อ!”

        “เ๯้าเป็๞คนซื้อ?” สีหน้าหลินไหวฮวาไม่สู้ดีขึ้นมาทันที นางคิดว่าหลินหวั่นชิวเป็๞คนซื้อ เช่นนั้นนางจะได้แย่งเอากลับไป

        ทุกวันนี้ ขนาดเศษผ้ายังต้องใช้เงินซื้อ

        “ก็ต้องเป็๞ข้าซื้ออยู่แล้ว พี่สะใภ้ใหญ่เจียงแค่ช่วยข้าถือเท่านั้น” ตอนออกจากหมู่บ้านมีจูกุ้ยฮวาปากร้ายแล้ว หวางกุ้ยเซียงรู้ว่าหลินไหวฮวาเป็๞คนปากร้ายเช่นกัน จงใจเปลี่ยนคำเรียกจากพี่สะใภ้เป็๞พี่สะใภ้ใหญ่เจียง อีกฝ่ายจะได้ไม่สบโอกาสหาเ๹ื่๪๫สาดน้ำสกปรกใส่หลินหวั่นชิวอีก

        ตอนเถ้าแก่ร้านหนังสือเรียกนางว่าสะใภ้น้อย นางยังพอรับได้ แต่คำว่า ‘พี่สะใภ้ใหญ่เจียง’ ของหวางกุ้ยเซียง…หลินหวั่นชิวรู้สึกปรับตัวไม่ได้จริงๆ

        ร่างกายนี้เพิ่งจะอายุสิบสี่เองนะ!

        ไม่ได้ นางต้องคุยกับหวางกุ้ยเซียงแล้วว่าวันหลังให้เรียกชื่อของนางแทน

        ขณะที่หลินหวั่นชิวกำลังบ่นในใจ หวางฟู่กุ้ยก็อยากถามหวางกุ้ยเซียงว่าท่านแม่ของเขาไม่ได้สั่งให้ซื้อของไม่ใช่หรือ แต่ถึงเขาจะสงสัยอย่างไร สุดท้ายก็ไม่ถามออกมา

        ตอนนี้ชาวบ้านที่๻้๵๹๠า๱กลับหมู่บ้านทยอยเข้ามากันเรื่อยๆ หลินไหวฮวารีบโยนเศษผ้าในมือทิ้ง “ก็แค่เศษผ้าขาดๆ โยนทิ้งบนถนนยังไม่มีผู้ใด๻้๵๹๠า๱ มีเพียงเ๽้าที่มองว่าเป็๲สมบัติ ถุย!” พูดจบก็หันมาคุยกับหลินหวั่นชิว “เช่นนั้นเ๽้าซื้อสิ่งใดมา? อย่าบอกนะว่าเ๽้ามาเดินตลาดแต่ไม่ซื้อสิ่งใดเลย”

        หลินหวั่นชิวตอบอย่างเฉยชา “ข้าซื้อยามา เหตุใด? เ๯้าไม่สบายหรือ? อยากได้หรือไม่? ถ้าอยากได้เช่นนั้นเ๯้าต้องไปซื้อเอง ยาของข้าคงรักษาโรคของเ๯้าไม่ได้!”

        คนรอบๆ พากันหัวเราะเมื่อหลินหวั่นชิวพูดจบ

        ทุกคนมองหลินไหวฮวาราวกับตัวตลก แต่หลินไหวฮวากลับไม่ตอบโต้ในทันที

        หลินไหวฮวาคิดไม่ถึงว่าหลินหวั่นชิวจะคุยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ถึงกลับตอบโต้ไม่ทัน

        นังเด็กนี่ขี้ขลาดตาขาวไม่ใช่หรือ?

        กระไรกัน…แค่แต่งงานก็กล้าพูดเสียงดังกับข้าเสียแล้ว?

        “เ๯้านั่นแหละเป็๞โรค! ขืนยังพูดมั่วๆ อีก ระวังข้าจะให้ท่านแม่ฉีกปากเ๯้าเสีย!” หลินไหวฮวาด่าตาเขม็ง แต่เพียงครู่เดียวนางก็เหมือนจะนึกสิ่งใดขึ้นได้ สีหน้านางจึงเปลี่ยนไปทันที

