“อาจารย์ แม้พวกเราจะต้องขึ้นไปทำหน้าที่บน์ แต่พวกเราจะไม่มีวันลืมสำนักแห่งนี้ อาจารย์อย่าได้เศร้าไปเลยนะ” ศิษย์คนสี่ยกมือขึ้นแล้วพูดปลอบ
“ศิษย์ข้าทุกรุ่น มักจะมีคนเช่นเ้าอยู่เสมอ พวกเ้าไม่ให้ข้าเศร้า แต่พวกเ้าต่างเก็บน้ำตาไม่อยู่ ข้ารู้ว่าพวกเ้ารักและเคารพข้ามากเท่าใด แต่ขอพวกเ้าจงจำไว้ ยามใดที่พวกเ้าผจญกับความทุกข์ไร้ทางออก อย่าลืมว่ายังมีอาจารย์ที่คอยเป็ห่วงเ้าตรงนี้เสมอ”
“อาจารย์ อย่าพูดเช่นนี้อีกเลย ถ้าเลือกได้ข้าก็ไม่อยากไปจากสำนักิเซียน ข้าอยากอยู่รับใช้อาจารย์ไปจนสิ้นอายุขัย” ศิษย์คนที่ห้ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เ้าเด็กโง่ สำนักิเซียนเป็สำนักที่ฝึกฝนเซียนเพื่อขึ้นไปทำหน้าที่บน์ พวกเ้าจะอยู่กับข้าไปตราบสิ้นอายุขัยได้อย่างไร”
“อาจารย์ หนิงเอ๋อไม่รู้ธรรมเนียมบน์ หนิงเอ๋อขออยู่กับอาจารย์ที่สำนักิเซียนต่อได้ฤาไม่” หญิงสาวผู้เป็ศิษย์น้องเล็ก ยกมือแล้วทำเสียอ่อย
“หากเป็เ้า ข้ายิ่งต้องส่งไปเรียนรู้ธรรมเนียมบน์ให้มาก ข้าตามใจเ้ามากกว่าศิษย์คนอื่น ด้วยเพราะอายุขัยของเ้ายังน้อย ข้าจึงไม่เข้มงวดพอ ทำให้เ้ามีนิสัยหย่อนยานในกฎเกณฑ์บ่อย ๆ”
“เช่นนี้อาจารย์ยิ่งต้องไม่ให้ข้าขึ้นไปบน์ เผชิญกับเหล่าเทพเซียนผู้มากด้วยฤทธิ์ อาจทำให้อาจารย์เสียชื่อเอาได้ โปรดเก็บข้าไว้กับท่านสักคนไม่ได้เหรอ” หนิงเอ๋อทำหน้างอ พร้อมเสียงออดอ้อน
“อาจารย์ เว้นศิษย์น้องเล็กไว้สักคน ส่วนพวกเราทั้งแปดคนจะไม่ปฏิเสธเลย ใช่ไหมทุกคน” ศิษย์คนที่ห้า เห็นน้ำตาของศิษย์น้องเล็กจึงนึกสงสาร พยายามขอร้องอาจารย์ด้วยอีกคน
“ใช่ ๆ อาจารย์เว้นศิษย์น้องเล็กไว้สักคนด้วย” ศิษย์ทั้งแปดคนผสานเสียงพร้อมกัน เพื่อขอความเห็นใจให้ศิษย์น้องเก้าของพวกเขา
“นอกจากอาจารย์ที่ตามใจหนิงเอ๋อจนเสียคนแล้ว พวกเ้าทุกคนก็ด้วย ข้ารู้ว่าหนิงเอ๋อเป็ศิษย์น้องเล็ก ซ้ำยังเป็หญิงเพียงคนเดียวของรุ่น พวกเ้าจึงค่อนข้างตามใจ แต่กาลครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร หนิงเอ๋อก็ต้องขึ้นไปเป็เซียนรับใช้ให้กับราชธิดาของเ้าสมุทรเก๋อไห่ มีนามว่าหยางฟางเหนียง” หญิงสาวได้ยินดังนั้น จึงรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทำได้แต่หันมองศิษย์พี่ทุกคนอย่างเงียบ ๆ
“ไม่เป็ไร เ้ายังมีศิษย์พี่ห้าอยู่ ข้าจะคอยดูแลเ้าตอนอยู่บน์เอง”
“แต่ถึงอย่างนั้น ์กว้างใหญ่เหลือเกิน เราจะได้เจอกันฤาไม่ ราชธิดาของเ้าสมุทรเก๋อไห่อยู่ที่ใด ชะตาของข้านับจากนี้จะเป็เช่นใดยังมิอาจรู้” หนิงเอ๋อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหดหู่
“แต่ถึงอย่างนั้น หากมีโอกาสศิษย์พี่ห้าจะหาทางไปดูแลเ้าเอง”
