เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อเห็นหวงอีเริ่มเคลื่อนไหว ท่าทางมู่จื่อหลิงจึงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
นางไม่คิดว่าสาวใช้ผู้นี้จะคลั่งจนใช้วิธีโหดร้ายเช่นนี้เพื่อพาเสี่ยวไตกูไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ต้องรู้ว่ายามนี้เสี่ยวไตกูเกาะตัวมั่นอยู่ในมือนาง หากหญิงบ้าคลั่งผู้นี้ยังคงทำเช่นนี้ต่อไป ย่อมเกิดการทำร้ายเสี่ยวไตกูเป็แน่
“เดี๋ยว!” มู่จื่อหลิงขมวดคิ้ว ตะคอกอย่างเ็า
“ทำไม? ทนไม่ได้!” หวงอีหยุดมือ สีหน้าเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ “อย่าลืมสิ ยามนี้เ้าตัวน้อยนี่เป็ของข้าแล้ว”
คนบ้าคนนี้เกือบทำมู่จื่อหลิงตะลึง
นางปล่อยเสี่ยวไตกู แต่ไม่ได้หมายความว่านางมอบเสี่ยวไตกูให้หญิงบ้าผู้นี้ แม้ว่านางกำลังจะตาย นางก็จะไม่ส่งมันให้เด็ดขาด!
นอกจากนี้ ด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าไม่มีทางยอมปล่อยนางของเสี่ยวไตกูในยามนี้ เกรงว่าแม้จะพยายามแงะมันออกจากมือนาง ก็ไม่อาจทำได้ไม่ใช่หรือ?
มู่จื่อหลิงคร่ำครวญในใจ ถ้าเสี่ยวไตกูมีความสามารถเช่นก่อนหน้านี้ นางคงไม่เศร้าใจมากดั่งเช่นในยามนี้ อีกทั้งหญิงบ้าผู้นี้คงตายไปนานแล้ว
เนื่องจากหวงอีมีใจโลภในตัวเสี่ยวไตกู เหตุใดนางจะไม่ใช้สิ่งนี้ขุดหลุมฝังหวงอีเล่า? มีความคิดแวบเข้ามาในใจของมู่จื่อหลิง
สีหน้าของนางยากจะคาดเดา แต่น้ำเสียงกลับไร้ความรู้สึกยิ่งกว่า “เ้าเป็ผู้หลงใหลในยาพิษ เ้าน่าจะพบว่าในยามนี้คางคกม่วงของข้าไม่อาจปล่อยพิษได้ แต่เหตุใดมันถึงปล่อยพิษไม่ได้? เ้าเองก็ยังไม่รู้ไม่ใช่หรือ? เนื่องจากเ้าไม่รู้ ถึงเ้าได้มันไปก็ไร้ประโยชน์”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง นางเหลือบมองแส้ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพวกนาง แล้วยิ้มอย่างเ็า “...ยิ่งไปกว่านั้นพิษเจ็ดแมลงเจ็ดดอกไม้ที่เ้ากลั่นถือได้ว่าเป็พิษที่พิสดารที่สุดในใต้หล้า เป็พิษที่เ้ากลั่นขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน แต่มันกลับถูกข้าหักล้างได้ภายในพริบตา เ้าไม่สงสัยเลยหรือ?”
นี่เป็หลุมเดียวที่นางสามารถขุดให้คนบ้าผู้นี้ะโไปได้
มู่จื่อหลิงแอบกังวล
ไม่ว่าหวงอีจะะโลงหลุมหรือไม่ขึ้นอยู่กับ่เวลานี้
แต่สิ่งที่ทำให้มู่จื่อหลิงทั้งหดหู่และผิดหวังก็คือหวงอีไม่สนเื่นี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินคำพูดของมู่จื่อหลิง การแสดงออกของหวงอีก็ยังคงเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความโกรธ
กล่าวได้ว่า สิ่งที่มู่จื่อหลิงพูดได้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของหวงอีสำเร็จ
หวงอีย่อมนึกสงสัยว่าเหตุใดคางคกตัวน้อยถึงไม่สามารถปล่อยพิษได้ แต่เมื่อนางได้ตัวคางคกตัวน้อยนี้มา ด้วยสติปัญญาของนาง ความอยากรู้อยากเห็นในใจจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน
อีกทั้งสิ่งที่มู่จื่อหลิงพูดก็ถูกต้อง พิษเจ็ดแมลงเจ็ดดอกไม้เป็พิษที่นางภาคภูมิใจมากที่สุด ในยามนี้กลับถูกทำลายลงได้ในชั่วพริบตา สำหรับนางที่ภูมิใจในทักษะพิษแล้ว เื่นี้ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!