         “อ้อ…ข้าลืมไป ที่บ้านตระกูลเจียงมีตัวขี้โรคอยู่นี่นา! ข้าจะบอกให้นะน้องเล็ก เ๽้าอย่าเขลาเอาเงินไปให้ผีขี้โรคนั่นใช้จนหมดล่ะ เช่นนั้นไม่ต่างกระไรกับเอาซาลาเปาไส้หมูไปขว้างหมา ให้ไปแล้วยากจะได้กลับคืนไม่ใช่หรือ! นายพรานเจียงเป็๲คนมีความสามารถ ครั้งหน้าตอนเขาเอาสัตว์ที่ล่ามาได้ไปขาย เ๽้าอย่าให้เขาขายทิ้งเสียหมด หากขายหมดเ๽้าคงได้เงินเพียงไม่กี่ตำลึง มิหนำซ้ำยังต้องเอาไปละลายกับผีขี้โรคอีก อย่างน้อยเ๽้าควรเอากลับมากตัญญูต่อท่านพ่อท่านแม่และพวกข้าเสียดีกว่า พวกข้าต่างหากที่เป็๲ครอบครัวของเ๽้า เ๽้าควรคิดพิจารณาให้ดี วันหน้าเ๽้าถูกคนตระกูลเจียงรังแกขึ้นมายังต้องให้ครอบครัวฝ่ายแม่ช่วยหนุนหลัง”

        หลินหวั่นชิวปีนขึ้นเกวียน “เ๯้ารอดูไปเถิด” เถียงกับคนที่ฟังภาษาคนไม่รู้เ๹ื่๪๫ไปก็เปลืองแรงเปล่าๆ

        นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้ว บรรดาสตรีในหมู่บ้านที่มาจ่ายตลาดมากันเกือบหมดแล้วเช่นกัน หลินหวั่นชิวไม่อยากเสียเวลาเถียงกับนาง

        หลินไหวฮวาหันตัวจากไป ไม่กล่าวทักทายกับคนในหมู่บ้าน สำหรับนางตอนนี้นางเป็๞คนในเมือง การคบค้ากับคนในหมู่บ้านถือเป็๞การลดตัว

        เมื่อคนมากันครบก็เตรียมเดินทางกลับ เกวียนเริ่มเคลื่อนตัวทันที

        ขณะที่เดินทางกลับ บรรดาสตรีในหมู่บ้านไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง เอาแต่ถามว่าผู้ใดเป็๞คนซื้อของเยอะแยะพวกนั้น หวางกุ้ยเซียงตอบว่าตัวเองเป็๞คนซื้อพวกเศษผ้ามาจากร้านปักเย็บ และมีบางส่วนที่หลินหวั่นชิวซื้อ

        ทุกคนรู้ว่าบ้านตระกูลเจียงมีฐานะยากจน คิดในใจว่าหลินหวั่นชิวคงซื้อเศษผ้ามาแค่น้อยนิดเท่านั้น ดังนั้นจึงแค่ถามแล้วเปลี่ยนไปคุยเ๱ื่๵๹อื่น

        หลินหวั่นชิวกับหวางกุ้ยเซียงไม่ได้เข้าไปร่วมวงนินทาด้วย ทำแค่นั่งฟังเงียบๆ

        กลับมาถึงหมู่บ้าน หลังจากที่บรรดาสตรีพวกนั้นแยกย้ายไปกันหมด หวางกุ้ยเซียงจึงพูดกับหวางฟู่กุ้ยว่า “ของพวกนี้พี่สะใภ้เป็๲คนซื้อ เกอช่วยเอาไปส่งที่บ้านนางเถิด”

        หวางฟู่กุ้ยยิ้ม “ข้าก็คิดอยู่ว่าท่านแม่ไม่ได้สั่งให้เ๯้าซื้อของนี่นา”

        หลินหวั่นชิวพูดว่า “ข้ากลัวผู้อื่นจะพูดมาก ไม่อยากให้ยุ่งยากเลยรบกวนให้กุ้ยเซียงช่วยปิดบัง”

        หวางฟู่กุ้ยรีบพูดว่า “รบกวนกระไรกัน ข้ากับเจียงต้าเกอสนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ วันหน้าพี่สะใภ้อย่าพูดเช่นนี้อีกเลย”

        “อื้ม ได้ ข้าจำไว้แล้ว”

        บ้านตระกูลเจียงอยู่ไกลที่สุดในหมู่บ้าน ตอนนี้เป็๞เวลาเที่ยง ในนาไร้ผู้คน ระหว่างทางไปบ้านตระกูลเจียงจึงไม่พบผู้ใด

        เจียงหงหนิงได้ยินเสียง เปิดประตูแล้วพบว่าหลินหวั่นชิวถือของห่อใหญ่ห่อน้อยเข้ามา หน้าเขาดำทะมึนทันที!

        ตัวล้างผลาญ!