“จนป่านนี้ เ้าก็ยังไม่เลิกโอ๋นาง เช่นนี้นางจะโตพอได้อย่างไร บน์กว้างใหญ่กว่าสำนักิเซียนหลายร้อยเท่าตัว อย่าว่าแต่เ้าสองคนจะพบกัน ต่อให้พวกเ้าทั้งเก้าขึ้นไป ก็ยากที่จะพานพบได้”
“หากเป็เช่นนั้น ถ้ามีโอกาสได้เจอกัน ศิษย์พี่ห้าจะไม่มีวันลืมเ้า เป็คนสำนักเดียวกันก็ต้องดูแลกัน” คำตอบของศิษย์คนที่ห้า ทำให้มู่เฉิงหนิงปล่อยผ่านไม่ติดใจ
“เอาล่ะ พวกเ้าทุกคนขึ้นมารับตราสัญลักษณ์นี้ไว้” สิ้นคำของเ้าสำนัก เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างทยอยขึ้นไปรับตราสัญลักษณ์นั้นด้วยท่าทางเศร้าสร้อย ร่างเล็กเดินตามหลังศิษย์พี่คนที่แปดไป แล้วจับจ้องมองตราสัญลักษณ์นั้นอย่างไม่เข้าใจ
“อาจารย์ ตรานี้ข้าต้องติดกายไว้ตลอดเลยใช่ฤาไม่” คำถามของหนิงเอ๋อทำให้อาจารย์หญิงยกมือลูบศีรษะนางเหมือนอย่างเคย
“ต้องมีไว้ติดกาย เผื่อวันใดที่เ้าทุกข์หมดหนทาง หรือแม้แต่ทำผิดกฎ์ เ้าแค่นำตราสัญลักษณ์นี้มาที่สำนักของเรา พลังแห่งตราสัญลักษณ์ จะทำลายอำนาจมนตราของเทพที่เป็เกราะคุ้มภัยสำนัก เปิดช่องให้เ้าสามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย”
“หากเป็เช่นนั้น ถ้าข้าอยากมาหาอาจารย์เฉย ๆ ล่ะ จะได้ฤาไม่” มู่เฉิงหนิงปล่อยยิ้มเล็กน้อยแล้วส่ายศีรษะ
“หลังจากที่พวกเ้าขึ้นไปทำหน้าที่บน์แล้ว จะไม่มีโอกาสได้กลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก” หนิงเอ๋อได้ยินดังนั้นจึงก้มมองตราสัญลักษณ์ในมือ
“เ้ารู้ฤาไม่ว่าในบรรดาศิษย์ของข้าทุกรุ่น ที่ขึ้นไปทำหน้าที่บน์ ไม่มีผู้ใดได้กลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก ถ้าจะมองอีกมุมถือว่าข้าอบรมสั่งสอนศิษย์ได้อย่างดี ไม่มีผู้ใดทำผิดกฎ์ แต่...” ยังไม่ทันที่มู่เฉิงหนิงพูดจบ
“อาจารย์คิดถึงศิษย์พี่ทุกคน อยู่ใช่ฤาไม่” หนิงเอ๋อพูดขึ้นมา พร้อมแววตาเป็ประกายรอฟังคำตอบ
“ใช่ ข้าคิดถึงพวกเขาทุกคน และก็คงคิดถึงเ้ามากที่สุดด้วยเช่นกัน” คำพูดของอาจารย์หญิง ทำให้หนิงเอ๋อน้ำตาเอ่อขึ้นมาในทันที
“อาจารย์” นางโผเข้ากอดอาจารย์หญิงแล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่สนใจผู้ใด ก่อนที่ศิษย์คนที่ห้า เตรียมย่างเท้าเข้ามาดึงนางออก
“ไม่ต้อง ปล่อยให้นางร้องจนพอใจ พวกเ้าทุกคนมีอะไรไปทำก็ไป ข้าจะปลอบใจนางเอง” หลังจากได้ยินคำสั่งของอาจารย์ ศิษย์ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ ปล่อยให้หนิงเอ๋อ กอดอาจารย์หญิงแน่นไม่ยอมปล่อย
“อาจารย์...ความจริงแล้วท่านไม่ต้องส่งข้าให้กับเทพแห่งชะตาได้ก็ได้ เว้นข้าไว้สักคน ท่านเทพแห่งชะตาก็คงไม่ว่าอะไร”
“เด็กโง่ แม้แต่เทพแห่งชะตาเอง ก็ไม่อาจละเว้นหน้าที่ของตัวเองได้ หากเขาปล่อยเ้าไว้ นั่นแปลว่าเขาละเลยต่อหน้าที่ เช่นนี้แล้วเทพแห่งชะตาเองก็จะได้รับโทษเช่นกัน” หนิงเอ๋อปาดน้ำตาแล้วมองหน้าอาจารย์หญิงของนางครู่หนึ่ง