ถึงกระนั้นหวงอีก็ยังมีเหตุผลอยู่
ดังนั้นในขณะนี้นางจึงฉลาดพอที่จะคิดได้ว่า ก่อนที่มู่จื่อหลิงจะเสียชีวิต ท้ายที่สุดนี่คือการพยายามเอ่ยคำหวานของนาง เพื่อหลอกล่อนาง นางจึงไม่เชื่อ
ส่วนความอับอายจะมีหรือไม่นั้น คนตายจะนำความอับอายใดมาให้นางได้เล่า
“แน่นอนว่าข้าย่อมอยากรู้ แต่...” หวงอียอมรับโดยไม่ลังเล
จากนั้นนางก็หันไปมองด้านข้าง ก่อนเหลือบมองมู่จื่อหลิง พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “เ้าคิดว่าข้าจะเชื่อสิ่งที่คนใกล้ตายเช่นเ้าพูดหรือ? ข้าสามารถหาสาเหตุของเ้าตัวน้อยนี้ได้ ในยามนี้เ้าควรคิดว่าอีกครู่ตนจะตายอย่างไรจะดีกว่า”
คนผู้นี้เป็บ้า แต่สติพื้นฐานของนางยังคงมีอยู่
น่าตายนัก! มู่จื่อหลิงสาปแช่งในใจ
แต่ก่อนที่เสียงด่าในใจของมู่จื่อหลิงจะสงบลง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกถึงบางอย่างตรงมือข้างที่จับแส้ของตน มู่จื่อหลิงเงยหน้าขึ้นมองหวงอีโดยไม่รู้ตัว...
รอยยิ้มเย็นแต้มบนมุมปากของหวงอี นางกำลังดึงแส้กลับมา
มู่จื่อหลิงตื่นตระหนกอีกครั้ง
ในชั่วพริบตา นางแทบจะใส่แรงทั้งหมดที่มีลงไป นางกระชับปลายแส้ในมือแน่น
มู่จื่อหลิงอยากหยุดมัน ไม่ต้องพูดถึงว่านางไม่สามารถหยุดมันได้ แม้ว่านางจะมีความสามารถ แต่ก็สายเกินไปแล้ว
ในยามนี้ หวงอีดึงแส้กลับจากมือของมู่จื่อหลิงอย่างรวดเร็วรุนแรง
ใครจะรู้ หวงอีชักแส้กลับ แต่นางกลับล้มเหลวในการแย่งตัวเสี่ยวไตกูที่หยั่งรากอย่างมั่นคงในฝ่ามือของมู่จื่อหลิงมาได้
เพราะ...เหมือนเสี่ยวไตกูจะรู้ตัวว่ามันกำลังจะถูกหญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นดึงตัวไป แม้แต่นายน้อยก็ช่วยมันไม่ได้
ทำอย่างไร! ควรทำอย่างไรดี!
ทันใดนั้น เสี่ยวไตกูกระวนกระวายมากจนจู่ๆ แสงสีม่วงพร่างพราวก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของมัน
ในพริบตา ไม่มีใครเห็นว่ามีฟันซี่เล็กแข็งแรงสองแถวที่แม้แต่มู่จื่อหลิงก็ไม่เคยสังเกตปรากฏขึ้นในปากของเสี่ยวไตกู
อีกทั้งฟันขนาดเล็กสองแถวยังมีสีม่วง แหลมคมยิ่ง ราวกับหลอมรวมกับแสงสีม่วงของมัน หากไม่มองให้ดี ย่อมมองไม่เห็น
‘แครก!’ เกิดเสียงแ่เบา
ในขณะที่หวงอีดึงแส้กลับ เสี่ยวไตกูตัดสินใจอย่างรวดเร็ว มันใช้ฟันที่ยื่นออกมาทำร้ายลิ้นยาวของมันในทันที...มันกัดลงไปโดยตรง!
เสี่ยวไตกูรู้ดี เว้นแต่มันจะกัดลิ้นยาวด้วยตัวมันเอง แม้แต่ไฟก็ไม่อาจทำลายลิ้นของมันได้ นับประสาอะไรกับการถูกฉีกกระชาก
นี่เป็ความลับที่มีแต่มันเท่านั้นที่รู้ แม้แต่นายน้อยก็ยังไม่รู้
นอกจากนี้ มันไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นมันย่อมถูกดึงออกไปเป็แน่ มันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยให้หญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นทำสำเร็จ!
