ฉู่หยวนหัวเราะเยาะครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหูเหยียนหลันรั่ว ตรงกันข้าม น้ำเสียงของเขาบอกชัดเจนแล้ว ถึงความคิดเห็นของตน
เนี่ยหลีไม่มีปฏิกิริยาอันใด ไม่ว่าจะเป็คำเยินยอของหูเหยียนหลันรั่วหรือคำดูถูกดูแคลนของฉู่หยวน ล้วนไม่สามารถสร้างความหวั่นไหวแก่ใจเขาได้ ั้แ่กลับมาเกิดใหม่ เนี่ยหลีไม่เคยเห็นคนต่ำช้าเช่นฉู่หยวนอยู่ในสายตา เพราะฉู่หยวนไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพูดกับเขาได้!
“ฉู่หยวน เ้าทำท่าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” หูเหยียนหลันรั่วสองคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ที่ข้าหัวเราะก็เพราะไม่รู้ว่าเ้าเด็กคนนี้เอาน้ำแกงยาเสน่ห์อะไรให้พวกเ้าดื่ม พวกเ้าถึงคิดว่ามันเป็อัจฉริยะผู้หนึ่ง! อาณาเขติญญาก็แค่สีแดง ชีวิตนี้จะมีความสำเร็จอะไรได้เล่า? ขยะเช่นนี้คู่ควรที่จะเสวนากับพวกเราด้วยหรือ?” ฉู่หยวนส่งเสียงหึครั้งหนึ่ง เขามีความสัมพันธ์อันดีกับพี่ชายของเสิ่นเยวี่ย เสิ่นเฟย พอเห็นเนี่ยหลีแล้วก็ไม่ชอบขี้หน้าเช่นกัน
“เ้าพูดเกินไปแล้ว!” สองคิ้วของเยี่ยจื่ออวิ๋นขมวดมุ่น ไม่พอใจแทนเนี่ยหลี แม้เนี่ยหลีผู้นี้จะมีนิสัยน่ารังเกียจอยู่บ้าง แต่พูดได้เลยว่าเนี่ยหลีผู้นี้เป็ของจริงจับต้องได้ อย่างไรก็ตาม เนี่ยหลีเก็บเนื้อเก็บตัวเกินไป ดังนั้นผู้คนมากมายจึงไม่รู้ถึงพร์ของเนี่ยหลี
สายตาของเนี่ยหลีเ็าขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่เห็นฉู่หยวนอยู่ในสายตา ดังนั้นจึงคร้านเกินกว่าที่จะสนใจ แต่ก็มิได้หมายความว่าเขาต้องยอมให้เ้าโง่คนหนึ่งมาเต้นเร่าๆ อยู่ตรงหน้าตนได้
“ฉู่หยวน พร์ของเ้าก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ เ้ายังแก่กว่าเนี่ยหลีถึงสามปี เวลานี้ก็เป็แค่นักสู้ระดับทองแดงสามดาวผู้หนึ่ง ยังมีหน้ากล้ามาวิจารณ์ผู้อื่นอีกหรือ” หูเหยียนหลันรั่วพูดพร้อมกับหัวเราะร่า เด็กวัยเดียวกันมากมายต่างก็ก้าวหน้าถึงระดับเงินกันแล้ว แต่ฉู่หยวนยังคงอยู่แค่ระดับทองแดงสามดาว
ได้ยินคำพูดของหูเหยียนหลันรั่ว ฉู่หยวนก็อับอายไม่ใช่น้อย ในหมู่เพื่อนวัยเดียวกัน พร์ของเขาไม่นับว่าแย่ที่สุด แต่กลับเกียจคร้านที่สุด ทุกวันเอาแต่เสียเวลาไปกับการดื่มสุราเคล้านารี ไม่ใส่ใจฝึกฝนตน เวลานี้จึงเป็แค่นักสู้ระดับทองแดงเท่านั้น
“แล้วจะเป็เช่นไรเล่า อย่างน้อยข้าก็มีอาณาเขติญญาสีเหลือง หากข้าขยันฝึกอีกสักหน่อย การจะทะลวงขึ้นไปถึงระดับเงินก็มิใช่เื่ยาก ส่วนมัน เดาว่าตลอดชีวิตนี้ก็คงไม่อาจเลื่อนขึ้นไปถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้” ฉู่หยวนยังเอาแต่โจมตีเนี่ยหลีอย่างดุเดือดไม่หยุด เนี่ยหลียังไม่ยอมพูด คงกำลังหวาดกลัวอยู่เป็แน่ คนเช่นเนี่ยหลีก็คงมีแค่อาศัยหน้าตาที่ดีหน่อยกับคำพูดหวานหูเที่ยวหลอกคน ไหนจะมีความสามารถจริงๆ เล่า?
