โอวบีเงี่ยหูฟัง นั่นมันเสียงของดาวโรงเรียนไม่ใช่หรือ?
เขาชี้เย่เฟิง “เสี่ยวมี่เฟิง นั่นมันเสียงของซูเมิ่งหานใช่ไหม?”
เย่เฟิงตอบกลับ “แค่กๆ คือเธอ... เธอถูกพ่อไล่ออกจากบ้านน่ะ เลยต้องมาอยู่บ้านของฉันชั่วคราว…”
“โอ้มายก๊อด!” โอวบีรู้สึกโลกกำลังหมุน ซูเมิ่งหานกับเย่เฟิงอยู่ด้วยกัน แถมเธอยังให้เย่เฟิงหยิบเครื่องเป่าผมมาให้ถึงห้องน้ำ ถ้าเื่นี้รู้ไปถึงโรงเรียนล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะกลายเป็ประเด็นร้อนที่สุดใน่ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยแน่นอน!
ยิ่งกว่านั้นทำไมอยู่ๆ ซูเมิ่งหานถึงถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน เธอไม่ใช่ลูกสาวของประธานซูเซิ่งกรุ๊ปหรือ รวยอย่างนั้นเเล้วทำไมถึงถูกไล่ออกมา หรือสาเหตุมาจาก... เย่เฟิงเหรอ?
โอวบีจ้องมองเย่เฟิง “ยังไม่อธิบายอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้นฮะ?”
“อันที่จริง เมื่อวานฉันพึ่งพาเธอไปเมืองหลางฝางมา” เย่เฟิงวาดมือ อันที่จริงแม้แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าการไปเมืองหลางฝางกับซูเมิ่งหานจะเกิดเื่มากมายขนาดนี้ เขายังจำได้ว่าตอนลงจากรถไฟ พวกเขาแทบไม่มองหน้ากันเลย
“ล้อเล่นน่า เื่แค่นี้ก็ทำให้อยู่ด้วยกันเหรอ? ที่บ้านเธอจะไม่ถือสาเหรอที่เธอมาอยู่” โอวบีรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก
“สถานการณ์จริงๆ มันซับซ้อนกว่านั้น แต่ฉันคิดว่านายไม่จำเป็ต้องรู้หรอก ใช่แล้ว ข้อมูลพวกนี้ก็ให้ฉันมาก่อน ส่วนรายละเอียดที่เหลือค่อยคุยกันที่โรงเรียน บาย” เย่เฟิงดึงรูปถ่ายและข้อมูลจากมือโอวบีแล้วปิดประตูบ้านดังปัง เขาไม่้าให้เพื่อนเห็นซูเมิ่งหานที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำ ถ้าจะเห็นก็ขอให้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
“บัดซบ! เสี่ยวมี่เฟิง นายนี่มัน มีสาวแล้วลืมเพื่อน!” เสียงโอวบีะโดังจากข้างนอกอย่างอารมณ์เสียมาก
“ขอบใจนะพี่โอว” เสียงเย่เฟิงะโผ่านประตู
“เฮ้ย! นี่มันครั้งแรกเลยนะที่ได้ยินนายเรียกฉันแบบนี้ เอาเป็ว่าถ้านายเรียกฉันแบบนี้ต่อไป พี่โอวคนนี้จะยกโทษให้นายก็แล้วกันนะ ฮ่าๆๆ” โอวบีหัวเราะอย่างมีความสุข
“ได้เลย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!” เย่เฟิงหัวเราะออกมาจากใจ ในโลกเทวะ เขาไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน มีแต่อาจารย์คนสวยของเขาเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์อันดีด้วย
นี่สิที่เรียกว่าเพื่อนสนิท