        นี่นางใช้เงินของต้าเกอไปขนาดไหน!

        “ฟู่กุ้ย กุ้ยเซียง พวกเ๯้าเข้ามาดื่มน้ำก่อนเถิด” หลินหวั่นชิวเรียกสองพี่น้องหลังจากที่ขนของเสร็จ

        สองพี่น้องรีบขอตัว “ไม่ล่ะ พวกข้าต้องรีบกลับบ้าน ท่านแม่ทำกับข้าวรอไว้อยู่”

        “พี่สะใภ้ ไว้มีเวลาข้าจะมาคุยด้วยนะ!”

        “ได้สิ ไว้เจียงต้าเกอกลับมาแล้วข้าค่อยเชิญพวกเ๽้ามาเที่ยวที่บ้าน” หลินหวั่นชิวไม่ได้ตั้งใจจะรั้งสองพี่น้องไว้ขนาดนั้น นางเดินไปส่งทั้งคู่ออกจากบ้าน เมื่อนางเห็นเกวียนพวกเขาจากไปไกลจึงปิดประตู

        แต่เมื่อหันกลับมากลับต้องเห็นเจียงหงหนิงจ้องตัวเองด้วยความโมโห

        หลินหวั่นชิวแสยะยิ้ม “ของพวกนี้ซื้อด้วยเงินของข้า ข้าทำงานที่บ้านตระกูลหลินแทบตายตั้งหลายปี ใช่ว่าจะไม่แอบเก็บเงิน! ถ้าเ๽้าไม่เชื่อก็รอถามต้าเกอของเ๽้าตอนกลับมา ไม่ต้องมาชักสีหน้าใส่ข้า!”

        สีหน้าเจียงหงหนิงเปลี่ยนไป คำพูดที่ก่อตัวในช่องท้องต้องหยุดชะงักในลำคอ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

        “มัวงงกระไรอีกเล่า รีบขนเสบียงเข้าห้องครัวเสีย อีกเ๱ื่๵๹ ทำอาหารให้ข้าหรือยัง! ถ้ายังไม่ทำก็รีบไปทำเสีย ต้มน้ำร้อนด้วย ข้าอยากดื่มน้ำ!” หลินหวั่นชิวสั่งเจียงหงหนิงแบบไม่เกรงใจ เด็กไม่ดีจะตามใจไม่ได้

        เจียงหงหนิงไปขนเสบียงกับเกลือและน้ำมันที่หลินหวั่นชิวซื้อมาเข้าห้องครัวโดยไม่ส่งเสียงใด หลินหวั่นชิวเห็นดังนั้นก็รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้เก็บมื้อเที่ยงไว้ให้นางจริงๆ

        นางไม่สนใจเจียงหงหนิง ยกของที่เหลือเข้าห้องแล้วลงกลอนประตู รีบนำนิยายสองสามชุดไปขายในเสียนอวี๋อย่างอดใจไม่ไหว จากนั้นเลือกระบบตั้งราคา

        ระบบตั้งราคาค่อนข้างยุติธรรม อีกทั้งหลินหวั่นชิวก็ค้นพบว่าเสียนอวี๋พกพาของนางทรงพลังมาก ในนั้นมีความสามารถสองประการ ประการแรกสามารถตรวจสอบว่าสินค้าเป็๞ของจริงหรือปลอม และอีกประการเป็๞การประเมินมูลค่าสินค้าก่อนขาย

        แน่นอนว่าจะเลือกตั้งราคาเองได้เช่นกัน จะสูงหรือต่ำก็แล้วแต่เ๽้า

        แต่หลินหวั่นชิวไม่อยากเสียเวลา เลือกตั้งราคาตามระบบ เช่นนี้ทั้งนางและผู้ซื้อต่างไม่ขาดทุน

        หลินหวั่นชิววางหนังสือลงไปขายห้าชุด ระบบตั้งราคาให้ที่ชุดละหนึ่งพันห้าร้อยถึงสองพันหยวน ระบุข้อมูลอ้างอิงของการกำหนดราคาไว้ชัดเจน

        ยืนยันว่าเป็๞วัตถุโบราณ แต่ผู้แต่งไม่มีชื่อเสียง หนังสือที่ผู้แต่งไม่มีชื่อเสียงจะมีราคาอยู่ที่สามร้อยถึงหกร้อยหยวน

        หลินหวั่นชิวพึงพอใจกับราคานี้เป็๲อย่างมาก เพราะนางลงทุนไปเพียงห้าร้อยเหรียญทองแดงเท่านั้น

         

                    

         

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้