เฉพาะอาณาเขติญญา ก็เป็แค่เศษขยะแล้ว!
สายตาแหลมคมของเนี่ยหลีกวาดมองฉู่หยวน เขายิ้มอย่างเ็าและพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าขอท้าเ้าเดี๋ยวนี้ ใครแพ้ก็คลานเหมือนหมาวนสามรอบ เ้าเห็นว่าอย่างไรเล่า?”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นรีบดึงเนี่ยหลีอย่างกังวล เกิดอะไรขึ้นกับเนี่ยหลีแล้ว กลับกล้าท้าฉู่หยวนเชียวหรือ? เนี่ยหลีเวลานี้แม้กระทั่งระดับทองแดงก็ยังไม่ถึง ส่วนฉู่หยวนเป็ถึงนักสู้ระดับทองแดงสามดาวแล้ว! ต่างกันราวฟ้ากับดินเช่นนี้ จะมีทางชนะได้อย่างไร
เห็นสีหน้ากังวลของเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเล็กน้อย เยี่ยจื่ออวิ๋นยังคงเป็ห่วงเป็ใยเขานัก
สำหรับหูเหยียนหลันรั่ว หลังจากใเล็กน้อย ดวงตาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งจ้องมองไปที่เนี่ยหลี เนี่ยหลีดูไม่เหมือนคนหุนหันพลันแล่น
เมื่อฉู่หยวนได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เขาใแล้วก็พลันหัวเราะร่าขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “ข้าได้ยินว่าอะไรนะ? เ้ากล้าท้าข้าเชียวหรือ? ฮ่าๆ นี่เป็เื่ที่น่าขำที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมาเลยเชียว อย่างมากก็เป็แค่นักสู้ระดับทองแดงผู้หนึ่ง กลับกล้าท้าข้า ช่างไม่รู้จักประมาณตนนัก!”
“เนี่ยหลี อย่าวู่วามไปเลย!” เยี่ยจื่ออวิ๋นคิดว่าเนี่ยหลีถูกยั่วโมโหจึงตัดสินใจท้าทายฉู่หยวนอย่างไม่มีเหตุผล
“ข้าไม่ต้องใช้พลังิญญา แค่พละกำลังอย่างเดียวก็สามารถเลาะฟันของเ้าออกมาได้แล้ว!” ฉู่หยวนหัวเราะอย่างโอหัง แค่พลังกายของเขาเพียงอย่างเดียวก็อยู่ในระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว “เ้าหนู หากเ้ากลัว กลับคำตอนนี้ก็ยังทัน!”
เนี่ยหลีขยับปลายนิ้ว ได้ยินเสียงลั่นเปรียะๆ ตามข้อต่อนิ้วมือ เขามองฉู่หยวนด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับพูดว่า “หากทุกวันๆ ข้าต้องมาทนดูขยะเช่นเ้าเต้นเหยงๆ อยู่ตรงหน้าอย่างนี้ ข้ามิต้องยุ่งตายหรือ! ในเมื่อเ้าตามืดบอด ข้าก็ได้แต่ต้องลงมือแล้ว ให้พวกเ้าได้รับบทเรียนเสียบ้าง มีบางคนที่พวกเ้าไม่อาจตอแยได้!” ขณะพูด สายตาของเนี่ยหลีก็ชำเลืองมองไปทางเสิ่นเยวี่ยและพวก
สีหน้าของฉู่หยวนเคร่งขรึม จ้องมองเนี่ยหลี “เป็เ้ารนหาที่เอง!”