เสี่ยวไตกูกัดลิ้นยาวอันน่าภาคภูมิใจของมันด้วยความสิ้นหวัง
เสี่ยวไตกูที่มีจิตใจเรียบง่ายไม่ตระหนักว่าพฤติกรรม ‘ทำร้ายตนเอง’ นี้จะส่งผลอย่างไรต่อมู่จื่อหลิง
แต่ มันไม่รู้ว่าเพราะมัน มู่จื่อหลิงจึงยังมีชีวิตรอด
ดังนั้นมู่จื่อหลิงจึงไม่รู้ว่า ในยามนี้หลุมที่นางเพิ่งขุดนั้นใช้การไม่ได้เสียแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะใช้ไม่ได้
เพราะนางขุดหลุมไว้ และในยามนี้เสี่ยวไตกูได้เพาะเมล็ดพืชที่น่าสนใจลงไป เพียงแค่ต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการหยั่งรากงอกเงยเท่านั้น
ดังนั้นในเวลาต่อมามู่จื่อหลิงจึงพบว่าเหตุผลที่นางยังรอดชีวิตมาได้จนถึงยามนี้ ครึ่งหนึ่งเป็เพราะเสี่ยวไตกู ‘ทำร้ายตนเอง’ จนทำให้นางเกิดความโกรธและเป็ทุกข์อย่างมาก
หลังกัดลิ้นยาวของตนแล้ว เสี่ยวไตกูก็ทิ้งตัวนอนอย่างไร้เรี่ยวแรงในฝ่ามือของมู่จื่อหลิง หลับสนิทไป...
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เนื่องจากเสี่ยวไตกูได้หลบหนีจากเงื้อมมือของหวงอีอย่างสมบูรณ์แล้ว มู่จื่อหลิงจึงประสบกับความเ็ปและความทรมานที่นางไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิตก่อนหน้านี้
อีกด้านหนึ่ง ทางด้านมู่จื่อหลิง
แส้ยาวถูกดึงกลับในทันที การเสียดสีอย่างรุนแรงทำให้มือนุ่มของมู่จื่อหลิงเปลี่ยนเป็สีแดงจากการเสียดสี เืไหลออกมาทันที
ทันใดนั้น ความเ็ปจากการเผาไหม้ก็ส่งตรงมาจากมือของนาง
แต่ในขณะนี้ มู่จื่อหลิงไม่สนใจแม้แต่จะขมวดคิ้ว นางไม่สนใจเกี่ยวกับความเ็ปเลย ความคิดของนางล้วนอยู่ที่เสี่ยวไตกู
ยามที่มู่จื่อหลิงเห็นนิ้วเท้าเล็กๆ ทั้งสามของเสี่ยวไตกูเหยียดตรง นอนนิ่งในฝ่ามือของนาง ราวกับนอนตาย
มู่จื่อหลิงก็กายใจติดขัดทันที
เสี่ยวไตกูยังอยู่ในมือของนาง แต่กลับนอนคว่ำราวตายแล้ว มีความเป็ไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือ...ลิ้นยาวของเสี่ยวไตกูถูกหวงอีฉีกกระชากออก
มู่จื่อหลิงมองหวงอีทันที...
บ้าจริง!
นางเห็นว่าในมือหวงอีข้างหนึ่งถือแส้ ส่วนอีกข้างถือลิ้นยาวที่ขาดสะบั้นของเสี่ยวไตกู ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจด้วยความเหลือเชื่อ
ทันใดนั้นดวงตาของหวงอีก็เต็มไปด้วยความโกรธ นางกัดฟัน จ้องมู่จื่อหลิง “นางหญิงตัวเหม็น ความตายใกล้เข้ามาแล้ว เ้ากล้าดีอย่างไรมาหลอกข้า เ้ากล้าทำร้ายมันได้อย่างไร?”
หวงอีรู้ดีว่านางใช้พลังไปเพียงใด เป็ไปไม่ได้เลยที่จะทำร้ายเ้าคางคกตัวน้อย ลิ้นของมันจะขาดได้อย่างไร?
ต้องเป็ความผิดของมู่จื่อหลิง!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่จื่อหลิงก็รู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น
นางอยากหลอกล้อ แล้วนางหลอกได้หรือ? บ้าจริง!
คนบ้าเช่นนี้ไร้หนทางรักษาแล้ว ตอนแรกก็ถือว่าเสี่ยวไตกูเป็ทรัพย์สินของนางอย่างไร้ยางอายซึ่งนั่นไม่เป็ไร แต่ตอนนี้นางยังคงเป็โจรร้องจับโจร [1] อีก
แต่มู่จื่อหลิงรู้ดีว่ายามนี้ไม่ใช่เวลามาโต้เถียงกันด้วยเหตุผล ด้วยยามนี้หากนางโต้เถียงปัญหางี่เง่ากับคนบ้าที่คิดว่าตนเองถูกต้อง เช่นนั้นนางจะต่างอะไรจากคนบ้าเล่า?