หลังจากนั้นเย่เฟิงเอาวางรูปบนโต๊ะและหาเครื่องเป่าผมแล้วเดินไปทางห้องน้ำ พร้อมกับเคาะประตู ไม่นานมือขาวนวลราวหิมะค่อยๆ ยื่นออกจากประตูห้องน้ำอย่างสั่นเทาเล็กน้อย
เย่เฟิงอดยิ้มไม่ได้ หรือเธอกลัวว่าเขาจะพุ่งไปลวนลามเธอ เมื่อวางของบนมือของซูเมิ่งหาน ชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกมาและได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ
เขาไม่สนใจอีก รีบกลับมาที่โต๊ะแล้วสำรวจข้อมูลที่โอวบีนำมาให้ จากข้อมูลประเมินสินค้าโบราณพบว่าสิ่งของต่างๆ ถูกค้นพบที่สุสานโบราณรวมถึงหยกขาวรูปปลาหยินหยาง เย่เฟิงอดเหลือบดูข้อมูลเ่าั้ไม่ได้ เมื่อเห็นข้อมูลเขาถึงกับตกตะลึง
หยกขาวรูปปลาหยินหยางจากซากปรักหักพังของสุสานโบราณสมัยราชวงศ์ซางเมื่อเกือบห้าพันปีก่อนเหมือนกับที่โอวบีแนะนำให้คุณชายสามตระกูลหลิน ราคาในตลาดมากกว่าหนึ่งล้านบาท
“โอวบี เ้าเด็กนั่นโกหกตอนที่แนะนำให้ฉันงั้นเหรอ?” เย่เฟิงซาบซึ้งมาก โอวบีแนะนำของดีให้กับเขา แต่กลัวว่าเขาไม่มีเงินซื้อจึงลดราคาให้มากขนาดนี้ ถ้าเขาตัดสินใจซื้อมาในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่น พ่อของเขาจะต้องขาดทุนเกือบล้านบาท!
ยิ่งกว่านั้นโอวเอไม่ได้หลอกคุณชายสามตระกูลหลินเลย แม้โอวเอจะเป็พ่อค้าหน้าเื แต่ก็ต้องประเมินด้วยว่าอีกฝ่ายเป็คนที่ตนจะโกงได้ไหม คนระดับคุณชายสามตระกูลหลิน ซื้อของโบราณไปแล้วจะไม่ให้คนตรวจสอบหรือ โกงเขาถือเป็การหาที่ตายชัดๆ ในที่สุดเย่เฟิงก็รู้แล้วว่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ร้านขายของโบราณโอวซื่อขาดทุนชัดเจน
“ลุงโอวเป็คนดีจริงๆ ในโลกเทวะแทบจะเป็ไปไม่ได้เลยที่จะเจอคนแบบนี้” เย่เฟิงขำ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าโอวเอเป็พ่อค้าเ้าเล่ห์แต่ความจริงถึงต้องชดเชยเป็สามเท่าให้คุณชายสามตระกูลหลิน คิ้วก็ไม่ขมวดสักนิด ซ้ำยังยิ้มอีกด้วย
“ตระกูลหลินแห่งเยี่ยนจิง… เหมือนกับโลกเทวะ มีทั้งอำนาจและความแข็งแกร่ง มีหรือที่จะให้ผู้อื่นเอาเปรียบได้” ความเ็าฉายในแววตาของเย่เฟิง ความประทับใจของเขาที่มีต่อตระกูลหลินแห่งเยี่ยนจิงก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ที่น่าตลกกว่านั้นคือเย่เวิ่นเทียนยังเคยบอกไว้ว่าหากเกิดปัญหาให้ไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลหลิน ตอนนี้แม้เย่เฟิง้าความช่วยเหลือก็จะไม่มีวันขอความช่วยเหลือจากตระกูลหลิน