เฉินหลินเจี้ยนก็ใกับเหตุการณ์เบื้องหน้า แม้เนี่ยหลีมีความรู้กว้างขวาง แต่ในด้านฝีมือ แม้กระทั่งระดับทองแดงก็ยังไม่ทันก้าวผ่าน จะเอาชนะฉู่หยวนได้อย่างไรกัน? ก็อย่างที่ฉู่หยวนพูด ฉู่หยวนไม่จำเป็ต้องใช้พลังิญญาก็เพียงพอที่จะล้มเนี่ยหลีได้อย่างง่ายดายแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เนี่ยหลีดูไม่เหมือนคนหุนหันพลันแล่น เฉินหลินเจี้ยนจึงอดรู้สึกสงสัยมิได้ เขาโบกมือ ผู้คนรอบด้านก็เริ่มถอยห่างออกไป
“วางใจได้ ในฐานะที่เป็ผู้ชายของเ้า หากเื่เล็กน้อยแค่นี้ก็ยังแก้ไม่ได้ ก็สมควรเอาหัวชนข้างฝาตายได้แล้ว!” เห็นสีหน้ากังวลของเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ ข้างกายเยี่ยจื่ออวิ๋น
“เ้า...” เยี่ยจื่ออวิ๋นพลันแก้มแดงระเรื่อ นางกระทืบเท้าเร่าๆ เนี่ยหลีผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก นางแค่เป็ห่วงในฐานะเพื่อนเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเนี่ยหลีกลับกะล่อนปานนี้ ทำให้นางว้าวุ่นรำคาญใจไม่น้อย สมควรจะถูกฉู่หยวนจัดการแล้ว
เห็นท่าทางเขินอายโกรธเคืองของเยี่ยจื่ออวิ๋น หูเหยียนหลันรั่วแสร้งทำเป็ยิ้มแล้วจ้องมองไปที่เนี่ยหลี เนี่ยหลีไม่ใช่พวกท่อนไม้น่าเบื่อที่อะไรก็ไม่รู้จักคิด ดูเหมือนยังรู้จักยั่วเย้าเด็กสาวคนหนึ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อครู่นี้เนี่ยหลีมีท่าทีที่เ็าต่อนางยิ่งนัก “หรือเป็เพราะพี่สาวผู้นี้ยังเสน่ห์แรงไม่พอ?” หูเหยียนหลันรั่วรู้สึกว่าด้วยเสน่ห์ของนาง คิดจะยั่วยวนเด็กหนุ่มตัวเล็กแค่นี้ให้ลุ่มหลงนางได้ก็มิใช่เื่ยาก! นางยิ่งรู้สึกสนใจเนี่ยหลีมากขึ้น
ผู้คนรอบด้านถอยห่างออกไป เว้นพื้นที่ว่างให้เนี่ยหลีกับฉู่หยวนราวสองแผ่น
เสิ่นเยวี่ยมองภาพนี้ ดวงตาฉายแววเย็นะเื เนี่ยหลีกล้าท้าสู้ฉู่หยวน ช่างรนหาที่ตายโดยแท้ เขาเคยเล่าให้ฉู่หยวนฟังหลายหน หากมีโอกาส ฉู่หยวนจะต้องตีเนี่ยหลีจนตายแน่! แต่ไม่รูว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นท่าทางเชื่อมั่นของเนี่ยหลี ในใจก็อดรู้สึกร้อนรนใจมิได้
ฉู่หยวนจะพ่ายแพ้หรือไม่? นี่ย่อมเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้ ต้องรู้ว่าพลังิญญาของฉู่หยวนนั้นก้าวขึ้นถึงระดับทองแดงสามดาวแล้ว!