ในเวลานี้ ดวงตาของหวงอีเป็ประกายสีแดงเืด้วยความโกรธ นางจ้องมู่จื่อหลิงอยู่ครู่หนึ่ง จ้องราวกับจะกลืนกินลงท้อง
นี่เป็ดวงตาหงุดหงิดบ้าคลั่งและร้อนใจในยามเห็นสมบัติมีค่าในมือ แต่กลับทำมันหายไปจากปลายนิ้ว แววตาจึงทั้งดุร้ายและเฉียบคม
ใจมู่จื่อหลิงสั่นสะท้าน นางแอบร้องในใจว่าแย่แล้ว
นางหยิบ ‘ศพ’ ของเสี่ยวไตกูขึ้นโดยไม่ลังเล ก่อนโยนมันกลับเข้าระบบซิงเฉิน
อย่างไรก็ตาม ใน่เวลานี้จู่ๆ มู่จื่อหลิงรู้สึกว่าดวงตาของนางเปล่งประกายดวงดาว วิงเวียนศีรษะ ทั้งร่างไร้ร่องรอยของความสุขุมอย่างที่เคยมี ราวกับนางกำลังจะล้มลงอย่างไร้การควบคุม
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ นางถึงรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา
มู่จื่อหลิงใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจ พยายามปลุกตนเองให้ตื่น แต่ก็ไม่เป็ผล
ใครจะรู้ ในเวลานี้หวงอีก็ยกแส้ในมือขึ้น ตวัดใส่มู่จื่อหลิงโดยตรง
“นางหญิงสารเลว เ้ากำลังหาเื่ตาย! ส่งเ้าตัวน้อยนั้นมาให้ข้า...”
แส้ยาวสะบัดในอากาศ แฝงความอาฆาตแค้นอย่างร้ายกาจ เหวี่ยงเข้าหามู่จื่อหลิงอย่างรุนแรง
ภายในป่าทึบเกิดลมกระโชกแรงพัดใบไม้ร่วงหล่นปลิวว่อนในทันที
ยิ่งกับมู่จื่อหลิงที่ไร้หนทางต้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ด้วยในยามนี้นางไร้แรง ไม่อาจหลบได้แม้แต่ก้าวเดียว
‘เพียะ!’
เสียงแส้คมชัดดังกึกก้องภายในป่าลึก
มู่จื่อหลิงที่กำลังวิงเวียนพยายามตั้งสติ แส้เฆี่ยนลงบนแผ่นหลังบางไร้เรี่ยวแรงของนาง
แต่ใครจะคิด สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมเสียงตกกระทบจะเป็เสียงโครมครามสนั่นหวั่นไหว!
หลังจากหวงอีหวดแส้ใส่มู่จื่อหลิง นางยกมือขึ้นเตรียมหวดซ้ำอีกครั้ง
แต่นางยังไม่ทันได้ยกมือขึ้น
ทันใดนั้น พลังอันแข็งแกร่งก็ปะทุออกมาจากร่างมู่จื่อหลิง ราวกับการะเิของลูกบอลแสงทรงพลัง ส่งผลให้ร่างหวงอีลอยกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับต้นไม้เก่าแก่อย่างแรง
หลังจากหวงอีกระอักเืออกมา นางก็ยกมือขึ้นกุมหน้าอกโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
เป็มู่จื่อหลิง!
จากนั้นหวงอีมองมู่จื่อหลิงที่เล่นงานจนนางลอยออกมาด้วยแววไม่เชื่อ
ไม่รู้ก็ไม่เป็ไร แต่เมื่อรู้แล้ว หวงอีไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ
นางเห็นดวงดาวสีม่วงปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวมู่จื่อหลิง ดวงดาวระยิบระยับส่องประกายแวววาว พร่างพรายจนตาพร่า ดาวเ่าั้มีชีวิตชีวาเหมือนจริง
ชั่วขณะหนึ่ง แสงเจิดจ้าส่องประกาย แสงเงาพร่างพรายราวสายน้ำ หมุนวนกระจายจากภายนอกสู่ร่างของมู่จื่อหลิง...
หวงอีรั้งร่างเพื่อดูสิ่งนี้ต่อไปได้เพียงไม่นาน นางก็หมดสติไป...
ทางด้านมู่จื่อหลิง
หลังจากถูกเฆี่ยนตีอย่างหนัก
เพียงพริบตา เสื้อผ้าบนหลังของนางก็แยกขาด จนเกิดเป็รอยสีแดงเื
แม้ว่าชุดจะถูกย้อมสีดำ แต่รอยขาดก็มองเห็นได้ชัดเจน าแสีแดงสดเด่นชัด
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] โจรร้องจับโจร (贼喊捉贼) เป็สำนวน มีความหมายว่า พูดเพื่อเอาตัวรอดให้ตัวเองพ้นผิด ปัดความผิดให้ผู้อื่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้