เขาพลิกดูเอกสารต่อไปและพบหยกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามพวกมันได้รับความเสียหายทั้งหมด มีเพียงหยกขาวรูปปลาหยินหยางเท่านั้นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่มันก็ตกแตกไปเเล้วด้วยน้ำมือคนรับใช้ของคุณชายคนนั้น ส่วนหินจิติญญาก้อนนั้น เพราะมันดูเหมือนหินธรรมดาทั่วไป โอวเอจึงไม่ได้เอาไปตรวจสอบ แค่คุยกับตาเฒ่าหวงบางครั้งเกี่ยวกับหินก้อนนี้ และตอนนั้นอีกฝ่ายก็บอกเขาว่ามันเป็ของดี
ใต้เอกสารการประเมินมีรูปที่ถูกขายจากโจรขุดสุสาน เย่เฟิงหยิบขึ้นมารูปหนึ่ง หน้าของเขาเปลี่ยนสีด้วยความตกตะลึง
“นี่มัน… เป็ไปได้ยังไง อาจารย์!?” รูปเบลอนี้ปรากฏภาพห้องโถงใต้ดินกว้าง ถูกล้อมด้วยเสาหินขนาดใหญ่สี่เสา ภายในมีข้าวของกระจัดกระจาย จากรูปภาพดูออกว่าห้องโถงศิลานี้สามารถเข้ามาได้จากทุกทิศทาง
ตรงมุมของรูปภาพมีแผ่นหลังของหญิงสาวคนหนึ่งที่เย่เฟิงคุ้นเคย เธอสวมผ้าโปร่งสีขาวราวหิมะ ผมยาวมัดเป็พวงห้อยลงมาถึงสะโพก ร่างสูงโปร่งและสง่างาม จากภาพเหมือนเธอ้าหลบสายตาของโจรขุดสุสาน
แม้รูปถ่ายจะเลือนราง แต่สำหรับเย่เฟิงซึ่งอยู่กับอาจารย์หญิงแสนสวยของเขามาสิบปี ถึงภาพจะเบลอแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางจำผิดแน่นอน
เย่เฟิงตื่นเต้นขึ้นมาทันที มือที่ถือภาพถ่ายสั่นเทา
“เป็อาจารย์จริงหรือ?” เขาโยนรูปถ่ายในมือทันทีและพลิกดูรูปอื่น รูปมีทั้งหมดเจ็ดรูป แต่ละรูปมีแผ่นหลังเลือนรางของอาจารย์สาวสวยในความทรงจำของเย่เฟิง
เทพธิดาน้ำแข็ง ซูเฟยหยิ่ง ผู้นำนิกายที่เสื่อมถอยในโลกวรยุทธ์ สำนักสุสานดวงดาว เธอรับเย่เฟิงเป็ศิษย์เพียงคนเดียวและสอนเขาด้วยตัวเธอเอง เย่เฟิงยังจำได้ดี ขณะที่ตัวเองเพิ่งสำเร็จวรยุทธ์ระดับหนึ่งร้อยปี อาจารย์ก็เพิ่งสำเร็จระดับหยางเสินเช่นกัน ทั้งคู่ต่อสู้กับจอมมารแห่งถ้ำหมอกเพลิง พวกเขาต่อสู้กันจนเข้าไปในถ้ำและหายไป เมื่อเย่เฟิงตามเข้าไป ก็เห็นแค่ร่องรอยการต่อสู้อย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ไม่พบใครอื่นเลย
“ดูจากเวลา… เหมือนว่าอาจารย์จะมาที่โลกนี้ก่อนเรา?” เย่เฟิงอดคาดเดาแบบนี้ไม่ได้
ความคิดของเขาโลดแล่น ชายหนุ่มตัดสินใจแล้วว่าตนต้องไปสุสานราชวงศ์ซางทีู่เาฉางไป๋ ไม่ว่าแผ่นหลังในภาพถ่ายจะเป็อาจารย์ของเขาหรือไม่ อย่างน้อยที่นั่นก็มีหินจิติญญาอยู่
“ไม่สิ ไม่แน่หินจิติญญาอาจถูกนำมาโลกนี้โดยอาจารย์?” เย่เฟิงได้แต่คิดแบบนี้ไปก่อน เพราะคาดเดาไปก็ไม่มีประโยชน์ ทางที่ดีคือไปเห็นด้วยตาตัวเอง
“เย่เฟิง ดูอะไรอยู่น่ะ?” ซูเมิ่งหานแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องน้ำ เมื่อเห็นท่าทางของเย่เฟิงแปลกไปก็ถามอย่างสงสัย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้