แม้พลังิญญาของเนี่ยหลีจะมีเพียงแปดสิบแปดจุด ภายในร่างกายก็มีพลังเพียงห้าสิบจุด แต่เนี่ยหลีมีความเข้าใจลึกซึ้งต่อพลังิญญาและพลังกายอย่างยิ่ง
เนี่ยหลีโคจรลมปราณเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างค่อยๆ ขยายตัวและสั่นะเืขึ้น แม้กล้ามเนื้อที่ขยายตัวขึ้นมาบนร่างของเนี่ยหลีไม่เด่นชัด แต่ก็เต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะปะทุออกมา
“ข้าจะต่อให้เ้าสามกระบวนท่า ข้าไม่อยากให้เ้าว่าข้ารังแกเ้า” ฉู่หยวนลั่นสียงดัง ไพล่สองแขนไว้ด้านหลัง จ้องมองเนี่ยหลีด้วยท่าทางผยอง สองตาแสดงความดูถูกดูแคลน
“ดี!” เนี่ยหลีเร่งความเร็วทันที เขาพุ่งเข้าใส่ฉู่หยวน ศอกข้างหนึ่งกระแทกเข้าใส่ท้องน้อยของฉู่หยวน
“วิธีต่อสู้แบบเด็กๆ เช่นนี้ เ้าคิดว่ากำลังเล่นอยู่กับเด็กที่บ้านหรืออย่างไร?” ฉู่หยวนหัวเราะเยาะเย้ย เห็นศอกของเนี่ยหลีจวนเจียนพุ่งเข้าใส่ท้องน้อย มือข้างหนึ่งกวาดไปด้านหลัง รักษาระยะห่างจากศอกของเนี่ยหลี
ในสายตาของฉู่หยวน ศอกของเนี่ยหลีไม่มีทางถูกร่างกายของเขาได้ แต่เวลานี้มุมปากของเนี่ยหลีกำลังหยักยกยิ้มเ็า ฉู่หยวนภาคภูมิใจในตนเองเกินไป! เนี่ยหลีพลันชะงักท่าร่างและโคจรพลัง เปลี่ยนศอกเป็หมัดๆ หนึ่ง กระแทกโจมตีเข้าใส่ท้องน้อยของฉู่หยวน ฉู่หยวนเกิดมาก็ร่ำรวย ฝีเท้าไร้กำลัง ไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้ แม้มีพลังกายระดับทองแดงหนึ่งดาว ก็คงเป็เพราะอาศัยยาวิเศษบำรุง เนี่ยหลีแค่ใช้กลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ ขณะต่อสู้ก็สามารถทำให้ฉู่หยวนพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายแล้ว
ระดับแค่นี้ เล่นงานเ้าจนตายยังไม่ง่ายหรือ?
ข้าอุตส่าห์เตรียมวิธีพลิกแพลงไว้ตั้งมากมาย ดูท่าคงไม่ต้องใช้แล้วกระมัง!
ขณะโจมตีเข้าใส่ท้องน้อยของฉู่หยวน กล้ามเนื้อบนท่อนแขนของเนี่ยหลีเกร็งแน่นขึ้นในฉับพลัน เห็นถึงพลังะเิอันน่าสะพรึงกลัวจากหมัดที่เนี่ยหลีปล่อยออกไป
ท่าทางสบายอกสบายใจ แต่บนใบหน้าของฉู่หยวนกลับแข็งทื่อขึ้นมา เขากุมท้องน้อยตัวงอราวกับกุ้ง เสียงกระแทกพื้นดังสนั่น ร่างกายบิดเร่าๆ ยังได้ยินเสียงขย้อนออกมา หมัดของเนี่ยหลีแทบควักเอาลำไส้ในท้องออกมาแล้ว!
เห็นภาพฉากนี้ ผู้คนรอบด้านยืนตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ฉู่หยวน นักสู้ระดับทองแดงสามดาวผู้หนึ่ง ลำพังร่างกายอย่างเดียวก็มีพลังระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว กลับถูกหมัดๆ เดียวของเนี่ยหลีชกจนร่วงลงพื้นได้อย่างง่ายดายเช่นนี้หรือ?
ฉู่หยวนประเมินคู่ต่อสู้ของตนต่ำเกินไปใช่หรือไม่? จึงปล่อยให้เนี่ยหลีได้เปรียบเช่นนี้?
“ไม่ถูกต้องเลย ในแง่ของพลังกาย ต่อให้เนี่ยหลีชกใส่ฉู่หยวนได้หมัดหนึ่ง ประมาณแล้วก็ไม่น่าจะทำอันตรายฉู่หยวนได้ ความแตกต่างในด้านพลังห่างกันมากเกินไป แต่เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น? ฉู่หยวนกลับถูกจัดการได้ในหมัดเดียวรึ?”
เวลานี้ทุกคนจึงเริ่มเข้าใจ เนี่ยหลีน่าจะปิดซ่อนพลังของตนเอาไว้ พลังกายของเนี่ยหลีอย่างน้อยคงต้องถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เนี่ยหลียังไม่ถึงระดับทองแดง แต่ความสามารถในการควบคุมพลังของเขามิใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะคิดถึงได้ ขณะที่ใช้หมัด เขารวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่หมัดและจู่โจมออกไปอย่างรวดเร็ว บริเวณที่จู่โจมก็เป็จุดที่อ่อนแอที่สุดบริเวณเอวและท้องน้อย นี่ถือเป็ความปราณีแล้วที่หมัดๆ นั้นไม่กระแทกฉู่หยวนจนพิการ
ในแง่ของการใช้พลัง เนี่ยหลีถือเป็ระดับปรมาจารย์ผู้หนึ่ง ไม่ต้องพูดว่าฉู่หยวนมีร่างกายอยู่แค่ระดับทองแดง ต่อให้เป็ระดับทองแดงห้าดาวหรือแม้กระทั่งระดับเงินผู้หนึ่ง เกรงว่ายามถูกเนี่ยหลีในเวลานี้ชกใส่ก็คงต้องลงไปกลิ้งกับพื้นเช่นกัน
คนที่รู้จักแต่อาศัยกำลังเข้าต่อสู้ซึ่งๆ หน้า ในสายตาของเนี่ยหลีก็ไม่ต่างอะไรจากคนทั่วไป
ดวงตาสดใสของเยี่ยจื่ออวิ๋นแสดงความตกตะลึง เนี่ยหลีใช้หมัดเดียวชกจนฉู่หยวนล้มลงไปกลิ้งอยู่กับพื้น คลื่นลูกนี้ซัดใส่กลางใจของเด็กสาว เนี่ยหลียังไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ เนี่ยหลีทำได้อย่างไรกัน? เยี่ยจื่ออวิ๋นพบว่านางประเมินพลังของเนี่ยหลีต่ำเกินไปเสมอ
หูเหยียนหลันรั่วจ้องมองเนี่ยหลีอย่างมีลึกซึ้ง พลังที่เนี่ยหลีแสดงออกมาช่างทำให้นางใ ความสนใจในตัวเนี่ยหลีก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น
“น่าสนใจ” เฉินหลินเจี้ยนจ้องมองเนี่ยหลีอย่างสนใจยิ่ง
ฉู่หยวนชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นเป็เวลานาน ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ในฐานะที่เป็ชนชั้นสูง เขากลับถูกเด็กผู้หนึ่งชกตีจนย่ำแย่ถึงเพียงนี้ เขาคิดว่าพลังของตนเหนือกว่าเนี่ยหลีและสามารถขยี้เนี่ยหลีได้อย่างง่ายดาย ยังต่อให้เนี่ยหลีสามกระบวนท่า คิดไม่ถึงว่าแค่กระบวนท่าเดียว เขาก็ร่วงลงพื้นจนลุกไม่ไหวแล้ว
ลำไส้ทั่วท้องปั่นป่วนไปหมด นับว่าเป็ความเ็ปที่ไม่อาจจินตนาการถึงได้ หากมิใช่เพราะฝืนทนอยู่ เกรงว่าฉู่หยวนคงเป็ลมสิ้นสติไปแล้ว
เวลานี้เนี่ยหลีมองฉู่หยวนที่กลิ้งอยู่บนพื้น เอ่ยถามขึ้นด้วยท่าทีไร้เดียงสา “เ้าบอกว่าจะต่อให้ข้าสามกระบวนท่ามิใช่หรือ ข้าเพิ่งใช้ออกไปกระบวนท่าเดียว ยังเหลืออีกสองชุด!”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ฉู่หยวนผู้กำลังทนทุกข์ทรมานต่อความเ็ปและพยายามจะลุกขึ้นมาก็ดวงตาดำมืดแล้ว แม่จ๋าช่วยลูกด้วย เ้ายังมีมนุษยธรรมอยู่หรือไม่ แค่กระบวนท่าเดียวเมื่อครู่ก็แทบคร่าชีวิตข้าไปกว่าครึ่งแล้ว เนี่ยหลียังคิดจะให้เขารับอีกสองกระบวนท่า นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้